ดวงใจภวินท์ - บทที่ 333 ความลับของเธอ
บทที่ 333 ความลับของเธอ
ญาธิดาใจสั่นขึ้นมาฉับพลัน เข้าใจความหมายในคำพูดของเธอ
ที่แท้หมอคิดว่าเธอกับธีทัตเป็นคู่สามีภรรยากัน จึงแนะนำให้เธอเก็บลูกไว้…
เมื่อหมอพูดอย่างนี้ ก็แสดงว่าเรื่องที่เธอท้องต้องเปิดเผยต่อหน้าธีทัตไม่ใช่เหรอ
ญาธิดาตัวแข็งทื่อ อึ้งไปหลายวินาทีก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
หมอเห็นเธอไม่พูด เลยคิดว่าเธอไม่เต็มใจ จึงยิ้มแล้วพูดว่า “แต่มันก็แล้วแต่ความประสงค์ส่วนตัวของคุณ”
พูดจบเธอก็ยิ้มให้ญาธิดา รู้สึกเก้อเขินกับบรรยากาศ ส่งสายตาให้เพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างๆ แล้วทั้งสองก็เดินจากไป
ญาธิดายืนอยู่ที่เดิม แทบไม่กล้าหันหน้าไปมองธีทัต
เธอเพิ่งตัดสินใจว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ คิดไม่ถึงว่ามันจะเหมือนกระดาษที่ถูกกรีดจนฉีกขาด
หลังจากนั้นสักพัก เธอสูดหายใจเข้าลึกแล้วหันไปมองธีทัตซึ่งอยู่ข้างๆ
ธีทัตขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าจริงจังกว่าปกติพอสมควร หลังจากนิ่งไป เขาก็อ้าปากถามช้าๆ “คุณ…ท้องเหรอ”
ญาธิดากัดริมฝีปาก รู้ว่าไม่สามารถปิดบังได้อีก ก้มศีรษะต่ำแล้วสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “อืม”
ธีทัตขมวดคิ้วถามต่อ “ของภวินท์เหรอ”
ญาธิดาก้มหน้ากัดริมฝีปาก “อืม”
เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว อยู่ต่อหน้าธีทัต เธอไม่จำเป็นต้องปิดบังใดๆ อีก
อากาศดูเหมือนจะนิ่งไปชั่วขณะ ไม่มีใครพูดอะไร ผ่านไปสักพัก ในที่สุดธีทัตก็พูดว่า “แล้วคุณมีแผนจะทำยังไง”
ญาธิดากัดฟันเงยหน้ามองเขา “ฉันอยากเก็บเด็กไว้ อยู่ต่อไปโดยไม่มีเขา”
แม้ไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อมองธีทัต เธอวางใจเขาอย่างอธิบายไม่ถูก
ธีทัตขมวดคิ้ว สีหน้าดูเย็นชาลงอย่างเห็นได้ชัด เขาจ้องหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับขมวดคิ้วไตร่ตรอง
ไม่รอให้เธอตอบ เขาก็เอื้อมมือออกไปคว้าข้อมือเธอ แล้วดึงเธอไปยังศาลาเล็กๆ แถวนั้นซึ่งไม่มีใคร จากนั้นจึงปล่อยมือและพูดอย่างเคร่งขรึม “ธิดา คุณรู้หรือเปล่าว่าการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมันยากแค่ไหน”
ญาธิดาลังเลครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ฉันรู้”
“แล้วทำไมคุณยังเลือกให้กำเนิดเขา”
ในเมื่อเธอไม่ได้วางแผนที่จะอยู่กับภวินท์ การเก็บเด็กคนนี้ไว้สำหรับเธอนับว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก นับว่าเป็นภาระ
ทันใดนั้น หัวใจของญาธิดาก็สับสน อารมณ์ปั่นป่วน รู้สึกค่อนข้างอึดอัด ตาแดงโดยไม่รู้ตัว “เพราะก่อนหน้านี้ฉันเคยเสียเด็กไปคนหนึ่งแล้ว”
คำพูดประโยคนี้ทำให้ธีทัตหน้าซีดเผือด
ผ่านไปนานจนในที่สุดเขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าคุณอยากเก็บไว้งั้นคุณก็เก็บ หากต้องการความช่วยเหลือ คุณมาหาผมได้ ผมยินดีมากที่จะช่วยคุณ”
เขาพูดอย่างจริงใจ ญาธิดาได้ยินคำพูดนี้ก็พลันแสบจมูกอยากร้องไห้
เธอไม่ได้คาดหวังว่าธีทัตจะเป็นคนแรกที่รู้ความลับของเธอ แต่เมื่อเธอบอกความลับ ภาระในหัวใจของเธอก็เบาลงไปพอสมควร
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ญาธิดาก็ตรงกลับบริษัท เพิ่งเดินไปที่ทางเข้าแผนกธุรการ ก็รู้สึกว่าบรรยากาศผิดปกติ โดยปกติเวลานี้ทุกคนจะคุยกัน ทำไมวันนี้ถึงเงียบขนาดนี้
ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ เธอก็ก้าวเข้าไปและเห็นบรรยากาศหนักหน่วงในบริเวณพื้นที่ส่วงกลางของออฟฟิศ เธอสูดหายใจเข้าลึก อดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้า
เมื่อเดินไปที่ประตูออฟฟิศ ชมพู่กำลังยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าแปลกๆ
เธอก้าวเข้าไปหาแล้วกระซิบถามว่า “มีอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”
ชมพู่สูดหายใจแล้วกระซิบบอก “คุณภวินท์มา ตอนนี้เขาอยู่ในแผนกเรา เขากำลังรอเธออยู่”
ได้ยินดังนั้นญาธิดาก็ใจเต้นแรงกะทันหัน ช่วงหลายวันนี้ ภวินท์มักจะหาเรื่องเธอบ่อยๆ สุดจะทานทนจริงๆ!
“รีบเข้าไปเร็ว คุณภวินท์รอเธอมาสิบกว่านาทีแล้ว”
เธอได้สติกลับมา พยักหน้าโดยอัตโนมัติ ก่อนจะเดินไปที่ห้องทำงาน
เปิดประตูออก เธอเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเธอ กำลังพลิกดูเอกสารอะไรสักอย่าง
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกแล้วถามว่า “คุณภวินท์ คุณมาหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่า”
“ก็แค่ติดตามเรื่องพรีเซนเตอร์ของredeur”
พูดจบ เขาก็เดินไปที่โต๊ะแล้วเอนหลังพิง เชยคางเธอขึ้นอย่างเกียจคร้าน “จู่ๆ คุณก็หายจากออฟฟิศไปกะทันหัน คงจะไม่ได้ไปคุยเรื่องพรีเซนเตอร์หรอกนะ”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ญาธิดาก็พูดไม่ออก
เมื่อครู่เนื่องจากสถานการณ์ของดร.ยติภัทร เธอจึงไม่มีเวลารายงานขอลา เธอรีบออกไปทันทีโดยไม่ทันได้คิดหน้าคิดหลัง จากนั้นถึงเพิ่งนึกเรื่องนี้ได้
เธอกัดริมฝีปากและหายใจเข้าลึก “ไม่ใช่ค่ะ”
ภวินท์เลิกคิ้ว หรี่ตาเล็กน้อย “คุณไปไหน ไปเจอใคร”
อันที่จริงเขารู้ที่อยู่ของเธอเป็นอย่างดี เมื่อครู่ญาธิดารีบวิ่งออกจากบริษัทเขาก็อยู่ตรงประตู กลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอจึงส่งคนตามเธอไป คิดไม่ถึงว่าหลังจากรอตรงหน้าประตูโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ก็เห็นเธอออกมากับธีทัต…
ญาธิดากัดฟัน “ฉันไปโรงพยาบาล เพราะพ่อของฉันเขา…”
“ปัง!” ภวินท์ตบเอกสารบนโต๊ะ ขัดจังหวะคำพูดที่เหลือของญาธิดา
ภวินท์สีหน้ามืดมน จ้องเธอราวกับมองทะลุผ่านตัวเธอ “คุณเลิกเอาเรื่องของอาจารย์มาหลอกผมสักทีได้ไหม!”
ญาธิดาตกใจ “ฉันจะหลอกคุณทำไม”
คำพูดเธอทั้งหมดยังไม่จบ ต่อให้หลอกเขาแล้วจะทำไม
ดวงตาของภวินท์มีความโกรธบางเบา เขาก้าวเข้าหาเธอ เข้าใกล้เธอพูดอย่างกดดัน “คุณคิดว่าผมไม่รู้เหรอว่าคุณไปเจอธีทัต”
ญาธิดาตกใจ ดวงตาเกิดแววแปลกใจ แต่ไม่นานก็ได้สติ มองตรงไปที่เขา “ฉันจะไปเจอใครมันก็เป็นเรื่องของฉัน เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย”
ภวินท์อารมณ์เสียเพราะท่าทีแข็งขืนของเธอ เขาขมวดคิ้ว “ผมไม่อยากเห็นคุณอยู่กับเขา!”
ญาธิดากัดฟันและพูดซ้ำ “เรื่องส่วนตัวของฉันมันไม่เกี่ยวกับคุณ”
ความโกรธอัดแน่นอกภวินท์ ทันทีที่คิดภาพเธออยู่กับธีทัตตามลำพังก็ยิ่งโกรธ เขายกมือขึ้นบีบคางเธอ และกัดฟันถามว่า “คุณคิดว่าเรื่องของคุณไม่เกี่ยวกับผมจริงเหรอ”
ถ้าเขาต้องการ มันมีหลายร้อยวิธีที่จะพิสูจน์ความเกี่ยวข้องระหว่างพวกเขาทั้งสอง!
ญาธิดามองดูท่าทางโกรธจัดของผู้ชายตรงหน้า สายตาไม่พอใจสบตาเขาตรงๆ เธอไม่ยอมแพ้และพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ภวินท์ คุณไม่เต็มใจงั้นเหรอ ไม่เต็มใจที่ฉันอยู่กับคนอื่นเหรอ หรือจะบอกว่าคุณหึง”
หลายคำถามที่ถามออกไป ทำให้สีหน้าของภวินท์เปลี่ยนไปทันที
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาสงบสติอารมณ์และพูดอย่างเย็นชาว่า “หึงคุณงั้นเหรอ สิ่งที่ผมสนใจคือคุณเอาเวลางานไปหาผู้ชาย เรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับผม!”
ได้ยินอย่างนี้ ใจญาธิดาพลันกระตุก แก้มของเธอร้อนผ่าวราวกับเพิ่งถูกตบ
เธอแสบจมูก สะบัดมือของภวินท์ออก หันหลังแล้ววิ่งออกจากห้องทำงานไป
ทันทีที่ประตูปิดลงเสียงดัง “ปัง” ภวินท์ก็รู้สึกสำนึกผิดขึ้นมาทันที
ที่เขาพูดไปเมื่อครู่ มันหยาบคายเกินไปหรือเปล่า