ดวงใจภวินท์ - บทที่ 496 ตบหน้าด้วยความเร็วแสง
บทที่ 496 ตบหน้าด้วยความเร็วแสง
นิวราพยักหน้ารัวๆ ด้วยเสียงสะอึก “ได้ ได้ค่ะ! ขอเพียงไม่หย่าให้ฉันทำอะไรก็ได้!”
ภวินท์กล่าวอย่างจริงจัง “หนึ่ง ไม่หย่า แต่เธอต้องไปรับสารภาพกับทางตำรวจ บอกความจริงในเรื่องที่เธอได้กระทำ สอง พวกเราหย่ากัน จากวันนี้เป็นต้นไปไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กันอีก”
เมื่อสิ้นประโยค สีหน้าของนิวราก็ขาวซีดทันที
ทางเลือกแบบนี้ เลือกกับไม่เลือกต่างกันอย่างไร “พี่วิน ฉัน……”
“เลือกทางใดทางหนึ่ง ผมให้เวลาคุณ คิดดีแล้วก็มาบอกผม”
ทิ้งประโยคนี้ลง ภวินท์ก็ผลักเธอออก ก้าวเท้าแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว
ประตูดัง “ปัง!” ขึ้น ร่างของนิวราอ่อนลง ทรุดลงไปอยู่กับพื้น
เธอไม่มีทางไปรับสารภาพเด็ดขาด ยิ่งไม่มีทางติดคุก เธอไม่มีทางเลือก!
เธอนั่งอยู่บนพื้น ความอบอุ่นบนร่างกายค่อยๆ ใช้ไปจนหมด มือถือของเธอวางอยู่บนพรมที่พื้น หน้าจอสั่นกะพริบไม่หยุด ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไรแล้ว เธอถึงได้หยิบมันขึ้นมา มองดูหน้าจอแล้วก็กดรับสาย
“ฮันโหล ชยิน ภวินท์รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว เขาต้องการหย่ากับฉัน ฉันจะทำอย่างไรดี……”
ชยินที่อยู่ปลายสายได้ยินดังนั้น แสงสลัวประกายแวบเข้ามาในดวงตา
เขาอยากจะให้นิวราหย่ากับภวินท์ตั้งนานแล้ว นึกไม่ถึงว่าโอกาสจะมาแล้ว
เพราะนิวราไม่รู้ สำหรับเธอแล้ว สิ่งที่อันตรายที่สุดคือภวินท์ คือภวินท์เท่านั้น
ณ แกรนด์ บูเลอวาร์ดในยามราตรีดึกสงัด
ญาธิดานอนอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมา ถึงแม้เวลาจะดึกมากแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด สมองของเธอยังกระปรี้กระเปร่า ไม่รู้สึกง่วง
ความโกรธของธีทัต แผนการของภวินท์ อาการป่วยของอันอัน เรื่องราวเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวพันกันจนยุ่งเหยิงไปหมด ทำให้สมองของเธอทำงานอย่างไม่หยุด
เธอพลิกตัวไปมา จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์จากหัวเตียง เปิดหน้าจอให้สว่าง บนหน้าจอว่างเปล่า นอกจากข้อความแจ้งเตือนจาก APPต่างๆ แล้ว ก็ไม่มีข้อความใดอีก
เธอกำลังรอข้อความจากภวินท์
ตั้งแต่ที่ภวินท์กับนิวราจากร้านอาหารเก็นติ้งจนถึงตอนนี้ ก็เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว
จากนั้นก็ไม่รู้ว่ารอนานแค่ไหน เธอถึงได้สะลึมสะลือจนนอนหลับไป วันรุ่งขึ้นที่ตื่นขึ้นมา ตะวันก็โด่งสายมากแล้ว
เธอมองดูโทรศัพท์แวบหนึ่ง เช้าสิบโมงกว่าแล้ว เธอกำลังจะลุกขึ้นไปทำธุระส่วนตัว ใครจะไปรู้ว่าจะเหลือบไปเห็นข่าวแจ้งเตือน จู่ๆ สายตาชะงักค้างทันที
“ภวินท์ สถิรานนท์หย่ากับนิวรา วรโชติ ก่อนหน้าหนึ่งวันเป็นวันครบรอบวันแต่งงานสามปีของทั้งคู่”
นิ้วมือเธอสั่น แล้วคลิกข้อความแจ้งเตือน
ที่แท้ เจ็ดโมงเช้าวันนี้ ภวินท์ได้ประกาศหย่าร้างกับนิวราในแพลตฟอร์มบนโซเชียลมีเดียของตัวเอง เหตุผลคือทั้งคู่เข้ากันไม่ได้ ไม่สามารถให้ความสุขกับนิวราได้
เมื่อเรื่องนี้แพร่ออกไป สำนักข่าวสื่อต่างๆ ในเมืองเมือง J จึงปะทุขึ้น ใครจะไปรู้ ตอนที่พวกเขาทั้งคู่แต่งงานกันนั้น ได้จัดงานแต่งใหญ่โตชนิดที่ไม่มีใครเทียบได้ ชายหล่อหญิงงาม เป็นที่อิจฉาสำหรับคนรอบข้าง
สามปีที่ผ่านมา ทั้งคู่เป็นคู่รักต้นแบบเสมอมา ในวันครบรอบแต่งงานสามปี นิวรายังโพสต์ภาพดอกกุหลาบสื่อรักลงโซเชียลมีเดีย คิดไม่ถึงว่าวันรุ่งขึ้น ภวินท์ก็ประกาศข่าวหย่าร้าง
นี่เรียกว่าการตบหน้าด้วยความเร็วแสง
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รีบเปิดดูข้อความต่างๆ อย่างรวดเร็ว ยิ่งเธอเลื่อนลงดูเรื่อยๆ เธอก็ยิ่งมั่นใจมากกับการคาดเดาในใจของเธอ
เมื่อวาน ภวินท์ใช้เหตุผลวันครบรอบแต่งาน ร่วมมือกับเธอเพื่อทดสอบนิวรา ตอนเช้าวันนี้ประกาศหย่า บ่งบอกได้ว่านิวราจะต้องทำเรื่องที่ทำให้ภวินท์ไม่สามารถยอมรับได้
ไม่ต้องสงสัยเลย น่าจะเป็นเรื่องการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ของอันอันแน่
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึก รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาภวินท์ โทรศัพท์ปลายสายดังแล้วดังอีกอยู่เป็นเวลานาน ก็ไม่มีคนรับสาย
เวลานี้ เจ้าของโทรศัพท์กำลังติดประชุม
ได้ปิดเสียงแล้ววางคว่ำไว้บนโต๊ะ หน้าจอกะพริบ แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็น
“โครงการนี้ให้คุณปราบเป็นคนติดตาม รายละเอียดทั้งหมดให้รายงานกับผม”
ภวินท์ปิดแฟ้มเอกสารในมือ แล้วสั่งกำชับงานที่เหลือ “นอกจากนี้ สัญญาของMCKนี้ต้องคุยให้สำเร็จ แต่ก่อนอื่น ทีมวางแผนและฝ่ายประชาสัมพันธ์ไปส่งเสริมการโฆษณากุศลทำให้ภาพลักษณ์ดูดีก่อน MCKชอบร่วมมือกับองค์กรที่มีภาพลักษณ์ที่ดี”
คำพูดของเขาเพิ่งกล่าวจบ ก็มีเสียงดังลอยมาจากข้างๆ “คุณภวินท์ เกรงว่าคำวิจารณ์ในช่วงนี้จะส่งผลอย่างใหญ่หลวงให้กับ STN”
ภวินท์เงยหน้ามองไปทางผู้ถือหุ้นคนที่กำลังพูด ชะงักครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากถาม “คำวิจารณ์อะไรครับ”
ผู้ถือหุ้นคนนั้นกระแอมเบาๆ “เรื่องส่วนตัวของคุณที่แพร่สะพัดบนโลกโซเชียลในช่วงนี้……”
ได้ยินดังนั้น ดวงตาของภวินท์เย็นชาเล็กน้อย
เขาย่อมรู้อย่างแน่นอน เดิมทีเรื่องการหย่าร้างกับนิวราจัดการเป็นการส่วนตัวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียล แต่ว่าเขาต้องการให้ประกาศเรื่องนี้ออกไป เพราะในขณะเดียวกันก็อยากให้ทุกคนได้รู้ว่า ได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลวรโชติแล้ว เช่นนี้ ดูผิวเผินค่อนข้างจะวุ่นวาย แต่ความเป็นจริงแล้วสามารถช่วยไม่ให้ปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาทีหลังเกิดขึ้นได้เยอะมาก
“เรื่องนั้นฉันรู้ดีว่าควรจะจัดการอย่างไรครับ ทุกคนสบายใจได้”
ภวินท์เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างใจเย็น แล้วคุยเรื่องงานต่อ
ทุกคนบนโต๊ะประชุมต่างมีความคิดเห็นต่างกัน แต่ภวินท์ได้พูดหนึ่งประโยคเพื่อข้ามเรื่องนี้ไปแล้ว ทุกคนจึงไม่กล้าเอ่ยถึงอีก ทำเพียงแสร้งเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเท่านั้น
สักพัก การประชุมก็สิ้นสุดลง ภวินท์ได้ลุกขึ้นแล้วออกไปจากห้องประชุมก่อน
พายุเดินตามอยู่ด้านหลัง แล้วกล่าวเตือนเบาๆ “คุณภวินท์ครับ วันนี้ผมก็ได้ยินคำวิจารณ์แย่ๆ ในบริษัทเช่นกันครับ”
ได้ยินดังนั้น ภวินท์ก็ฮึดฮัดขึ้น “คนพวกนี้ก็เป็นแบบนี้ โดยเฉพาะพวกผู้ถือหุ้น เมื่อบริษัททำกำไร ทุกคนต่างก็ได้หน้า และแย่งกันแบ่งเงินปันผล แต่เมื่อบริษัทเกิดเรื่อง ทุกคนก็จะจ้องมาที่เรื่องส่วนตัวของผม ปัดความรับผิดชอบออกจากตัวเอง”
พายุชะงักครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากถาม “อย่างนั้นคำวิจารณ์บนโซเชียลต้องชี้แจงไหมครับ”
ภวินท์กล่าวเบาๆ “ไม่ต้อง”
นี่คือสิ่งที่เขาต้องการบอกกับคนทั้งโลก ไม่จำเป็นต้องปิดบัง
“อีกเรื่องครับ ระหว่างที่ประชุมเมื่อครู่นี้ คนรับใช้ในห้องหอได้โทรศัพท์มาบอกว่า คุณนิวราจะผิดสังเกตครับ ยังไม่ทานอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้……”
แววตาภวินท์หม่นลงเล็กน้อย ชะงักครู่หนึ่งแล้วไม่พูดอะไร
เรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้น นิวราก็มักจะชอบใช้วิธีอดอาหารฆ่าตัวตายแบบนี้มาขู่เขา ตอนนี้เขาชินกับมันแล้ว
ภวินท์กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ไม่ต้องไปสนใจ ใบสำคัญการหย่าที่ส่งไปเมื่อตอนเช้า หากเธอยังไม่เซ็น ตอนบ่ายส่งคนไปอีก”
ตอนนี้ เรื่องทุกอย่างไม่ได้เป็นตามที่เธอต้องการอีกแล้ว
ตอนบ่ายสองโมง ห้องหอในคฤหาสน์
นิวรานั่งอยู่บนโซฟาในห้องนอน เปิดอ่านข่าวในโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด ตอนนี้ ข่าวการหย่าของเธอกับภวินท์แพร่กระจายไปทุกหย่อมหญ้า เปิดจนเปิดอ่านไม่หมด
และในเวลานี้ คนรับใช้ได้มาเคาะประตูห้อง ถามเธออย่างระมัดระวัง “คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายให้คนส่งของมาให้คุณผู้หญิงค่ะ”
ได้ยินดังนั้น แววตาเธอเป็นประกาย ลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้น รีบวิ่งไปที่ประตู
เธอวิ่งไปที่ประตูด้วยเท้าเปล่า ดึงประตูออกแล้วถามด้วยความตื่นเต้น “ใช่เรื่องที่พี่วินเปลี่ยนใจ ไม่หย่ากับฉันแล้วใช่ไหม”
เห็นเพียงคนรับใช้หลบสายตา ก้มศีรษะเล็กน้อย และสองมือได้ยื่นแฟ้มเอกสารมาให้ จากนั้นกล่าวเบาๆ “คุณผู้หญิงดูเองเถอะค่ะ”
นิวรากวาดมองดูแฟ้มเอกสารนั้น ความดีใจที่ผุดขึ้นเมื่อสักครู่มลายหายสิ้นฉับพลัน เธอยื่นมือมารับแล้วเปิดดู คิดไม่ถึงว่าจะเป็นใบสำคัญการหย่า!