ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes - ตอนที่ 76
เจสันนอนอยู่บนเตียงและมองไปที่บัญชีธนาคารด้วยรอยยิ้มจางๆ
[1,000,000 เครดิต]
เฟลเลอร์ไม่รู้ว่าเจสันคิดอะไรอยู่ เมื่อเจสันบอกพวกเขาว่าจะทำพันธะกับสัตว์ร้ายอีกตัว ขณะที่อาร์เทมิสกำลังพัฒนา
มันกำลังจะพัฒนาไปสู่สายพันธุ์ที่สูงขึ้น โดยต้องการพลังงานวิญญาณที่สูงกว่าเมื่อก่อนมากและตอนนี้เจสันก็ยังต้องการที่จะทำพันธะกับสัตว์อีกตัว
เจสันไม่ได้สะสมพลังวิญญาณเพื่อที่จะรักษาความมั่นคงกับอาร์เทมิสงั้นหรอ
อย่างไรก็ตามกาเบรียลลาก็ได้ให้เครดิตกับเจสันไป เมื่อเห็นการแสดงออกที่มุ่งมั่นและทะเยอทะยานของเจสัน ทีนทีที่เขากลับมาจากโรงเรียน ดูเหมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างได้เปลี่ยนความคิดของเจสัน
เจสันครุ่นคิดอยู่นาน ว่าจะทำพันธะกับสัตว์ร้ายจำนวนมากหลายร้อยตัว ในขณะที่สะสมพลังวิญญาณเพื่อสัตว์ร้ายตัวเดียวที่มีศักยภาพสูง แต่เขาก็รู้สึกผิด
ในโลกวิญญาณของเจสันอาจจะสามารถทำได้ นั้นเป็นเพราะข้อมูลที่มีเกี่ยวกับการตื่นขึ้นของวิญญาณและโลกวิญญาณนั้นจำเป็นต้องมีโลกวิญญาณที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตรเพื่อที่จะสามารถกักขังสัตว์ร้ายอย่างน้อยก็ระดับดาว
มนุษย์บางคนที่มีโลกวิญญาณที่เล็กกว่ายังสามารถใช้ผูกพันธะกับสัตว์ร้ายระดับดาวได้ อย่างน้อยโลกวิญญาณของเจสันนั้นกว้างใหญ่มากน่าจะสามารถรองรับสัตว์ร้ายจำนวนมหาศาลได้
แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เจสันต้องการ เพราะเจสันต้องการเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ อย่างไรก็ตามหลังจากการต่อสู้ในวันนี้ เจสันก็ได้คิดแผนบางอย่างขึ้นมาได้
เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเจสัน และจะต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อเข้าถึงความแข็งแกร่งเพื่อให้อยู่สูงกว่าเพื่อนร่วมชั้นของเขา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
นอกจากนี้เจสันเองก็ยังอยากที่จะลองใช้ผลบาคูรีสีขาว ที่ซื้อมาจากเมืองจิโร่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่เจสันต้องการผูกพันธะกับสัตว์อีกตัว แต่ก่อนหน้านี้เจสันกังวลเกี่ยวกับการเลือกสัตว์พันธะอีกตัว เพราะเขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นของอาร์เทมิส แต่ถึงอย่างนั้นเจสันก็ได้คาดว่ามันอาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 1 เดือน กว่าการพัฒนาของมันจะสำเร็จ
ในขณะเดียวกันเจสันก็มั่นใจที่จะเข้าถึงพลังวิญญาณโดยกำเนิดอย่างน้อยประมาณ 10 ด้วยความเร็วในการสร้างพลังวิญญาณที่รวดเร็วของเจสัน
การต่อสู้ในวันนี้เปลี่ยนความคิดของเจสันไปโดยสิ้นเชิง เนื่องจากเขาต้องการเพิ่มพลังวิญญาณให้ได้เร็วๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายและโดนกลั่นแกล้ง
ตั้งแต่เขาสามารถมองเห็นได้และการปลุกวิญญาณได้ผ่านไป เจสันก็ไม่เคยได้อยู่ใกล้กับความตายเท่ากับวันนี้…ถ้าเจสันไม่ใช้ความสามารถของดวงตานรก ตอนนี้เจสันอาจจะบาดเจ็บสาหัสหรืออาจจะตายไปแล้ว
เจสันต้องการใช้ผลบาคูรีสีขาวสำหรับสัตว์ร้ายที่ยังไม่มีศักยภาพใดๆ เพื่อทดสอบทฤษฎีความบริสุทธิ์ของเขา ดังนั้นเจสันจึงนัดหมายที่จะเข้าไปในเจดีย์สัตว์ร้าย ในเมืองไซโร ที่ชั้น 1
ก่อนที่เจสันจะคิดว่า เขาอาจจะต้องรออย่างน้อย 2-3 อาทิตย์เพื่อที่จะเข้าไปในเจดีย์สัตว์ร้าย แต่ชั้นแรกของเจดีย์สัตว์ร้ายนั้นมีวันว่างมากมายต่างกับชั้น 2 หรือ 3 ที่มีคิวยาวเหยียด
เมื่อคิดครู่หนึ่ง เจสันก็รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้
ในเมืองอาร์เทส หรือเมืองที่เจสันอยู่ในตอนแรก สัตว์ร้ายทุกชนิดมีระดับที่ต่ำกว่าสัตว์ในชั้นแรกของเจดีย์สัตว์ร้าย ในเมืองไซโร ที่นี่ทุกอันดับมีพื้นที่ของตัวเองและเห็นได้ชัดว่าเจสันเลือกสัตว์ระดับดาว ซึ่งมีคนไม่มากในเมืองไซโรที่ใช้มันสำหรับการผูกพันธะ
ในเมืองไซโรมันเป็นเรื่องที่น่าอับอายที่ต้องทำสัญญากับสัตว์ร้ายที่ไม่มีศักยภาพ
แม้ว่าสัตว์เหล่านี้จะถูกขายให้กับครอบครัวใหญ่บางครอบครัวที่มีการปลุกวิญญาณที่โชคร้าย ซึ่งพลังวิญญาณของพวกเขาอ่อนแอกว่าที่จะสามารถทำพันธะกับสัตว์ร้ายระดับสูงๆ ได้
เจสันตัดสินใจที่จะเลือกนัดในวันพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนและเจสันก็ได้แจ้งพวกเฟลเลอร์ด้วยข้อความสั้นๆ ว่าพวกเขาไม่ต้องกังวลหากพรุ่งนี้เจสันจะกลับมาช้าเหมือนวันนี้
หลังจากนั้นเจสันยังไม่ง่วงนอน จึงได้เปิดหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพรและพืชวิเศษ มันค่อนข้างน่าสนใจ เจสันอ่านจนเริ่มง่วง เจสันจึงตัดสินใจที่จะเข้านอนโดยไม่ลืมที่จะตื่นเต้นกับการไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้และการเลือกพันธะที่ 2 ของตัวเอง
*
เจสันตื่นช้ากว่าปกติ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลา 6 โมงเช้าแล้ว สิ่งแรกที่ทำก็คือการออกกำลังกายก่อนที่จะไปอาบน้ำล้างตัวและลงไปกินอาหารเช้า กาเบรียลลากำลังจะวางอาหารจานสุดท้ายบนโต๊ะเมื่อเจสันสันมาถึง ดูเหมือนว่าเกร็กและมาเลียยังหลับอยู่หรือไม่ก็กำลังซักเสื้อผ้าอยู่
เจสันได้คุยกับกาเบรียลลาเล็กน้อง แต่กาเบรียลลาก็ไม่ได้ถามเจสันว่าจะเลือกสัตว์ชนิดไหนในการทำพันธะ เจสันบยว่ามันแปลกเพราะกาเบรียลลาน่าจะอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
เป็นเช่นั้นจริงๆ และเธอต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตัดสินใจของเจสันในการเลือกสัตว์พันธะเพิ่ม ‘ทำไมต้องเลือกในตอนนี้ รออีกหน่อยจะไม่ดีกว่าหรอ ‘ หรือ ‘ ต้องการทีเร่งการพัฒนาตัวเอง แต่ทำไมถึงคิดเช่นนั้น ‘ กาเบรียลลาได้แต่คิดแต่ไม่อยากทำลายบรรยากาศโดยรอบ
เจสันเองก็ไม่มั่นใจว่าจะถามคำถามอย่างไร ถ้าหากกาเบรียลลาถามขึ้นมาจริงๆ ไม่กี่นาทีผ่านไป เกร็กและมาเลียก็ได้ลงมาข้างล่าง และทักทาย ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มรับประทานอาหารเช้า และมาร์คลงมาเป็นคนสุดท้าย
อาหารเช้าเป็นมื้อเดียวที่ทุกคนกินกันอย่างผ่อนคลายสบายใจ ไม่มีใครถามคำถามของเจสัน แม้ว่าจะอยากรู้ เจสันเองก็อยากรู้เกี่ยวกับวันแรกในโรงเรียนของเกร็ก แต่เห็นได้ชัดว่าเกร็กอยู่ในคลาส 23 จาก 50 นั้นเป็นเพราะจิตวิญญาณระดับ 4 ดาวของเกร็ก
อันดับของเกร็กอยู่ในระดับกลางในชั้นเรียนเนื่องจากการได้รับพลังกายภาพจากทอร์รัส แต่เกร็กก็ไม่พอใจมันมากนั้น เกร็กทำได้เพียงฝึกฝนอยากหนังเพื่อเพิ่มอันดับของเขา เมื่อเวลาผ่านไปเกร็กรู้ว่าความมุ่งมั่นของเขานั้นมีมากเกินพอที่จะทำให้เขาสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้อันดับแกนมานาของเกร็กอยู่ในระดับผู้ชำนาญ 3 ในขณะที่เพื่อนร่วมชั้นทั้งหมดอยู่ในระดับผู้ชำนาญ 7 ซึ่งทำให้มาเลียตกใจ ในชั้นปี 2 ของมาเลีย มาเรียนอยู่ในคลาส 5 จาก 50 พร้อมกับการปลุกวิญญาณระดับ 3 ดาวครึ่ง และแกนมานาของเธออยู่ในระดับผู้ชำนาญ 8 และตอนนี้ทุกคนในชั้นเรียนปี 1 ในคลาส 23 มีแกนมานาเดียวกันกับระดับของเธอ มันไม่เกินไปหน่อยหรอ แล้วถ้าเป็นจริงแล้วคลาสอันดับต้นๆ ละ จะมีผู้เชี่ยวชาญที่มีอายุ 14 ปีหรือเปล่า ?
มาเลียรู้สึกตกใจกับความสามารถดังกล่าวเนื่องจากนักเรียนอายุ 14 ปี การจะเข้าสู่อันดับผู้เชี่ยวชาญในขณะที่อายุแค่นั้นถือว่าเร็วมาก เจสันรู้สึกประหลาดใจมากที่เห็นเกร็กได้รับการจัดอันดับให้อยู่กลางชั้นเรียน เพราะอันดับของแกนมานาเขานั้นอ่อนแอที่สุดแม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของเกร็กจะยอดเยี่ยมเมื่อได้รับการเพิ่มพลังจากทอรัส
โดยปกติเกร็กไม่น่าจะมีอันดับที่สูงขนาดนี้ และเจสันก็สงสัยว่าพรสวรรค์ของเกร็กในการต่อสู้นั้นอยู่เหนือกว่าเพื่อนร่วมชั้นของเขา หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จเป็นเวลา 7:20 น. เจสันก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดนักเรียนที่สองเนื่องจากชุดแรกยังมีกลิ่นเหม็นอยู่ เจสันจึงต้องส่งไปยังร้านซักรีดก่อนที่จะไปโรงเรียน
เจสันมาถึงโรงเรียน แต่ยังเหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก่อนที่โรงเรียนจะเริ่ม เมื่อเจสันเข้าห้อง นักเรียนทั้งหมดในห้องก็เงียบเมื่อเห็นเจสันเข้ามา ทำให้เจสันรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อดวงตากว่า 200 คู่จับจ้องมาที่เขาด้วยแววตาและสีห้นาสงสัย
เมื่อเจสันนั่งลง ลีโอ ฮาร์ทก็เดนปรี่เข้ามาหาเจสัน และเจสันมองว่าลีโอนั้นไม่ได้มีความโกรธหรือจะกลั่นแกล้งเจสันแล้ว ในขณะที่ลีโอกระแอมอยู่ในลำคอ
“เฮ้สวัสดีเจสัน …. ฉันคิดว่าฉันต้องขอโทษนายเรื่องเมื่อวานนี้… ฉันทำอะไรไร้สติไปหน่อยแต่ฉันไม่ได้คิดจะทำร้ายหรือฆ่านายเลยนะ ฉันแค่คิดว่าครูจะหยุดการต่อสู้หรือเปล่าหากฉันทำอะไรแบบนั้น หลังจากเมื่อวานที่ฉันฟื้นขึ้น ฉันก็นึกถึงแต่ความมืดมิดที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่ฉันได้เห็น ฉันอยากจะขอโทษอีกครั้งและอย่าเกลียดฉันเลยนะ ^^”
เมื่อพูดจบลีโอก็หันหลังกลับและเดินกลับไปนั่งที่ของเขา เพื่อร่วมชั้นมองไปที่ลีโอด้วยความตกใจ
บางคนเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นในมัธยมต้นกับลีโอและพวกนั้นตกใจมากเมื่อเห็นลีโอพูดขอโทษ เจสัน
เหลือเชื่อ?!?!?
ลีโอขอโทษคนที่อยู่มือใหม่ระดับ 5 งั้นหรอ นักเรียนบางคนปลดปล่อยมานาและแสกนไปที่แกนมานาของเจสันเพราะสังเกตุเห็นบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
มือใหม่ระดับ 6 เขาพัฒนาขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ กัน ??
เจสันไม่ได้เป็นที่รู้จัก แต่เจสันก็พัฒนาตัวเองจนไปถึงมือใหม่ระดับ 6 ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ แต่มันค่อนข้างแปลกและน่าตกใจขณะที่ลีโอยังสบายดีเมื่อได้รับเอฟเฟกต์ ดวงตานรก ความสามารถสูงสุดของเจสัน
‘ลีโอยังสบายดี แถมยังมีบุคลิกที่เปลี่ยนไป แปลกจังแฮะ’ เจสันคิดในใจ
เจสันถามตัวเองอีกครั้ง ว่าดวงตาของเขามันคืออะไรกันแน่ ดวงตามานาปกติไม่สามารถทำแบบนี้ได้ แต่ก่อนที่เจสันจะคิดต่อไป กรีลก็ได้เดินเข้ามาในห้องพร้อมบทเรียนในวันนี้
บทเรียนวันนี้เป็น ทฤษฎีที่น่ารำคาญที่สุดของพวกสมองกล้ามเนื้อบางคนที่อยากเรียนรู้วิธีการต่อสู้มากกว่า พวกนั้นแสดงถึงอาการเบื่อหน่าย
แต่กรีลก้ไม่ได้ว่าอะไร และเข้าใจในเด็กพวกนั้น ตราบใดที่พวกนั้นไม่ขัดจังหวะในการสอนของเขา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเป็นเวลา 4 โมงเย็น และโรงเรียนก็ได้เลิกแล้ว
เจสันได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมายและสมองของเจสันก็เหมือนฟองน้ำที่ดูดซับข้อมูลทั้งหมดที่กรีลได้ให้มาโดยไม่แยกระหว่างข้อมูลที่มีประโยชน์และข้อมูลที่ไร้ประโยชน์
ในช่วงพักกลางวันของวันนี้ เจสันได้ฝึกเทคนิคนรกสวรรค์ และเจสันเริ่มที่จะพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้น 2-3 คน เกี่ยวกับบทเรียนในวันนี้ ในขณะที่ความรู้ของเจสันนั้นมีมากมาย ในขณะที่ลีโอเดินมาหาเจสัน เจสันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเมื่อวาน อยู่ๆ วันนี้ก็มีเพื่อนร่วมชั้นมารายล้อมเจสัน
เจสันไม่รู้รู้ว่าดวงตาของเขามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือเปล่า ในขณะที่ผู้คนรอบข้างดูสบายใจเมื่อได้อยู่กับเจสัน และหลายๆ คนที่มีคำถามมากมาย จนทำให้เจสันปวดหัว