ดวงใจภวินท์ - บทที่ 436 แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิง!
บทที่ 436 แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิง!
ผ่านไปสักครู่หนึ่ง สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่พายุ
คนที่ประหม่าที่สุด ไม่มีใครเกินอัญมณีแล้ว
ภวินท์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบอย่างไม่รีบไม่ร้อน พูดเสียงเรียบ “นายจะพูดอะไร?”
สองมืออัญมณีกุมแน่น ฝ่ามือของเธอมีเหงื่อหลั่งออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ จ้องริมฝีปากของพายุเขม็ง ความคิดหมุนวนอย่างรวดเร็ว
เธอจะหยุดเขายังไงดี!
ในขณะนั้นเอง พายุพูดเสียงเบา “ผมอยากลาหยุดสัก 2-3 วันครับ”
จากนั้นเขาก็หันหน้ามองไปทางอัญมณี มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “ผมอยากจะใช้เวลาดีๆ กับแฟนสาวน่ะครับ”
คำว่า “แฟนสาว” ไม่กี่คำ เปรียบดั่งสายฟ้าที่ผ่าลงในสมองอันขาวโพลนของอัญมณี
ผ่านไปไม่กี่วินาที เธอก็กลับมาได้สติทันที ปฏิเสธอย่างทันควัน “ใครเป็นแฟนนาย!”
พายุยิ้มอย่างใจเย็น ถามกลับเสียงเบา “แล้วไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อสบตาเป็นประกายของพายุคู่นั้น ลำคอของอัญมณีก็เกร็งแน่น เธอพูดอะไรไม่ออก
ถ้าหากเธอตอบไปว่าไม่ใช่ ก็กลัวว่าพายุจะพูดเรื่องนั้นออกไป เขาเป็นภัยคุกคามที่มองไม่เห็นชัดๆ !เขาตั้งใจที่จะพูดสิ่งนี้ต่อหน้าภวินท์!
อัญมณีโกรธจนกัดฟัน แต่กลับเหมือนใบ้กินยังไงอย่างนั้น จะบ่นก็บ่นไม่ออก จะพูดก็พูดไม่ออก เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่ญาธิดา เมื่อเห็นรอยยิ้มบริสุทธิ์สดใสบนใบหน้าของเธอ หัวใจก็พลันอ่อนยวบลง
ถือซะว่าเพื่อเก็บความลับนี้ไว้ให้ญาธิดา เธอจำต้องตอบไป
เธอสูดลมหายใจลึก พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจเป็นคำตอบ
พายุเห็นดังนั้นมุมปากก็ขยับขึ้น ยื่นมืออยากจะจับมือของอัญมณี เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เก็บมือกลับเข้าไป
ภวินท์นั่งอยู่ตรงนั้น รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา พูดเสียงเรียบ “ฉันอนุญาต”
พายุยิ้มให้เขาและญาธิดา “ถ้าอย่างนั้นพวกเราคงต้องไปก่อน”
พูดพลาง เขายื่นมือออกไปจูงมืออัญมณีเอาไว้ พูดด้วยดวงตาแวววับเป็นประกาย “ฉันจะพาเธอไปที่ที่หนึ่ง”
อัญมณีถูกเขากึ่งลากเดินไปอย่างไม่เต็มใจ “ไปที่ไหน?”
พายุมีความสุขอย่างปิดไม่มิด อัญมณีไม่พอใจ ทั้งสองเป็นเหมือนคู่รักที่เพิ่งคืนดีหลังจากที่ง้องอนกัน ทั้งตลกและทั้งน่ารัก
ญาธิดาเงยหน้าขึ้น มองไปที่แผ่นหลังของพวกเขาทั้งสองคน มุมปากกระตุกยิ้มอย่างอดไม่ได้
เธอดูออกว่าอัญมณียังมีใจให้กับพายุอยู่ และพายุก็เหมือนเด็กหนุ่มแรกแย้มที่เพิ่งตกหลุมรัก ความรักความห่วงใยทั้งหมดของเขาเขียนไว้อย่างชัดเจนในดวงตาและบนใบหน้าของเขา
“อิจฉาเหรอ?”
เมื่อเสียงเย็นชาของชายหนุ่มจากฝั่งตรงข้ามดังขึ้น ญาธิดาจึงได้กลับมารู้สึกตัวเล็กน้อย
เธอสูดลมหายใจลึกถอนสายตาแล้วมองไปที่ภวินท์ พูดเสียงเรียบ “อิจฉาแล้วจะทำไมเหรอ?”
ภวินท์เลิกคิ้วขึ้น ตั้งใจถามเหมือนปกติว่า “เป็นอะไรไป? ธีทัตเขาไม่ได้ให้ความรักอะไรกับเธอเหรอ?”
เมื่อคำนี้ออกไป ญาธิดาก็หน้าเขียวขึ้นมาทันที เธอมองบนใส่ภวินท์ “ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”
เธอพูดพลางยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มของเหลวที่อยู่ภายในรวดเดียวจนหมด แล้วจึงลุกขึ้นยืนทันที เธอพูดอย่างรวบรัดว่า “หมดเวลาอาหารเย็นแล้ว ฉันลาก่อนค่ะ”
พูดจบ เธอก็ก้าวเดินไปที่ปากประตู
อัญมณีและพายุต่างก็ไปแล้ว เธอจึงไม่ต้องการอยู่กันโดยลำพังกับภวินท์สองคนอีกต่อไป ประโยคที่เขาพูดโดยไม่ได้ตั้งใจอาจทำให้เธอสำลักตายได้
เธอเพิ่งจะเดินไปได้สองก้าว เสียงฝีเท้าจากทางด้านข้าง แล้วจากนั้นเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นในหูว่า “ฉันไปส่ง”
ญาธิดาปฏิเสธทันที “ฉันจะนั่งรถไฟใต้ดิน”
“ถ้างั้นฉันไปเป็นเพื่อนเธอ”
ญาธิดาตะลึง หันกลับมองไปที่ชายหนุ่มอย่างประหลาดใจ สีหน้าราวกับเห็นสัตว์ประหลาดหลาดยังไงอย่างนั้น
ภวินท์พูดว่าจะนั่งรถไฟใต้ดินเป็นเพื่อนเธอ เธอไม่ได้ประสาทหลอนจริงๆ เหรอเนี่ย?
เมื่อเห็นสีหน้าของเธอ ภวินท์ก็ยิ้มอ่อนแล้วพูดเสียงเรียบว่า “ฉันดื่มเหล้าไป พายุเองก็ไปแล้ว ไม่มีใครขับรถ”
ญาธิดาได้ยินดังนั้นก็ถึงได้เข้าใจ
เขาจะไปส่งเธอที่ไหนกัน เป็นเพราะเขากลับไปไม่ได้ต่างหาก
ดวงตาของญาธิดามีประกายที่ไม่ไยดี เธอไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่เดินก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น
ใครจะรู้ ชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างก็พูดเสียงเรียบ “แต่ว่า นอกจากรถไฟใต้ดินฉันก็มีทางเลือกอื่นตั้งเยอะนะ”
ญาธิดาตกใจ และมองไปที่เขาราวกับเห็นสัตว์ประหลาดมากขึ้นไปอีก
ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้พูด แต่ภวินท์กลับสามารถบอกความคิดในหัวของเธอได้อย่างถูกต้องทั้งหมด ราวกับว่าได้ยินเสียงหัวใจของเธอยังไงอย่างนั้น
ชายหนุ่มคนนี้ ช่างน่ากลัวจริงๆ
ญาธิดารู้สึกแน่นหน้าอก เธอเร่งฝีเท้าโดยไม่รู้ตัว แต่ใครจะรู้ภวินท์มีขายาวและก้าวไกล เดินไปได้สักพัก ภวินท์ไม่มีปฏิกิริยาใด กลับเป็นเธอที่เหนื่อยหอบแฮกๆ
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาว ภวินท์ก็ยิ้มอ่อนอยู่ข้างๆ เขาไม่พูดอะไรแล้วจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด
หลังจากที่เดินออกมาจากห้างC พวกเขาก็เพิ่งจะเดินมาถึงถนนใหญ่ ญาธิดากำลังที่จะเดินเข้าไปตรงทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดิน ทันใดนั้นก็คว้าแขนของเธอเอาไว้แน่น
หลังจากนั้นก็มีรถเก๋งธุรกิจสีดำมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ญาธิดาถูกภวินท์ลากมาที่ปากประตูรถ วินาทีต่อมา ร่างของเธอก็ถูกยัดเข้าไปในรถ
ญาธิดาตกตะลึง มองดูชายหนุ่มขึ้นมาจากอีกฟากหนึ่งของรถอย่างรวดเร็ว เครื่องหมายคำถามก็ปรากฏขึ้นในสมองของเธอ
เพิ่งบอกว่าจะขึ้นรถไฟใต้ดินไม่ใช่เหรอ? ชายคนนี้ ทำไมถึงได้แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงอีก?
เธออ้าปากยังไม่ทันจะได้พูด ชายหนุ่มข้างๆ ก็ปิดประตูอย่างไม่รีบไม่ร้อน พูดเสียงเรียบ “เห็นเธอเหนื่อย ก็เลยเรียกคนขับรถมาน่ะ”
พอญาธิดาได้ยิน ก็ประหลาดใจเล็กน้อย
ภวินท์กำลังเห็นใจเธออยู่เหรอ? นั่นทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความใส่ใจจริงๆ
ภวินท์บอกที่อยู่ให้คนขับ แล้วจึงหันหน้ามามองทางญาธิดา ดวงตาของเขาปรากฏรอยยิ้มและสำรวจ
ญาธิดาถูกเขาจ้องจนขนลุกขนพองไปทั้งตัว เธอขมวดคิ้วแล้วถามว่า “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“เธอคิดว่าพายุและอัญมณีจะไปกันได้ด้วยดีไหม?”
ญาธิดาได้ยินดังนั้นก็ยิ่งแปลกใจ ภวินท์ที่ปกติมักจะเคร่งครัดจริงจังก็เม้ามอยเป็นเหมือนกันด้วย!นี่ทำให้เธอรู้ประหลาดใจจริงๆ
ผ่านไปไม่กี่วินาที เธอสูดลมหายใจลึกพยักหน้า “ดีสิ”
ภวินท์ยิ้มอ่อน “เดี๋ยวก็พัวพันไม่ชัดเจน เหมือนเดิมซ้ำไปซ้ำมา”
ญาธิดาขมวดคิ้ว “คุณรู้ได้ยังไง?”
น้ำเสียงของเขามั่นใจราวกับเป็นหมอดูก็ไม่ปาน
“สัมผัสที่หก”
ญาธิดายิ้มเย็น “ตลกแล้ว”
สัมผัสที่หกของชายหนุ่ม มันไม่เคยพูดได้ว่าแม่นยำ
ภวินท์เลิกคิ้วขึ้น แววตาขี้เล่นเล็กน้อย “ถ้างั้นมาพนันกันไหมล่ะ?”
“พนันอะไร?”
“ขออะไรก็ได้ 1 อย่าง”
ญาธิดาเงยหน้าขึ้น มองท่าทีจริงจังของชายหนุ่ม จู่ๆ ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนในหัวใจเธอ
ถ้าหากเธอแพ้ขึ้นมาจริง ใครจะรู้ว่าเขาจะขออะไรออกมา แต่ว่าถ้าเธอชนะ หากเธออยากจะได้วิดีโอนั้น เขาจะให้เธอหรือเปล่า?
เมื่อมองเห็นท่าทีที่ลังเลของหญิงสาว ภวินท์ก็เดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
เขาพูดเสียงเบา “ถ้าเธอชนะ ก็ขออะไรมาก็ได้ ฉันตกลงหมด”
ญาธิดารู้สึกแน่นหน้าอก ลำคอของเธอแห้งผากเล็กน้อย “รวมถึงวิดีโอนั้นด้วย……”
ชายหนุ่มสัมผัสได้ เขาตอบรับโดยไม่ลังเล “อืม”
ญาธิดารู้สึกดีใจ เธอสูดลมหายใจลึกๆ แล้วพูดว่า “ก็ได้ ถ้างั้นพวกเราพนันกัน”
เพื่อที่จะชนะการเดิมพันในครั้งนี้ เธอจะต้องบอกกับอันอันให้รู้ ว่าอย่าเพิ่งเลิกกับพายุภายในเวลาอันสั้นนี้……
พอคิดได้แบบนี้ โอกาสที่เธอจะชนะก็มีมากขึ้น
เมื่อมองไปบนใบหน้าที่มีความสุขของหญิงสาว มุมปากของภวินท์ยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ไม่เคยคิดเลยว่า ปลาจะติดเบ็ดง่ายดายขนาดนี้
ถ้าเขาชนะแล้ว จะรักษาคำขอนี้ให้ดีอย่างแน่นอน อย่างน้อย เขาจะต้องผูกมัดเธอเอาไว้ให้แน่นๆ