ดวงใจภวินท์ - บทที่ 371 โอกาสที่หาได้ยาก
บทที่ 371 โอกาสที่หาได้ยาก
หลุยส์เดินไปหา นั่งข้างเขาโดยตรง สายตากวาดมองไวน์แดงบนโต๊ะทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ สายตาอึ้งทันที
เขายื่นมือออกไป คว้าขวดไวน์ขึ้นมาในทันที “นาย…ทำไมเปิดไวน์ขวดนี้!”
ภวินท์ได้ยินก็ช้อนสายตาขึ้นมองเขาเล็กน้อย โดยที่ไม่พูดสักคำ
หลุยส์ครวญครางด้วยความโกรธ “นายรู้ไหมฉันใช้ความพยายามแค่ไหนกว่าจะได้ไวน์ขวดนี้มา! ไวน์รุ่นนี้ฉันมีตั้งเยอะ นายดันเลือกขวดที่มีเพียงหนึ่งเดียว!”
ภวินท์ทำหูทวนลม ยกแก้วเหล้าขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกรู้สา เขย่ามันเบาๆ แล้วจิบอีกหนึ่งคำ
หลุยส์เห็นท่าทางเขา ก็โกรธจนพูดไม่ออก “ภวินท์ นาย…”
ภวินท์เงยหน้าขึ้นมา ขัดคำพูดเขาด้วยเสียงเรียบ “แค่ไวน์ขวดเดียวเอง”
หลุยส์โกรธจัด เหยียดนิ้วออกไปชี้เขาครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็มองไวน์แดงขวดนั้นที่ดื่มไปครึ่งหนึ่งแล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้พูดต่อไป
“ช่างเถอะ” เขานั่งโซฟาข้างๆ “ใครทำให้นายไม่พอใจอีกล่ะ? ทุกครั้งที่นายไม่พอใจ เหล้าฉันจะต้องรับเคราะห์!”
ภวินท์เงียบ ทำหน้าเย็นยะเยือก ไม่ยอมพูดสักคำ
หลุยส์ยื่นมือออกไป หยิบแก้วทรงขาสูงแก้วหนึ่งขึ้นมาจากด้านข้าง รินให้ตัวเองครึ่งแก้ว จากนั้นก็มองเขา พึมพำถาม “คงไม่ใช่เพราะญาธิดาหรอกนะ? ฉันได้ยินว่าเธอกลับมาแล้ว”
ได้ยินชื่อนี้ สีหน้าภวินท์ก็ไม่พอใจในทันที ยกแก้วเหล้าดื่มของเหลวที่เหลือในแก้วจนหมดรวดเดียว
หลุยส์ทำเสียงจุ๊ๆสองครั้ง “ดูเหมือน จะเป็นเพราะเธอจริงๆ”
“ปัง!”
ภวินท์วางแก้วเหล้าบนโต๊ะอย่างไม่เบาและไม่แรง เงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วเปล่งเสียงหัวเราะเยาะ “เพราะเธอเหรอ? เป็นไปได้ยังไง?”
หลุยส์เลิกคิ้ว “งั้นนายพูดมาสิ ที่นายเป็นแบบนี้มันเพราะใคร?”
คนอื่นไม่เข้าใจเขา หรือเขาก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกันเหรอ?
ภวินท์ที่สุขุมและควบคุมตัวเองได้มาตลอด ไม่มีทางดื่มเหล้าแก้กลุ้มอย่างไม่มีเหตุผลเด็ดขาด สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อห้าปีก่อน
ตอนนั้น หลังจากเขาตามหาญาธิดานานกว่าหนึ่งเดือนโดยไม่สำเร็จ เขาก็มาที่บาร์คนเดียว ดื่มจนเมาหัวราน้ำ สุดท้ายเขาก็ยังเป็นคนไปส่งเขากลับบ้าน
นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นท่าทางไม่สงบนิ่งของเขา หลังจากรู้จักภวินท์มาหลายปี
ตั้งแต่นั้นมา ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ นอกจากงานสังสรรค์ ภวินท์ก็ไม่ค่อยดื่มเหล้าเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ เขาเริ่มดื่มเหล้าอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องกลุ้มใจ และช่วงนี้ญาธิดาก็กลับมาพอดี……
ดังนั้น มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่จะเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น
สีหน้าหลุยส์เคร่งขรึมเล็กน้อย เปลี่ยนท่าทางอิสระตามใจชอบเมื่อกี้นี้ แล้วเอ่ยปากอย่างจริงจัง “วิน ฉันบอกแล้วไง ผู้หญิงคนนั้น นายห้ามเข้าใกล้อีก ห้าปีก่อนนายทุ่มเทมากขนาดนั้นเพื่อเธอ ตอนนี้ต่อให้เธอจะกลับมาแล้ว นายก็ไม่ควรติดต่ออะไรกับเธออีกแล้ว”
ภวินท์ได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เยือกเย็น ยื่นมือไปหยิบขวดไวน์รินใส่แก้วอีกครั้ง ไม่พูดอะไรทั้งนั้น
หลุยส์ที่อยู่ข้างกายเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกหงุดหงิดฉุนเฉียว “วิน ฉันไม่เข้าใจ ผู้หญิงคนนั้นมันมีอะไรดี! ห้าปีก่อนนายทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตเธอ ทำร้ายนายทรมานขนาดนั้น มันยังไม่พอหรือไง? และตอนนี้เธอก็มีครอบครัวของตัวเองแล้ว หรือนายยังอยาก……”
หลุยส์ยังพูดไม่จบ ภวินท์ก็ช้อนสายตาขึ้นทันที มองไปที่เขาด้วยสายตาแหลมคม “นายรู้ได้ไง?”
เขาไม่เพียงแต่รู้ว่าญาธิดากลับมาที่เมือง Jแล้ว แต่ยังรู้เรื่องที่เธอมีครอบครัวอย่างชัดเจนขนาดนั้น……
เสียงหลุยส์ชะงักไป แล้วตั้งสติอย่างรวดเร็ว เขาหายใจเข้าลึกๆมือที่จับแก้วเหล้ากระชับขึ้นอย่างช้าๆ แต่ไม่พูดอะไร
ภวินท์ขมวดคิ้ว ถามอีกครั้งด้วยเสียงเย็นชา “นายรู้เรื่องเธอได้ไง?”
หลุยส์รู้ว่าปิดบังต่อไปไม่ได้แล้ว จึงวางแก้วลง ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะตบหน้าผาก พูดขึ้นเสียงทุ้ม “เมื่อวานฉันเพิ่งสืบเรื่องเธอ”
เขาชะงักไป ช้อนสายตาขึ้นมองภวินท์ แล้วเสริมอีกประโยค “ช่วยนิวราสืบ”
ได้ยินชื่อนี้ สีหน้าภวินท์ก็เย็นยะเยือกในทันที เขาหายใจเข้าลึกๆ หัวใจเกิดความไม่สบายใจอยู่รางๆ
นิวราต้องการสืบเรื่องญาธิดาไปทำไม ต่อให้เขาไม่พูดเขาก็พอจะเดาได้
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าฉันไม่อนุญาต ห้ามเปิดเผยข้อมูลของญาธิดากับใครทั้งนั้น!”
เสียงเย็นชาทิ้งประโยคนี้ไว้ เขายืนขึ้นมาทันทีแล้วเดินไปข้างนอก
หลุยส์ช้อนสายตาขึ้น มองดูแผ่นหลังภวินท์ที่เดินออกไปอย่างกระฟัดกระเฟียด สีหน้าก็เย็นชาอย่างช้าๆ
ญาธิดาคนนั้นมีพลังวิเศษอะไรกันแน่ ไม่คิดว่าจะทำให้ภวินท์หลงจนกลายเป็นแบบนี้ได้
เขาในฐานะเพื่อนพ้องของเขา จะเห็นเขาจมลงไปทีละก้าวแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!
ออกมาจากGordon’s Barแล้ว ภวินท์เพิ่งขึ้นรถ ก็สั่งพายุ “ไปThe Legend”
ได้ยินสถานที่แห่งนี้ พายุก็อึ้งเล็กน้อย เขาก็ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น สตาร์ตรถทันที แล้วมุ่งหน้าไปที่The Legend
The Legend คือห้องหอของภวินท์และนิวรา แต่โดยปกติทุกเย็นเขาจะกลับคฤหาสน์ของตัวเอง ในหนึ่งเดือนมีแค่กลางเดือนกับสิ้นเดือนสองวันเท่านั้นที่จะมาพักที่The Legend
แต่ครั้งนี้จู่ๆภวินท์บอกว่าอยากกลับไป มันทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย
รถคันดำแล่นในยามค่ำคืน สี่สิบกว่านาทีต่อมา รถก็จอดด้านหน้าThe Legend
ภวินท์ก้าวลงจากรถ สั่งพายุไม่กี่ประโยค แล้วเดินเข้าประตูใหญ่ไป
เพิ่งเดินไปถึงประตู สาวรับใช้ที่กำลังยุ่งในห้องรับแขกเห็นภวินท์เข้า ก็ตกใจมาก รีบเข้าไปทักทาย “คุณผู้ชาย กลับมาแล้วหรอคะ!”
ภวินท์พยักหน้าเล็กน้อย กวาดตามองรอบๆ ไม่เห็นนิวรา จึงเอ่ยปากถาม “นิวล่ะ?”
“คุณผู้หญิงอยู่ห้องนอนชั้นบน ให้ฉันขึ้นไป……”
ภวินท์ยกมือขึ้น “ไม่ต้อง”
พูดจบ เขาก็ก้าวเท้าขึ้นบันได เดินตรงไปที่ห้องนอนหลัก
เขาเดินไปถึงประตู ผลักเปิดประตูออก ก็ได้ยินบทสนทนาจากด้านในดังออกมา “แม่ แม่ลองคุยกับพ่อให้หน่อยสิคะ เขารู้จักกับเจ้าของสำนักพิมพ์นิตยสารคนนั้นไม่ใช่เหรอคะ……”
นิวรายังพูดไม่จบ ได้ยินประตูดังขึ้น สีหน้าก็ไม่พอใจ รีบหันหน้าไปตะคอก “ใครใช้ให้แกไม่เคาะประตูแล้วเข้ามา……”
พูดได้ครึ่งเดียว เมื่อเธอเห็นคนที่ยืนตรงประตูชัดๆ ก็ตกตะลึงในทันที “พี่วิน ทำไมเป็นพี่?”
ภวินท์เลิกคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเย็นชาขึ้น “ไม่งั้นเธอคิดว่าเป็นใคร?”
“ไม่ใช่นะ……” นิวราวางสายไปอย่างลุกลี้ลุกลน ลุกขึ้นเดินไปหาเขาทันที “นิวนึกว่าเป็นคนใช้ไม่รู้ประสีประสาคนไหนบุกเข้ามา……”
ภวินท์ได้ยินดังนั้น ก็ถามเสียงเรียบ “ปกติเธอทำกับแม่บ้านแบบนี้เหรอ?”
ประโยคหนึ่งที่ธรรมดา ทำให้นิวราสันหลังเย็นแปลกๆ เธอหายใจเข้าลึกๆ ส่ายหน้าซ้ำๆ “ไม่ใช่อยู่แล้ว เมื่อกี้นิวกำลังคุยโทรศัพท์กับแม่น่ะ……”
เธอยิ้มไร้เดียงสาให้ภวินท์ เดินไปข้างหน้ายื่นมือไปควงแขนภวินท์ แล้วเงยหน้าขึ้นถามอย่างสนิทสนม “ทำไมวันนี้พี่กลับมากะทันหันละค่ะ?”
ภวินท์ดึงแขนออกจากอ้อมกอดเธอช้าๆ ถอดเสื้อคลุมบนตัวออก แล้วเดินไปนั่งโซฟาข้างๆ “ไม่มีอะไร แค่อยากดูว่าช่วงนี้เธอกำลังทำอะไร”
“นิวเหรอ ก็ไปชอปปิ้งกับพวกเพื่อนๆ เข้าคลาสโยคะอะไรพวกนี้น่าเบื่อมากเหมือนกัน……”
ขณะที่นิวราพูด ก็เดินไปนั่งข้างๆภวินท์ เห็นเขายกมือขึ้นนวดคิ้ว เธอก็รีบเอ่ยปากถาม “พี่วิน เป็นอะไร? ทำงานเหนื่อยเกินไปใช่ไหม?”
ภวินท์ตอบ “อืม” ส่งๆ
นิวราเห็นดังนั้น ก็ดีใจมาก รีบลุกขึ้นเดินอ้อมไปด้านหลังภวินท์ ช่วยนวดขมับให้กับเขาอย่างขะมักเขม้น “ลำบากแย่เลย ฉันช่วยพี่นวดนะ”
เห็นภวินท์ไม่ปฏิเสธ นิวราก็ดีใจขึ้นอีก เธอได้กลิ่นเหล้าจางๆ บนร่างชายหนุ่ม ในหัวสมองก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาฉับพลัน
ไม่บ่อยนักที่เขาจะกลับมาก่อน แถมยังดื่มเหล้ามาด้วย สำหรับเธอแล้วนี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก!