ดวงใจภวินท์ - บทที่ 113 ดูแลรักใคร่อย่างดี
พอออกมาจากร้านอาหารแล้ว ญาธิดากับอัญมณีก็ขับรถตรงกลับบ้านเลย พอมาถึงประตูทางเข้าชุมชน อัญมณีก็มองซ้ายมองขวาไป เหมือนกับว่ากำลังหาใครอยู่
ญาธิดาไม่เข้าใจ และกวาดมองรอบ ๆ แล้วถามขึ้นมาว่า “มีอะไรเหรอ?”
อัญมณีอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดไม่ออก “ไม่……ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรเหรอ?” ญาธิดายักคิ้วขึ้นเล็กน้อย เธอไม่เชื่อคำพูดของหล่อนหรอก
ตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาลัย อย่างน้อยพวกเธอก็รู้จักกันมาแปดเก้าปีแล้ว การกระทำทุกอย่างของอัญมณีไม่มีทางที่จะปิดบังเธอได้หรอก
เธอหยุดฝีเท้าลง แล้วจ้องมองอัญมณีอย่างจริงจัง “ไม่มีอะไรจริง ๆ เหรอ?”
อัญมณียิ้มขึ้นมาอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย และก็โกหกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงได้แต่ยิ้มแหยะ ๆ แล้วพูดความจริงขึ้นมาว่า “ฉันโทรหาพี่ชายฉันไป ในเมื่อเรื่องย้ายของแบบนี้ ยังไงก็ต้องให้ผู้ชายมาทำดีกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว……”
พอญาธิดาได้ยิน ก็ทั้งโกรธทั้งขำขึ้นมา “อันอัน เธอนี่……”
ถึงแม้ว่าเธอจะโง่ แต่ก็ไม่ได้โง่จนมองความหมายของอันอันไม่ออกหรอกนะ
แต่ว่าพอพูดจริง ๆ แล้ว เรื่องย้ายบ้านนี่ มีผู้ชายอยู่ด้วยมันก็ดีกว่าจริง ๆ
แล้วในเวลานี้เอง ด้านข้างก็มีรถขับเข้ามาคันหนึ่ง แล้วมาจอดข้าง ๆ พวกเธอ พอกระจกรถเปิดออก ธีทัตที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ก็คลี่มุมปากส่งยิ้มมาให้พวกเธอ
อัญมณีใบหน้ายิ้มแย้ม แล้วโบกมือให้ธีทัตเล็กน้อย “พี่ รีบลงมาเร็ว!”
หลังจากที่จอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ธีทัตก็ลงมาจากรถ ชุดลำลองสีเทาทั้งชุดทำให้รูปร่างของเขาดูสูงโปร่ง เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น
เขามองไปที่ญาธิดา แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้นมา “อันอันบอกว่าคุณจะย้ายบ้านแล้วผมก็ว่างอยู่พอดี ก็เลยมาช่วย”
ญาธิดาส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อย “ขอบคุณค่ะ”
อัญมณีที่อยู่ข้าง ๆจ้องมองพวกเขาสองคนไป แล้วก็ยักคิ้วหลิ่วตาขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “พอแล้วๆ รีบไปกันเถอะ เรื่องสำคัญคือการย้ายของต่างหาก ”
พูดแล้ว เธอก็ลากตัวญาธิดาแล้วเดินเข้าไปในเขตชุมชน
พอมาถึงหน้าประตูบ้าน ญาธิดาก็กดกริ่งประตูเล็กน้อย พอคุณปภาวีเปิดประตูออกมา เห็นว่าเป็นเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะพร่ำบ่นขึ้นมา “ญาธิดาแกนี่ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม! ถึงได้ไม่กลับบ้านมาตั้งหลายวัน……”
คำพูดยังพูดไม่ทันจบ เธอก็เห็นอัญมณีและธีทัตที่ยืนอยู่นอกประตู
“อันอัน?”
“คุณน้า!” อัญมณียิ้มอย่างอ่อนหวานเป็นเด็กดี “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ หนูคิดถึงคุณน้าจังเลย!”
พอคุณปภาวีได้ยิน ก็ยิ้มหน้าบานขึ้นมาทันที “อันอันนี่ ไม่ได้เจอกันตั้งครึ่งปีแล้ว ยิ่งอยู่ก็ยิ่งสวยแล้วนะ ”
“คุณน้าก็ยิ่งอยู่ก็ยิ่งหน้าเด็กลงนะคะ!”
พออัญมณีประจบประแจงไปหลายประโยค ก็ทำให้คุณปภาวีเอาคำพูดที่จะดุด่าว่ากล่าวญาธิดาโยนออกไปจากสมองเลย
พอเห็นธีทัตที่ยืนอยู่นอกประตู คุณปภาวีรู้สึกแต่ว่าหน้าคุ้น ๆ แต่ก็คิดไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน “คุณคือ……”
“นี่คือพี่ชายหนูค่ะ พี่ธีทัต แล้วก็เป็นคู่ดูตัวของธิดาด้วยค่ะ”
พอคุณปภาวีได้ยิน ตาทั้งคู่ก็โตขึ้นมาทันที ทั้งแปลกใจทั้งดีใจ แล้วก็รีบเชิญธีทัตเข้ามานั่งในบ้าน
ญาธิดานั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองคุณปภาวีที่กุลีกุจอไปชงชาและหั่นผลไม้ให้ ในใจก็ยิ่งเข้าใจความตั้งใจของอัญมณีขึ้นมา
ที่หล่อนตามธีทัตมา ไม่ใช่แค่มาช่วยพวกเธอย้ายของเท่านั้น ยังสามารถช่วยขัดขวางคุณปภาวีได้ด้วย
นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยจริง ๆ!
พอเห็นว่าเวลามันพอเหมาะแล้ว ญาธิดาก็มองไปที่คุณปภาวี แล้วก็รวบรวมความกล้าพูดขึ้นมาว่า “แม่คะ มีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่หนูอยากจะพูดกับแม่หน่อยค่ะ”
พอคุณปภาวีเห็นท่าทีจริงจังของญาธิดา ก็เคร่งขรึมขึ้นมาด้วยเลย “เกิดอะไรขึ้น มีเรื่องอะไร?”
ญาธิดากำมือเข้าด้วยกัน “หนูกะว่าจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกค่ะ หนูได้เช่าคอนโดอยู่ใกล้ ๆ บริษัทไว้แล้ว ค่อนข้างสะดวก ค่าเช่าก็ไม่แพง……”
“ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก?” และแล้ว สีหน้าของคุณปภาวีก็ดูแย่ลงทันที “อยู่ดี ๆ ทำไมจะต้องย้ายออกไปอยู่ข้างนอกด้วย ในบ้านมีให้กินมีให้ใช้ ทำไมจะต้องไปเปลืองเงินส่วนนี้ด้วย ”
ญาธิดาเงียบขรึมไป แล้วไม่พูดอะไรเลย
ในเมื่อเธอเองก็ไม่กล้าที่จะพูดกับคุณปภาวีตรง ๆ ว่าเธอต้องการพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวบ้าง
บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือกไปอย่างมาก ธีทัตยิ้มเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ผ่อนคลายบรรยากาศขึ้นมา “คุณป้าครับ คุณอย่าเพิ่งโกรธเลยนะครับ ผมคิดว่าธิดาเธอน่าจะมีความคิดเป็นของตัวเอง ในเมื่อเธอก็ไม่ได้เด็ก ๆ แล้ว ก็ควรที่จะเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองได้แล้วนะครับ”
อัญมณีที่อยู่ข้าง ๆ ก็รีบพูดเสริมขึ้นมา “ใช่ค่ะคุณน้า แล้วอีกอย่าง ถ้าต่อไปธิดาจะมีแฟนหรือว่าอะไร อยู่ในบ้านมันก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นะคะ ”
เธอพูดแล้ว ก็ยังตั้งใจกะพริบตาให้คุณปภาวีด้วย
คุณปภาวีอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปที่ญาธิดา และมองไปที่ธีทัตอีกที และเหมือนกับว่าจะเข้าใจความหมายของเธอขึ้นมา สีหน้าถึงได้ผ่อนคลายลงมาเล็กน้อย
เธอกระแอมไอขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงเบาขึ้นว่า “งั้น ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ฉันก็จะไม่พูดอะไรมากแล้ว แต่ว่าปกติแกจะต้องกลับมากินข้าวที่บ้านบ่อย ๆ นะ ”
ญาธิดาคิดไม่ถึงว่าคุณปภาวีจะเปลี่ยนความคิดไปเร็วขนาดนี้ แล้วก็รีบพยักหน้าขึ้นมาทันที “แม่คะ หนูจะต้องกลับมากินข้าวบ่อย ๆ แน่นอนค่ะ!”
พอบอกกล่าวแล้ว ญาธิดาก็รีบกลับไปเก็บของที่ห้องอย่างดีใจ ทางคอนโดใหม่นั้นมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน เธอจึงไม่ต้องเอาอะไรไปมาก พอจัดเก็บเสื้อผ้าไปครู่หนึ่ง แล้วก็ของใช้จำเป็นอีกส่วนหนึ่ง ก็พอประมาณแล้ว
ถึงแม้ว่าคุณปภาวีจะยินยอมให้ญาธิดาย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่ว่าลูกสาวตัวเองยังไงก็ยังตัดใจไม่ได้ แล้วก็กำชับเรื่องต่าง ๆ ไปชุดหนึ่ง สุดท้ายก็มาพูดขอร้องธีทัตไม่หยุด “ทัต ในเวลาปกติคุณจะต้องช่วยดูแลธิดาของเราให้มาก ๆ หน่อยนะ……”
ธีทัตมีความอดทนและอ่อนโยน “วางใจเถอะครับคุณป้า ผมจะช่วยดูแลธิดาแน่ๆ ค่ะ”
พอเก็บของได้พอประมาณแล้ว ญาธิดาก็เดินหน้าเข้ามา แล้วก็เป็นฝ่ายกอดคุณปภาวีไว้ แล้วพูดเสียงเบาขึ้นว่า “แม่คะ แม่วางใจเถอะนะคะ หนูไม่ได้เป็นเด็กแล้ว เดี๋ยวถ้าพ่อกลับมาแม่ก็ช่วยบอกพ่อสักคำด้วยนะคะ แล้วหนูจะกลับมากินข้าวบ้านบ่อย ๆ นะคะ”
หางตาของคุณปภาวีเปียกชื้น และพยักหน้าเล็กน้อย สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
ระหว่างทางที่ขนของมุ่งหน้าไปคอนโดนั้น ญาธิดาก็นึกถึงปฏิกิริยาของคุณปภาวีเมื่อกี้ แล้วก็อดกลั้นความเสียใจในใจลงไป
ถึงแม้ว่าบางครั้งคำพูดที่ออกมาจากปากของคุณปภาวีจะไม่น่าฟัง แต่ก็ปฏิบัติต่อเธอไร้ที่ติจริง ๆ
ทางด้านนี้อัญมณีขับรถไป แล้วก็หันหน้ามากวาดตามองญาธิดาทีหนึ่ง “พอแล้วธิดา เลิกลำลึกความหลังได้แล้ว ตอนนี้มีพี่ชายฉันดูแลเธออยู่ เธอจะไปกลัวอะไร?”
ญาธิดาโดนทำให้โกรธจนขำแล้ว “อันอัน อย่าพูดไปเรื่อยซิ นี่เธออยากจะให้ฉันเป็นพี่สะใภ้เธอมากขนาดนี้เลยเหรอ ”
อัญมณีพูดขึ้นมาอย่างได้ใจ “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? เพื่อนสนิทของฉันเป็นพี่สะใภ้ฉัน นี่เป็นเรื่องที่มีคนอิจฉาตั้งเท่าไหร่ ”
ทั้งสองคนพูดจาเฮฮากันไป ผ่านไปไม่นานก็มาถึงใต้ตึกคอนโดแล้ว
รถของธีทัตได้มาจอดอยู่ตรงหน้าประตูแล้ว และก็กำลังยกของที่อยู่บนรถลงมาทีละชิ้นทีละชิ้นอยู่
พออัญมณีจอดรถเรียบร้อยแล้ว ญาธิดาก็รีบลงจากรถไปขนของเลย
แต่พอเธอเพิ่งจะยกกล่องใส่ของอันหนึ่งออกมาจากกระโปรงหลังรถ ยังไม่ทันได้หมุนตัวไป ด้านหลังก็มีเสียงสดใสของผู้ชายดังขึ้นมาคำหนึ่ง “ธิดา เอาให้ผมเถอะ แขนของคุณยังบาดเจ็บอยู่นะ อย่ายกของหนักเลย”
มือยาวของชายหนุ่มยื่นมา แล้วก็รับกล่องในมือเธอไป
ญาธิดาอึ้งไปเล็กน้อย แล้วจ้องมองผ้าพันแผลที่อยู่ในแขนเสื้อตัวเอง ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
ที่แท้ เขายังจำได้ว่ามือเธอมีบาดแผลอยู่
อัญมณีมองเห็นทุกอย่างชัดเจนอยู่ด้านข้าง รอยยิ้มบนใบหน้าอดไม่ได้ที่จะยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น หล่อนเดินมา แล้วใช้ไหล่กระทุ้งเธอเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “เป็นยังไงบ้างละ พี่ชายฉันไม่เลวเลยใช่ไหม ดูแลรักใคร่เป็นอย่างดี ดูแลคนเก่งสุด ๆ!”
พอเธอพูดจบ ญาธิดายังไม่ทันได้ตอบ ธีทัตที่ยืนยกของอยู่หน้าประตูก็หันหลังกลับมาแล้ว และเปิดปากกำชับขึ้นว่า “ธิดา รีบกลับห้องไปเปิดประตูเร็ว ของพวกนี้มอบให้เป็นหน้าที่ผมกับอันอันก็พอแล้ว”
สีหน้าของอัญมณีเปลี่ยนไปทันที “อะไรนะคะ?”
เมื่อกี้เธอยังชมเขาว่าดูแลคนอื่นเป็นอย่างดีอยู่เลย ที่แท้เขาก็แค่ดูแลรักใคร่ญาธิดาคนเดียวเท่านั้น!
พอญาธิดาเห็นสีหน้าของอัญมณีที่อยู่ข้าง ๆ ก็หัวเราะ“พรืด”ออกมาคำหนึ่ง
เธอตบไหล่ของอัญมณีเล็กน้อย แล้วก็กะพริบตาใส่เธอเล็กน้อย “ค่อย ๆ ยกไปนะ”
ใบหน้าเรียวเล็กของอัญมณีย่นเข้าหากันเป็นก้อน แล้วก็ทำปากจู๋ขึ้นมาอย่างไม่พอใจ แต่การกระทำในมือก็ไม่ได้หยุดไป
ญาธิดาเงยหน้าขึ้นมา มองแผ่นหลังของชายหนุ่มที่กำลังวุ่นวายอยู่ไม่ไกล ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง ในใจสั่นไหวเล็กน้อย
ธีทัต เหมือนกับว่าจะเป็นผู้ชายที่คุ้มค่าแก่การคบหาเป็นอย่างมากเลย