ดวงใจภวินท์ - บทที่ 454 ลางร้าย
บทที่ 454 ลางร้าย
ทั้งสองประสานตากัน หนึ่งวินาที สองวินาที สามวิ……
รู้สึกถึงความกุ๊กกิ๊กค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในอากาศ ญาธิดาเกิดความระแวง เบือนหน้าหนีจากมือของเขา และเว้นระยะห่างระหว่างทั้งคู่ “รักษาตัวด้วย”
หลังจากที่กล่าวจบ เธอก็รีบผลักประตูที่อยู่ข้าง ๆ แล้ววิ่งหนีราวกับสัตว์ตัวน้อย ๆ
ดวงตาของชายหนุ่มทั้งดำและเป็นประกาย ลุ่มลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง เธอกลัวจริง ๆ กลัวว่าเมื่อจ้องมองแล้วตัวเองจะค่อย ๆ จมดิ่งเข้าไปสู่ในห้วง
รีบออกจากห้องรับรอง เดินออกมาได้ช่วงหนึ่ง ร่างกายที่ตึงเครียดของเธอถึงได้ผ่อนคลายลง
“สวัสดีค่ะคุณธิดา”
ข้าง ๆ มีพนักงานได้เดินผ่านมา แล้วทำการทักทายกับเธอ เห็นได้ชัดว่าดวงตาหยุดนิ่งอยู่ที่ลำคอของเธอ
ญาธิดายิ้มให้กับพนักงาน สังเกตเห็นการจ้องมองของเธอ ถึงนึกขึ้นได้ว่าสร้อยคอไพลินเส้นนั้นยังคงสวมอยู่บนคอของเธอ
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก รีบเดินมาไปยังสถานที่ที่ไม่มีคน แล้วถอดสร้อยคอออกมา
สร้อยคอเส้นนี้ช่างเป็นที่สะดุดตาผู้คนนัก เพื่อไม่ให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เธอถอดออกมาเก็บไว้จะดีกว่า
เมื่อเก็บสร้อยคอเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินไปยังพื้นที่ถ่ายทำ พูดคุยกับพนักงานสองสามประโยค จากนั้นก็เริ่มงานถ่ายทำต่อทันที
ไม่ถึงสิบนาที ภวินท์ก็เดินออกมาจากห้องรับรอง พาพายุขึ้นรถแล้วจากไป ญาธิดาหันหน้ามามองรถยนต์ที่จากไป แล้วก็คลายความโล่งใจ
เมื่อเลิกงานแล้วกลับถึงบ้าน ญาธิดาถึงได้วางกระเป๋าในมือลง คุณปภาวีเดินเข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “ธิดา พรุ่งนี้พ่อของหนูจะพาแม่ออกไปเที่ยว”
ญาธิดายิ้มแล้วถาม “ไปเที่ยวไหนคะ”
“ไปที่หมู่บ้านน้ำใส พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของหนูไม่ใช่เหรอ! พ่อของหนูบอกว่าเป็นวันทรมานของแม่ด้วย ดังนั้นอยากจะพาแม่ออกไปพักผ่อนสักหน่อย”
เธอกล่าวและยิ้มหวานไปทางกับดร.ยติภัทรที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟา
ญาธิดาหันหน้าไปมอง เห็นดร.ยติภัทรที่ไม่ละสายตาจากการจดจ่อหนังสือพิมพ์ในมือ แต่เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นของคุณปภาวี มุมปากของเขาก็ยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
เห็นความอ่อนหวานของทั้งคู่ ญาธิดาก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น
ดูเหมือนว่าเนื่องจากดร.ยติภัทรมีอาการป่วยหนักมาก่อน ดังนั้นจึงรักคนรอบข้างอย่างมาก อายุยิ่งมาก เขาก็ยิ่งรักคุณปภาวีมาก
เธอในฐานะลูกสาว รับรู้ด้วยตา สัมผัสความหวานด้วยใจ
เธอหันหน้าไปมองคุณปภาวี ยิ้มแล้วกล่าวเบา ๆ “หนูเห็นด้วยอย่างมากเลยค่ะ พรุ่งนี้แม่กับพ่อไปเที่ยวกันให้สนุก! ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นนะคะ!”
“ได้ ไม่ต้องเป็นห่วง แม่เองก็ไม่มีทางไม่สนใจหนูเช่นกัน! แม่ได้บอกกับลูกเขยแล้ว! เขาบอกว่าจะเตรียมเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ให้กับหนู แม้แต่แม่เขาก็ไม่ยอมบอก!”
พลางพูดคุณปภาวีพลางเข้าใกล้เธอ แล้วขยิบตาอย่างมีเลศนัยให้กับเธอ
รอยยิ้มบนใบหน้าของญาธิดาก็ยิ่งลุ่มลึกขึ้น และก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
ครอบครัวปรองดอง ลูก ๆ พร้อมหน้าพร้อมตากัน ชีวิตแบบนี้เป็นชีวิตที่เธอรอคอย
“พรุ่งนี้แม่กับพ่อไปเที่ยว หนูกับลูกเขยทัตและลูกน้อยอีกสองคนฉลองกันให้สนุกนะ!”
ฟังคำกำชับย้ำ ๆ ของคุณปภาวี ญาธิดาพยักหน้ารัว ๆ ยิ้มแล้วตอบรับ “ค่ะ ๆ หนูจะฟังคำแม่”
คืนนั้น ไม่รู้ว่าคุณบิ๊กไปรู้ข่าวมาจากไหน เรื่องที่วันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของธิดา เขาได้ส่งข้อความมาบอกว่าให้เธอพักผ่อนอยู่บ้านเรื่องกองถ่ายเขาจะรับหน้าที่เอง
เห็นคำอวยพรวันเกิดของคุณบิ๊ก ญาธิดายกริมฝีปากขึ้น รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก
อันที่จริง หากไม่ใช่วันนี้ภวินท์ได้พูดขึ้น เธอคงลืมวันเกิดของตัวเองแล้ว ห้าปีก่อนที่อยู่อเมริกานั้น เธอนึกถึงเรื่องราวตอนนั้นว่า เธอก็เคยลืมวันเกิด แต่เมื่อลืมไปแล้วก็ลืมไปเลย คิดไม่ถึงว่าที่เมือง J จะมีมากมายจำวันเกิดของเธอได้ และให้ความอบอุ่นความสุขกับเธอมากมายเช่นนี้
ในวันปกติ เพราะความเอาใจใส่ของทุกคน เธอรู้สึกถึงพิธีการและความเซอร์ไพรส์ จึงทำให้เธอเกิดการรอคอยเล็กน้อย
วันรุ่งขึ้น เมื่อญาธิดาตื่นขึ้นมา พบว่าในบ้านเหลือเพียงเธอคนเดียว คุณปภาวีกับดร.ยติภัทรออกไปแต่เช้าตรู่ และยังทิ้งอาหารเข้าไว้ให้กับเธอ ลูกแฝดก็ถูกอัญมณีรับตัวไปตั้งแต่เช้า
ฉับพลัน ตัวบ้านก็เงียบสงบลง เธอกลับรู้สึกไม่คุ้นชิน
และก็ไม่รู้ว่าธีทัตได้เตรียมอะไรไว้มาเซอร์ไพรส์เธอ ถึงได้รับตัวเด็ก ๆ สองคนไป
ญาธิดากำลังครุ่นคิด ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วยกโจ๊กลูกเดือยขึ้นนำไปอุ่นในไมโครเวฟ
สักพัก ไม่กี่นาที ไมโครเวฟก็ดัง “ติ๊ง–” ขึ้น เธอกำลังใจลอยกับความคิด จนลืมหยิบผ้ามารองจับ แล้วยื่นมือไปยกโดยตรง
ใครจะไปรู้ เมื่อยกขึ้นมา ก็รู้สึกแสบร้อนที่ปลายนิ้ว เธอจึงหดมือแล้วทิ้งถ้วยโจ๊กลง
ถ้วยกระเบื้องเล็กลื่นไปตามขอบโต๊ะและกระแทกลงกับพื้นเสียงดัง “เพล้ง!” อย่างชัดเจน ถ้วยกระเบื้องแตกละเอียดเป็นชิ้นเสี่ยงๆ โจ๊กลูกเดือยในนั้นก็กระเซ็นออกมา
ญาธิดาได้สติคืนฉับพลัน แล้วรีบถอยหลังสองก้าว มองดูความเลอะเทอะบนพื้น สมองว่างเปล่าไปหมด
หลังจากหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอก็ได้กลับมารู้สึกตัว
ทำไมถึงได้ไม่ระวังทำถ้วยตกเช่นนี้นะ
เวลานี้ ในสมองของเธอแวบขึ้นด้วยคำพูดของคุณปภาวีที่บอกกับเธอทุกครั้งในฉลองวันเกิดเมื่อตอนยังเป็นเด็กว่า “การทำสิ่งของแตกเป็นเรื่องต้องห้ามในวันเกิด เป็นลางร้าย ดังนั้นจะต้องระมัดระวัง!”
แต่ว่าตอนนี้……เป็นลางร้ายใช่ไหม
ญาธิดาตึงเครียดขึ้น เกิดความสับสนในใจ มองดูความเละเทะบนพื้น สูดลมหายใจเข้าลึก สาวเท้าเดินไปยังข้าง ๆ แล้วหยิบไม้กวาดมา จากนั้นทำความสะอาดเศษและของเหลวบนนพื้นอย่างรวดเร็ว แล้วหยิบไม้ถูพื้นมาถูอีกหนึ่งรอบ
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ ก็เป็นเวลาสิบนาทีต่อมาแล้ว ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึก มองดูพื้นที่เรียบสะอาดแวววาว ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ในใจรู้สึกไม่สบายใจ
แต่เช้าตรู่ จู่ ๆ ก็เกิดขึ้นเล็ก ๆ แบบนี้ขึ้น ราวกับเป็นการขว้างก้อนหินลงไปในทะเลสาบแห่งหัวใจที่เดิมทีสงบของเธอ ทำให้เกิดคลื่นน้ำเป็นระลอกในวงกว้าง เปลี่ยนแปลงบางอย่างโดยมองไม่เห็น
ทันใดนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ได้ดังขึ้น ทำลายความคิดของเธอ เมื่อเธอรู้สึกตัว ก็เดินมาที่ข้าง ๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเป็นธีทัตที่โทรศัพท์เข้ามา
เมื่อกดรับสาย แล้วแนบโทรศัพท์ไว้ข้างหู เสียงชายหนุ่มดังขึ้นจากปลายสาย “ธิดา ตื่นหรือยังครับ”
ได้ยินเสียงที่ตื่นเต้นเล็กน้อยของชายหนุ่ม ญาธิดาก็ยกริมฝีปากขึ้น กล่าวเบา ๆ “ตื่นแล้วค่ะ”
“เตรียมตัวไว้นะ อีกสักครู่ผมจะส่งตำแหน่งไปให้ แล้วคุณก็มาตามที่อยู่นะ”
ญาธิดายิ้ม อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “พวกคุณกำลังทำอะไรกันแน่ พาอีธาน เอลล่าไปแต่เช้า……”
“วางใจได้ คุณจะต้องชอบอย่างแน่นอน” เสียงธีทัตราวกับลมเย็นในเดือนห้า อบอุ่นและนุ่มนวล ซึมซาบเข้าไปในหัวใจทำให้รู้สึกสดชื่น
“ได้ แล้วฉันจะรอดูนะว่าจะเซอร์ไพรส์อะไร”
น้ำเสียงของชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม “งั้นครั้งนี้ผมไม่ไปรับคุณแล้วนะ ลำบากคุณต้องเดินทางด้วยตัวเองแล้ว”
“ได้ ฉันจะไปเอง”
เมื่อวางสายลง ญาธิดาก็ทานอาหารเช้าที่เหลือให้หมด จากนั้นขึ้นตึกไปอาบน้ำแต่งตัว
ถึงอย่างไร เธอก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศมาห้าปีแล้ว ครั้งนี้ทำตามความต้องการของพวกเขาหน่อยก็แล้วกัน ว่าไปแล้ว เธอเองก็แอบลุ้นอยู่เหมือนกัน
เมื่อกลับมาถึงห้อง ญาธิดาก็เปิดตู้เสื้อผ้าออก หยิบชุดเซตสีม่วงอ่อนที่โดดเด่น ประดับด้วยต่างหูมุก รวบผมขึ้น แต่งหน้าอ่อน ๆ ดูเรียบหรูและอ่อนหวาน
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จ เธอก็มองตัวเองในกระจกอย่างพอใจ เก็บกระเป๋าแล้วก็ออกจากบ้านไป ขับรถมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่อยู่ที่ธีทัตส่งมาให้
เธออยากจะเห็นเหลือเกิน แผนเซอร์ไพรส์ที่ธีทัตกับลูกแฝดต่างวางไว้สำหรับเธอนั้นจะเป็นอย่างไร