ดวงใจภวินท์ - บทที่ 354 อยู่ๆก็หายไป
บทที่ 354 อยู่ๆก็หายไป
หลุยส์ชะงักอยู่ครู่ จึงหยิบโทรศัพท์ออกมายื่นให้เขา
ภวินท์ก็กดเบอร์นึง และโทรออก เสียงอีกฝั่งดังขึ้น และก็มีเสียงตอบรับดังขึ้น “ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้……”
เขาขมวดคิ้ว ในใจก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ปลอดภัย คิดอยู่ครู่ จึงเอาโทรศัพท์คืนหลุยส์ และหันไปพูดกับต้น “ติดตามการเคลื่อนไหวของญาธิดาที”
ต้นพยักหน้า นิ้วกดลงบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว ส่วนหลุยส์ที่อยู่อีกฝั่ง สีหน้าก็ไม่ดีขึ้นมาหลายระดับ
“วิน นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ? เพราะว่าผู้หญิงคนนึง เมื่อคืนนายถึงทิ้งหน้าที่ให้พวกเราสามคน วันนี้พอฟื้นขึ้นมา ก็ติดตามการเคลื่อนไหวของหล่อนทันที……”
ภวินท์หันไป มองเขาอย่างเย็นชาพลางพูด “ฉันมีแผนของฉัน”
ทิ้งประโยคนี้ไว้แล้ว เขาก็เดินก้าวขายาวออกไป ทิ้งหลุยส์ที่มีสีหน้าขุ่นเคืองเอาไว้
ไม่ถึงสิบนาที ภวินท์ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ลงมาจากชั้นสอง เดินมายังด้านข้างของต้นและพูด “หาเจอหรือยัง? ”
ต้นส่ายหน้า อย่างงงๆเล็กน้อย “แปลกมาก การเคลื่อนไหวของเธอระยะนี้ ราวกับมีคนจงใจลบทิ้ง จนหมดจด ไม่มีอะไรเลย”
ได้ยินดังนั้น ภวินท์ก็ขมวดคิ้วเข้ม ในใจยิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัย
ถ้าหากเป็นอย่างที่หลุยส์พูด เมื่อคืนบนชายหาดมีแค่เขาอยู่คนเดียว งั้นญาธิดาไปไหนล่ะ? เป็นไปได้มั้ยที่จะถูกคนกลุ่มเดียวกันนั้นพาตัวไป?
ในใจก็ผุดความคาดเดาต่างๆขึ้นมา แต่ก็ไม่มีผล หลังจากนั้น เขาก็หันไปมองต้น และพูดเสียงเข้ม “เรื่องที่หน้าที่ล้มเหลวเมื่อคืน ฉันจะอธิบายกับจรณ์ด้วยตัวเอง พวกนายทำตามปกติก็โอเคแล้ว”
หลังจากสั่งเสร็จ เขาก็หยิบโทรศัพท์สำรองออกมาจากลิ้นชัก และโทรหาพายุทันที
ไม่ถึงยี่สิบนาที พายุก็รีบขับรถมาถึง
ถ้าหากเป็นอย่างที่หลุยส์พูด เมื่อคืนบนชายหาดมีแค่เขาอยู่คนเดียว งั้นญาธิดาไปไหนล่ะ? เป็นไปได้มั้ยที่จะถูกคนกลุ่มเดียวกันนั้นพาตัวไป?
ภวินท์เดินเข้าไปอย่างเร็ว ดึงประตูรถขึ้นไป และพูดเสียงเข้ม“โทรไปที่บริษัทหน่อย ถามดูว่าญาธิดาไปทำงานหรือเปล่า? ”
พายุได้ยินดังนั้น ก็ลงมือทันที
ไม่นาน เขาก็วางสาย หันมารายงานกับภวินท์ “คุณภวินท์ ที่บริษัทแจ้งว่าหลายวันนี้ญาธิดาไม่ได้ไปทำงานครับ”
ภวินท์ได้ยิน ก็ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆตาขวาก็กระตุก เขาชะงักอยู่ครึ่งวินาที และสั่งการทันที “ไปคอนโด”
พายุได้ยิน ก็ไม่พูดอะไร และออกรถทันที มุ่งหน้าไปยังคอนโด
เมื่อรีบมาถึงหน้าประตูคอนโด ภวินท์ก็หยิบกุญแจออกมาเปิดประตูทันที เมื่อเปิดประตูเข้าไปเห็นด้านในห้อง สีหน้าก็มืดมนลงไปหลายระดับ
ห้องรับแขกสะอาดไม่มีฝุ่น แถมยังกลับไปเป็นแบบก่อนที่จะเช่า สิ่งของของญาธิดาทั้งหมด ไม่เห็นเลยสักชิ้น
ภวินท์ลนลาน และเดินก้าวไปทางห้องนอนทันที เขาเดินมาถึงหน้าประตู เปิดประตูออก ขณะที่เห็นห้องนอนที่ว่างเปล่า ในหัวก็กลายเป็นขาวโพลนไปหมด
เธอไปไหนกัน?
เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในใจ ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เขากำหมัดแน่น ออกไปจากคอนโดทันที และมุ่งหน้าไปทางโรงพยาบาลที่ดร.ยติภัทรอยู่
เมื่อมาถึงหน้าห้องผู้ป่วย ขณะที่ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากด้านใน ภวินท์ที่แต่เดิมเครียดก็โล่งอกลงเล็กน้อย แต่เมื่อวินาทีที่เปิดประตูห้องผู้ป่วยออก คนที่ไม่รู้จักที่อยู่ในห้องก็หันมามองทางเขา
ภวินท์ชะงักเล็กน้อย กวาดสายตามองทุกคนในห้อง สีหน้าเย็นชาและถอยออกไป หันเดินไปทางเคาน์เตอร์พยาบาลที่อยู่ด้านข้าง ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผู้ป่วยที่แต่เดิมพักอยู่ที่ห้อง 16 ไปไหนแล้ว? ”
พยาบาลมองไปทางห้องผู้ป่วย และพูดเสียงเบา “วันนี้ช่วงเช้าพวกเขาออกจากโรงพยาบาลไปแล้วค่ะ”
ภวินท์ชะงัก อยู่ในใจก็รู้สึกซับซ้อนอย่างอธิบายไม่ถูก
ญาธิดาอยู่ๆก็หายไป ที่คอนโดว่างเปล่า แม้แต่ดร.ยติภัทรก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับเธอดูเหมือนจะหายไปในหนึ่งวัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เขาเก็บความโกรธไว้ในใจ และหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาเบอร์นึง “ช่วยฉันเช็กหน่อยว่าวันนี้คนที่เดินทางออกจากเมือง J มีคนชื่อญาธิดาบ้างมั้ย”
แม้ว่าเขาจะต้องพลิกเมือง J ทั้งเมืองเพื่อตามหา เขาก็ต้องหาเธอให้เจอ!
ขณะนั้น ในห้องโถงสนามบินเมืองY ญาธิดากำลังบอกลาอัญมณี
อัญมณีผู้ที่แข็งแกร่งเสมอมา เมื่อต้องแยกจากกันกลับร้องไห้ฟูมฟาย จับมือของญาธิดาไม่ปล่อยมือ “ธิดา เธอไปแล้วฉันจะทำยังไง? ”
ญาธิดามองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ในใจก็เศร้าเล็กน้อย แต่ก็ยังคงฝืนยิ้มพลางพูด “เธอยังมีพายุไง!”
อัญมณีพูดสะอื้น “เขาเทียบเธอได้ที่ไหน……ฉันทำใจให้เธอไปไม่ได้……”
ธีทัตที่อยู่ด้านข้างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “เอาล่ะๆ ใช่ว่าจะไม่ได้เจอกันอีกซะหน่อย”
เขาพูด พลางก้มมองนาฬิกาข้อมือ และมองไปทางญาธิดาพลางพูด “เอาล่ะธิดา ต้องขึ้นเครื่องแล้ว”
ญาธิดาพยักหน้า ในใจกังวลเล็กน้อย มองทางธีทัต และพูดเสียงเบา “คุณทางพ่อแม่ฉัน……”
“เธอวางใจเถอะ ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว รอให้ผ่านช่วงนี้ไป ฉันค่อยไปหาเธอ”
“โอเคค่ะ”
ญาธิดายิ้ม เดินเข้าไปกอดอัญมณี และโบกมือให้พวกเขา จากนั้นก็ลากกระเป๋าเดินทางเดินไปทางเคาน์เตอร์เช็คอิน
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เครื่องบินก็ออกบิน ญาธิดานั่งติดหน้าต่างจากบนท้องฟ้ามองลงมาด้านล่าง พลางมองดูเมืองที่เล็กลงเรื่อยๆ ก็เกิดความเศร้าอยู่ในใจ
คิดไม่ถึง ว่าเธอจะใช้วิธีนี้ บอกลากับเมืองที่ตัวเองใช้ชีวิตมายี่สิบกว่าปี
กลับมาเมือง J อีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แล้ว
STN Group
ระหว่างทางจากโรงพยาบาลกลับมาSTN Group ภวินท์ก็ใจเย็นลงไปมาก แต่ในใจกลับเริ่มรู้สึกเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่กดทับจนหายใจไม่ออก
เมื่อมาถึงห้องประธาน ขณะที่เขาเดินเข้าห้องทำงาน เมื่อเห็นซองเอกสารบนโต๊ะ สายตาก็มืดมนลง จากนั้นก็หยิบขึ้นมาดู
สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาก็คือสัญญา เมื่อเห็น logo ของ “redeur”เขาก็ลนลานในใจ และเปิดดูทันที
การลงนามสุดท้ายของสัญญา เขียนอย่างชัดเจน “คิริน” ตัวอักษรใหญ่ๆ
มือของภวินท์ที่ถือสัญญาอยู่ก็กำแน่นอย่างไม่รู้ตัว มือเปิดดู ถึงได้เห็นว่าท้ายสัญญายังมีจดหมายหนึ่งฉบับ
เขาเปิดซองจดหมายอย่างรีบร้อน ก็เห็นกระดาษสีขาวด้านบนสุดเขียนว่า “หนังสือลาออก” ตัวใหญ่ๆ อยู่ในหัวก็มีเสียงดังลั่น
สายตามองต่ำ เขาข้ามเนื้อหาส่วนกลางไป กวาดตามองที่ส่วนท้ายสุด ขณะที่เห็นชื่อของญาธิดา ทันใดนั้นนัยน์ตาก็มืดมนลงความโกรธปรี๊ดขึ้นมา
คิดไม่ถึง ว่าเธอจะเอาจริง!
แต่เดิมเขาคิดว่าเธอแค่ไม่อยากทำงานที่ STN Group แล้วเท่านั้น แต่ตอนนี้เห็นที เธอคงมีแผนจะไปจากเมือง J!
ความโกรธครอบงำจิตใจ ภวินท์ขยำหนังสือลาออกในมืออย่างไม่รู้ตัว และโยนมันทิ้งลงถังขยะด้านข้าง
เมื่อคืนเธอโทรหาเขาขอให้เขาช่วย วันนี้อยู่ๆก็หายตัวไป! เธอคิดจะทำอะไรกันแน่? คิดว่าเขาเป็นลิงเอาไว้หยอกเล่นเหรอ?
เขายกมือขึ้น กดโทรสายใน แจ้งพายุ “มาห้องฉันหน่อย”
ไม่ถึงสองนาที ประตูห้องเปิดออก พายุก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว “คุณภวินท์ มีอะไรรับสั่งครับ? ”
ความโกรธของเขาราวกับพายุ น้ำเสียงเขาก้องอยู่ในลำคอ “ส่งคนไป ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของญาธิดาทันที! ยังไงก็ต้องหาเธอให้เจอ!”
พายุได้ยินดังนั้น คิ้วก็กระตุกเล็กน้อย ลังเลอยู่ครู่ ถึงเอ่ยปากตอบรับ “ครับ”
เขาพูดพลาง หันหลัง ขณะที่กำลังจะออกจากออฟฟิศไป
“เดี๋ยวก่อน!” ภวินท์ก็ขมวดคิ้ว และเรียกเขาอย่างกะทันหัน จ้องเขาพลางถาม “พายุ นายรู้อะไรใช่มั้ย? ”