ดวงใจภวินท์ - บทที่ 336 อุบัติเหตุรถจักรยานยนต์
บทที่ 336 อุบัติเหตุรถจักรยานยนต์
เวลา 9:03 น. ญาธิดารีบวิ่งออกจากสถานีรถไฟใต้ดินและเร่งฝีเท้าเดินไปทางSTN Group
ปกติถ้าสายแค่สองสามนาทีเธอจะไม่รีบร้อนขนาดนี้ แต่วันนี้ต่างไปจากเดิม เพราะวันนี้จะมีการประชุมประจำแผนก ถ้าเธอในฐานะที่เป็นผู้ช่วยหัวหน้าแผนกมาไม่ทัน ต้องส่งผลเสียอย่างแน่นอน
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก เพิ่งเดินไปที่ข้างถนน กำลังจะข้ามถนน จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ญาธิดา!”
เมื่อญาธิดาได้ยินจึงหันกลับไปมอง เห็นนิวรากำลังรีบเดินมาทางเธอ ในมือยังถือถุงขนาดต่างๆ มากมายอยู่ด้วย
เธอเดินสองก้าว ยังไม่ทันถึงญาธิดาก็หยุดด้วยความเหนื่อยอ่อน และจำต้องวางของในมือลงบนพื้น
นิวรากวักมือเรียกเธอขอความช่วยเหลือ “ธิดา เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม”
ญาธิดาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าจะกำลังรีบ แต่เมื่อคิดดูแล้วยังหันหลังกลับเดินไปหาเธอ ช่วยเอาของมาจากเธอครึ่งหนึ่ง
นิวราเห็นอย่างนั้นก็ถอนหายใจโล่งอก “โชคดีที่พบเธอ ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงดี!”
ญาธิดาถามอย่างเป็นกันเอง “พวกนี้คืออะไรเหรอ”
“วันนี้บริษัทมีประชุมไม่ใช่เหรอ ฉันซื้อกาแฟให้ทุกคน ไม่คิดว่ารถส่งของในร้านกาแฟตรงนั้นจะพัง ฉันเลยต้องถือมาเอง”
ญาธิดาได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ไม่คิดอะไรมาก เหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือแล้วพูดว่า “พวกเรารีบไปเร็ว จะสายแล้ว”
พูดอย่างนั้นแล้ว เธอก็ถือถุงหลายใบทั้งมือซ้ายและขวา ก้าวเดินไปจะข้ามถนน
นิวราแววตาเข้มขึ้น เหลือบมองรถจักรยานยนต์ตรงหัวมุมสี่แยกข้างๆ แล้วรอยยิ้มเย็นชาก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก
ช่วงเวลาที่เธอต้องการเห็นมาถึงในที่สุด
ถนนหน้าSTN Groupกว้างมาก ปกติช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีการจราจรหนาแน่น แต่ตอนนี้เป็นเวลาหลังชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้า รถจึงมีไม่เยอะ ญาธิดาถือสิ่งของในมือ ก้าวไปข้างหน้าด้วยใจกระวนกระวาย เลื่อนสายตาขึ้นมองสองข้างทางแล้วไม่เห็นว่ามีรถ จึงรีบเดินตรงไป
เพิ่งไปถึงกลางถนน ญาธิดาได้ยินเสียงดังกระหึ่มที่ข้างหู เสียงมันดังขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ…
เธอหันหน้าไปมองโดยอัตโนมัติ จึงได้เห็นรถจักรยานยนต์สีดำแล่นขับเข้ามาหาเธอ พุ่งตรงมาทางเธอด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่ลดละ!
ญาธิดาตกใจดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก เวลานี้แขนขาเหมือนถูกอะไรตรึงไว้ ขยับไม่ได้เลย
ขณะนั้น จู่ๆ ก็มีแรงพุ่งเข้าใส่เธอจากด้านหลัง เธอถูกกระแทกจนล้มลงกับพื้นกะทันหัน ก่อนที่เธอจะทันได้รู้ตัว ก็มีเสียง “ปัง!” ดังขึ้นข้างหลังเธอ!
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มเหมือนเล่นผ่านร่างกายเธอ เธอทนต่อความเจ็บปวดที่ข้อศอกแล้วเงยหน้าขึ้น เห็นรถจักรยานยนต์สีดำพุ่งออกไปราวกับจรวด
ตอนนั้นเอง เสียงผู้ทุ้มต่ำของผู้ชายก็ดังมาจากอีกฟากหนึ่งของถนน ในน้ำเสียงเจือความกังวล
“นิว!”
ญาธิดาตกใจ มองไปตามเสียง เห็นภวินท์สีหน้าตกใจ ดวงตาแดงเรื่อ ก้าวกว้างเดินมาทางนี้!
เธอมองตามเขาไป จึงเห็นว่าข้างหลังเธอมีนิวรากำลังนอนจมกองเลือด สีหน้าซีดขาวราวกระดาษ เลือดค่อยๆ ไหลออกมาจากใต้ตัวเธอนองไปทั่ว…
วินาทีนี้ จิตใจของญาธิดาว่างเปล่า
นี่มันอะไรกัน
จู่ๆ รถจักรยานยนต์ก็โผล่มา นิวรานอนจมกองเลือด ภวินท์ตื่นตระหนก…
เรื่องราวต่างๆ ผสมปนเป ทำให้ญาธิดาสับสนหนักขึ้นเรื่อยๆ
เวลานี้ ภวินท์เดินมาถึงแล้วด้วยความรวดเร็ว เขาเดินผ่านหน้าเธอไป สายตาเหมือนจะไม่ได้อยู่ที่ตัวเธอแม้ครึ่งนาที ตรงไปที่นิวราอย่างเดียว
“เรียกรถพยาบาลเร็ว!”
“นิว นิวรอก่อนนะ!”
“นิว!”
“……….”
เสียงของชายหนุ่มดังก้องอยู่ในหูของเธอ ญาธิดารู้สึกเหมือนหัวใจของตัวเองถูกหินก้อนใหญ่กดทับไว้ อึดอัดไม่สามารถหายใจได้ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ดวงตาของเธอก็มืดลงและหมดสติไป
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เมื่อญาธิดาฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นเพดานสีขาวเข้าสู่สายตา
เธอสูดหายใจเข้าลึก นิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นสติถึงค่อยๆ ชัดเจนขึ้น
หลังจากกวาดมองรอบๆ แล้วพบว่าไม่มีใคร จึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งและพบว่าบาดแผลที่ข้อศอกของเธอถูกพันด้วยผ้าพันแผลแล้ว
เมื่อเหลือบมองดูเวลา มันเป็นเวลาสิบโมงครึ่ง นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันเมื่อครู่ เธอจึงลุกจากเตียงเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไป
ทันทีที่ออกไป เธอเห็นพายุยืนอยู่หน้าประตู กวาดมองโดยรอบก็ไม่เห็นใครอีก
เธอสูดหายใจเข้าลึก กัดฟันแล้วถามว่า “พายุ ตอนนี้เรื่องเป็นยังไงบ้าง คุณนิวเธอ…”
พายุได้ยินดังนั้นจึงตอบตามตรง “ตอนนี้ยังอยู่ในการช่วยชีวิตครับ เธอถูกรถจักรยานยนต์ชน อาการบาดเจ็บสาหัส และมีเลือดออกมาก”
ญาธิดาได้ยินแล้วตกใจในฉับพลัน ร่างกายเย็นเฉียบ “มันเป็นแบบนี้…ไปได้ยังไง”
พายุอธิบาย “ยังไม่แน่ชัดครับ คุณภวินท์ได้ส่งคนตามสืบรถคันนั้นแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบผล เขาบอกว่าถ้าคุณฟื้นแล้วให้ผมไปส่งคุณกลับคอนโดครับ”
ได้ยินสิ่งนี้ ญาธิดาพลันสูดหายใจเข้าลึก ราวกับมดนับพันกำลังคืบคลานอยู่ในจิตใจ มีแต่ความกระสับกระส่ายกระวนกระวายใจ
เธอกัดฟัน เลื่อนสายตาขึ้นมองพายุ “คุณนิวราอยู่ที่ไหน ห้องฉุกเฉินหรือเปล่า”
เมื่อเห็นเขาพยักหน้า เธอไม่สนใจสิ่งอื่นใด รีบเดินไปที่ห้องฉุกเฉินทันที
ทันทีที่ออกจากลิฟต์ เธอก็ได้ยินเสียงอึกทึกมาจากทิศทางของห้องฉุกเฉิน
“ตอนนี้ถุงเลือดมีไม่เพียงพอ การผ่าตัดจึงหยุดชะงัก ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถตัดสินใจได้”
ภวินท์ที่เคยสงบนิ่งก่อนหน้านี้เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ดวงตาแดงเหมือนสัตว์ร้ายที่ติดกับดัก แทบจะคว้าคอเสื้อของหมอมาถาม “ไม่มีก็ไปเอาที่ธนาคารเลือดสิ! เมื่อครู่พยาบาลเดินเข้าๆ ออกๆตั้งกี่ครั้งทำไมถึงไม่แจ้งผม ผมขอบอกคุณนะ ถ้าการผ่าตัดล่าช้าเพราะคุณแล้วเธอเป็นอะไรไป ผมจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”
“คุณภวินท์ ผมผิดเองที่ไม่ได้แจ้งให้คุณทราบ แต่เรื่องเร่งด่วนที่สุด ตอนนี้คือธนาคารเลือดไม่มีกรุ๊ปเลือดของเธอแล้ว!”
“………..”
เวลานี้บรรยากาศเย็นยะเยือกอย่างมาก
จากในมุมมองของญาธิดา เธอสามารถเห็นหมัดที่ค่อยๆ กำแน่นของภวินท์ที่ตกอยู่ข้างกายได้อย่างชัดเจน เธอกัดฟัน ก่อนที่เขาจะลงไม้ลงมือ เธอรวบรวมความกล้ารีบเดินเข้าไป “กรุ๊ปเลือดของฉันเหมือนกับเธอ เอาของฉันไปเลยค่ะ!”
เธอพูดอย่างนั้นแล้วยกมือพับแขนเสื้อขึ้น
เธอรู้ว่าตอนนั้นภวินท์หาการปลูกถ่ายไตให้นิวราถึงได้พบเธอ และกรุ๊ปเลือดของพวกเธอเหมือนกัน ในกรณีฉุกเฉินแบบนี้ เธอต้องออกหน้า
อีกอย่าง ตอนนั้นรถจักรยานยนต์พุ่งมาที่เธอ แต่นิวราช่วยเธอจึงได้รับบาดเจ็บ จึงเท่ากับเป็นหนี้เธอ
ภวินท์ที่อยู่ข้างๆ เห็นดังนั้นจึงขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบมองไม่ออก ริมฝีปากเหยียดเป็นเส้นตรงอย่างเย็นชา
หมอมองไปที่ข้อมือเรียวของญาธิดา แล้วเหลือบมองผ้าพันแผลที่ข้อศอกของเธออีกครั้ง จึงขมวดคิ้วและพูดว่า “คุณไข้ คุณผอมมากและอ่อนแอเกินไป เกรงว่าจะทนไม่ไหว ไม่ควรบริจาคเลือด”
ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่หมอพูด ญาธิดาก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังท้องอยู่ ถ้าบริจาคเลือดแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบต่อเด็กในท้องหรือเปล่า
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ชักมือที่ยื่นออกไปช้าๆ กลับมา ขณะนั้นเอง มือใหญ่ก็เอื้อมมาคว้าข้อมือของเธอ
หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของญาธิดาดังขึ้นข้างๆ เธอ “หมอเอาเลือดของเธอไป ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า”
คำพูดของชายหนุ่มเหมือนหินก้อนใหญ่กระแทกใส่หัวใจเธออย่างแรง
ในวินาทีนั้น ญาธิดารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองชาหนึบไปหมด