ดวงใจภวินท์ - บทที่ 449 มาหาคนคนหนึ่ง
บทที่ 449 มาหาคนคนหนึ่ง
เมื่อเอ่ยถึงนิวรา ญาธิดาย่อมรู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เล่น ๆ ครั้งนี้เธอเสียหน้าต่อหน้าพวกเขา ไม่แน่ครั้งหน้าอาจจะใช้อุบายเล่นงานเธอ
แต่ว่าเธอไม่กลัว
ญาธิดายิ้มให้กับคิริน “วางใจเถอะ ฉันรู้ว่าต้องทำอย่างไร”
คิรินได้ยินดังนั้นจึงฉีกปากยิ้มและขยิบตาให้เธอประหนึ่งถูกขโมยหัวใจก็ไม่ปาน “อย่าลืมคิดถึงผมนะ”
ไม่รอให้เธอตอบกลับ ประตูรถก็ได้ปิด รถถูกสตาร์ทแล้วก็ขับแล่นออกไป
ญาธิดายืนยิ้มมุมปากอยู่ที่เดิม แล้วก็ค่อย ๆ หันหลังจากไป
คิรินคนนี้ช่างเป็นเพื่อนที่น่าคบมากเลยทีเดียว
ยิ่งการกระทำของเขาไม่ต้องพูดถึง วันรุ่งขึ้นญาธิดามาถึงที่กองถ่าย เดิมทีอยากจะปรึกษาเรื่องนักแสดงใหม่กับคุณบิ๊ก แต่ใครจะไปรู้ว่าตอนบ่ายวันนั้น ก็มีนักแสดงใหม่มารายงานตัวที่กองถ่าย
เป็นหญิงสาวที่คิรินช่วยเลือกมาให้ อายุไม่มาก เคยรับบทเป็นนักเรียนในภาพยนตร์ของผู้กำกับชื่อดังที่มีบทพูดเพียงประโยคเดียว ดูมีออร่าและใสซื่อบริสุทธิ์ เหมาะกับบทในภาพยนตร์สั้นที่พวกเขาต้องการ
ระหว่างการออดิชั่น คุณบิ๊กพยักหน้ารัว ๆ อยู่ข้าง ๆ แววตาเต็มไปด้วยความพอใจ “หนิงหนิงคนนี้ไม่เลว ดีกว่าพลอยรินมากเลย!”
“ธิดา เธอเลือกนักแสดงได้เก่งมากเลย!”
ญาธิดายิ้ม “ไม่ใช่ฉันค่ะ เป็นเพื่อนของฉันที่ช่วยเลือก”
คุณบิ๊กไม่ได้ใส่ใจ หลังจากชื่นชมญาธิดาแล้ว ก็เริ่มเตรียมการถ่ายทำฉากก่อนหน้านี้บางส่วนใหม่ทันที ภาพบางส่วนที่สามารถใช้ได้ก่อนหน้านี้ทำการเก็บไว้ ส่วนที่เหลือให้หนิงหนิงถ่ายเพิ่มเสริมเข้าไป เช่นนี้จะได้ทันความคืบหน้าของงาน
มองดูกองถ่ายที่ค่อย ๆ ฟื้นฟู ญาธิดาก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก หยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความให้กับคิริน
ครู่เดียว ทางฝั่งนั้นก็ได้ตอบกลับมา “ระหว่างเราจะต้องขอบคุณอะไรกัน เปลี่ยนเป็นเลี้ยงข้าวผมวันหลังแล้วกัน!”
มองดูกองถ่ายที่ค่อย ๆ ฟื้นฟู ญาธิดาก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก หยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความให้กับคิริน
ญาธิดายิ้มแล้วตอบกลับ “ได้เลยค่ะ”
ไม่กี่วันหลังจากนั้น ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น เมื่อเทียบกับพลอยรินก่อนหน้านี้ หนิงหนิงแสดงออกมาได้ดีกว่า การให้ความร่วมมือที่สูง การเข้ากับคนได้ดี คอยสั่งอาหารสั่งชานมให้กับทีมงานในกองถ่ายตลอดเวลา เป็นที่โปรดปรานของทุกคน ในเวลาไม่กี่วัน ทีมงานก็ค่อย ๆ ลืมการบ่นเซ็งก่อนหน้านี้ แล้วหันมาตั้งใจทำงาน
เห็นความเปลี่ยนแปลงของกองถ่าย ญาธิดาก็รู้สึกสุขในใจ ตามทันความคืบหน้า ก็แสดงว่าเธอสามารถทำงานให้แล้วเสร็จทันเวลาตามกำหนดเดิม สิ้นสุดสัญญากับภวินท์เร็ว ๆ และเอาคลิปนั้นกลับมา จากนั้นก็ออกจากเมือง Jไป
แต่เธอคิดไม่ถึงว่า จะมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เร็วขนาดนี้
วันเสาร์ ขณะที่ญาธิดากำลังเดินทางไปยังกองถ่าย เมื่อเธอรับสายของคุณบิ๊กที่โทรมารัว ๆ เสียงลนลานของฝั่งนั้นดังขึ้นทันที “ธิดา เกิดเรื่องแล้ว!”
ญาธิดาที่กำลังขับรถอยู่ เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ หัวใจก็เต้น “ตึก”ไปทีหนึ่ง “เกิดอะไรขึ้น”
น้ำเสียงของคุณบิ๊กซ่อนด้วยความลนลาน “ผมได้ยินข่าวมาว่าวันนี้คุณภวินท์จะเข้ามาตรวจกองถ่าย!”
ญาธิดามึนงง “แล้วยังไง”
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปของอีธาน เอลล่าหรือว่าการถ่ายทำหนังสั้นการกุศลในครั้งนี้ ภวินท์ก็จะมาสถานที่ถ่ายทำเป็นครั้งคราว เพราะอย่างไรโครงการนี้ก็เชื่อมโยงโดยตรงกับภาพลักษณ์ของ STN Group เขามาบ่อย ๆ ก็เพื่อดูให้แน่ใจถึงประสิทธิภาพของงาน
พวกเขาไม่ได้ทำเรื่องที่ผิด ต่อให้เขามาตรวจ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว
“แต่เรื่องที่พวกเราเปลี่ยนตัวนักแสดงไม่ได้บอกกับเขา”
ตอนแรกที่พวกเขาตัดสินใจเลือกตัวนักแสดงนั้นได้บอกกับภวินท์ ต่อมาพลอยรินเธอเองไม่อยากถ่ายทำต่อ นักแสดงของพวกเขาจึงเปลี่ยนเป็นหนิงหนิง เพราะช่วงนี้ STN Group เผชิญกับคลื่นซัดไม่หยุดหย่อน พวกเขาจึงไม่ได้แจ้งให้กับเขา
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ลังเลครู่หนึ่ง “แล้วฉันจะอธิบายให้เขาฟังเอง”
เรื่องนี้ ถ้าให้พูดแล้วก็เกี่ยวข้องกับเธอ นิวราคอยขัดขา ให้พลอยรินยุติการแสดง เรื่องนี้จะโทษกองถ่ายไม่ได้
ทางฝั่งคุณบิ๊กก็ยังไม่คลายความกังวล “ผมได้ยินมาว่าเรื่องไม่ได้ง่ายขนาดนั้น อย่างไรคุณก็รีบมาเถอะ คุณภวินท์ก็คงน่าจะใกล้มาถึงแล้ว”
“ได้”
เมื่อวางสายลง ญาธิดาก็เหยียบสุดคันเร่ง มุ่งหน้าไปยังกองถ่าย
เวลานี้ ไม่ว่าจะอย่างไร เธอในฐานะหัวหน้าผู้กำกับโครงการ ภาระนี้เธอจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ
มาถึงกองถ่ายอย่างรีบร้อน เห็นคุณบิ๊กที่หน้าประตู ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึก เร่งฝีเท้าก้าวเดินมาด้านหน้า แล้วเอ่ยปากถามขึ้น“ภวินท์มาถึงหรือยัง”
“ยังครับ แต่ว่าน่าก็จะใกล้แล้วล่ะ คุณพายุได้โทรศัพท์มาแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ญาธิดาก็พยักหน้า โดยในใจรู้ว่าต้องทำอย่างไร จึงกำชับทีมงานกองถ่ายให้ทำงานตามปกติ ควรจะทำอะไรก็ให้ทำต่อไป
หลังจากที่พวกเขาเริ่มการถ่ายทำได้ไม่นาน สักพัก ก็มีรถ RV สีดำขับเข้ามาใกล้และจอดอยู่ข้าง ๆ
ญาธิดาหันหน้าไปมองอยู่ครู่หนึ่งโดยไม่ได้ลุกขึ้นมา
เธอไม่เคยเห็นภวินท์นั่งรถ RV มาก่อน นี่น่าจะไม่ใช่รถของเขา
สักพักประตูหลังรถก็เปิดออกกว้าง ครามเข็นภูผาลงมา ผู้คนในกองกายต่างหันหน้าไปมอง เมื่อเห็นพวกเขาต่างก็ประหลาดใจ
ใคร ๆ ก็รู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาภวินท์กับภูผาต่อสู้กันทั้งที่ลับที่แจ้งอย่างไม่หยุดหย่อน ตอนนี้ภูผากลับมาปรากฏตัวที่นี่อย่างยิ่งใหญ่
ภูผามีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเขา ไม่มีการวางมาดใด ๆ ดวงตาเป็นมิตร รอยยิ้มเต็มใบหน้า ผิวพรรณที่ทำให้คนอยากจะเข้าใกล้
หากว่าเป็นเมื่อก่อน ญาธิดายังคงมีความรู้สึกนี้ แต่ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเขากับภวินท์ รู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย
เธอนั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ลุกขึ้นมา
แต่คุณบิ๊กที่อยู่ข้าง ๆ ได้ลุกยืนขึ้น เดินหน้าไปต้อนรับ พร้อมกับทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม “ท่านรองประธาน……”
เมื่อเสียงเรียกเช่นนี้ได้เปล่งออกมา เขาจึงตระหนักได้ว่าไม่เหมาะสม หน้าจึงได้ขาวซีดเผือด
ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน ภูผาเพิ่งจะประกาศบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เรื่องที่เขาก้าวลงจากตำแหน่งรองประธาน STN Group และจากนั้นก็ตั้งบริษัทเป็นของตัวเองขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เขาย่อมไม่ใช่ “รองประธาน” ที่กระจอกงอกง่อยแล้ว
เขายังเป็น “ประธาน” ที่มีชื่อเสียงคนที่สองแห่งเมือง J เป็น “ประธาน” คนที่คิดจะต่อกรกับภวินท์ และก็เป็น “ประธาน” ผู้ที่มีความทะเยอทะยาน จิตใจยากจะคาดเดาได้
นัยน์ตาของภูผาได้แวบความคมกริบเข้ามา ครู่เดียวก็แวบหายไปทันที
คุณบิ๊กรู้ตัวว่าตัวเองได้พูดผิดไป จึงรีบทำการขอโทษขอโพย “คุณภูผา ขอโทษด้วยครับ…..”
“ไม่เป็นไร”
ภูผายกมือขึ้น และดูเหมือนจะมีรอยยิ้มกว้าง ดวงตายังคงดูอ่อนโยนดุจน้ำ “ที่ผมมาที่นี่ เพราะมาหาใครคนหนึ่ง”
คุณบิ๊กรีบถามขึ้น “ไม่ทราบว่าคุณภูผานั้นมาหาใครครับ”
ภูผายิ้มแล้วกล่าว “มาหาศิลปินภายใต้สังกัดของผม หนิงหนิง”
เมื่อคำพูดนี้เปล่งออกมา ทุกคนในกองถ่ายต่างขมวดคิ้วทันที แม้แต่ญาธิดาที่นั่งอยู่ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
หนิงหนิง ทำไมถึงเป็นศิลปินภายใต้สังกัดของ STN Group เธอหันหน้าไปมองทางหนิงหนิง หนิงหนิงยืนอยู่ที่เดิม เกิดความลังเลเล็กน้อย
ภูผาเงยหน้ามองมาทางเธอ ยิ้มเบา ๆ แล้วกล่าวขึ้น “หนิงหนิง จะให้ผมไปหาคุณหรือไง”
หนิงหนิงเดินเข้าเขาอย่างลังเล แววตามีความขลาดเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังกลัว
ญาธิดารีบลุกขึ้นทันที เดินมาถึงด้านหน้าหนิงหนิงแล้วถามขึ้นก่อนที่เธอจะเดินไป “เกิดอะไรขึ้น”
หนิงหนิงคือคนที่คิรินช่วยเธอเลือกมา ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถึงจะถูก อีกอย่างเธอไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ดังนั้นไม่น่าจะเป็นที่คุ้นเคยสำหรับผู้ชม
ภูผาทำไมถึงมาที่นี่ด้วยตัวเองเพื่อนักแสดงเล็ก ๆ ได้ล่ะ
คิดอย่างไรก็ไม่ใช่
หนิงหนิงมองญาธิดาอย่างลังเล หายใจเข้าลึก ๆ แล้วกล่าว “ฉันได้เซ็นสัญญากับบริษัท พีพีมีเดียจริง ๆ แต่ว่าเพิ่งเซ็นไปเมื่อไม่นานนี้เองค่ะ”