ดวงใจภวินท์ - บทที่ 38 จะประสบผลสำเร็จหรือเปล่า
ภวินท์เป็นคนออกตัวจูบเธอก่อน!
เขาไม่ชอบภูผาจริงๆ ทว่ายิ่งไม่ชอบเวลาที่เห็นเธออยู่กับภูผาด้วยกัน ซึ่งแม้ว่าตัวเธออยู่ในฐานะภรรยาของเขาเพียงในนามเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ยินยอมเห็นเธอกับภูผารู้จักมักจี่กันไปแม้แต่น้อย!
……
“ก๊อก ก๊อก!”
“คุณผู้หญิงคุณตื่นหรือยังคะ?”
บริเวณหน้าประตูมีเสียงกระซิบกระซาบของป้าจันทร์ดังขึ้นมา ญาธิดาจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และมองห้องอันมืดสลัว ซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว
เธอจำได้แค่ว่าภวินท์อุ้มเธอกลับมาที่ห้องนอน เรื่องหลังจากนั้นแล้ว เธอก็จำไม่ได้แล้ว…
“คุณผู้หญิง……”
ญาธิดาลุกขึ้น และส่งเสียงตอบรับ และจัดการใส่เสื้อทับและเปิดไฟ ซึ่งภายในห้องก็ไม่เห็นตัวผู้ชายตั้งนานแล้ว เธอถึงได้แอบถอนหายใจโล่งอก
ถ้าเกิดว่าตื่นขึ้นมา เขายังอยู่ด้านข้าง เกรงว่าภาพนี้คงดูเคอะเขินกันชะมัดเลย
เธอเดินไปเปิดประตู “ป้าจันทร์ ภวินท์ล่ะคะ?”
“คุณชายออกไปแล้วค่ะ บอกว่ามีเรื่องนิดหน่อย คืนนี้ไม่กลับมาแล้วค่ะ”
คืนนี้ไม่กลับมาแล้วค่ะ….
ญาธิดาเงียบงันอยู่ชั่วครู่ จู่ ๆ เกิดฉุกคิดชื่อหนึ่งขึ้นมาได้ หลังจากนั้นแล้ว เธอสะบัดศีรษะไปมา เพื่อพยายามปัดชื่อนั้นออกไปจากหัว
ถ้าเรื่องไม่ใช่ตามที่เธอคิดไว้ งั้นก็เท่ากับการเข้าใจภวินท์ผิดไปแล้วเหรอ? ถ้าเขาไม่ยอมพูดออกมา ทางที่ดีที่สุดก็อย่าไปคิดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียว
…..
ห้องพักผู้ป่วยอันหรูหราในโรงพยาบาลโชคศิริ
“วิน ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่จริงๆ ค่ะ คุณพาฉันออกไปได้ไหม คุณพาฉันออกไปหน่อยค่ะ…” ใบหน้าซีดเผือดที่นอนอยู่บนเตียง หน้าตาสะสวยน่ารักน่าชัง ร่างกายอ่อนแอปวกเปียกราวกับกระดาษแผ่นหนึ่ง
หัวคิ้วของภวินท์ขมวดเข้าหากันแน่น พร้อมทั้งมองหญิงสาวที่โอบตัวเองเอาไว้ด้วยความรู้สึกปวดใจตาม จึงชูมือขึ้นมาลูบเส้นผมของเธอ “นิวรอคุณหายป่วยดีแล้ว ผมจะพาคุณไปเดินนะ”
นิวราได้ยินแล้ว ร่างกายสั่นเทา เมื่อเงยหน้าขึ้น น้ำตาไหลพรากยาวเป็นสองสายจนหยดเป็นสายน้ำ เพราะว่าน้ำตายังคงรื้นอยู่ในเบ้าตา รูม่านตาสีอ่อนของเธอราวกับดวงตาแมวอันเปล่งประกาย “ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปอีกแล้ว วินคุณให้ฉันกลับไปอยู่ใกล้คุณ ฉันสามารถอยู่ต่อเป็นเพื่อนคุณหนึ่งวันได้ก็ถือว่าโชคช่วย แบบนี้ไม่ดีเหรอคะ?”
ภวินท์ย่นคิ้วเล็กน้อย และเริ่มพูดเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยน “ผมจะหาวิธีมาช่วยคุณ คุณอดทนรอไว้นะ”
เขาพยายามสุดกำลังแล้ว เพื่อที่จะได้ช่วยเธอ เขาใช้ความคิดอย่างหนัก
แต่ว่าตอนนี้ มันยังไม่ถึงเวลา
เขาก้มหน้าลง และประคองใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของหญิงสาวเอาไว้ “นิวคนที่ทุกข์ทรมานไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว ผมรับประกันว่าคุณจะต้องดีขึ้น ขอเวลาให้ผมอีกสักหน่อย เชื่อใจผมนะ หืม?”
นิวราสูดจมูก และทำเสียงวิงวอนขอร้อง “งั้นต่อไปคุณก็มาหาฉันบ่อยๆ ได้ไหมคะ ช่วงนี้คุณมักยุ่งอยู่ตลอดเลย…”
“ผมรับปาก” ภวินท์รับปากแล้ว พลันยกมือขึ้นอย่างเอ็นดูและลูบไล้ใบหน้าของเธอ “ผ่านไปไม่กี่วันผมจะพาคุณไปต่างประเทศ เพื่อทำการตรวจอันละเอียดถี่ถ้วนมากกว่าเดิม คุณต้องรับปากกับผมนะว่าต้องกินข้าว และพักผ่อนให้เต็มอิ่ม”
นิวราพยักหน้า และกอดเขาเอาไว้แน่น “แค่คุณอยู่เป็นเพื่อน ฉันก็เชื่อฟังหมดแหละค่ะ”
เมื่อเอาใจจนหญิงสาวนอนหลับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภวินท์ถึงได้ถอนหายใจโล่งอก และค่อยๆ เดินออกจากห้องพักผู้ป่วย เมื่อเดินมาถึงหน้าต่าง ก็จุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน
พายุเดินมาอยู่ทางด้านหน้า พลางเอ่ยปากถามเสียงเบา “คุณภวินท์พูดว่าจะเลิกแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “รอวันที่นิวผ่าตัดเสร็จ ก็จะเลิก”
ผู้หญิงที่คุ้มค่าให้เขาเลิกบุหรี่ มีเพียงแค่นิวราคนเดียว
ญาธิดาเอนหลังนอนอยู่บนเตียง และพลิกตัวไปมา นอนไม่ค่อยหลับ
พริบตาเดียววันหยุดช่วงเทศกาลก็ใกล้จะมาถึงแล้ว ถึงเวลานั้นของขวัญโบนัสของพนักงานต้องเตรียมการและมาถึงบริษัทแล้ว ทว่าตอนนี้ยังไม่มีโรงงานรับใบสั่งซื้อสักนิด ถ้าเธอไม่รีบเร่ง เกรงว่างานชิ้นนี้ก็คงพังไม่เป็นท่าด้วยมือของเธอจริงๆ แล้ว!
เธอเม้มริมฝีปากเอาไว้ และลุกจากเตียง จัดการเปิดเอกสารก่อนหน้านี้ขึ้นมาดู สุดท้ายตัดสินใจแล้วว่าตัวแบบกล่องของขวัญและตัวผลิตภัณฑ์ จากนั้นก็เริ่มเลือกโรงงานผู้ผลิตที่เหมาะสม
ดูแล้วครั้งนี้ เธอต้องไปหาเขาเพื่อให้เขาช่วยเหลือแล้ว แต่ว่า นี่มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องนอนให้หลับ!
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากญาธิดาตื่นแล้ว เมื่อกินข้าวเช้าแล้ว พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีและจัดการโทรศัพท์หาพายุทันที ทางนั้นมีเสียงดังสองครั้ง และมีคนกดรับสาย
“ฮัลโหลครับ? คุณผู้หญิงมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
“คุณพายุคะ ฉันอยากให้คุณช่วยสักเรื่องค่ะ”
“คุณพูดมาได้เลยครับ”
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางพูดออกมา “ช่วยตรวจสอบตารางงานของคนคนหนึ่งให้ฉันได้ไหมคะ”
พายุเป็นผู้ช่วยพิเศษ ด้วยวิธีการและความสามารถของเขาแล้ว การตรวจสอบตารางงานเกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร
“ได้ครับ”
เมื่อได้ยินเขาตกลงแล้ว ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดต่อทันที เธอเหมือนฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ จากนั้นจึงพูดว่า “เรื่องนี้ ทางที่ดีที่สุดไม่ต้องบอกภวินท์ จะได้ไหมคะ?”
“ได้ครับ รบกวนช่วยบอกชื่อให้ผมหน่อยครับ ผมตรวจสอบแล้วก็จะส่งให้คุณทันทีครับ”
ญาธิดาดีใจเป็นลิงโลด เธอกดวางสายอย่างดีใจ พลันเริ่มจัดเตรียมเอกสารของคนที่ต้องการเจอ
ผ่านไปไม่นาน พลันมีเสียงโทรศัพท์ดัง “ติ๊ง” จึงได้รับข้อความของพายุ ซึ่งในนั้นได้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน เป็นตารางงานของท่านประธานปณชัย
ตราบใดที่วันนี้เธอสามารถพูดคุยถูกคอกับปณชัย จนเอาเรื่องกล่องของขวัญจัดการได้แล้ว เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ถือว่าจัดการได้แล้ว!
เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว ญาธิดาราวกับไปโดนตัวไหนมา พลางตบมือก็รีบเตรียมตัวทันที
ส่วนอีกฝั่ง พายุเดินมาหยุดตรงด้านข้างของภวินท์ และกระซิบพูด “คุณภวินท์ มีเรื่องต้องแจ้งให้คุณทราบ เมื่อครู่คุณญาธิดาโทรศัพท์หาผม เพื่อให้ผมช่วยสอบถามตารางงานในวันนี้ของคุณปณชัยประธานบริษัท พาวเวอร์ ติ้ง จำกัดครับ”
ภวินท์ย่นคิ้วเล็กน้อย “คุณปณชัยประธานบริษัท พาวเวอร์ ติ้ง จำกัดงั้นเหรอ?”
พายุพยักหน้า “ครับ ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณผู้หญิงน่าจะเพื่อเรื่องกล่องของขวัญในช่วงเทศกาลวันหยุดที่ใกล้เข้ามานี้ครับ”
ภวินท์เงียบขรึมชั่วครู่ และเอ่ยน้ำเสียงปกติ “ประธานปณชัยคนนั้น ดังในเรื่องดื้อหัวชนฝา ไม่มีวันยอมให้เสียผลกำไรโดยง่าย แค่กลัวว่า ราคาที่บริษัทเสนอไป เขาไม่รับไว้แน่”
“งั้น… ให้ผมแอบช่วยคุณผู้หญิง เอามั้ยครับ?”
“ไม่ต้อง” ภวินท์ ตอบกลับเบาๆ
เขาจำได้ว่า ญาธิดาพูดแล้ว ครั้งนี้เธอยากจะลองพยายามด้วยตัวเอง
งั้นเขาก็อยากเห็นสักหน่อย ว่าเธอจะทำสำเร็จหรือไม่