ดวงใจภวินท์ - บทที่ 338 สิงโตกลับมาแล้ว
บทที่ 338 สิงโตกลับมาแล้ว
วันนี้ของเธอ อยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าจะแตกสลายเมื่อไร
ธีทัตเห็นเช่นนี้หัวใจก็ตึงแน่น เดินไปข้างหน้าเธอโดยไม่รู้ตัว อ้าแขนเอาเธอมาโอบกอดไว้
หญิงสาวไม่ปฏิเสธ สะอื้นไห้ในอ้อมแขนของเขา น้ำตาเปียกเสื้อของอีกฝ่าย แต่เธอไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอ ความรู้สึกของธีทัตยิ่งเศร้าหมองมากขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นญาธิดาเปราะบางขนาดนี้ เธอเคยแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง อดทนอดกลั้นอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเขา แต่เธอในตอนนี้ ทำให้รู้สึกปวดใจนัก
เขายกมือขึ้นตบหลังเธอ พูดปลอบเธอแผ่วเบา “ไม่เป็นไรๆ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว”
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน เสียงสะอื้นของญาธิดาค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ เธอยืดตัวขึ้นค่อยๆ ถอยออกห่างช้าๆ เว้นระยะห่างระหว่างทั้งสองคน ก้มหน้าแล้วพูดเสียงเคร่งขรึม “ขอโทษนะ…”
“ไม่ต้องขอโทษ คุณไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ต้องขอโทษผม” ธีทัตสูดหายใจเข้าลึก ยกมือขึ้นลูบผมที่ไม่เป็นระเบียบข้างใบหูเธอแผ่วเบา
ญาธิดากัดริมฝีปาก “ที่จริง ก่อนหน้านี้ที่คุณเคยเดาน่ะไม่ผิดเลย ฉันยังมีใจให้กับภวินท์”
นั่งริมแม่น้ำCในยามบ่าย มีหลายเรื่องราวอย่างที่เธอคิดแล้วก็เข้าใจ เธอยอมรับความรู้สึกที่มีต่อภวินท์ แต่ในขณะเดียวกันที่อยู่ข้างเขา เธอก็เหนื่อยมากเช่นกัน
เมื่อธีทัตได้ยินคำพูดนี้ ความผิดหวังพลันปรากฏขึ้นในแววตา แต่ไม่นานสีหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ มุมปากยกยิ้มขมขื่น “แน่นอน สัญชาตญาณของผมไม่ผิด”
ญาธิดายิ้มเยาะตัวเอง เงยหน้ามองธีทัตและพูดเน้นทุกคำ “แต่ฉันเหนื่อยมากจริงๆ ฉันอยากห่างจากเขา”
เธออยากไปจากเขาแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่เป็นของเธอเอง
ธีทัตหัวใจขุ่นมัว หยุดนิ่งไปชั่วครู่ มองเธออย่างจริงจังแล้วพูดว่า “ถ้าคุณต้องการ ผมช่วยคุณได้”
เขาอยากให้เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ มีเพียงแบบนี้ เขาถึงค่อยๆ เดินเข้าไปในชีวิตเธอได้
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ญาธิดาก็อมยิ้มขมขื่น ความรู้สึกซับซ้อน เธอหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองไปยังชายตรงหน้า และพูดเสียงเบาว่า “ขอบคุณนะ ยังมีคุณที่คอยช่วยฉัน”
เธอจะใช้วิธีของตัวเองก่อน ไปคุยเรื่องเงื่อนไขการจากไปกับภวินท์ ถ้าเขาไม่ยอม เธอก็แค่คิดหาวิธีอื่น
ขณะเดียวกัน ที่โรงพยาบาลพัฒนา
ภวินท์อยู่ข้างเตียงผู้ป่วยตลอดเวลาจนกระทั่งนิวราตื่น
เมื่อเห็นหญิงสาวบนเตียงผู้ป่วยลืมตาขึ้น ความไม่สบายใจของเขาก็คลายลง เขากำมือของนิวราแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว “นิว ตื่นแล้วเหรอ”
นิวราค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อเห็นชายตรงหน้า หัวใจพลันอบอุ่น “พี่วิน…”
ยังพูดไม่ทันจบ เธอก็รู้สึกเจ็บปวดในร่างกาย จนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
ภวินท์เห็นอย่างนั้นจึงเอื้อมมือไปจับเธอเบาๆ และพูดว่า “อย่าเพิ่งขยับ เธอได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ยังขยับไม่ได้”
นิวราพูดด้วยความคับข้องใจ “พี่วิน นิวรู้สึกไม่ดีเลย…”
“นิวนอนรักษาตัวให้ดี เดี๋ยวก็ค่อยๆ ดีขึ้น” น้ำเสียงของภวินท์อ่อนโยนขึ้นโดยไม่รู้ตัว “อยากดื่มน้ำไหม พี่จะป้อนให้”
นิวราได้ยินดังนั้น หัวใจก็เต็มไปด้วยความรักอันลึกซึ้งในทันที
สามารถใช้บาดแผลบนร่างกายมาแลกกับการดูแลของภวินท์ มันก็คุ้มค่าแล้ว
ในตอนเย็น ภวินท์กล่อมนิวราให้นอนหลับแล้วออกจากโรงพยาบาลไป ทันทีที่เขาออกไป พลันมีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่หน้าประตูห้อง
ชยินเคาะประตู เมื่อได้ยินคำตอบรับจากข้างใน จึงผลักประตูเข้าไป
“คุณหนู คุณโอเคไหมครับ”
เมื่อเห็นหญิงสาวนอนอยู่บนเตียง เขาพลันสายตาขุ่นมัวและกำหมัดแน่น
ถ้าเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เขาก็ไม่คิดว่ารถจักรยานยนต์จะชนนิวรา!
นิวราที่นอนอยู่บนเตียงพลันขมวดคิ้ว “เข้ามานี่ปรับเตียงขึ้นให้ฉันหน่อย”
ชยินได้ยินดังนั้นก็ไม่พูดอะไร ก้าวเข้าไปหาทันที ปรับหัวเตียงขึ้น และเอาหมอนวางรองหลังให้เธอ
นิวราขยับตัวเล็กน้อย ขมวดคิ้วมุ่ยปากด้วยความเจ็บปวด “เจ็บจะตายอยู่แล้ว”
ชยินสูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “คุณหนู ถ้าตอนนั้นคุณไม่ขยับ รถคันนั้นก็จะชนญาธิดา ทำไมคุณต้องพุ่งเข้าไปช่วยเธอ”
“หึ!” นิวราส่งเสียงเยาะ แววตาเกิดประกายดูถูก “นายจะรู้อะไรถ้าฉันไม่พุ่งเข้าไป คนที่จบเห่ก็ต้องเป็นฉันน่ะสิ!”
ตอนแรกทุกอย่างเป็นไปตามแผน เธอจงใจถ่วงเวลาญาธิดา เพื่อสร้างโอกาสให้กับรถจักรยานยนต์ แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ภวินท์จะปรากฏตัวขึ้นที่ข้างทาง
ในเวลานั้น เธอเห็นภวินท์กับพายุเดินไปทางรถที่จอดอยู่ข้างทางจากระยะไกล และเธอก็เห็นว่าภวินท์เห็นพวกเธอด้วย ถ้ารถจักรยานยนต์พุ่งชนญาธิดาในตอนนั้น สุดท้ายเธอจะเป็นคนแรกที่ถูกสงสัยอย่างแน่นอน!
ยิ่งไปกว่านั้น ภวินท์ดูเหมือนจะสงสัยในตัวเธออยู่ก่อนแล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับญาธิดา เขาจะสืบตามรอยเบาะแส ไม่นานก็จะต้องสืบสาวมาถึงเธอ ถึงตอนนั้นเธอก็จะต้องจบเห่โดยสมบูรณ์!
ดังนั้นในช่วงเวลาจวนตัว เธอจึงพุ่งเข้าไปเพื่อขจัดความสงสัย อีกอย่างด้วยวิธีนี้ เธอจะกลายเป็นคนที่ภวินท์สงสารเห็นอกเห็นใจในทางกลับกัน ญาธิดาก็จะถูกรังเกียจ
เมื่อชั่งน้ำหนักดู เธอทำแบบนี้ มันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อตัวเธอเอง
เมื่อได้ยินนิวราพูดแบบนี้ ในที่สุดชยินก็เข้าใจ เขาขมวดคิ้ว สีหน้าเย็นชาลงไปอีก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยแม้แต่คำเดียว
เขาไม่รู้จริงๆ ว่าภวินท์นั่นมีพลังเวทมนตร์ชนิดใด ถึงทำให้คุณหนูยินดีจะบาดเจ็บเองเพราะไม่อยากถูกเขาสงสัย!
“ชยิน” จู่ๆ น้ำเสียงเย็นชาของนิวราก็ดังขึ้น “ทางญาธิดา นายต้องคอยจับตามองให้ฉันต่อไป! หาโอกาสเด็กนั้นด้วย!”
แม้ครั้งนี้จะพลาด แต่เธอก็จะไม่มีทางยอมให้ญาธิดาอุ้มท้องลูกของภวินท์ต่อไป! จะไม่มีวันปล่อยให้เธอกลายเป็นภัยคุกคามต่อตัวเอง!
ชยินแววตาเข้ม พยักหน้าตอบรับ “ครับ คุณหนู!”
ทิ้งเรื่องของภวินท์ไว้ก่อน เรื่องเร่งด่วนอันดับแรกในตอนนี้คือการกำจัดหนามที่ทิ่มแทงหัวใจของคุณหนู!
ท้องฟ้ามืดครึ้ม เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขสิบเอ็ด และไมบัคสีดำกำลังมุ่งไปบนถนนสายหลักในเขตเหนือ
ในที่สุด รถจอดตรงหน้าประตูวิลล่าพาร์ค ไม่นานภวินท์ก็เปิดประตูรถลงมาและเดินไปที่ประตูบ้านอย่างรวดเร็ว
เดินไปถึงหน้าประตู เขายกมือขวาขึ้นสั่นกระดิ่งตรงประตู ไม่นานประตูก็เปิดออกเสียงดัง “คลิก” เขาเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว สีหน้ามืดมนจนน่ากลัว
โซฟาในวิลล่าพาร์คยังคงเหมือนเดิม ห้องนั่งเล่นยังคงเหมือนห้องมอนิเตอร์ คอมพิวเตอร์เจ็ดถึงแปดเครื่องวางเป็นแถว บนนั้นกำลังแสดงภาพในกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์
ต้นนั่งตรงโต๊ะ เคาะนิ้วดัง “กึกกัก” บนแป้นพิมพ์ไม่หยุด เมื่อได้ยินเสียง เขาก็หันไปมองแล้วพยักหน้าให้ภวินท์ “เจ้านาย”
ภวินท์เดินตรงไปถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงทำให้จรณ์เปิดการแจ้งเตือนระดับสาม”
เขาเพิ่งพูด น้ำเสียงมืดมนก็ดังขึ้นมาจากมุมสลัวข้างๆ “สิงโตปรากฏตัวในเมืองJ”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ภวินท์ชะงักไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ถึงได้สติกลับมา เขาขมวดคิ้ว ราวกับในนาทีนั้นทั่วร่างกายเครียดขึงไอเย็นชาและหมองมัวแผ่ออกมาจากร่างกาย
ราวกับว่าไม่ค่อยอยากเชื่อนัก เขาสูดอากาศเย็น ผ่านไปไม่นาน ก็ค่อยๆ อ้าปากพูดช้าๆ “สามปีแล้ว”
ครั้งล่าสุดที่เขาพบสิงโต เรื่องมันก็สามปีมาแล้ว