ดวงใจภวินท์ - บทที่ 270 มาขอโทษคุณแทนพ่อ
บทที่ 270 มาขอโทษคุณแทนพ่อ
ญาธิดารีบหลบสายตา ร่างกายแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว หน้าตรง ยืนอยู่ที่เดิม
ลูกเกดก็เห็นเช่นกัน ก็รีบยืนตัวตรงทันที
รอให้ภวินท์เดินใกล้ๆ พวกหล่อนจึงโค้งตัวทำความเคารพทักทายกับภวินท์ “ อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณภวินท์”
ภวินท์เงยหน้ามอง กวาดสายตาดูหน้าญาธิดาเป็นครั้งเป็นคราว เมื่อเห็นสีหน้ามีเลือดฝาด ดูมีชีวิตชีวาสดใสกว่าเมื่อคืน ถึงจะแอบถอนหายใจโล่งออกมา
สายตาแน่นิ่งไปครู่หนึ่ง สักพักก็มีการขยับ เสียงเย็นชาของเขาพูดทิ้งท้ายว่า “ ขอกาแฟหนึ่งแก้ว”
ญาธิดารับคำ หันตัวเดินไปห้องน้ำชาเตรียมกาแฟทันที
เมื่อเตรียมกาแฟเสร็จแล้ว เธอยกแก้วมาที่ห้องทำงาน เดินมาหน้าโต๊ะ วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะด้วยความระมัดระวัง “ เชิญดื่มให้อร่อยค่ะ ”
เมื่อพูดจบ เธอลุกขึ้นคำนับ หันตัวเตรียมจะกลับไป
“ ใครอนุญาตให้คุณกลับ”
เสียงของชายหนุ่มจู่ๆ ก็ดังขึ้น ญาธิดาหยุดฝีเท้าทันที รีบหันไปมองเขา
เธอลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย ไม่ให้เธอกลับ จะให้ทำอะไร……..
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก หันไปมองพายุที่อยู่ข้างๆ เริ่มไม่ค่อยแน่ใจกับความหมายของภวินท์ จึงเอ่ยถามว่า “ คุณภวินท์ มีคำสั่งอะไรไหมคะ”
ภวินท์เงยหน้ามอง ดวงตาดำเข้มคู่หนึ่งมองมาที่เธอ รู้สึกดึงดูดโดยไม่รู้ตัว
เห็นชายหนุ่มที่นิ่งเงียบไป หลังจากนั้นเริ่มเอ่ยถามว่า “ กินยาแล้วยัง”
ญาธิดาถึงกับตะลึง คาดไม่ถึงว่าเขาจะถามคำถามนี้กับเธอได้ ถึงอย่างไรก็อยู่ในบริษัท ข้างๆก็ยังมีพายุยืนอยู่ คำถามนี้ฟังยังไงก็รู้สึกคลุมเครือ
แต่เมื่อเขาถามแล้ว เธอจะไม่ตอบก็ไม่ได้ ได้แต่ฝืนตอบไปว่า “กินแล้วค่ะ”
“ อืม ออกไปได้แล้ว”
เมื่อชายหนุ่มได้ยิน รีบหลบสายตา พลิกเอกสารที่อยู่ในมือต่อ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ญาธิดากัดริมฝีปาก เดินออกไปจากห้องทำงาน รู้สึกแปลกๆเล็กน้อย
ภวินท์เป็นห่วงเธออยู่เหรอ แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกแปลกๆละ
ส่ายหัวไปมา ญาธิดาไม่ได้คิดอะไรมากมาย รีบไปทำงานที่ห้องทำงานทันที
ไม่ทันรู้ตัว ก็ผ่านไปครึ่งวันเช้าแล้ว ท้องของญาธิดาก็ร้องจ๊อกจ๊อกอยู่หลายครั้งเธอกำลังจะไปกินอาหารที่โรงอาหารของพนักงาน ใครจะรู้ว่าจู่ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
เธอหยิบขึ้นมาดู เมื่อเห็นเบอร์โทรเข้าแสดงอยู่ที่หน้าจอ สีหน้าซีดเผือดทันที รู้สึกตึงเครียดไปหมด
คนคนนี้ เป็นคนที่เธอคิดไม่ถึงแม้แต่น้อย
หัวใจเต้นเร็วโดยไม่รู้ตัว ญาธิดารีบสูดหายใจเข้าลึกๆสองครั้ง ถึงจะค่อยๆกลับมามีสติ
เธอกดปุ่มรับสาย แนบโทรศัพท์เข้าที่ข้างหู “ ฮัลโหลค่ะ คุณนิว”
เพียงไม่กี่วินาที มีเสียงหัวเราะเบาๆของผู้หญิงดังมาจากปลายสาย “ คุณญาธิดา ไม่ทราบว่าตอนนี้พอจะว่างไหม ฉันอยากจะเจอคุณสักหน่อย”
เสียงของผู้หญิงดูอบอุ่น เหมือนเป็นน้ำเสียงที่จะปรึกษาหารือกับเธอ ทำให้เธอไม่สามารถพูดปฏิเสธเขาได้เลย
ถึงแม้ว่าญาธิดาจะเดาไม่ออกว่านิวรามาหาเธอเพราะอะไร แต่เมื่อพูดแบบนั้นแล้ว เธอก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธไปตรงๆ ได้แต่รับคำ “ ได้ค่ะ นัดเจอกันที่ไหนคะ”
“ที่ร้านกาแฟชั้นล่างที่บริษัท ฉันมาถึงละ คุณลงมาหาฉันก็ได้แล้ว”
เมื่อญาธิดาได้ยิน แอบแปลกใจ แต่ก็ยังตอบไปว่า “ค่ะ ฉันจะลงไปเลย รอสักครู่นะคะ”
นิวราได้รออยู่ที่ชั้นล่างแล้ว แสดงให้เห็นว่าวันนี้หล่อนตั้งใจจะมาพบเธอโดยเฉพาะ
เมื่อวางสาย ญาธิดาคงไม่มีเวลากินข้าวแล้ว รีบเดินเข้าลิฟต์ไปทันที เมื่อเห็นตัวเลขในลิฟต์ที่ลดลงไปทีละตัว เธอเริ่มกระวนกระวาย
นิวรามาหาเธอ หรือจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อวานที่ชนัดพลทำร้ายเธอ หรือเป็นเรื่องเกี่ยวกับภวินท์
ยังไม่ทันคิดให้ชัดเจน เสียงลิฟต์ก็ดัง “ ติ๊ง—” เหมือนดึงเธอมาเจอกับความจริง เธอก้าวเดินออกจากลิฟต์ เดินตัวตรงออกไปโดยไม่รู้ตัว
ในชั้นอาคารที่เขียนระบุเลขหนึ่งมีร้านค้าสว่างไสวอยู่เป็นแถว ที่แท้ก็เป็นร้านกาแฟหนึ่งร้าน ก่อนหน้านี้ญาธิดามักจะไปเป็นประจำ ไม่กี่นาทีก็ถึงหน้าประตู
ผลักประตูเข้าไป เธอเงยหน้ามองทั่วร้านกาแฟ ตอนที่เห็นนิวรา แอบตกใจเล็กน้อย
หล่อนไม่ได้มาคนเดียว ยังมีผู้หญิงผมยาวใส่กระโปรงสีดำกำลังนั่งอยู่ข้างๆ สองคนนั่งอยู่ฝั่งเดียวกัน กำลังพูดเบาๆถึงอะไรบางอย่าง
เหมือนรับรู้ถึงสายตาของญาธิดา นิวราได้เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นเธอ ยิ้มมุมปากให้กับเธอ และกวักมือ
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ เดินเข้าไปหา นั่งตรงข้ามกับเขาสองคน
ญาธิดาพยักหน้ากับหล่อน ทักทายว่า “ คุณนิว”
“ คุณอยากดื่มอะไร”
ในขณะที่นิวรากำลังพูด ก็ยกมือเรียกพนักงานในร้าน
“ น้ำเปล่าหนึ่งแก้วก็พอแล้วค่ะ” ญาธิดาเอ่ยถามอย่างใจเย็นว่า “ ไม่ทราบว่าคุณนิวมาหาฉันมีเรื่องอะไรไหมคะ”
ถึงแม้นิวรามีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่เธอก็สามารถรับรู้ได้ วันนี้หล่อนอารมณ์เป็นปกติแต่กลับดูไม่ค่อยร่าเริง
เมื่อเห็นเธอเริ่มถามสาระจริงจัง นิวราก็ไม่ได้อ้อมค้อม สายตามองไปที่หน้าขมับของเธอ พูดเบาๆว่า “ ฉันได้ยินมาว่าเมื่อวานพ่อฉันไม่ทันระวังก็ทำให้คุณเจ็บตัว ฉันก็อยากมาเยี่ยมคุณ คุณยังโอเคอยู่ไหม”
ญาธิดาเงยหน้ามอง สบสายตากับนิวรา นิ่งไปชั่วครู่ พูดเบาๆว่า “ ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ ขอบคุณคุณนิวมากๆที่เป็นห่วง”
“ ฉันรู้จักนิสัยพ่อฉันดี เขาไม่ใช่คนที่ยอมก้มหัวง่ายๆ ดังนั้นวันนี้ที่ฉันมาอยากจะขอโทษคุณแทนพ่อ”
ขณะที่นิวรากำลังพูด จู่ ๆก็ลุกขึ้นยืน ตั้งใจเดินมาที่ข้างๆ และโค้งตัวให้กับญาธิดาเก้าสิบองศา พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจว่า “ ขอโทษนะ ธิดา”
ญาธิดาตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าคุณหนูคนโตของตระกูลวรโชติได้ถูกสั่งสอนดีขนาดนี้ พ่อได้ก่อเรื่องเอาไว้ ไม่คิดว่าหล่อนวิ่งมาโค้งคำนับขอโทษเธอ เธอเริ่มใจอ่อน กำลังจะอ้าปากพูดว่าไม่เป็นไร จู่ ๆก็มีเสียงผู้หญิงดูไม่พอใจดังมาจากข้างๆ
“นิวแกทำอะไร จริงจังอะไรขนาดนี้”
หญิงสาวที่ใส่กระโปรงสีดำคนนั้นลุกขึ้นยืนด้วยความไม่พอใจ ยื่นมือไปดึงนิวรา ในเวลาเดียวกันยังจ้องญาธิดาด้วยความโหดเหี้ยมอีกด้วย
“ เจสซี่ ความจริงเรื่องนี้พ่อเป็นคนทำผิดนะ ฉันควรจะขอโทษธิดาแทนเขา ” ในขณะที่นิวรากำลังพูด ได้เงยหน้ามองญาธิดา พูดเบาๆต่ออีกว่า “ ธิดา คุณอย่าไปใส่ใจเลยนะ”
เมื่อได้ยิน ญาธิดามองไปที่หล่อน รู้สึกสับสน
แต่เดิมเธอไม่ชอบพฤติกรรมของชนัดพลเป็นอย่างมาก แต่ไม่คิดว่าเขามีลูกสาวที่นิสัยดีอีกคน ไม่คิดว่าจะขอโทษเธอแทนเขา แต่เดิมความโกรธเหล่านั้นที่สะสมอยู่ในใจ ก็เป็นแพราะหล่อนจึงทำให้หายโกรธไปครึ่งหนึ่ง
ญาธิดาส่ายหน้าไปมา ทำปากโค้งเว้ากับหล่อน “ ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องก็ผ่านมาแล้ว ฉันไม่เก็บเอามาใส่ใจหรอกค่ะ”
เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น นิวราก็ยิ้มมุมปาก ยื่นมือไปหยิบกล่องเล็กๆที่ดูงามตาออกมาจากกระเป๋า ดันไปตรงหน้าญาธิดา “ อันนี้เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆให้คุณนะ สร้อยข้อมือหนึ่งเส้น คุณดูสิชอบหรือเปล่า”
ญาธิดาตกใจ รีบพูดว่า “ ไม่ต้องค่ะ ขอบคุณคุณนิวมากๆค่ะ ของขวัญฉันไม่รับ…….”
เจสซี่ที่นั่งอยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะกลอกตาขาวไปมา จ้องไปที่สายตาของญาธิดาแสดงออกถึงความไม่หวังดี ทำให้รู้สึกหวาดกลัว
เสียงของเจสซี่ได้ดังขึ้น “ นิว แกดีกับเขาเกินไปหรือเปล่า ตอนนี้ผู้หญิงก็ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง แกอย่าโดนหล่อนหลอกเอาละ”
นิวรามีดูเหมือนว่าจะลำบากใจ ยื่นมือไปดึงชายเสื้อของหล่อน พูดเบาๆว่า “ พอได้แล้ว เจสซี่ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
ใครจะไปรู้ว่ายิ่งห้ามหล่อนพูดหล่อนยิ่งมีอารมณ์ เจสซี่มองญาธิดาอย่างเยือกเย็น ก็หันกลับไปมองนิวรา “ นิวแกโง่ไปแล้วเหรอ เมื่อคืนภวินท์ค้างคืนอยู่ที่ไหนไม่ใช่ว่าแกจะไม่รู้ ทำไมแกจะต้องทำดีกับผู้หญิงที่แย่งสามีแกในอนาคต”
เสียงของเจสซี่ดังมาก เมื่อคำเหล่านั้นของหล่อนออกจากปาก ก็ดึงดูดคนที่อยู่รอบๆค่อยๆหันมามอง
แม้แต่ญาธิดาก็นิ่งอึ้งไป มือสองข้างบิดเข้าหากัน เงยหน้ามองนิวรา
เรื่องเมื่อวานที่ภวินท์อยู่กับเธอที่นั่น ไม่คิดว่านิวรารู้หมดแล้ว