ดวงใจภวินท์ - บทที่ 195 สถานการณ์วุ่นวาย
“ธิดา คุณอยากทานอะไรก่อนไหม”
เสียงจากด้านข้างดังมาทำให้เธอได้สติ เธอหันไปมองออกัสที่อยู่ข้างๆ ส่ายหน้าและพูดว่า “ฉันไม่หิวค่ะ”
ถึงแม้จะตื่นแต่เช้าและวิ่งวุ่นเป็นครึ่งวันโดยไม่ได้ทานอาหาร แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเครียดหรือไม่ เธอไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด
ออกัสที่อยู่ข้างๆ ยกมือขึ้นตบไหล่เธอ และปลอบอย่างใจดี “ธิดา ถ้าร่างกายคุณทรุดโทรมเพราะงาน มันจะได้ไม่คุ้มเสียรู้ไหม”
ญาธิดาลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มและพยักหน้าให้เขา พูดเสียงเบา “โอเค งั้นฉันไปทานอะไรหน่อย ทางนี้มีสถานการณ์อะไรอย่าลืมโทรฉันหานะ”
“ไม่มีปัญหา ไปเถอะ มีอาหารให้ทุกคนในรถตู้อยู่ข้างหลังบูธ”
ญาธิดาเลื่อนสายตาขึ้นมอง และเห็นรถตู้คันนั้นอยู่ไกลๆ จึงพยักหน้าแล้วเดินไป
ทันทีที่เดินเข้าใกล้ ก็มีพนักงานทักทายเธอ “พี่ธิดา รับขนมปังหรือปาท่องโก๋คะ”
ญาธิดายิ้ม “ขนมปังค่ะ”
คนนั้นยื่นขนมปังสองชิ้นและนมถั่วเหลืองร้อนหนึ่งถ้วยให้ ญาธิดารับมาและบอกขอบคุณ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู ก็เห็นข้อความที่อัญมณีส่งถึงเธอ
“ธิดา ฉันเบื่อจะตายอยู่แล้ว เมื่อไหร่จะได้เจอเธอ!”
“การซ้อมน่าเบื่อมาก ฉันอยากกินปูเนื้ออบหม้อดิน!”
“……….”
ดูอัญมณีส่งมาหลายข้อความติดต่อกัน ญาธิดาแทบจะจินตนาการท่าทางของเธอผ่านข้อความออกได้เลย เธอยกยิ้มมุมปาก กัดขนมปังแล้วส่งข้อความตอบกลับไปให้เธอ “เดี๋ยวงานกิจกรรมวันนี้จบ ไปทานอาหารเย็นด้วยกันไหม”
ข้อความเพิ่งถูกส่งไป ทางอัญมณีก็ตอบกลับทันที “ตกลงๆ! ฉันอยากดื่มเบียร์ด้วย!”
ญาธิดายิ้ม ยกมือขึ้นมาส่งข้อความกลับหาเธอ ทั้งสองคนคุยโต้ตอบกันสักพักญาธิดารู้สึกดีขึ้นมากในทันใด ความรู้สึกหดหู่ในหัวใจแต่เดิมค่อยๆ โล่งขึ้นมาก
เพิ่งทานขนมปังและนมถั่วเหลืองเสร็จ ญาธิดาเช็ดมือแล้วส่งข้อความกลับให้อัญมณี “ไม่คุยแล้ว ต้องไปทำงานต่อ…”
คำเพิ่งพิมพ์จบ ทันใดนั้นทางฝั่งโชว์รูมก็มีเสียงดังมา จากนั้นหนึ่งในพนักงานวิ่งมาหาเธอ พลางตะโกนว่า “พี่ธิดาแย่แล้วค่ะ! แพรวาล้มบนเวทีค่ะ!”
ญาธิดาชะงักไปเล็กน้อย ยังไม่ทันได้สติ ก็ถูกพนักงานคนหนึ่งดึงวิ่งไปที่เวทีก่อนที่จะเข้าไปใกล้ เห็นกลุ่มคนแออัดรุมล้อมแพรวาไปที่รถตู้อเนกประสงค์
ในสถานที่เกิดความโกลาหล แม้แต่ผู้ชมด้านล่างเวทีก็ต่างเบียดเสียดออกันเข้าไปอย่างอึกทึก เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นไปในเชิงบวก ญาธิดาจึงกวักมือเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มารักษาความสงบเรียบร้อยในทันที
ในความโกลาหลวุ่นวาย ออกัสรีบวิ่งไปหน้าตาตื่น “ธิดา เมื่อครู่แพรวาก้าวลงจากเวทีแล้วข้อเท้าพลิก ข้อเท้าบวมไปหมดเลย ตอนนี้ต้องพาเธอไปส่งโรงพยาบาลก่อน ผมต้องไปด้วย ทางนี้จำต้องพึ่งคุณแล้ว!”
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ญาธิดาไม่มีเวลาคิดมากนัก ได้แต่พยักหน้าและกำชับออกัส “คุณรีบไปดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง ฉันจะประคองทางนี้เอง”
“ได้”
ออกัสส่งเสียงตอบรับ และวิ่งไปทางรถตู้อเนกประสงค์ทันที ญาธิดาหันหน้าไปมองดูฝูงชนที่กำลังโกลาหล แล้วจึงเดินไปหาพิธีกรบอกให้เขาขึ้นไปพูดบนเวทีต่อ และสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนหนึ่งให้รักษาพื้นที่ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกส่วนรักษาความเรียบร้อยในบริเวณงาน
จนกระทั่งรถตู้อเนกประสงค์ไปแล้ว และเกือบสิบนาทีต่อมา สถานที่ถึงค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติ
พิธีกรขึ้นพูดบนเวที บอกขอโทษและเสียใจต่อศิลปินแพรวา และในขณะเดียวกันก็ระบุว่างานจะดำเนินต่อในขั้นต่อไป
มองดูฝูงชนที่สงบลงในที่สุด ญาธิดายกมือขึ้นนวดขมับที่บวมเล็กน้อยเบาๆ
อย่างที่คิดเลย ตากระตุกขวาร้ายซ้ายดี เธอรู้สึกไม่ดีตั้งแต่เช้า มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอย่างที่คิดเลย
ขั้นตอนต่อไปคือการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ หลังจากนั้นพิธีกรให้พนักงานที่เกี่ยวข้องขึ้นเวทีเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ และให้ทุกคนในกลุ่มผู้ชมงานไปยังพื้นที่ที่สนใจเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
กิจกรรมต่างๆ ดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ญาธิดาได้เห็นสถานการณ์ที่กระฉับกระเฉงกลับมาอีกครั้ง จึงแอบถอนหายใจโล่งอก
อุบัติเหตุของแพรวาเป็นอุบัติเหตุล้วนๆ ถ้าไม่ส่งผลต่องานกิจกรรมก็ไม่มีปัญหา หากส่งผลต่อความนิยมของผลิตภัณฑ์ใหม่ เกรงว่าผลของกิจกรรมจะออกมาไม่ดีนัก
แต่สงบได้ไม่นาน ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากทิศทางของพื้นที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ใหม่ ฝูงชนค่อยๆ ล้อมวงหน้าตู้แสดงผลิตภัณฑ์ใหม่แห่งหนึ่ง
ญาธิดาเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงเดินเข้าไปทันที ดันฝูงชนเบียดเข้าไป ยังไม่ถึงหน้าสุด ก็ได้ยินเสียงพูดว่า “ใครเชื่อคนนั้นก็โง่แล้วรึเปล่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ไม่ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบความปลอดภัยด้วยซ้ำ บอกว่าเป็นสมาร์ตโฮมที่ปลอดภัย มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่เชื่อ! พวกคุณดูสิ มือลูกชายคนเล็กของผมโดนผลิตภัณฑ์ของพวกเขาบาดจนเป็นแผล!”
ญาธิดาพยายามเบียดเข้ามา ทันทีที่เงยหน้าขึ้นก็เห็นชายที่ดูดุร้ายถือรูปขึ้นสูงชูให้ทุกคนดู
“มือลูกชายผมเป็นแผล ผมโทรหาฝ่ายบริการหลังการขายของบริษัทพวกเขาแต่ไม่รับสายเลย! สินค้าไม่ได้มาตรฐานแถมไม่รับผิดชอบบริการหลังการขายด้วย ตอนนี้ยังมาลอยหน้าลอยตาประกาศสโลแกนอย่างหน้าชื่นตาบานว่าทดลองใช้ก่อนแล้วค่อยซื้ออะไร จะหลอกลวงหรือไง!”
ญาธิดาเงยหน้าขึ้นมองรูป เป็นมือของเด็กจริงๆ ฝ่ามือถูกบาดหลายที่ เลือดเปรอะเปื้อนดูน่ากลัวเล็กน้อย
แต่แค่ดูจากรูปนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะโดนผลิตภัณฑ์ของบริษัทพวกเขา จู่ๆ ชายคนนี้ก็ปรากฏตัวมาพูดแบบนี้ จงใจสร้างปัญหากันชัดๆ !
ญาธิดากัดฟัน รวบรวมความกล้าก้าวเข้าไปหนึ่งก้าวและพูดว่า “คุณคะ ฉันเป็นคนวางแผนงานครั้งนี้เอง ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร”
ชายคนนั้นพอได้ยินว่าเธอเป็นคนวางแผน เขาก็มองเธอขึ้นลงหัวจดเท้าหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะส่งเสียงเยาะและพูดว่า “อยู่ในความดูแลของคุณงั้นเหรอ”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก แล้วพูดด้วยความเคารพ “หากมีปัญหาอะไรคุณสามารถบอกฉันได้”
ชายคนนั้นยื่นมือออกไปคว้าผลิตภัณฑ์ใหม่บนบูธ และชี้มาที่ญาธิดา “นี่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่รุ่นสามที่พวกคุณเปิดตัวในครั้งนี้ใช่ไหม”
ญาธิดาพยักหน้า “ถูกต้อง”
“ครอบครัวเราซื้อผลิตภัณฑ์รุ่นสองของพวกคุณ กลับไปยังใช้ไม่เท่าไร มือของลูกก็ถูกบาดจนบาดเจ็บ โทรหาฝ่ายบริการหลังการขายของพวกคุณก็ไม่รับผิดชอบ คุณว่าผมควรมาขอคำอธิบายไหม”
ชายคนนั้นเหลือบมองญาธิดา แล้วเหยียดมือยื่นรูปถ่ายใส่ผู้คนโดยรอบ ก่อนจะเพิ่มระดับเสียงขึ้น “ขอแนะนำพวกคุณ ใครก็ตามที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของพวกเขาก็คือคนโง่! เครื่องใช้สมาร์ตโฮมอะไร เป็นเครื่องใช้ประหารชีวิตชัดๆ!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนในฝูงชนก็แตกตื่น ต่างกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย
ญาธิดาเห็นสิ่งนี้ จึงรับพูดว่า “คุณคะ คุณจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าสินค้าของเราบาดมือของลูกชายคุณ! ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการทดสอบความปลอดภัยก่อนที่จะวางจำหน่าย และจะไม่เกิดปัญหาแบบนี้”
“ทุเรศ!” ชายคนนั้นจ้องเธอและพูดจาหยาบคายใส่เธอ “ผมจะให้คุณดูประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลออกให้! และยังมีบันทึกว่าเราซื้อผลิตภัณฑ์รุ่นสองนี่ด้วย!”
พูดอย่างนั้นแล้วชายดุร้ายก็ดึงกระดาษสองสามใบออกมาจากกระเป๋ากางเกงมาแสดงให้ทุกคนเห็น ตอนนี้คนที่อยู่ข้างหน้าเห็นข้อความในโน้ตอย่างชัดเจน และพยักหน้าซ้ำๆ
เป็นผลให้คนที่อยู่ข้างหลังซึ่งไม่สามารถอ่านโน้ตได้ชัดเจนเริ่มโวยวายขึ้นมา และพากันวิพากษ์วิจารณ์
เมื่อได้ยินคำพูดตั้งคำถามจากฝูงชน หัวใจของญาธิดาก็พลันกระตุก และลางสังหรณ์ที่ไม่ดีก็ปกคลุมหัวใจของเธอ
หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ ชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ใหม่ก็จะฉาวโฉ่ไปเต็มๆ ถ้าเป็นแบบนี้ เกรงว่าจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการออกผลิตภัณฑ์ใหม่!
ญาธิดากำหมัด มองชายผู้บ้าคลั่ง สูดหายใจเข้าลึกแล้วถามว่า “มือของลูกชายคุณโดนบาดเมื่อไร”