ดวงใจภวินท์ - บทที่ 158 จ้างพยาบาลพิเศษ
พลางจ้องมองสีหน้าแววตาของญาธิดาที่ไม่อยากจะเชื่อ พี่แนนยิ้มให้ พลางกระซิบพูด “ทำไม? ไม่อยากไปเหรอ?”
ญาธิดาตั้งสติได้ทันที และตอบกลับไปโดยที่ตนเองมารู้ตัวทีหลัง “ฉัน…ฉันแปลกใจนิดหน่อยค่ะ”
ตลอดการทำงานอยู่ใน STN Group มาสองปี เธอก็รู้ว่ามีบางครั้งบริษัทจะให้โอกาสส่งพนักงานอันยอดเยี่ยมไปเรียนรู้งานที่ต่างประเทศ ทว่าเรื่องดีๆ แบบนี้ก็ไม่เคยมีบุญหล่นทับมาถึงตัวเธอเลยสักครั้ง
“ขอแค่ขยัน ทุกอย่างจะเป็นไปได้ทั้งหมดแหละ” พี่แนนพูดตามหลักการทุกอย่าง
“การไปเรียนรู้งานต่างประเทศในครั้งนี้คือเดินทางไปยังบริษัทแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ บริษัทของพวกเขากับเราร่วมมือกันมาหลายปีแล้ว หลายปีมานี้พัฒนาไปรวดเร็วมาก ได้ข่าวว่ารูปแบบการจัดการของพวกเขานั้นน่าเรียนรู้มาก ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสที่บริษัทจะส่งตัวไปในครั้งนี้ ทุกแผนกต่างเลือกพนักงานเพื่อไปเรียนรู้ โดยมีกำหนดวันเวลา 3-4วัน”
เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ญาธิดาทั้งตกใจและดีใจพร้อมกัน และสอบถามกลับด้วยหน้าตาดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ “พี่แนน ครั้งนี้ให้ฉันได้ไปจริงๆ เหรอคะ?”
ก่อนหน้านี้ทางแผนกก็มีโอกาสที่ดีแบบนี้ ตอนที่อนุญาตให้ไปได้คนเดียว โควตาก็ตกเป็นของพิชญ์สินีทั้งหมด ทว่าไม่คิดว่าครั้งนี้พี่แนนจะเลือกเธอไป
เมื่อเห็นพี่แนนพยักหน้า ญาธิดาดีใจยกใหญ่ “ขอบคุณค่ะพี่แนน”
เมื่อออกมาจากห้องทำงาน บนใบหน้าของญาธิดายังมีรอยยิ้มปะปนอยู่ ข่าวนี้สำหรับเธอแล้ว ถือว่าเป็นข่าวดีที่สุดในระยะที่ผ่านมานี้เลย
เธอเดินผ่านห้องทำงาน และเตรียมจะเดินไปทางห้องทำงานของตนเอง จู่ๆ มีเงาอันคุ้นตาเดินเข้ามาหา พิชญ์สินีนั่นเอง
ญาธิดาหุบยิ้มทันที พลางมองพิชญ์สินี แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก และเดินตรงแน่วผ่านไป
พิชญ์สินีมองเห็นเธอเดินผ่านหัวไหล่ไป จนแสดงความเย็นชาออกทางสีหน้า
เมื่อคืนภาพที่เกิดขึ้นในWesker Nightclubเธอยังจำติดตา เดิมเธอจงใจยุแหย่ความสัมพันธ์ของญาธิดากับแองจี้ ยังรอมองให้เธอถูกคนจัดการ ไม่คิดเลยว่าท้ายที่สุดเธอกลับมองเห็นภวินท์ปรากฏตัวขึ้น เรื่องนี้เป็นความลับที่น่าตกใจมากๆ
ที่แท้ญาธิดากับภวินท์รู้จักกัน อีกทั้งคล้ายกับสนิทกันมากด้วย เมื่อเอามาเชื่อมโยงกับการที่ญาธิดาได้เลื่อนตำแหน่งอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วยังเรื่องของนีราภาอีก เธอเข้าใจทุกอย่างทันที
ที่แท้ภวินท์ก็คือคนที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังของญาธิดา
ความสัมพันธ์เช่นนี้ เพียงพอให้พิชญ์สินีรับรู้ถึงความหวาดกลัวอยู่บ้าง ทว่าหลังจากหวาดกลัวแล้ว สิ่งที่ตามมามากกว่ามันคืออาการขยะแขยงญาธิดาเพิ่มมากขึ้น
ผู้หญิงที่อาศัยผู้ชายในการเลื่อนตำแหน่งอย่างเธอเช่นนี้ ทำให้คนขยะแขยงที่สุดแล้ว!
เมื่อครู่เธอมองญาธิดาเดินออกมาจากห้องทำงานหัวหน้าแผนกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ในใจก็พอจะเดาได้ โควตาเดินทางไปเรียนรู้งานที่ต่างประเทศอย่างสิงคโปร์ในครั้งนี้ต้องเป็นของเธอแน่!
เมื่อคืนภาพที่เกิดขึ้นในWesker Nightclubเธอยังจำติดตา เดิมเธอจงใจยุแหย่ความสัมพันธ์ของญาธิดากับแองจี้ ยังรอมองให้เธอถูกคนจัดการ ไม่คิดเลยว่าท้ายที่สุดเธอกลับมองเห็นภวินท์ปรากฏตัวขึ้น เรื่องนี้เป็นความลับที่น่าตกใจมากๆ
พิชญ์สินียิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ และกลับเข้าห้องทำงานโดยไม่มีกะจิตกะใจทำงานแล้ว เธอกัดริมฝีปาก สมองก็กำลังวางแผนอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นผ่านไปหลายนาที เธอมองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ พลางสูดหายใจเข้าลึก และเม้มริมฝีปาก และหยิบขึ้นมาส่งข้อความหานีราภา “ภา ตอนนี้ร่างกายแกฟื้นตัวเป็นไงบ้างแล้ว? สุดสัปดาห์ฉันอยากจะไปเยี่ยมแกหน่อย”
อาศัยความสามารถของเธอหัวเดียวกระเทียมลีบมันช่างอ่อนแอเกินไป แต่นีราภาไม่เหมือนกัน อาของเธอเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท อาศัยภูมิหลังเช่นนี้ อยากจัดการญาธิดา นั่นไม่เท่ากับลงมือได้ง่ายดายมากกว่าเธอเหรอ?
ตลอดทั้งวันนี้ ญาธิดาอารมณ์ดีมาก ได้โบนัสและโควตาไปเรียนรู้งานที่ต่างประเทศทำให้เธอขยันขันแข็งอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม หลังจากเลิกงานเธอไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย โดยมุ่งหน้าไปเยี่ยมยติภัทรกับปภาวีที่โรงพยาบาลก่อน เพื่อแจ้งข่าวดีนี้ให้กลับพวกเขาทราบทันที
เธอตั้งใจซื้อขนมหลายกล่องที่ ยติภัทรชื่นชอบ เมื่อออกมาจากลิฟต์แล้ว เธอก้าวฝีเท้าอย่างรวดเร็ว เดินผ่านทางเดิน เดินอยู่สักพัก จึงมองเห็นหน้าประตูห้องพักผู้ป่วยอยู่ไกลๆ ปภาวีกำลังใช้มือข้างหนึ่งดันกำแพง ส่วนมืออีกข้างกำลังนวดตรงขมับ
เมื่อเห็นสถานการณ์ผิดแปลกไป ญาธิดาจึงรีบเร่งฝีเท้าเดินมาทางด้านหน้า “แม่คะ แม่เป็นอะไรไป?”
ปภาวีได้ยินเสียง จึงรีบเงยหน้าทันควัน เมื่อเห็นหน้าเธอ สีหน้าแววตาที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าก็เปลี่ยนไปทันที พลันรีบตอบทันควัน “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”
แม้ว่าเธอจะพูดออกมาเช่นนี้ ทว่าญาธิดายังจับสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเธอ ใบหน้าเธอดูเหนื่อยล้า และดูทิ้งห่างความสดใสทางใบหน้าที่เธอเจอครั้งที่แล้ว แค่ไม่ได้เจอกันไม่กี่วัน กระทั่งผอมลงเป็นกอง
“แม่ แม่พูดความจริงกับหนูมา แม่ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ?”
สองสามวันมานี้ ดร.ยติภัทรอยู่โรงพยาบาลตลอด ปภาวีย่อมต้องคอยเฝ้าดูแลอยู่ข้างกายเขา ไม่สามารถไปไหนได้
ปภาวีโบกมือ และกล่าวพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ไม่มีอะไรจริงๆ เมื่อคืนน่าจะนอนน้อยไปหน่อย”
เมื่อเห็นมารดาของตนเองอยู่ในสภาพเหนื่อยหน่ายขนาดนี้ ญาธิดาทุกข์ใจจากก้นบึ้งหัวใจ เธอจูงปภาวีเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย และประคองมารดาให้นั่งลงบนเก้าอี้
ดร.ยติภัทรนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนเตียง เมื่อเห็นภาพนั้นก็อดสอบถามไม่ได้ “เป็นอะไรไป?”
“แม่ไม่ค่อยสบาย น่าจะเหนื่อยเกินไปค่ะ”
ยติภัทรได้ยิน พลางถอนหายใจโล่งอก “ฉันให้แม่แกกลับบ้านไป พูดยังไงแม่แกก็ไม่ยอมกลับ ทุกครั้งก็เอาแต่เฝ้าอยู่ข้างเตียง แล้วจะพักผ่อนให้หลับสบายได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินเขาพูดออกมาเช่นนี้ ญาธิดาถึงเข้าใจได้ทันที ที่แท้หลายวันมานี้โหมทำงานหนักขนาดนี้ มิน่าล่ะเธอถึงปวดหัวเพราะความเหนื่อยล้าจนไม่สบายนี่เอง
ญาธิดาครุ่นคิดสักพัก พลางพูดเสนอแนะขึ้นมา “พ่อแม่ เอาแบบนี้นะ เดี๋ยวหนูจะจ้างพยาบาลพิเศษ ทำแบบนี้แล้วจะช่วยลดภาระของแม่ลงได้บ้าง หนูจะได้สบายใจขึ้นมาหน่อย”
ปภาวีไม่เห็นด้วย จึงรีบส่ายหน้าทันควัน “จ้างพยาบาลพิเศษอะไรล่ะ ฉันคนเดียวก็ดูแลได้”
ญาธิดาย่นคิ้วเล็กน้อย และยืนกรานกับความคิดของตนเอง “แม่ แม่ก็อย่าเพิ่งบอกปัดสิ ถึงเวลาพ่อเขาก็ต้องผ่าตัด วันเวลาอีกนานนะ แม่อยากจะเหนื่อยจนเป็นลมล้มพับไปเหรอ?”
“อีกอย่างวันนี้หนูได้โบนัสประจำไตรมาสมา ถือว่าไม่น้อยนะ ประจวบเหมาะสามารถจ้างพยาบาลได้พอดีเลย”
พลางมองท่าทางแน่วแน่ของญาธิดา ยติภัทรกับปภาวีก็ไม่สามารถบอกปัดไปได้ ทำได้แต่ตอบรับไป
ญาธิดาอยู่คุยเป็นเพื่อนพวกเขาอยู่ไม่กี่ประโยค ถึงได้ออกมาจากห้องพักผู้ป่วย และไปสอบถามเรื่องจ้างพยาบาลผู้ช่วยตรงแผนกพยาบาล
สักพักหลังจากที่ทางพยาบาลได้ชี้แจงให้ทำตามคู่มือในแผนกพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ญาธิดาทำตามที่เธอได้ชี้แจงเอาไว้ เพื่อเดินตามหาสถานที่
“คุณญาธิดาคะ นี่เป็นข้อมูลของพยาบาลพิเศษที่ตารางยังว่างงานของทางเราค่ะ คุณลองดูก่อน”
“ได้ค่ะ”
หลังจากญาธิดารับไปแล้ว ก็เป็นเอกสารที่พยาบาลยื่นมาให้เธอ หลังจากอ่านผ่านไปหลายหน้าแล้ว จู่ๆ นิ้วมือก็ชะงัก สายตาจับจ้องมองรูปพยาบาลที่อยู่ในหน้ากระดาษแผ่นที่สาม
เด็กสาวที่อยู่ในรูปหน้าตาสดใส แววตาเปล่งประกาย มีลักยิ้มอยู่บนแก้มทั้งสองข้าง
เธอเหรอ?
ญาธิดาตั้งใจดูตารางข้อมูลที่อยู่ทางด้านหน้ามุมบนซ้ายมือ เมื่อเห็นว่าเป็นชื่อ “เกล้าแก้ว” รู้สึกเซอร์ไพรซ์เล็กน้อย
เป็นเธอจริงๆ ด้วย!
นี่เป็นเพื่อนสนิทเธอคนหนึ่ง เมื่อก่อนพักอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ต่อมาจู่ๆครอบครัวของเกล้าแก้วก็ย้ายบ้านไป หลังจากนั้นพวกเธอก็ขาดการติดต่อกัน
ไม่คิดเลยว่าผ่านมาหลายปี พวกเธอยังใช้วิธีการนี้ในการกลับมาเจอกันอีกครั้ง
เมื่อเห็นผู้หญิงที่อยู่ในรูป ญาธิดาพลันฉุกคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้อย่างอดไม่ได้ ความทรงจำสมัยมัธยมตอนปลาย เกล้าแก้วเรียนโตกว่าเธอหนึ่งปี ทั้งสองคนเจอหน้าในหมู่บ้านอยู่บ่อยๆ แต่กลับไม่เคยพูดจากันเลย
ต่อมา หลังจากเธอทบทวนการเรียนในตอนค่ำเสร็จเรียบร้อยและเดินทางกลับบ้าน ก็ถูกผู้ชายคนหนึ่งสะกดรอยตามมา จนหวาดกลัวถึงขั้นสุด เกล้าแก้วเป็นคนเอาก้อนอิฐขว้างจนผู้ชายคนนั้นหนีเตลิดไป เพื่อเป็นการปกป้องเธอ ต่อมาหลังจากนั้น พวกเธอทั้งสองคนก็กลายเป็นเพื่อนสนิทที่มองหน้าก็รู้ใจกันแล้ว
ทว่าเวลาในพริบตา เรื่องนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางหยิบข้อมูลใบนั้นของเกล้าแก้วขึ้นมา พลันยื่นให้กับพยาบาลและสอบถามทันที “พี่พยาบาลคะ ฉันขอเจอเธอได้มั้ยคะ?”