ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes - ตอนที่ 84
‘การแยกจิต : เป็นเทคนิคที่อันตรายที่เน้นการขัดเกลาสมองเพื่อแบ่งจิตของผู้ฝึก โดยมีสติปัญญาที่ยังคงทำงานได้ปกติ ในขณะที่แยกจิตออกมาใหม่ การเพิ่มความสามารถของสมองด้วยความละเอียดอ่อนในขณะที่ลดภาระการทำงานของร่างกายในส่วนต่างๆ และเทคนิคนี้อันตรายเนื่องจากพลังจิตที่จำเป็นในการฝึกฝนเทคนิคนี้ทำให้เกิดผลข้างเคียง หากเกิความผิดพลาดสมองอาจจะได้รับอาการบาดเจ็บจนทำให้ผู้ฝึกพิการได้’
เจสันพบมามันเป็นเทคนิคที่น่ากลัวและน่าตื่นเต้น เจสันมันจะคร่ำครวญกับตัวเองเกี่ยวกับการดูดซับมานาที่ไม่สามารถดูดซับได้ตลอดทั้งวัน แต่ตอนนี้มีเทคนิคแบบนี้โผล่เข้ามา ถ้าเจสันสามารถฝึกฝนเทคนิคนี้ได้ เจสันก็สามารถแบ่งจิตตัวเองเพื่อที่จะสามารถดูดซับมานาได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น บวกกับเทคนิคการดูดซับมานาแบบพาสซีฟ มันเป็นการผสมผสานเทคนิคที่สุดยอดมาก เจสันมั่นใจในการเพิ่มอันดับที่รวดเร็วของเขา
บางทีเจสันอาจจะไปถึงอันดับเดียวกับเกร็กภายในเวลาไม่กี่เดือน วิธีการนี้ได้จุดประกายความมุ่งมั่นให้กับเจสันมากยิ่งขึ้น เกร็กน่าจะเข้าสู่ขั้นผู้ชำนาญระดับ 5 ในเวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งนั้นไม่เร็วเกินไปแต่ก็ไม่ช้าเกินไป หลังจากเรียนรู้วิธีดูดซับมานาแบบพาสซีฟ ซึ่งเจสันเองก็เริ่มมั่นใจในความสำเร็จนี้เช่นกัน
ปัญหาเดียวก็คือ ความยากของเทคนิคนี้ เจสันรู้คร่าวๆ ว่า แม้เทคนิคระดับ 1 ก็ยังเข้าใจสำหรับมนุษย์ทั่วไปที่มีระดับต่ำกว่าผู้วิเศษ เทคนิคระดับ 2 ส่วนใหญ่ได้เรียนรู้หลังจากได้เป็นผู้วิเศษขึ้นไป และเจสันมั่นใจว่าแม้แต่เทคนิคระดับ 3 ต้องมีความยากมากๆ ที่จะเรียนรู้และฝึกฝน
และเทคนิคพิเศษนี้ก็มีความยากเท่ากับเทคนิคระดับ 3 ที่ยากที่สุด ถ้าไม่มีพรสวรรค์ก็ต้องเป็นคนที่อัจฉริยะมากๆ ที่จะสามารถเรียนรู้ได้
เจสันไม่เข้าใจว่าเทคนิคพิเศษอันดับเป็นเช่นไร แต่เขาเคยได้ยินมาว่า เป็นทักษะที่ได้รับพรจากรอยแยกระดับสูง ซึ่งเป็นทักษะและเทคนิคที่มีค่ามากที่สุดสำรหับมนุษย์ เพื่อที่จะเข้าใจ มีคนกล่าวว่าจะต้องมีความเข้าใจเหมือนพระเจ้าและมีความรู้มากมายหรืออะไรทำนองนั้น แต่เจสันก็ไม่สนใจเรื่องเทพนิยายหรือตำนานที่ใครๆ กล่าว
อย่างไรก็ตามมัน่าประหลาดใจที่ได้เห็นเทคนิคพิเศษ ที่ไม่เหมือนใครอยู่ตรงหน้าเขา จนกระทั่งกรีลสังเกตเห็นความอยากรู้อยากเห็นของเจสัน และความลังเล ทักษะและเทคนิคแบบไหนที่จะทำให้เจสันนั้นพอใจ
นักเรียนบางคนอาจคิดว่า งานที่ได้รับมอบหมายจะสิ้นสุดลงเมื่อเขาได้ส่งวิดีโอ แต่จริงๆ การทดสอบของจริงนั้นเป็นอย่างอื่น เทคนิคใดที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนแต่ละคน ที่จะเลือกเพื่อเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ให้แข็งแกร่งขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น กรีลรู้ว่ามันแปลกที่มีเทคนิคระดับสูงมากมาย และนักเรียนบางคนอาจจะสงสัยเกี่ยวกับตัวของเขา และกรีลก็ไม่คิดอย่างนั้นในตอนนี้และกรีลก็จ้องมองเจสันด้วยความสนใจ
การที่กรีลจะสนใจในตัวของคนคนหนึ่งนั้นยากมากและเขาก็ประหลาดใจที่เขาสนใจในตัวเจสันมากขนาดนี้ มันทำให้เขานึกถึงสมัยก่อนตอนที่กรีลเรียนเกี่ยวกับคาเนียร์ ในขระที่ความทรงจำทั้งดีและร้ายก็ผุดขึ้นมาในใจมากมาย เหลือเพียงเวลา 1 สัปดาห์สำหรับนักเรียนของเขาที่จะสามารถฝึกฝนเทคนิคระดับสูงพวกนี้ ซึ่งเหลือเวลาไม่นานนั้น
และกรีลเองก็ไม่มั่นใจว่าเด็กนักเรียนบางคนจะสามารถเข้าใจเทคนิคเหล่านี้ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ได้หรือไม่ และกรีลเองจะสอนเทคนิคอื่นๆ ให้กับนักเรียนในไม่ช้า แต่ตอนนี้เป็นโอกาสครั้งเดียวที่นักเรียนจะสามารถเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้และทักษะต่างๆ ในระดับสูงได้
เด็กหนุ่มผมดำนี้จะเลือกทักษะหรือเทคนิคไหนกัน ??
การเลือกเทคนิคระดับ 3 ที่มีความยากสูง จะเป็นการเมินความสามารถที่สูงเกินไปและในขณะที่เลือกเทคนิคระดับ 2 จะเป็นการดีที่สุด แต่ก็จะทำให้กรีลรู้สึกผิดหวัง ขณะที่เจสันคิดว่าควรจะเลือดเทคนิคพิเศษแยกจิตดีหรือไม่ เจสันยังคงค้นหาผ่านทักษะต่างๆ น่าเสียดายที่ไม่มีเทคนิคไหนที่เจสันรู้สึกถูกใจเท่ากับเทคนิคพิเศษนี้ กรีลมองเจสันอย่างคาดหวังในถขณะที่นึกถึงความสามารถของเด็กหนุ่มคนนี้
ซึ่งจากที่ดูการต่อสู้กรีลเห็นว่าเจสันสงบมากกับการต่อสู้กับลีโอในการแข่งขัน และสามารถเอาชนะได้ด้วยความสามารถภายในดวงตาที่มีลักษณะพิเศษ นอกจากนี้เจสันยังไม่สนใจเกี่ยวกับความคิดของคนอื่นๆ แม้ว่าเขาจะสู้ด้วยวิธีที่มีทักษะของโกงเล็กน้อย ซึ่งนั้นก็เป็นวิธีการเอาชนะกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า
และพรสวรรค์ในการดูดซับมานาของเจสันยังมีมากกว่าเด็กคนอยู่ๆ ในคาเนียร์ และจะใช้เวลาไม่นานมากนักที่สามารถตามเพื่อนร่วมชั้นทัน แต่การมีพลังจิญวิญญารที่อ่อนแอของเจสัน และที่แย่ไปกว่านั้น พาราสกอร์ตัวจิ๋วที่เพิ่งมาเป็นพันธะตัวที่สองของเจสัน กรีลทำได้เพียงแต่สายหัวอย่างช่วยไม่ได้ เพราะเขาคิดว่ามันเป็นเพียงสิ่งหนึ่งของเจสันที่สูญเปล่า
กรีลยังคงนึกนึกความเจสันและนักเรียนคนอื่นๆ เพื่อที่จะหาวิะีที่จะเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งของพวกเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการแข่งขันของชั้นเรียน จะมีขึ้นในอีก 3 สัปดาห์ ทันใดนั้นความคิดทั้งหมดของกรีลก็ถูกขัดจังหวะ โดยเจสัน เจสันได้บอกกรีลถึงเทคนิคที่ต้องการที่จะเรียนรู้
“ครูกรีล ผมต้องการเรียนรู้เทคนิคพิเศษ การแยกจิต ได้โปรกสอนผมด้วยครับ !”
เมื่อเจสันพูดอย่างนั้น และด้วยความมั่นใจ ทำให้กรีลมองเขาด้วยความตกใจ
“คุณแน่ใจใช่ไหม ???”
กรีลถามอย่างลังเล และไม่คิดว่าเจสันจะเลือกเทคนิคนี้
ก่อนหนน้านี้กรีลลังเลว่าควรจะใส่เทคนิคนี้ลงไปในตารางเพื่อให้นักเรียนของเขาเลือกหรือไม่ แต่เข้าก็ตัดสินใจที่จะใส่มันลงไปเพื่อแสดงถึงเทคนิคต่างๆ ที่มีอยู่และไม่ได้หวังให้มีใครเลือกมัน
ตัวของกรีลเองได้ฝึกฝนเทคนิคนี้จนถึงจุดสูงสุดของขั้น 2 แต่ก็เท่านั้นและยิ่งไปกว่านั้นเขาใช้เวลามากกว่า 10 ปีที่จะถึงระดับนั้น กรีลไม่ใช่คนที่ชอบพูดถึงเรื่องอายุ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนวัยหนุ่มอย่างที่ใครๆ คิด เพราะวัยหนุ่มของกรีลนั้นที่มีศักยภาพถึงจุดสูงสุดได้ผ่านไปนานมากแล้ว และกรีลเองก้เพิ่งได้รับเทคนิคนี้หลังจากที่พยายามอย่างหนัก
ตอนนี้เด็กชายอายุ 14 ปีคนนี้ ต้องการที่จะเรียนรู้เทคนิคนี้งั้นหรอ เจสันไม่ได้อ่านคำอธิบายเกี่ยวกับความอันตรายของมันหรอ ???
“ครับ ผมแน่ใจ ผมจะเลือกเทคนิคนี้”
กรีลรู้สึกเหมือนโดนต่อยท้องหลังจากที่เจสันพูดด้วยความมุ่งมั่น และมันทำให้กรีลสตั้นไป 2-3 นาที กว่าจะรู้สึกตัวอีกครั้ง ทำให้กรีลรู้สึกผิดหวัง และเจสันเห็นว่าเมื่อกรีลส่งไฟล์เทคนิคนี้ให้ เจสันก็ได้รับไฟล์ทันที มันมีขนาดไม่กี่กิกะไบต์ปรากฏขึ้นในสร้อยข้อมือ
‘มากกว่า 8,000 หน้า !!!!’ นั้นเป็นสิ่งเดียวที่เจสันรู้สึกเมื่อเปิดไฟล์
0.0 (มันคือหน้าตกใจ)
และตัวหนังสือที่เขียนขนาดเล็กมาก จนเจสันตกใจ ‘จะใช้เวลานาเท่าไหร่เนี่ยยย กว่าจะอ่านจบ =..=’
เมื่อเห็นท่าทางที่ตกใจของเจสัน กรีลได้ยิ้มแหยะๆ ออกมา โดยคิดว่ามันคงเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับเจสัน เมื่อเจสันพบว่าเทคนิคพิเศษนั้นยากเพียงใดในการเรียนรู้และฝึกฝน เจสันคงจะเสียใจกับความคิดของเขาทันที
กรีลได้ให้คำกับเจสันด้วยการพูดเบาๆ
“คุณเพียงต้องอ่านต้องอ่านส่วนแนะนำสำหรับขั้นแรก และฉันจะสอนคุณตลอดทั้งสัปดาห์ และหากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์และคุณยังไม่เข้าใจอะไรเลย ฉันจะให้โอกาสในการเลือกเทคนิคใหม่ เป็นเทคนิคระดับ 2 ที่ง่ายกว่าและไม่ให้เลือกเทคนิคระดับ 3 หรือระดับพิเศษอีกเป็นการลงโทษ แต่ครั้งนี้จะเป็นรางวัล สำหรับการส่งงานเป็นคนแรกในระยะเวลาอันสั้น !!”
กรีลคงคิดว่าตัวเองนั้นใจกว้างมาก เพราะกรีลเองก็ไม่อยากให้เจสันสูญเสียโอกาสต่างๆ
“จำต้องหรอกครับครู ผมจะพยายามเรียนรู้เทคนิคนี้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม!!!”
เจสันดูมั่นใจและมีความมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ใจของกรีลรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที
“งั้นก็ได้ เอาละ คุณควรกลับบ้านได้แล้ว อ่านบทในส่วนแรกให้จบ และดูคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจและจดไว้ ไว้มาถามฉันในวันพรุ่งนี้ และคุณควรมาโรงเรียนให้เร็วกว่าเดิม เพราะฉันจะสอนเธอตัวต่อตัวในระหว่างที่รอเพื่อนคนอื่นๆที่มาถึง และระหว่างรอโรงเรียนเริ่ม”
เจสันได้ฝึกเทคนิคสรกสวรรค์อย่างเคยก่อนที่จะเปิดคู่มือการแบ่งแยกจิต เมื่อพิจารณาจากขนาดหน้าที่ชัดเจนจากบทนำ ใบหน้าของเจสันก็ซีดเผือกทันทีที่รู้ว่ามันต้องเป็นค่ำคืนที่ยาวนาน เมื่อเจสันเริ่มอ่านบทส่วนเกริ่นบทนำ เขาคิดว่ามันง่ายสำหรับเขาที่จะอ่าน 2-3 ในคราวเดียวให้จบ เนื่องจากความสามารถในการอ่านที่รวดเร็ว แต่มันกลับตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง
เจสันไม่สามารถแม้แต่จะอ่านหน้าแรกให้จบและเจสันเงยหน้าขึ้นด้วยความหงุดหงิดขณะที่รถรับส่งมาถึงหน้าบ้านแล้ว
`นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ยยยยยยยยย !!!????`