ดวงใจภวินท์ - บทที่ 493 ร้านอาหารเก็นติ้ง
บทที่ 493 ร้านอาหารเก็นติ้ง
ตอนเย็นหกโมงครึ่ง คนขับรถที่ภวินท์จัดไว้ได้นำรถมาจอดที่หน้าประตูคฤหาสน์แล้ว
นิวราสวมชุดเดรสเกาะอกสีขาว เชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่งประหนึ่งหงส์ขาว
เมื่อขึ้นรถเสร็จ คนขับรถก็โค้งศีรษะให้เบาๆ “คุณผู้หญิงครับ คุณผู้ชายยังมีธุระที่ต้องจัดการนิดหน่อย ท่านจะรอคุณผู้หญิงที่หน้าตึกร้านอาหารครับ”
“ได้”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถได้มาถึงหน้าประตูตึกสูง
นิวราลงจากรถ เห็นชายหนุ่มรูปหล่อที่ยืนอยู่ไม่ไกล ใจเต้นราวกับฟ้าร้อง เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว
ภวินท์กำลังคุยบางอย่างกับพายุอะไรด้วยสีหน้าจริงจัง ได้ยินเสียงอันแสนหวานของหญิงสาวลอยดังจากข้างๆ เขาจึงหันไปมอง
“พี่วิน!”
นิวราโบกมือให้กับเขา ภวินท์ลังเลครู่หนึ่ง หันหลังมากำชับกับพายุ “ให้คนไปสืบและขยายขอบเขตวงกว้าง ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ให้ทำการประกาศ จะต้องมีคนติดต่อมาหาเองอย่างแน่นอน”
พายุพยักหน้าแล้วตอบรับคำ “ครับ”
หลังจากกำชับเสร็จแล้ว ภวินท์หันหน้ามามองนิวราที่เดินเข้ามาใกล้ จากนั้นกล่าวเบาๆ “ขึ้นไปกันเถอะ”
นิวรายิ้มอย่างอ่อนหวานและเขินอาย ยื่นมือออกมาควงแขนของภวินท์ไว้ “ไปกันเถอะค่ะ”
ภวินท์ขมวดคิ้วเกิดรอยย่นเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ไม่ได้ปัดมือของเธอออกแต่อย่างใด กลับพาเธอผ่านประตูและล็อบบี้ของตึกแล้วขึ้นลิฟต์ไป
ตึกนี้มีทั้งหมดเจ็ดสิบชั้น และร้านอาหารเก็นติ้งก็อยู่ชั้นบนสุด ดังนั้นพวกเขาต้องขึ้นลิฟต์จากชั้นหนึ่งไปถึงชั้นที่เจ็ดสิบ
ร้านอาหารเก็นติ้งมีลิฟต์ที่ขึ้นตรงไปยังร้านอาหารโดยเฉพาะ พวกเขาทั้งคู่ขึ้นลิฟต์ไป พื้นที่ลับตาคนจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดการกะหนุงกะหนิง นิวราเขยิบเข้าไปใกล้ภวินท์ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความวาบหวาม เงยหน้ามองเขาแล้วกล่าว “พี่วินคะ กุหลาบที่พี่ส่งมาให้ในตอนเช้านิวชอบมากเลยค่ะ”
ภวินท์สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวเบาๆ “ชอบก็ดี”
คำพูดของเขาสิ้นสุดลง ในลิฟต์ก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง นิวราควงแขนของเขาไว้แน่นแล้วแกว่ง จากนั้นกล่าวเบาๆ ขึ้นอีกครั้ง “พี่วินคะ เดิมทีนิวคิดว่าพี่จะลืมวันครบรอบแต่งงานของเราแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงว่าพี่จะยังจำได้ นิวรู้สึกดีใจมาก……”
ขณะที่พูด ทรวงอกอันนุ่มนิ่มของเธอได้กระแซะโดนแขนของเขาอย่างจะตั้งใจไม่ตั้งใจ
ภวินท์ขมวดคิ้วเบาๆ ดึงมือออก จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกล่าวเบาๆ “เป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว ฉันตอบกลับข้อความก่อนนะ”
ในที่สุด ลิฟต์ก็มาถึงชั้นบนสุด เมื่อมองเห็นลิฟต์เปิดออก ภวินท์ก็ถอนหายใจโล่งอก แล้วพานิวรามายังตำแหน่งที่นั่งลงที่ได้จองไว้
อาหารค่ำใต้แสงเทียน ทิวทัศน์ยามราตรีที่ชวนหลงใหล ไวน์สุราที่เลิศรส ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามที่นิวราจินตนาการไว้ทั้งหมด
เธอเหมือนกับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ลุ่มหลงในความรักอันแสนหวาน พลางจิบไวน์ชั้นเลิศ ดื่มด่ำกับฝันหวาน จนกระทั่งเหลือบไปเห็นเงาร่างหนึ่งที่คุ้นเคยในร้านอาหารอย่างไม่ตั้งใจ รอยยิ้มบนใบหน้าได้หยุดชะงักในบัดดล
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นญาธิดา!
เธอมาได้อย่างไร!
นิวราเงยหน้าขึ้น มองธิดากับธีทัตเดินเคียงข้างกันไปนั่งลงตรงด้านข้างที่ติดกับหน้าต่าง ทันใดนั้นเธอก็หายใจแรงขึ้น
เดิมทีทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอจินตนาการ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะพบกับญาธิดาในเวลานี้
“นิว ทำไมเหรอ”
ได้ยินเสียงของภวินท์ นิวราถึงได้รู้สึกตัว”
“ไม่…ไม่มีอะไรค่ะ”
เมื่อเธอรู้สึกตัว ก็ทานสเต๊กต่อ แต่ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก
ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งญาธิดาที่เพิ่งจะนั่งลงได้กวาดสายตามองไปรอบๆ มั่นใจตำแหน่งของภวินท์กับนิวราแล้ว ในใจก็พอจะรู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป
ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ ผ่านไปสักพัก จู่ๆ ก็มีพนักงานเสิร์ฟในชุดทักซิโด้คนหนึ่งเดินมาทางนิวรากับภวินท์ และนำเค้กที่วิจิตรล้อมรอบด้วยดอกกุหลาบพร้อมกับคำที่เป็นภาษาอังกฤษสุขสันต์วันครบรอบแต่งงานสามปี อีกทั้งยังแนบกล่องของขวัญขนาดเล็กไว้ด้วย
นิวราเหลือบมอง ถึงกับตกตะลึงชั่วครู่ แล้วเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ “พี่วิน พี่……”
ภวินท์เงยหน้าขึ้น วางแก้วไวน์ลงอย่างสง่างาม แล้วกล่าวเบาๆ “เปิดดูสิ”
นิวรารู้สึกปลื้มปรีติ มุมปากยกยิ้มขึ้นอย่างไม่สามารถปกปิดได้ เธอยื่นมือออกมาหยิบกล่องของขวัญจากนั้นเปิดออก เห็นแหวนเพชรอันวิจิตรอยู่ด้านใน เพชรที่เม็ดใหญ่ ประกายแวววาว
ฉับพลัน เธอปรีติดีใจจนลืมความกังวลไปอย่างสิ้นเชิง แล้วหันไปยิ้มหวานให้กับภวินท์ “ขอบคุณค่ะพี่วิน!”
ภวินท์ยกริมฝีปากขึ้น “คุณชอบก็พอ”
พนักงานที่นำเค้กมาเสิร์ฟที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นดังนั้น จึงหยิบขวดไวน์มารินให้กับพวกเขา ใครจะไปรู้ ขณะที่รินไวน์ให้กับนิวรานั้น ปากขวดเกิดเอียง ไวน์ในขวดจึงไหลหกอยู่นอกแก้วไวน์ แล้วไหลไปโดนตัวของนิวรา
นิวราขมวดคิ้วขึ้น คำดุด่าตำหนิอย่างไม่พอใจผุดขึ้นที่ริมปาก แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า จึงข่มคำพูดทันที แล้วฟังคำขอโทษขอโพยจากพนักงานเสิร์ฟ จากนั้นเม้มปากกล่าว “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันเช็ดเอง”
ชุดเดรสสีขาวถูกไวน์แดงหกใส่ จึงเห็นได้ชัดเจนมาก นิวราหยิบทิชชูมาเช็ดสองสามที ก็เช็ดไม่สะอาด
ภวินท์กล่าวเบาๆ “ไปเช็ดที่ห้องน้ำเถอะ”
“ค่ะ”
นิวราตอบรับคำ ยิ้มหวานให้กับเขา “พี่วิน รอนิวกลับมานะ”
เธอพลางกล่าวพลางหยิบกระเป๋าหนังลุกขึ้นเดินตรงไปที่ห้องน้ำ และก็ไม่วายเหลือบไปมองทางตำแหน่งที่อยู่ญาธิดากับธีทัต โต๊ะสองที่นั่งด้านหน้าหน้าต่าง ตอนนี้เหลือเพียงธีทัตเพียงคนเดียว ที่นั่งของญาธิดาว่างเปล่า
นิวราประหลาดใจเล็กน้อย แอบถอนใจโล่งอกแล้วสาวเท้าเดินไปทางห้องน้ำ
เมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำ เธอหยิบทิชชูชุบน้ำมาเช็ดชุดเดรส เช็ดได้ไม่กี่ที ก็ได้ยินเสียงสนทนาเบาๆ ลอยออกมาจากห้องน้ำด้านใน
ผู้หญิงคนนั้นกดเสียงต่ำ แต่เสียงนั้นค่อนข้างคุ้นหู นิวราบีบรัดในใจขึ้น ค่อยๆ เดินเข้าไปด้านในสองสามก้าว
“จันจิรา เธอวางใจได้ ฉันจะรับรองเรื่องความปลอดภัยให้กับเธอ ขอเพียงแค่เธอยอมเป็นพยาน……”
ได้ยิน “จันจิรา” ชื่อนี้ ตัวของนิวราก็ชะงัก เกิดความกังวลอย่างอธิบายไม่ถูก
ผู้หญิงที่ถูกชยินซื้อตัวให้ไปรับสารภาพแทนเธอกับตำรวจไม่ใช่จันจิราหรอกเหรอ หรือว่าเป็นเพียงชื่อที่เหมือนกัน ไม่ใช่คนเดียวกัน
เธอเอียงหูฟัง จดจ่อกับเสียงที่ลอยดังมาจากด้านใน
“เรื่องของน้องสาวเธอฉันก็จะรับผิดชอบด้วย ขอเพียงเธอยอมชี้ตัวคนที่บงการเธอต่อหน้าตำรวจ!”
นิวราได้ยินดังนั้น ร่างก็แข็งทื่อทันที
นี่ไม่ใช่เสียงของญาธิดาเหรอ!
สมองของเธอพลันหมุนแล่นอย่างรวดเร็ว และเข้าใจทุกอย่างในทันที เห็นที ญาธิดาจะสืบเรื่องที่จันจิรายอมเป็นแพะและรับโทษแทนได้แล้ว!
ทำอย่างไรดี!
นิวราตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เดินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว เธอสาวเท้าอย่างลนลาน เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นจึงเกิดเสียงดังขึ้น เธอยังไม่ทันเดินไปถึงหน้าประตูทางออก ประตูห้องด้านในก็ถูกคนผลักออกมา
ญาธิดาปรากฏตัวอยู่หน้าประตู โดยที่โทรศัพท์ยังแนบอยู่ที่ข้างใบหู เมื่อเห็นนิวราที่หน้าประตูด้วยท่าทางที่ตกใจเช่นกัน “เธอ เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!”
ขณะพูด เธอวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์ทันที จากนั้นรีบเดินเข้าไปหานิวรา ปิดประตูห้องน้ำแล้วทำการล็อกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะออกจากประตูไป
นิวราถอยหลังด้วยความระแวง “เธอคิดจะทำอะไร!”
ญาธิดาฮึดฮัด แล้วถามกลับ “เมื่อกี้ที่ฉันคุยโทรศัพท์เธอคงได้ยินหมดแล้วสินะ”
นิวราตอบอย่างลนลาน “พูดเรื่องอะไร ฉันไม่รู้!”
เห็นเธอปากแข็งไม่ยอมรับ ญาธิดาจึงเอ่ยปากกล่าวอย่างใจเย็น “ นิวรา เธอไม่ยอมรับตอนนี้ ก็ไม่เป็นไร ถึงเวลาพวกเราค่อยไปคุยต่อหน้าตำรวจก็แล้วกัน”
นิวราแสร้งทำเป็นสงบ “พูดอะไร เรื่องของเธอมันเกี่ยวอะไรกับฉัน”
“เห็นทีเธอจะยังไม่รู้ว่าจันจิราได้รับสารภาพเรื่องทุกอย่างหมดแล้ว เธอได้ส่งคลิปเสียงในการคุยโทรศัพท์กับชยินให้ทางตำรวจ และทางตำรวจกำลังแกะรอยตามจับผู้ก่อเหตุแล้ว เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง”
ได้ยินดังนั้น นิวราสีหน้าซีดลงทันใด