ดวงใจภวินท์ - บทที่ 353 รอดตายมาได้ จากนี้ต้องโชคดี
ญาธิดารู้สึกเหมือนตัวเองหลับฝันยาวมากๆ ในความฝันเธออยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ มองไม่เห็นแม้แต่ความหวังอันน้อยนิด
อยู่ๆ ลมก็กระโชกแรง ลมแรงพัดคลื่นซัดเธอเข้าไป ทันใดนั้นก็จมน้ำ……
“ไม่นะ!”
ญาธิดาร้องออกมาอย่างตกใจ ลืมตาขึ้น สิ่งที่เข้ามาในสายตาก็คือภาพสีขาว เธอสูดหายใจเข้าลึก ราวกับปลาที่รอดตาย หน้าผากและแผ่นหลังเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
“ธิดา!”
เสียงผู้ชายที่ร้อนรนดังขึ้นมา ต่อมา ธีทัตก็ปรากฏตัวขึ้น “ธิดา เธอฟื้นแล้วเหรอ? ”
สายตาของชายหนุ่มนั้นเป็นประกายและตื่นเต้นอย่างประหลาดใจ จากนั้นสติก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น
“……ฉันอยู่ที่ไหน? ”
ธีทัตรีบเอ่ยปากพูด “อยู่ที่โรงพยาบาล เธอถูกคนลักพาตัวไป ช็อกมากไป แถมยังได้รับความเย็นมากไป เลยเป็นไข้สูงทั้งคืน เช้าวันนี้เพิ่งจะไข้ลด”
ญาธิดาเงยหน้า มองไปรอบๆ ถึงค่อยๆดึงสติกลับมาได้
ห้องสีขาวที่ไม่มีสีอื่นเลย เป็นห้องผู้ป่วยที่โรงพยาบาลจริงๆ แต่ว่าเมื่อวาน ทำไมเธอถึงถูกช่วยกลับมาได้นะ?
ขณะที่ญาธิดากำลังจะเอ่ยปากถาม แต่คอก็แห้งจนเจ็บ เธอขมวดคิ้ว ธีทัตที่อยู่ด้านข้างก็ได้ยื่นน้ำอุ่นมาให้เธอ “ดื่มน้ำก่อน”
ญาธิดาพยักหน้า และดื่มน้ำจนหมด คอที่แห้งผากถึงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
“ฉัน……มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ”
ธีทัตขมวดคิ้วแน่น “เธอถูกลักพาตัวไป ฉันได้รับข้อความว่าเธอโดนลักพาตัวเมื่อวานนี้ และก็ไปหาเธอที่ริมหาด ตอนนั้นเธอก็นอนอยู่บนหาดทราย เปียกไปทั้งตัว ฉันตกใจแทบตาย”
“ลักพาตัว? ”
“อืม มันต้องการห้าล้าน ฉันโอนเข้าบัญชีพวกมัน จากนั้นพวกมันก็ส่งตำแหน่งของเธอมาให้ฉัน ฉันก็รีบไปทันที”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก ในหัวก็มีหน้าคนขับรถนั่นแล่นเข้ามา
ถ้าหากเธอถูกคนลักพาตัวจริงๆ งั้นคนขับรถนั่นจะรู้เรื่องที่เธอท้องได้ยังไง และแถมยังให้เธอโทรหาภวินท์ให้ช่วยชีวิตเธอ……
โจรลักพาตัวพวกนั้น ดูแล้วเหมือนจะไม่ได้ทำเพื่อแค่ต้องการเงิน รายละเอียดทั้งหมดมันดูไม่เข้ากัน
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก และกัดริมฝีปาก มองไปทางธีทัต และพูดอย่างจริงจัง “เมื่อวาน…… คุณไม่เจอคนอื่นที่ชายหาดเลยเหรอ? ”
ธีทัตส่ายหน้า และตอบ “ไม่มี”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ ไม่รู้ทำไม ในใจของญาธิดานั้นกลับมีความผิดหวังเล็กน้อย
ที่จริงเธอคิดว่า ภวินท์จะมาช่วยเธอ คิดไม่ถึง สุดท้ายแล้วเป็นธีทัตที่เอาเงินไปแลกชีวิตของเธอมาจากเงื้อมมือขอโจร
เธอปวดใจ เงยหน้ามองธีทัต ในใจมีความอบอุ่นเล็กน้อย “ขอบคุณมากนะ”
ดวงตาดำเข้มของธีทัต มองเธอพลางพูดออกมาทีละคำๆ “นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ ธิดา ฉันยินดีที่จะดูแลเธอนะ”
เขาพูด พลางยื่นมือ ไปกำมือของเธออย่างธรรมชาติ
รู้สึกถึงความอุ่นที่หลังมือ ญาธิดาก็สะดุ้ง และค่อยๆดึงมือออกอย่างอึดอัด พลางมองเขากระตุกมุมปาก จึงเปลี่ยนเรื่องคุย “ทางพ่อแม่ฉัน……”
สีหน้าของธีทัตยังคงอ่อนโยน ยิ้มให้เธอ “พวกท่านยังไม่รู้ เธอวางใจเถอะ”
ได้ยินดังนั้น ญาธิดาถึงได้วางใจลง
ถ้าหากให้ดร.ยติภัทรรู้ว่าเธอถูกลักพาตัว จะต้องส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูร่างกายของเขาแน่ๆ ดังนั้น แทนที่จะให้เขากังวล ตอนนี้ปิดบังพวกเขาไว้ก่อนจะดีกว่า
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก “พวกคนที่ลักพาตัวฉัน จับได้แล้วหรือยัง? ”
ธีทัตส่ายหน้า พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ยัง เรื่องนี้จะแจ้งความมั้ย จะดำเนินคดีตามกฎหมายมั้ย ขึ้นอยู่กับเธอ”
ได้ยินดังนั้น ญาธิดาลนลาน หลังจากนั้น เธอก็ฉีกยิ้มอย่างฟืนๆ “ฉันอยากไปจากเมือง J ให้เร็วที่สุด”
อยู่ที่นี่ มันอันตรายเกินไป
ตอนแรกเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วก็มีลักพาตัว แต่ละเรื่องๆแม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับนิวรา แต่ก็ยังทำให้คนกลัวได้
มีกี่คนกันแน่ ที่รู้ความลับของเธอ และอยากจะลงมือกับเธอ? เธอไม่กล้าคิด และก็ไม่กล้าคาดเดา
เธอยื่นมือไป ลูบวนที่ท้องน้อยเบาๆ เสียงนั้นเบาลงอย่างไม่รู้ตัว “ฉันแค่อยากอยู่กับลูกของฉันอย่างสงบ แค่นี้ก็พอแล้ว อย่างอื่นฉันไม่คาดหวัง”
ธีทัตลังเลอยู่ครู่ สุดท้ายก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “เธอพูดถูก”
พูดไปพูดมา เขาก็เอ่ยปาก “ฉันจะให้ลูกน้องไปจองตั๋วเครื่องบินบ่ายวันนี้เดี๋ยวนี้ เธอพักผ่อนก่อนเถอะ”
ญาธิดาพยักหน้าอย่างไม่ติดขัด พลางมองชายหนุ่มเดินออกจากห้องผู้ป่วยไปอย่างรวดเร็ว จึงวางใจลง
เธอถือว่าเจอเรื่องแย่มายังไม่ตาย หลังจากนี้จะต้องโชคดีแน่ๆ
สิ่งเดียวที่ทำให้เธอไม่พอใจ ก็คือภวินท์
เห็นที ตัวเธอในใจของเขา คงจะไม่มีค่าเท่าตัวหนังสือตัวนึงจริงๆ เมื่อเธอฝากความหวังของชีวิตเธอไว้ที่เขา สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้มาช่วยเธอเลย
นึกถึงตรงนี้ ใจของเธอก็เศร้าอย่างไม่ตั้งใจ ขณะที่ไม่รู้ตัวนั้นความอยากที่จะจากเมือง J ไปนั้นก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น
สำหรับเมืองนี้ เธอไม่มีภาพฝันอะไรแล้ว
ขณะเดียวกัน ที่วิลล่าพาร์ค
ภวินท์นอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบๆ ริมฝีปากซีดเซียว ยังคงอยู่ในอาการหมดสติ
หลุยส์ที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้วเข้ม มองไปที่ภวินท์ และรู้สึกไม่เข้าใจอยู่ในใจ
เมื่อคืนยังดีๆอยู่เลย อยู่ๆภวินท์กลับถ่อไปที่ชายหาด จนเรื่องทางฝั่งเขาจบลง ขณะที่เขามาถึงตำแหน่งของรถของเขา ถึงเจอเขาหายใจรวยรินอยู่บนหาดทราย
รู้จักภวินท์มาตั้งนาน เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นภวินท์อ่อนแอขนาดนี้ หลังจากลากเขากลับมาจากชายหาด เขาก็ไข้ขึ้นสูงทั้งคืน จนถึงตอนนี้ยังไม่ฟื้นขึ้นมา
เพราะอะไรกันแน่นะ ที่ทำให้ภวินท์ยินดีทิ้งทุกอย่างแล้วไปที่ชายหาด?
ไม่รอให้หลุยส์คิดอย่างชัดเจน คนที่อยู่บนเตียงอยู่ๆก็ไอออกมา
หลุยส์ได้ยินเสียงนั้น ก็หันไปทางเตียงทันที เมื่อเห็นตาของภวินท์ค่อยๆลืมขึ้น ตาเขาก็เป็นประกาย และเอ่ยปากพูดทันที “ฟื้นแล้วเหรอ? ”
ภวินท์ขมวดคิ้ว และไอเล็กน้อย จึงค่อยๆพูดออกมา “ญาธิดาล่ะ? ”
ได้ยินชื่อนี้ หลุยส์ก็ชะงัก และขมวดคิ้วทันที “วิน นายไข้ขึ้นจนเอ๋อไปแล้วเหรอ? ”
ภวินท์ขมวดคิ้ว สีหน้าเข้มเย็นชา ใช้สองมือยันเตียงและค่อยๆลุกขึ้นนั่ง เงยหน้ามองหลุยส์ และถามขึ้นอีกครั้ง “เธออยู่ที่ไหนกันแน่? ”
หลุยส์ขมวดคิ้ว น้ำเสียงไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “หล่อนอยู่ที่ไหนฉันจะไปรู้ได้ยังไง? ”
เห็นปฏิกิริยาของหลุยส์แบบนี้ ภวินท์ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ในหัวก็พยายามนึกถึงเรื่องเมื่อวานก่อนที่จะหมดสติไป เขาจำได้ว่าในตอนนั้นเขากับญาธิดานอนอยู่บนชายหาดด้วยกัน แต่ทำไมหลุยส์ถึงพาเขากลับมาคนเดียว?
ภวินท์ขมวดคิ้ว และดึงเข็มออกจากหลังมือของตัวเอง และลุกขึ้นนั่ง “นายเจอฉันที่ไหน? ”
หลุยส์ขมวดคิ้ว ไม่ได้ตอบคำถาม “วิน เมื่อคืนนายคงไม่ได้ไปหาญาธิดาที่ชายหาดหรอกนะ? นายก็รู้ชัดว่าภารกิจเมื่อคืนมันสำคัญ……”
ไม่รอให้หลุยส์พูดจบ ภวินท์ก็ชักสีหน้าเย็นชาลุกลงจากเตียง เดินตรงไปข้างนอก
ผลักประตู ลงมาข้างล่าง เขาก็เห็นต้นนั่งอยู่ด้านหน้าจอ จึงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หน้าที่เมื่อคืนทำเป็นยังไงบ้าง? ”
ต้นลังเลอยู่ครู่ และเงยหน้ามองหลุยส์ที่ตามหลังเขามา สีหน้าลังเล
หลุยส์ไล่ตามมา และพูดด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง “เมื่อคืนนายไม่อยู่ ตอนที่พวกเราส่งคนไปล้อมท่าเรือ ก็พบว่าของแม่งถูกใส่ใหม่แล้ว ลูกน้องของสิงโตก็ไม่โผล่หน้ามาเลย!”
ภวินท์ขมวดคิ้ว สีหน้าบูดบึ้งสุดๆ นัยน์ตาโมโห มือที่ทิ้งอยู่ข้างลำตัวก็กำแน่นอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อคืนเรื่องที่ญาธิดาถูกลักพาตัวมันแปลกเกินไป มันพอเหมาะพอเจาะกับขอบที่เขาออกไปปฏิบัติหน้าที่พอดี ต้องเป็นฝีมือของสิงโตแน่ๆ
เขาสูดหายใจเข้าลึก อยู่ๆก็นึกอะไรออก มองไปทางหลุยส์ และพูดอย่างเย็นชา “ยืมโทรศัพท์หน่อย”
ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุด ก็คือหาญาธิดาก่อน ยืนยันว่าเธอปลอดภัย