ดวงใจภวินท์ - บทที่ 447 ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ
บทที่ 447 ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ
คนขับแท็กซี่เหลือบมองเธอแวบหนึ่งด้วยความสงสัย แม้ว่าจะไม่พูด แต่ก็ยังเหยียบคันเร่ง
จากนั้น คนขับแท็กซี่ก็มองเธอผ่านกระจกมองหลังบ่อย ๆ หลายครั้ง ในดวงตาซ่อนความระแวดระวังไว้ คิดว่าเธอเป็นพวกคนไม่ดี
รับรู้สึกถึงสายตาของคนขับแท็กซี่ ญาธิดาจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ รีบแสร้งแสดงท่าทางโมโห “พี่ ขอไม่ปิดบังเลยนะคะ ฉันคิดว่าเธอน่าจะแอบไปพบกับแฟนของฉัน ดังนั้นฉันถึงได้สะกดรอยตามเธอ…..”
เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ คนขับแท็กซี่ก็คลายความสงสัย หนำซ้ำยังกล่าวปลอบใจเธออีกสองสามประโยค จากนั้นเหยียบคันเร่งตามติดแท็กซี่คันหน้าอย่างไม่ห่าง
รถแท็กซี่ได้วิ่งไปตามถนนสองสายในใจกลางเมือง สุดท้ายก็มาจอดอยู่ที่ด้านหน้าของStarlight Mall ญาธิดามองพลอยรินลงจากรถ จึงได้รีบจ่ายเงินให้กับคนขับแท็กซี่แล้วก็ลงจากรถตาม
เธอสวมหมวก แล้วยังเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าอีก ต่อให้พลอยรินเห็นเธอ ก็คงจะจำเธอไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นพลอยรินตอนนี้ดูมีความสุขมากเหมือนกับว่ากำลังจะไปพบใครบางคนอย่างเห็นได้ชัด
ญาธิดาตามเธอไปติด ๆ เห็นเธอเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของร้านกาแฟในStarlight Mall
เธอจงใจหยุดชะงักครู่หนึ่ง ก่อนที่จะสาวเท้าตามขึ้นไป
ชั้นสองที่นั่งเป็นแบบโซฟาบูธ การมองหาคนจึงค่อนข้างลำบาก ญาธิดายืนอยู่หน้าบันได กำลังลังเลว่าจะเดินหน้าหรือไม่นั้น ฉับพลันก็มองเห็นเงาสะท้อนออกมาจากกระจก ฝีเท้าของเธอจึงหยุดชะงัก
ทันที
หญิงสาวที่นั่งตรงข้ามกับพลอยรินซึ่งอยู่ไม่ไกล แต่งตัวสะสวยสะดุดตาผู้คน ถ้าไม่ใช่นิวราแล้วจะเป็นใครได้อีก
เธอราวกับถูกสะกดจุดเอาไว้ จนร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้ แล้วก็มองไปทางนั้น ทำให้วู่วามรู้สึกอยากจะเดินเข้าไป
เป็นเธอเองเหรอ
เธอราวกับถูกสะกดจุดเอาไว้ จนร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้ แล้วก็มองไปทางนั้น ทำให้วู่วามรู้สึกอยากจะเดินเข้าไป
สักพัก เธอก็สงบสติอารมณ์ แล้วเดินลงจากตึกทันที เดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์ และก็มีหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ข้าง ๆ จริง ๆ ซึ่งในนั้นแสดงภาพกล้องวงจรปิด
ญาธิดาเบิกตาโตแล้วกวาดมองจนมั่นใจตำแหน่ง
ใช่นิวราจริง ๆ ด้วย! พลอยรินนั่งอยู่ตรงด้านหน้าเธอ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มระรื่น
นิวราไม่รู้ว่าคุยอะไรกับเธอ มองซ้ายมองขวาแล้วหยิบบัตรใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้ววางลงบนโต๊ะ
พลอยรินรีบยิ้มอย่างประจบประแจงแล้วหยิบขึ้นมาด้วยสองมือทันที
เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริง ๆ มีคนคอยขัดขาจริงด้วย!
เพียงแต่ว่าสิ่งที่ที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือ คนคนนั้นจะเป็นนิวรา!
นี่ทำให้เธอได้ประโยชน์อย่างไร!
เธอทำแบบนี้ รังแต่ทำให้งานของเธอยืดเยื้อออกไป การพบกันของเธอกับภวินท์ก็จะยิ่งมากขึ้น เวลาก็จะยิ่งยาวนานขึ้น
ทำไมเธอต้องทำแบบนี้
ในขณะเดียวกัน นิวราที่อยู่ชั้นสองของร้านกาแฟได้มองหญิงสาวที่ประจบสอพลอตรงหน้าด้วยสายตาที่เดียดฉันท์เล็กน้อย
เธอกล่าวอย่างหมดความอดทน “ปิดปากเธอไว้ให้ดี เข้าใจไหม”
พลอยรินพยักหน้ารัว ๆ “เข้าใจ ๆ!”
นิวราฮึดฮัด ไม่อยากจะพูดมากไปกว่านี้
เธอคิดไม่ถึงว่า ภวินท์ไม่เพียงแต่เจอกับญาธิดาครั้งแล้วครั้งเล่า ยังเซ็นสัญญาร่วมกับเธอเพื่อถ่ายทำหนังสั้นการกุศลอีก!
เมื่อรู้เรื่องนี้เข้า เธอจึงโกรธมากจนหัวแทบจะระเบิด ดังนั้นเธอจึงคอยขัดขา เพื่อจะทำให้การถ่ายทำภาพยนตร์สั้นของญาธิดาพังลง ทำให้ภวินท์ได้เห็นว่าญาธิดาคนนี้ไม่มีความสามารถเลย!
นิวราหันไปมองพลอยรินแวบหนึ่ง ในแววตาผุดความรำคาญขึ้น “เอาล่ะ เธอไปได้แล้ว”
“ค่ะ ได้ค่ะ อย่างนั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว คุณนิว หากครั้งหน้ายังมีโอกาสค่อยร่วมงานกันใหม่นะคะ”
พลอยรินพลางยิ้มพลางลุกขึ้น ใครจะไปรู้เมื่อหันไปก็เห็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีหน้าก็ชะงักค้างทันที
“คุ…คุณธิดา”
ญาธิดามองเธอด้วยสายตาเย็นชา ส่งเสียงหึแล้วกล่าวเบา ๆ “ใจร้อนเช่นนี้ อยากจะไปไหนเหรอ”
หญิงสาวที่อยู่ด้านหน้าก็คิดไม่ถึงว่าญาธิดาจะปรากฏตัว เธอขมวดคิ้ว เม้มปากแล้วมองดูเธออย่างเย็นชา
ญาธิดายื่นมือออกมา แล้วดึงบัตรเอทีเอ็มใบนั้นที่อยู่ในมือของพลอยริน จากนั้นจ้องมองเธอแล้วยิ้มอย่างดูแคลน “ไม่รู้ว่าในบัตรนี้มีเงินเท่าไหร่กันนะ ถึงได้ทำให้เธอทรยศการงานของตัวเองเช่นนี้”
พลอยรินระแวงจนพูดอะไรไม่ออก นิวรานอกจากสีหน้าดูแย่แล้ว อย่างอื่นไม่มีอะไรผิดปกติ เธอเหลือบมองญาธิดาอย่างดูถูกแวบหนึ่ง แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “ไม่เข้าใจว่าเธอพูดเรื่องอะไรอยู่ที่นี่ เห็นเธอแล้วช่างหงุดหงิดใจ”
เธอพลางพูดพลางลุกขึ้น หยิบกระเป๋าแล้วจะจากไป
ญาธิดารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วถ่ายไปที่นิวรากับพลอยรินและบัตรเอทีเอ็มอย่างรวดเร็ว จากนั้นโยนบัตรเอทีเอ็มทิ้งลงบนโต๊ะ แล้วก็กล่าวอย่างเย็นชา “นิวราถ้าให้ภวินท์รู้ว่าเธอเป็นคนทำเรื่องนี้ขึ้น เขาจะเป็นอย่างไรน๊า”
เมื่อเอ่ยถึงภวินท์ สีหน้าของนิวราก็ขาวซีดฉับพลัน
เธอมองญาธิดาอย่างระแวดระวัง “เธอคิดจะทำอะไร”
“หนังสั้นการกุศลนี้เป็นโครงการที่ภวินท์ให้ความสนใจ เธอรู้ไหมว่าหากภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ทำสำเร็จ จะสามารถทำรายได้ให้กับ STN Group มากมายเพียงใด แต่ตอนนี้เธอกลับทำลายมันอย่างตั้งใจ เธอคิดว่าเขาจะดีใจออกไหม”
คำพูดของญาธิดาฉับพลันทำให้นิวราถึงกับพูดไม่ออก “เธอ……”
พลอยรินที่ยืนดูพวกเขาอยู่ข้าง ๆ ได้เอ่ยปากขึ้น “พวกเธอสองคนจะมีเรื่องกัน ฉันขอตัวก่อนนะ”
พลางพูดเธอพลางยื่นมือไปคว้าบัตรเอทีเอ็ม จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไป
เพียงครู่เดียวก็เหลือเพียงญาธิดากับนิวราสองคนให้เผชิญหน้ากันอย่างเงียบ ๆ
ญาธิดาหายใจเข้าลึก ๆ หยุดชะงักครู่หนึ่ง จู่ ๆ ก็ยกมุมปากแล้วกล่าวออกมาทีละคำ ๆ “ให้ฉันเดานะ ว่าที่เธอทำเช่นนี้ทำเพื่ออะไร”
“เธอจงใจทำให้ฉันเกิดความยากลำบากในการถ่ายทำภาพยนตร์สั้น ก็เพื่อให้ภวินท์รู้สึกว่าฉันไม่มีความสามารถมากพอ จะได้เกลียดฉัน รำคาญฉันด้วยเหตุผลนี้ใช่ไหม”
นิวราหน้าถอดสี แต่ว่ายังคงกล่าวด้วยเสียงแข็ง “เธอพูดมั่วอะไรกัน! ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย!”
“นิวรา งานฉลองวันครบวันเกิดของคุณย่าครั้งก่อน ฉันเคยได้บอกเตือนเธอแล้ว หากฉันคิดจะทำอะไรฉันทำมันตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว สาเหตุที่ฉันยังไม่ได้ลงมือทำ เป็นเพราะว่าฉันไม่มีความเสน่หาในตัวของภวินท์ เดิมทีฉันคิดว่าจะรีบทำงานให้แล้วเสร็จจะได้จากไป ไม่ติดต่อยุ่งเกี่ยวกับภวินท์อีก แต่เพราะการกระทำโง่ ๆของเธอ ทำให้งานของฉันต้องยืดเยื้อออกไป ทำให้เวลาที่ฉันต้องอยู่กับภวินท์ถึงนานขึ้น”
เธอกล่าวฮึดฮัดและทิ่มแทงอย่างแรง “เธอนี่มันขุดหลุมให้ตัวเองชัด ๆ สงเคราะห์พวกเรา นิวราเธอนี่ช่างเสียสละจริง ๆ”
นิวราชะงักงัน สีหน้าแทบดูไม่ได้ “เธอมันผู้หญิงบ้า!”
ญาธิดายิ้ม แล้วส่ายโทรศัพท์ในมือถือไปมา แล้วเอ่ยปากกล่าว“อีกอย่าง ถ้าฉันนำรูปเหล่านี้ไปให้ภวินท์ดู เขาจะคิดยังไง”
ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ เธอนี่ยังช่างทำเรื่องงามหน้าจริง ๆ
นิวราโมโหขึ้นทันที “ญาธิดาแกกล้าเหรอ!”
“เธอว่าฉันจะกล้าไหมล่ะ แค่ฉันขยับนิ้วมือ ก็จะสามารถส่งรูปเหล่านี้ไปให้กับเขาแล้ว”
นิวรากระวนกระวายใจ เธอมองโทรศัพท์ในมือของญาธิดา เวลานี้จึงตระหนักได้ถึงความโง่เขลาของตัวเองในครั้งนี้
เธอกัดฟัน ดวงตาประกายความอาฆาต แล้วยื่นมือออกมาอย่างกะทันหัน จากนั้นคว้าโทรศัพท์ในมือของญาธิดาไป แล้วก็โยนทิ้งลงพื้นอย่างแรง
เสียงดัง “แคร็ก!” โทรศัพท์แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ หน้าจอแตกพังยับจนกลายเป็นใยแมงมุม
ญาธิดาเองก็คิดไม่ถึงว่านิวราจะทำแบบนี้ เธอยืนตะลึงงันชั่วครู่ กำลังมองดูโทรศัพท์บนพื้นอย่างมึนงง นิวราที่อยู่ด้านหน้าได้ตะโกนใส่เธอ “ผู้หญิงบ้า! ฉันจะตบเธอให้ตาย!”
ญาธิดาเงยหน้าขึ้น เห็นมือของนิวราที่กำลังพุ่งมาทางใบหน้าตัวเอง เธอจึงหลบไปข้าง ๆ แต่ทว่าได้ช้าไปก้าวหนึ่ง เล็บยาว ๆ ของนิวราข่วนเข้าที่แก้มของเธอ ทันใดนั้น แก้มของเธอก็เกิดเป็นรอยแดง
นิวราราวกับรู้สึกยังไม่หนำใจ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วเดินมาด้านหน้า ง้างมือขึ้นเพื่อจะตบเธออีกครั้ง
ญาธิดาถูกฝ่ามือที่ตบเข้ามาอย่างไม่ยั้งของเธอทำให้มึนงง เธอหลบไม่ทัน รีบหลับตาทันทีเมื่อเห็นฝ่ามือที่กำลังจะตบเข้ามา
และเวลานี้ จู่ ๆ ด้านข้างก็มีร่างหนึ่งได้ก้าวเดินมาด้านหน้า มาบังตัวของเธอไว้