ดวงใจภวินท์ - ทที่588 อันอันหายดีแล้ว
บทที่588 อันอันหายดีแล้ว
สายตาของธีทัตเป็นประกายมืดมน แววตาเยือกเย็น แต่ว่าตอนที่ญาธิดาหันหน้ามานั้น อารมณ์ทั้งหมดก็ถูกซ่อนเอาไว้ กลับมาเป็นเหมือนปกติ
เขาจับไหล่ของเธอเบาๆ และพูดว่า “หลายวันมานี้คุณเหนื่อยมามากแล้ว กลับไปพักผ่อนที่ห้องเถอะ เดี๋ยวผมจะให้ป้าเตรียมอาหารไว้ให้คุณกับเด็กๆ ”
ญาธิดารู้สึกอุ่นใจ เธอยิ้มให้กับเขา เธอรู้สึกประทับใจเพราะการให้อภัยและการยอมรับของเขา ก็เลยก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับกอดเขาเบาๆ “ทัต ขอบคุณสำหรับการยอมรับและการให้อภัยของคุณนะ”
ธีทัตชะงักไป หลังจากนั้นก็ยกมือขึ้นมาลูบผมของเธอเบาๆ พร้อมกับพูดอย่างอ่อนโยนว่า “แค่คุณรับรู้ถึงความดีของผมก็พอแล้ว”
ญาธิดายิ้มพร้อมกับพูดว่า “ฉันรู้มาโดยตลอดแหละ”
พอพูดจบ เธอก็ปล่อยเขา ทั้งสองคนยิ้มให้กัน และญาธิดาก็ถือของขึ้นชั้นบนไป
ธีทัตหันหลังไปมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินห่างออกไป และสีหน้าของเขาก็เริ่มเยือกเย็นขึ้นเรื่อยๆ
เขาก็นึกว่าญาธิดาเลิกล้มความตั้งใจที่จะตามหาคนทรยศแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่า เธอจะยังเก็บมันไว้ในใจอยู่ตลอด
พอพูดขึ้นมาแล้ว ก็เพราะว่าเขาเปิดเผยตำแหน่งของเธอให้ภูเขา ถึงได้นำไปสู่เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น รวมถึงเรื่องที่เจ้าอาวาสถูกฆ่าตาย มันก็เป็นเรื่องที่เขาทำให้เกิดขึ้นโดยอ้อมเหมือนกัน
คนที่ญาธิดาเอาแต่พูดว่าจะจับให้ได้นั้น ความจริงแล้วมันก็คือเขา แต่ว่าเรื่องนี้ เขาจะปล่อยให้เธอรู้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เขาทุ่มเทและรอคอยมาหลายปีมันจะสูญเปล่า
ดังนั้น ต้องหาแพะรับบาปมาตัวหนึ่ง เพื่อทำให้เรื่องนี้มันจบลง
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วก็ส่งข้อความหาหมอก “คนที่นายซื้อมาคราวที่แล้ว ตอนนี้ได้ใช้ละ”
พอเห็นว่าข้อความมันถูกส่งไปสำเร็จแล้ว เขาก็ลบข้อความนั้นทิ้งโดยทันทีอย่างไม่ลังเล
ตอนที่เก็บโทรศัพท์และเงยหน้าขึ้นมานั้น ก็เห็นเด็กทั้งสามคนกำลังเล่นแมวจับหนูกันอยู่พอดี พร้อมกับยิ้มและวิ่งเข้ามาหาเขา
อีธานยิ้มและพุ่งเข้ามา “พ่อครับ!ช่วยผมเร็ว!”
เณรศีลกับเอลล่าก็วิ่งตามมาด้านหลัง และเด็กๆ ก็กรีดร้องพร้อมกับหัวเราะอย่างสนุกสนาน
ธีทัตคลี่ยิ้ม พร้อมกับโน้มตัวลงไปอุ้มอีธานขึ้นมา และยกเขาให้สูงขึ้น “แบบนี้ก็จับไม่ได้แล้ว”
อีธานหัวเราะคิกคัก เอลล่ากับเณรศีลที่อยู่ด้านข้างนั้นก็หัวเราะไม่หยุดเหมือนกัน
ภาพเหตุการณ์นี้มันดูเหมือนจะกลมกลืนกันมาก แต่ว่ามีแค่ธีทัตเท่านั้นที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขารู้สึกรังเกียจมันมากแค่ไหน
ไม่ว่าจะเป็นอีธาน เอลล่า หรือว่าเณรศีลในตอนนี้ก็ดี คนพวกนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เหตุผลที่เขายอมรับอีธานกับเอลล่าในตอนแรกนั้น ก็เพราะว่าเขารู้ดีว่านี่คือเชือกที่มัดตรวนญาธิดาเอาไว้ ความจริง เพื่อการเจริญเติบโตของลูก ญาธิดาก็เลยจดทะเบียนสมรสกับเขา ดูภายนอกเหมือนครอบครัวที่สวยงาม แต่ว่าความจริงแล้วไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบสามีภรรยาที่แท้จริงเลย
5-6ปีแห่งความทรมาน ตัวเขาในปัจจุบันนั้น ไม่อยากจะทุ่มเทอย่างบริสุทธิ์ใจอีกแล้ว เขาอยากให้ตัวเองกับญาธิดาเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง อยากจะมีลูกที่เป็นของพวกเขาทั้งสองคน แต่ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้……
เขาวางอีธานลง แล้วก็ปล่อยให้เด็กทั้งสามคนไปเล่นกันเอง แต่ว่าสายตาของเขามันกลับเยือกเย็นลงเรื่อยๆ
ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่ง เขาจะต้องได้มาทั้งตัวและหัวใจของญาธิดา มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น จะได้คุ้มกับเวลา5-6ปีที่เขาได้เสียไปกับเธอ
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ญาธิดาก็ลงมาจากห้องนอน เธอพึ่งจะอาบน้ำเสร็จ ผมหอม ดูสะอาดสะอ้านเหมือนนักศึกษาสาววัย 20 ปี ผิวเรียบเนียน และใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
ธีทัตกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ พอเห็นเธอใส่ชุดเดรสสีขาวเดินลงมาก็อึ้งไปในทันที เขาพูดอะไรบางอย่างกับคนในโทรศัพท์และวางสายอย่างรวดเร็ว
ญาธิดาเดินเข้าไปตรงห้องครัวเปิด และเทน้ำมะนาวพร้อมกับหันไปมองธีทัตและเอ่ยถามว่า “เด็กๆ ล่ะ? ไม่ได้อยู่ข้างล่างหรอกเหรอ? ”
“ไปเล่นจิ๊กซอว์ที่ห้องเด็กนั่นแล้ว”
ธีทัตยืนขึ้น แล้วก็เดินเข้ามาหาเธอ กอดเธอเบาๆ จากด้านหลัง ก้มหน้าลงและขยับเข้าไปใกล้ใบหูของเธอ พร้อมกับเอาริมฝีปากของตัวเองถูกับหูของเธอเบาๆ และกระซิบว่า “คุณสวยจังเลย”
คำชมอย่างกะทันหันของชายหนุ่มทำให้ญาธิดาตัวแข็งทื่อไปในทันที เธอขนลุกไปทั้งตัว และค่อยๆ ผละออกมาจากร่างกายของเขา
“ใช่สิ คุณบอกว่ามีข่าวดีจะบอกฉันไม่ใช่เหรอ? เมื่อกี้ฉันลืมถามไปเลย สรุปแล้วมันคือข่าวดีอะไรกันแน่? ”
ธีทัตเหลือบมองเธอที่ค่อยๆ ถอยหลังไป ดวงตาของเขาก็ดูมืดมนลงเล็กน้อย เขาหยุดไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดออกมาว่า “อันอันหายดีแล้ว อีกไม่กี่วันก็น่าจะกลับประเทศได้แล้ว”
“อะไรนะ? ” ญาธิดาเซอร์ไพรส์มาก เธออึ้งไปหลายวินาที หลังจากนั้นก็หัวเราะออกมาด้วยความดีใจ “จริงเหรอ? หายดีหมดแล้วเหรอ? ”
ธีทัตยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “จริงๆ อีกไม่กี่วันคุณก็จะได้เจอเธอแล้ว”
“ดีจังเลย!”ญาธิดาตื่นเต้นเกินจะบรรยายได้ “ดีมากเลยจริงๆ !”
ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนิ่งไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองธีทัตพร้อมกับถามว่า “พายุเฝ้าเธออยู่รึเปล่า? ”
พอได้ยินชื่อนี้ สีหน้าของธีทัตก็เปลี่ยนไปทันที และเขาก็พยักหน้า “อืม”
ญาธิดามองออกว่า ธีทัตไม่ได้ยอมรับพายุทั้หมด
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “การที่อันอันสามารถฟื้นฟูได้อย่างราบรื่นนั้น ต้องขอบคุณพายุมากเลยนะ เพราะถึงยังไงคนที่เฝ้าอยู่ข้างๆ อันอันในช่วงนี้ไม่ใช่คุณหรือว่าฉัน แต่ว่าเป็นเขาต่างหาก”
ทันใดนั้นธีทัตก็พูดออกมาอย่างจริงจัง “ธิดา การที่จะมอบอันอันให้พายุ ผมไม่สบายใจหรอกนะ เดี๋ยวพอเขากลับมา ผมคงต้องขอบคุณเขาอีกที แต่ว่าเรื่องอื่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ เธอขยับริมฝีปาก แต่ไม่รู้ว่าควรจะโน้มน้าวยังไง เพราะถึงยังไงธีทัตก็คือพี่ชายแท้ๆ ของอันอัน หลายๆเรื่องมันไม่ใช่เรื่องที่คนนอกอย่างเธอจะไปยุ่งด้วยได้
ญาธิดาพูดด้วยเสียงที่เรียบเฉย “เรื่องนี้ เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่เถอะ”
สีหน้าของธีทัตอ่อนโยนขึ้นมาก เขายื่นมือไปดึงเธอพร้อมกับยิ้มและพูดว่า “อืม ปะ พวกเราไปดูพวกเด็กๆ กันเถอะ”
และในตอนนี้เอง บนรถบัสนำเที่ยวในอเมริกา อัญมณีนั่งอยู่บนเก้าอี้ริมหน้าต่าง จ้องออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอกด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง และพายุที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอนั้นก็กำลังมองมาที่เธอด้วยรอยยิ้ม
อัญมณีมองไปด้วยแล้วก็อุทานออกมาด้วย “ใครจะไปคิดว่าฉันมาที่นี่นานขนาดนี้แล้ว แต่ว่านี่พึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาเที่ยวเล่น ใช่สิพายุ ได้ยินว่าข้างหน้ามีบ่อน้ำอธิษฐาน เดี๋ยวพวกเรา……”
ระหว่างที่พูดอยู่นั้น เธอก็หันไปมองพายุ และก็เห็นว่าเขากำลังจ้องมาที่เธออยู่ คำพูดของเธอก็ชะงักไปในทันที ใบหน้าก็ร้อนผ่าว “คุณ……คุณมองฉันทำไมเนี่ย!”
พายุยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม และพูดเบาๆ ว่า “ก็เพราะว่าคุณสวยไง”
คำหวานที่มาอย่างกะทันหันนั้นทำให้ใบหน้าที่ร้อนผ่าวของอัญมณีนั้นแดงขึ้นมาในทันที และก็แดงกระจายไปจนถึงหู ทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
ทันใดนั้นพายุก็ยื่นมือออกมากุมมือของเธอเอาไว้ และพูดเบาๆ ว่า “อันอัน ผมอยากจะให้เวลาหยุดลงในตอนนี้เลย ผมจะได้อยู่กับคุณตลอดไป”
ดวงตาของอัญมณีเปล่งประกายเหมือนดวงดาว เธอทั้งอับอายและมีความสุข รู้สึกหวานหอมจนพูดอะไรไม่ออก
ตอนที่เธอคบกับเขาแรกๆ นั้น เธอรู้สึกว่าเขาเป็นขอนไม้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ไม่รู้สนุกสนาน เย็นชา ไม่เข้าใจความรักระหว่างชายหญิงเลย แต่ไม่คิดเลยว่า เขาในตอนนี้นั้น จะสามารถพูดคำหวานๆ แบบนี้ออกมาได้
ตอนที่เธอไม่รู้ว่าจะตอบโต้ยังไงดีนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงเชียร์ก็ดังขึ้นจากนอกรถบัส และทันทีที่เธอหันหน้าไป เธอก็เห็นลูกโป่งหลากสีสันนับร้อยลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
อัญมณีอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นมาจากในรถ เธอหันหน้าไป ก็พบว่าพายุที่นั่งอยู่ด้านข้างเธอนั้นค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วก็คุกเข่าลงไปช้าๆ พร้อมกับหยิบกล่องเล็กๆ กล่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ พอเปิดออก ตรงกลางของกล่องรูปทรงดอกไม้นั้นก็มีแหวนเพชรที่แวววับตั้งตระหง่านอยู่ มันส่องประกายและน่าประทับใจมาก
ใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีภาพของเธอสะท้อนอยู่ภายในดวงตาของเขา และยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “อันอัน แต่งงานกับผมได้ไหม? ”
อัญมณีทั้งเซอร์ไพรส์และดีใจ หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงเชียร์ของฝูงชน เธอพยักหน้าเบาๆ ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหอมหวาน
นี่คือวันเวลาที่เธอรอคอยมาโดยตลอด ไม่คิดเลยว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้