ดวงใจภวินท์ - บทที่ 260 ทำผิดแล้วต้องโดนลงโทษ
นิวราขมวดคิ้ว บนหน้ามีความกลัดกลุ้มระดับหนึ่ง เอ่ยปากบอกอย่างลังเล “ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณพ่อกับพี่ชายจะกินข้าวหรือยัง?”
ภวินท์ได้ยิน สายตาชะงัก ในใจเดาอะไรได้ทันที
เรื่องของตระกูลวรโชติที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้วุ่นวายโกลาหลไปหมด ในใจเขารู้ดีมาก นิวราเข้ามาในเวลานี้ เขาไม่ใช่ว่าคิดไม่ถึง
เขาเอนตัวพิงไปด้านหลัง ถามด้วยเสียงผ่อนคลาย “คุณลุงทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
นิวราจงใจทำหน้ากังวล “คุณพ่อกลุ้มใจจะแย่แล้ว ฝ่ายประชาสัมพันธ์ในบริษัทเหมือนไม่มีประโยชน์เลย วันนี้หุ้นตกลงไม่น้อยแต่เช้าตรู่ คุณแม่อยู่ที่บ้านก็ร้องไห้ไม่หยุด นิวก็ไม่มีทาง……”
พอได้ยิน ภวินท์พูดว่า “นิว เธอไม่ต้องคิดมากเกินไป เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ”
“ไม่ว่าจะพูดยังไง นิวก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลวรโชติ จะไม่กังวลได้ยังไงล่ะ?” ดวงตาทั้งสองข้างของนิวราเต็มไปด้วยน้ำตา ทันใดนั้นยื่นมือกุมมือของเขาไว้ “พี่วิน พี่ช่วยบริษัทวรโชติหน่อยได้ไหม คิดเสียว่าทำเพื่อนิว”
ภวินท์ได้ยิน สีหน้าอึมครึมเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาดึงมือออกมาจากในมือของนิวรา ถามแบบน้ำเสียงนิ่งๆ “คุณลุงให้เธอมาหาพี่เหรอ?”
นิวราลนลาน ปฏิเสธโดยจิตใต้สำนึก “ไม่ใช่! เป็นนิวที่อยากมาเอง พี่วิน……”
ภวินท์พูดเสียงทุ้ม “นิว เรื่องอื่นบางทีอาจจะช่วยได้ แต่เรื่องนี้ พี่ช่วยตระกูลวรโชติไม่ได้”
ตระกูลวรโชติหาผลประโยชน์เข้าตนจากช่องว่างกฎหมายแรงงาน รังแกขู่เข็ญคนงานระดับล่าง นี่เดิมก็มีความผิดอยู่ก่อนแล้ว นึกไม่ถึงพวกเขายังลงไม้ลงมืออีก ทุบตีจนแรงงานหลายคนต้องเข้าโรงพยาบาล นี่ยิ่งมีความผิดเพิ่มขึ้น ไม่สมเหตุสมผลโดยสิ้นเชิง ตอนนี้ใครออกหน้ามาพูดแทนตระกูลวรโชติ ก็คือยืนอยู่ตรงข้ามกับความเป็นธรรม
ทุกคนล้วนหลบเลี่ยงเป็นดีที่สุด ไม่มีใครลุกออกมาผลักตัวเองไปในเสี่ยงอันตรายในสภาวะแบบนี้หรอก
STN Group ย่อมจะไม่ทำเช่นกัน
“พี่วิน……” นิวราน้ำตาคลอเบ้า ท่าทางน่าสงสาร ดึงชายเสื้อของภวินท์ไว้บอกว่า “ตอนนี้คนที่ช่วยตระกูลวรโชติได้มีเพียงพี่แล้ว ไม่อย่างนั้นนิวก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี”
“นิว” ภวินท์ขมวดคิ้ว ทันใดนั้นสีหน้าค่อนข้างเคร่งขรึม “เธอคิดว่าครั้งนี้ตระกูลวรโชติทำถูกเหรอ?”
นิวราถูกถามจนตอบไม่ถูก
ภวินท์ขยับสายตา ลักษณะท่าทางเผยความเย็นยะเยือกออกมา “ทำผิดแล้วก็ต้องโดนลงโทษ นี่คือหลักการที่มีมาแต่โบราณไม่เปลี่ยนแปลง เรื่องอื่นพี่ช่วยได้ แต่พี่จะไม่ช่วยคนที่ทำผิดปกปิดความผิดของตัวเองแน่”
พอได้ยิน นิวราน้ำตาไหลออกมาแล้ว ถามไปอย่างอดไม่ได้ “พี่วิน หรือว่านิวอยู่ในใจพี่ไม่สำคัญขนาดนี้เลยเหรอ?”
สำหรับSTN Groupนั้น ถือโอกาสประกาศต่อสาธารณชนสักหน่อย กดความร้อนแรงของการวิพากษ์วิจารณ์ลง นี่ล้วนเป็นเรื่องที่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่ตอนนี้ดูแล้ว แม้แต่เรื่องพวกนี้ภวินท์ยังไม่ยอมทำเพื่อเธอ!
“พี่วิน……” นิวราน้ำตาคลอเบ้า ท่าทางน่าสงสาร ดึงชายเสื้อของภวินท์ไว้บอกว่า “ตอนนี้คนที่ช่วยตระกูลวรโชติได้มีเพียงพี่แล้ว ไม่อย่างนั้นนิวก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี”
ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น แววตาลึกจนไม่อาจหยั่งถึง “นิว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งของเธอในใจพี่ เธอเข้าใจไหม?”
นิวราได้ยิน ในใจทั้งอึดอัดทั้งหดหู่ เดิมทีเธอคิดว่า ไม่ว่าเธอจะเสนอข้อเรียกร้องอะไรออกไป ภวินท์ล้วนจะทำให้เธอพอใจอย่างไร้เงื่อนไข แต่ตอนนี้ดูแล้ว ก็เพียงแค่นี้เอง
นอกจากนี้แล้ว เธอก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าภวินท์ปฏิบัติกับเธอไม่เหมือนเมื่อก่อน ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอไม่สบายนอนโรงพยาบาล ความใส่ใจที่เขามีต่อเธอยังมากกว่าตอนนี้แบบชัดเจน
เธอรู้สึกแสบจมูกขึ้นมา พูดแบบสะอึกสะอื้น “พี่วิน นิวรู้ว่าตอนนี้นิวไม่ได้สำคัญขนาดนั้นแล้ว”
ภวินท์ได้ยิน ขมวดคิ้วขึ้น สีหน้าอึมครึมอยู่บ้าง “นิว เธอยังไม่เข้าใจความหมายของพี่เหรอ?”
พูดอยู่ เขาก็ยื่นมือไปดึงมือของนิวรา แต่ใครจะรู้ว่านิวราสะบัดออกโดยตรง กระโดดลุกขึ้นยืน พูดอย่างฮึกเหิมอยู่บ้าง “พี่วิน พี่ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันเข้าใจทั้งหมด…..”
ดวงตาเธอแดงก่ำ ทิ้งคำพูดประโยคนี้ไว้ คว้ากระเป๋าถือด้านข้างขึ้น วิ่งออกไปจากห้องรับแขกอย่างน้อยใจ
เสียงประตูห้องรับแขกดัง“ปัง”ทีหนึ่ง ภวินท์ขมวดคิ้ว ปวดหัวจนต้องนวดขมับ
ญาธิดาเพิ่งกลับมาถึงบริษัท ถูกพี่แนนสั่งให้ไปหาผู้ช่วยที่สำนักงานCEOรับเอกสารฉบับหนึ่งมา เธอกำลังเดินไป ทันใดนั้นมองเห็นด้านหน้าที่ไม่ไกลนักมีภาพคนที่คุ้นเคยคนหนึ่ง
นิวราแต่งตัวชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนที่สว่างชุดหนึ่ง ผมยาวดัด ใบหน้างดงาม เตะตาจริงๆ
เธอเห็นหล่อนรีบร้อนเดินเข้าลิฟต์ไป ดวงตาแดงก่ำ สีหน้าไม่ค่อยสู้ดี
ญาธิดาตะลึงเล็กน้อย ทำไมนิวราถึงร้องไห้เดินไปแล้ว?
หรือว่าทะเลาะกับภวินท์มาแล้ว?
ญาธิดาอดคาดเดาไม่ได้ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็ดึงสติกลับมาแอบด่าตนเองในใจ จะคิดมากขนาดนี้ทำไม? เรื่องของภวินท์กับนิวราเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ในใจถึงผ่อนคลายลงมามาก เดินไปที่สำนักงานCEO เธอทักทายกับผู้ช่วยที่นัดกันไว้เรียบร้อย จากนั้นรอรับเอกสารอยู่ด้านนอก
ในเวลานี้เอง ประตูห้องรับแขกที่ไม่ไกลนักถูกคนเปิดออกกะทันหัน ตามมาด้วยภาพคนที่สูงใหญ่ก้าวเท้าเดินออกมา
เหมือนว่ามีแรงดึงดุดอะไรสักอย่าง ญาธิดาเงยหน้ามองไปโดยจิตใต้สำนึก ประสานเข้ากับดวงตาที่ลึกล้ำคู่นั้นพอดี
ภวินท์!
สีหน้าญาธิดาแข็งทื่อ สมองร้อน ภาพอันร้อนแรงแวบผ่านในหัวสมองอย่างรวดเร็ว
เธออยากหลบหน้าเขาแทบตาย นึกไม่ถึงว่าเพิ่งกลับถึงบริษัท มาหาผู้ช่วยเพื่อรับเอกสารยังเจอกับเขาเข้าแล้ว
ญาธิดารู้สึกว่าเลือดทั่วตัวกำลังเดือดพล่าน พอนึกถึงครั้งก่อนตอนที่เจอภวินท์คือบนเตียงในคอนโดเธอ เธอก็อยากจะรีบหายตัวไปใจแทบขาด
ภวินท์เหมือนไม่ได้มีท่าทีที่จะเดินไป เขายืนอยู่ที่เดิมแบบไม่ขยับ จ้องเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา
ญาธิดากัดฟัน ไม่รอช้าและรีบหมุนตัวเดินไปด้านข้างฉับไว
มองหญิงสาวหลบไปจากสายตาเขาต่อหน้าต่อตา ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น เรียกด้วยเสียงเย็นชา “ญาธิดา”
ญาธิดาเหมือนไม่ได้ยิน เร่งฝีเท้าไวขึ้น เดินหลบไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้พอเธอมองเห็นเขาก็จะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นคืนวันนั้น อับอายจนไม่มีที่ให้หลบ ยังกล้าเผชิญหน้ากับเขาได้อย่างไร?
เห็นหญิงสาวเหมือนสัตว์ตัวเล็กหนีไปภายใต้สายตาของตนเองอย่างรวดเร็ว ภวินท์โมโหเดือดดาล ทันใดนั้น ผู้ช่วยคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างเดินเข้ามา ในมือถือเอกสารฉบับหนึ่งไว้ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นคนแล้ว
ภวินท์มองทางเธอ เอ่ยปากถามว่า “เป็นอะไร?”
ผู้ช่วยตอบแบบแปลกใจ “เมื่อสักครู่มีคนของแผนกธุรการเข้ามารับเอกสารค่ะ ทำไมพอออกมาก็ไม่เห็นแล้ว?”
ภวินท์กวาดตามองเอกสารในมือเธอแวบหนึ่ง พูดอย่างเย็นชา “เอามาให้ฉัน”
ผู้ช่วยไม่เข้าใจอะไร แต่ก็ยังยื่นเอกสารให้
ภวินท์ก้มหน้ากวาดสายตาดูทีหนึ่ง สั่งด้วยเสียงเย็นยะเยือก “ถ้าหล่อนมาเอาเอกสารอีก ให้หล่อนมาหาฉันโดยตรง”
ผู้ช่วยไม่รู้สถานการณ์แน่ชัด สุดท้ายได้แต่รับปากไป
ภวินท์ถือเอกสารไว้ ก้าวเท้าเดินมาทางห้องทำงาน ลักษณะท่าทางมีความดุร้ายระดับหนึ่ง เดินมาถึงโต๊ะทำงาน ทิ้งเอกสารลงบนโต๊ะโดยตรง
เขาไม่เชื่อว่า ญาธิดาจะสามารถหลบเขาไปทั้งชีวิต!
กลับถึงแผนกธุรการ ญาธิดายังนั่งลงบนเก้าอี้ไม่ทันนาน สภาพทั้งตัวยังจมอยู่ในความประหม่าของเมื่อสักครู่นี้ ก็มีคนเคาะประตูห้องดังขึ้น “ธิดา พี่แนนเรียกหาเธอ”
พอได้ยินคำว่า“พี่แนน”สองคำนี้ หัวใจญาธิดารู้สึกประหม่าใหม่อีกครั้ง
วันนี้เธอเพิ่งมาถึงบริษัท งานชิ้นแรกที่พี่แนนสั่งเธอทำก็คือไปเอาเอกสารที่สำนักงานCEO จากนั้นกลับมาประชุมย่อยด้วยกันกับหล่อน ทำความคุ้นเคยงานในสัปดาห์นี้สักหน่อย ค่อยแบ่งสันภารกิจต่อไปอีกที
เธอไปสำนักงานCEOแล้วจริงๆ แต่ว่ากลับไม่ได้เอกสารติดมือมา!