ดวงใจภวินท์ - บทที่ 324 ถ่ายรูปหมู่สี่คน
บทที่ 324 ถ่ายรูปหมู่สี่คน
บางทีอาจเพราะสายตาของธีทัตตรงไปตรงมาเกินไป ญาธิดาจึงหน้าแดงโดยไม่รู้ตัว เธอสูดหายใจเข้าลึกและเปลี่ยนเรื่อง “จริงสิ…ช่วงนี้อันอันเป็นยังไงบ้าง”
ธีทัตมองความเขินอายของหญิงสาวออกจึงอมยิ้ม “ช่วงนี้เธอยุ่งมาก ไม่รู้ว่ายุ่งกับอะไรอยู่”
ทันทีที่ญาธิดาได้ยินก็พลันนึกถึงพายุ ช่วงนี้อัญมณีไม่ได้มาหาเธอเลย แต่ธีทัตกลับบอกว่าเธอยุ่งมาก เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงข้อเดียว
เธอยิ้มอย่างรู้ทันและไม่พูดอะไร
ทันใดนั้นก็มีเสียงสดใสของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาไม่ไกล “ธิดา”
ญาธิดาได้ยินเสียงจึงมองไป เห็นนิวราในชุดสีขาวจูงแขนภวินท์เดินเข้ามาหาเธอ แผ่นหลังของเธอเกร็งขึ้นในฉับพลัน
นิวรายิ้มอย่างสดใสเจิดจ้าพลางจูงภวินท์มาตรงหน้าญาธิดา เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตามหาตั้งนาน ไม่คิดว่าเธอจะอยู่ตรงนี้!”
พูดอย่างนั้นแล้วเธอก็มองไปยังธีทัตที่อยู่ข้างญาธิดา แววตาเผยรอยยิ้มคลุมเครือมีลับลมคมนัย “ฉันว่าแล้ว ที่แท้คุณธีทัตก็อยู่ที่นี่ด้วย!”
ญาธิดาลดสายตาลง กวาดตาไปที่มือนิวรากับภวินท์ที่กำลังจับกันอยู่ จึงฝืนยิ้มและพูดกับพวกเขาว่า “ยินดีกับพวกคุณด้วย”
นิวราได้ยินคำพูดนั้นพลันยิ้มสดใส แต่ภวินท์ที่อยู่ข้างเธอกลับมีสีหน้ามืดมนเล็กน้อย สายตาของเขาเหลือบมองญาธิดากับธีทัตโดยไม่ชัดว่าตั้งใจมองหรือไม่
นิวราดึงมือของภวินท์ขึ้นโชว์แหวนหมั้นซึ่งใส่อยู่ที่นิ้วให้ญาธิดาดู “เธอดูสิธิดา สวยไหม”
ญาธิดาพยักหน้าและพูดเสียงเบา “สวยค่ะ”
“นิวก็คิดว่ามันสวย! นี่เป็นเซอร์ไพรส์ที่พี่วินให้ฉันเลยนะ!” นิวราพูดพลางมองภวินท์ที่อยู่ข้างๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก จับแขนของเขาแนบแน่น “เดิมทีแหวนหมั้นของเราถูกเตรียมเอาไว้แล้ว แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อครู่จู่ๆ เขาก็ให้ผู้ช่วยของเขาเอาแหวนคู่นี้มาส่ง แหวนแบบนี้ต้องใช้เวลาสั่งทำตั้งหลายเดือนแน่ะ!”
นิวราพูดด้วยหน้าตาอิ่มเอมความสุขและความดีใจของสาวน้อย ญาธิดาที่อยู่ข้างๆ มองเข้าสายตาแทงทะลุเข้าสู่หัวใจ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอเริ่มฝืนขึ้นเรื่อยๆ
“จริงสิ ที่เรามาหาเธอเพราะอยากถ่ายรูปด้วยน่ะ!” จู่ๆ นิวราก็นึกถึงธุระได้ มองญาธิดาแล้วหันไปหาธีทัตที่อยู่ข้างๆ เอ่ยถามอย่างคลุมเครือว่า “คุณธีทัต ช่วงนี้คุณกำลังตามจีบธิดาอยู่เหรอคะ”
ทันทีที่ญาธิดาได้ยินพลันสีหน้าเปลี่ยน ส่ายหน้าให้แต่ยังไม่ทันได้พูดก็ได้ยินนิวราพูดว่า “เมื่อครู่ฉันกับพี่วินเห็นหมดแล้ว พวกคุณสองคนแอบมาคุยกระซิบกระซาบกันอยู่ตรงนี้ อย่าปฏิเสธเลย!”
ญาธิดาเลื่อนสายตาอันตื่นตระหนกมองไปทางภวินท์โดยไม่รู้ตัว เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาของเขาก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก
ในขณะนั้นเองธีทัตที่ยืนอยู่ข้างเธอก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ที่จริงแล้ว ช่วงนี้ผมตามจีบธิดาจริงๆ แต่เธอยังไม่ตอบตกลงผมเลย”
เขาพูดแล้วยื่นมือมาจับมือของญาธิดาอย่างสุภาพ มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก “ธิดา คุณยินดีจะให้โอกาสผมไหมครับ”
ญาธิดาตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้ เธอมองท่าทางจริงจังของธีทัต รู้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น ชั่วขณะหนึ่งที่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
นิวราที่อยู่ข้างๆ ยังตื่นเต้นกว่าเจ้าของเรื่องเสียอีก รีบพูดว่า “ธิดารีบตกลงเร็ว! คุณธีทัตเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมซึ่งมีอยู่ไม่กี่คนในเมืองJเลยนะ!”
พูดอย่างนั้นแล้วเธอก็กอดแขนของภวินท์แน่น เอียงศีรษะมองญาธิดาพลางยิ้ม “ผู้ชายแสนดีอันดับหนึ่งอยู่ข้างฉันแล้ว เธอเลิกคิดเกินเลยกับเขาอีกเลยนะ!”
คำพูดที่ได้ยินเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ แต่มีบางอย่างในคำพูดที่สามารถทำให้คนเข้าใจความหมายอื่นได้อย่างชัดเจน ญาธิดาได้ยินแล้วพลันใจหาย เลื่อนสายตาขึ้นมองธีทัต เห็นความมุ่งมั่นในแววตาของเขาแล้วพลันใจสั่น
ธีทัตอมยิ้มและถามอย่างอดทน “ธิดา คุณยินดีเป็นแฟนผมไหม”
ญาธิดาลังเลไม่กี่วินาที ก่อนจะสูดหายใจแล้วพูดเสียงเบา “ฉันยินดี…”
ภวินท์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้พูดอะไรเลยมาตลอดจู่ๆ ก็สีหน้ามืดมน จับจ้องญาธิดาด้วยดวงตาเฉียบคมและหม่นแสง
นิวราปรบมืออย่างตื่นเต้น แววตาเกิดประกายขึ้นแวบหนึ่ง เผยยิ้มและอวยพรพวกเขา “เยี่ยมมาก! ธิดา รอตอนงานแต่งงานของฉันเธอต้องมาร่วมงานนะ แล้วฉันจะมอบช่อดอกไม้ให้คุณแน่นอน!”
พูดอย่างนั้นแล้วเธอก็มองธีทัตอีกครั้ง “คุณธีทัต ธิดาเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน คุณห้ามรังแกเธอนะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะไปคิดบัญชีกับคุณ!”
เหมือนว่าเป็นเพราะนิวรา บรรยากาศภายนอกระหว่างหลายคนดูผ่อนคลายและมีความสุข แต่สีหน้าของภวินท์กลับเครียดขึง ญาธิดาที่จับมือของธีทัต หางตาสัมผัสได้ถึงการจ้องมอง เธอประหม่าในทันใด เหงื่อเย็นออกฝ่ามือโดยไม่รู้ตัว
ในขณะนั้นเอง เธอรู้สึกอย่างชัดเจนว่านิ้วมือถูกบีบเบาๆ สองครั้งเมื่อหันหน้าไปก็เห็นธีทัตกำลังมองเธอพร้อมกับยิ้ม ความประหม่าในตอนแรกจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อยเพราะรอยยิ้มของเขาที่อยู่ตรงหน้านั้นราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ
เธอจึงยิ้มตอบธีทัต
ภาพที่ทั้งสองคนยิ้มให้กันอยู่ในสายตาของภวินท์ที่อยู่ข้างๆ และความโกรธจางๆ ก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเขาทันที
ภวินท์ขมวดคิ้ว ทันใดนั้นในใจก็นึกถึงสิ่งที่หญิงสาวพูดในห้องแต่งตัวเมื่อครู่นี้ เธอบอกว่าเธอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว หรือว่าจะเป็นธีทัต
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ความโกรธในหัวใจของภวินท์ก็เพิ่มพูนขึ้นจนแทบควบคุมมันไม่อยู่
จู่ๆ มือก็ถูกจับ นิวราเบี่ยงตัวเข้ามาพูดกับเขา “พี่วินคะ เราถ่ายรูปกับพวกเขากันเถอะ!”
ภวินท์ระงับความโกรธในแววตา มีสติกลับมา ทันใดนั้นก็ยื่นแขนยาวออกไปโอบรอบเอวของนิวรา และพูดน้ำเสียงบางเบา “ได้สิ ตามใจนิว”
หัวใจของนิวราพองโตด้วยความปีติยินดี ยิ้มหวานสดใสทันที กวักมือเรียกช่างภาพที่อยู่แถวนั้น ก่อนจะดึงภวินท์ไปข้างๆ ญาธิดา
“เรามาถ่ายรูปหมู่สี่คนกัน!”
แม้ว่าญาธิดาจะไม่ได้คิดถึงสิ่งนี้เลย แต่ก็ไม่สามารถหักหน้านิวราในที่สาธารณะได้ ได้แต่พยักหน้าตกลง
พวกเขาสี่คนยืนเรียงกัน ญาธิดากับนิวรายืนตรงกลาง ภวินท์กับธีทัตยืนขนาบข้าง เป็นสองคู่รักที่โดดเด่นสะดุดตาอย่างมาก
ช่างภาพก็ค่อนข้างมีความสุขจึงได้ถ่ายเพิ่มไปอีกหลายภาพ และถึงกับสั่งท่าทางของธีทัตโดยเฉพาะ “คุณครับ รบกวนเข้าไปใกล้กว่านี้หน่อย ใช่แล้วๆ…อย่างนั้นแหละครับ!”
ภายใต้การแนะนำของช่างภาพ ธีทัตแทบจะชิดใบหูของญาธิดา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงที่ตัวเองรักมาก จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะค่อนข้างประหม่า
ญาธิดารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แก้มแดงก่ำจนดูเหมือนมีอาการเขินอาย
นิวราที่อยู่ข้างๆ ยิ้มอย่างสดใส ส่วนทางด้านภวินท์กลับสีหน้าเย็นชา
“แชะ!”
ถ่ายรูปเสร็จช่างภาพก็เหลือบมองดูรูปภาพ พยักหน้าอย่างพึงพอใจและพูดกับพวกเขาว่า “เรียบร้อย ถ่ายเสร็จแล้วครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ญาธิดาก็เว้นระยะออกห่างจากธีทัตโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้าง
ภวินท์เลื่อนสายตาขึ้นเหลือบมองแก้มที่แดงก่ำของญาธิดา สีหน้าพลันยิ่งแย่หนักกว่าเดิม เขาขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าหมดความอดทน ทำท่าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู แล้วพูดกับนิวราด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นิว พี่ต้องออกไปโทรศัพท์ก่อนนะ”
พูดจบเขาก็ไม่รอให้นิวราตอบ เขาขมวดคิ้วแน่นเดินสง่างามไปด้านข้าง ปล่อยให้นิวราอยู่ที่เดิมคนเดียว
นิวรามองด้านหลังของชายหนุ่มที่จากไปกะทันหัน เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะอ้าปากเรียก “พี่วิน…”
เหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้ยินเลย เดินจากไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีการหันกลับมามอง ด้านหลังดูเย็นชาผสมกับความน่าเกรงขาม
ทั้งสองเพิ่งหมั้นกันอีกทั้งพิธียังไม่จบ ภวินท์ทิ้งเธอไว้ที่นี่ตามลำพังแบบนี้ มันจึงทำให้เธอค่อนข้างยากจะเก็บสีหน้า
เธอเลื่อนสายตาขึ้นมองญาธิดากับธีทัตที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “ในเมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ”
พูดจบเธอก็ก้าวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ญาธิดายืนอยู่ที่เดิม มองดูพวกเขาจากกันไปทีละคน ในใจเริ่มรู้สึกแปลกๆ มากขึ้นเรื่อยๆ
การแสดงออกของภวินท์เมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าอารมณ์เสีย แต่เมื่อครู่ทุกอย่างก็ปกติดี แล้วเขาอารมณ์เสียเรื่องอะไร