ดวงใจภวินท์ - บทที่ 539 อยู่ฝั่งไหนกันแน่
บทที่ 539 อยู่ฝั่งไหนกันแน่?
ญาธิดาโมโหมาก ความรู้สึกประหลาดใจก่อนหน้านี้หายไปจนหมดสิ้น เธอสูดหายใจแล้วพูดอย่างเยือกเย็น “คุณลักพาตัวฉันมาทำไม?”
เขาพาตัวเธอมาด้วยวิธีการแบบนี้ มันดูหยาบคายจนเกินความคาดหมายของเธอมาก
ภวินท์ไม่ตอบ ลืมตาขึ้นพลางมองไปที่เธอ “ฉันมีเรื่องจะถาม”
เขาจำเป็นต้องถามให้แน่ใจว่าเธอเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่สถานปฏิบัติธรรมหรือไม่
หากเธอเกี่ยวข้องจริง ๆ เขาคงอภัยให้เธอไม่ได้
แววตาของญาธิดาสั่นเล็กน้อย เธอพูดอย่างเย็นชาว่า “เรื่องอะไร?”
เขาพยายามลักพาตัวเธอมาเพียงเพื่อจะถามคำถามแค่นี้งั้นเหรอ?
เธอยังไม่ทันได้คิดอะไร ภวินท์ก็หันมาพูดด้วยเสียงต่ำลง “เมื่อวานเธอได้ไปที่สถานปฏิบัติธรรมรึเปล่า?”
เมื่อได้ยินเขาพูดถึงสถานปฏิบัติธรรม เธอก็ประหลาดใจจนพูดไม่ออก
เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอไปที่สถานปฏิบัติธรรมนั่นมา?
เธอขมวดคิ้วมองภวินท์อย่างระแวง “นาย…นายรู้ได้ยังไง?”
“อย่าถามว่าฉันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แค่ตอบคำถามมาก็พอ”
ท่าทีก้าวร้าวเหล่านี้ทำให้เธอกัดปากแน่น ก่อนจะค่อย ๆ พูดออกมาว่า “ใช่ ฉันไปที่นั่นมา”
ภวินท์สีหน้ามืดหม่นลง เขาถามต่อ “เธอพบที่นั่นได้ยังไง?”
ญาธิดาสูดหายใจเข้า ลังเลอยู่เล็กน้อย ตอนนั้นเป็นเพราะคำพูดของสิงโตเธอจึงเดาว่าอาจจะมีเบาะแสอยู่ที่เขารามนั่น แต่หลังจากได้ไปสำรวจดูก็พบว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นผิด
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดขึ้นว่า “เพราะฉันคิดว่าในหุบเขาอาจจะมีเบาะแสอยู่ จึงได้พาคนขึ้นไปค้นหา”
ภวินท์เมื่อได้ฟังคำตอบก็ขมวดคิ้วราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด หลังจากนั้นไม่นานหลุยส์ก็รีบเข้ามาแจ้งมาภูผามันได้เอาคนมาที่นี่แล้ว เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นเหมาะเจาะเกินไป จะไม่ให้คิดมากได้อย่างไร?
“นายอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมเหรอ?” ญาธิดาถามด้วยความประหลาดใจ
ในตอนนั้นเธอเองยังไม่ได้เจอเขา แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ที่นั่น!
เมื่อเห็นท่าทีของญาธิดา สายตาของเขาก็เย็นชาลง “เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว คงไม่จำเป็นต้องโกหกกันแล้วล่ะ”
ยิ่งได้ยินคำพูดของภวินท์ เธอก็ยิ่งสงสัย “โกหกอะไรล่ะ? ฉันบอกนายแล้วไงว่าไปที่นั่น แต่ฉันไม่รู้ว่านายก็อยู่ที่นั่นด้วย”
ภวินท์ตกใจเล็กน้อย “จริงรึเปล่า?”
เรื่องมาจนถึงขั้นนี้ และพวกเขาได้มาคุยกันต่อหน้าแล้ว เธอก็ยังยืนยันว่าไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่นั่น
ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความคิดซับซ้อนมากมาย เขาขมวดคิ้วพยายามหาคำตอบว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่
ถ้าเธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่นั่น แล้วเธอจะไปที่นั่นทำไมกัน
เธอต้องพูดโกหกอยู่แน่ ๆ
ภวินท์โกรธจนตัวสั่น กำหมัดแน่นหายใจเข้าอย่างช้า ๆ “เมื่อวาน หลังจากที่เธอออกมาจากที่นั่น ภูผาก็ได้บุกเข้าไป เธอยังจำท่านเจ้าอาวาสได้หรือเปล่า? ท่านต้องเสียชีวิตลงเพราะปกป้องฉันไงล่ะ!”
พูดจบ ญาธิดานิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร เมื่อเธอได้ฟังสิ่งที่เขากำลังอธิบาย มันราวกับฟังละครไร้สาระเรื่องหนึ่ง
เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวเลวร้ายพวกนี้จะอยู่รอบ ๆ ตัวเธอ เธอเพิ่งจะเจอท่านเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่นึกเลยว่าตอนนี้ท่านจะเสียชีวิตแล้ว
หลังจากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ได้สติกลับมา แล้วถามว่า “กะ ..เกิด ..มันเกิดอะไรขึ้น?”
ภวินท์ขมวดคิ้ว“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ภูผามันจะเจอที่นั่นได้ยังไง!”
เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวเลวร้ายพวกนี้จะอยู่รอบ ๆ ตัวเธอ เธอเพิ่งจะเจอท่านเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่นึกเลยว่าตอนนี้ท่านจะเสียชีวิตแล้ว
คำพูดเหล่านี้ก้องอยู่ในหูของญาธิดา เธอเข่าอ่อน เผลอถอยไปข้างหลังสองก้าว
เธอไม่คิดเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันจะมีสาเหตุมาจากเธอ หรือพูดอีกอย่างนึกก็คือ เธอทำให้เจ้าอาวาสต้องตาย…
เมื่อนึกถึงใบหน้าของเจ้าอาวาส ใจเธอก็เจ็บแปลบขึ้นมา ทำได้แต่ส่ายหน้า “ไม่นะ…”
ภวินท์พูดขึ้น แววตาของดำมืดสนิท “เธอตกลงกับภูผามาตั้งแต่แรกแล้วใช่รึเปล่า?”
ญาธิดาส่ายหัวตอบอย่างไม่ลังเล “ไม่ใช่!”
เธอรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าภูผาไม่ใช่คนดี เธอไม่มีทางร่วมมือกับเขาฆ่าเจ้าอาวาสแน่ ทั้งหมดนี่คือเรื่องเข้าใจผิด!
ยิ่งเห็นการปฏิเสธของเธอแล้ว จิตใจของภวินท์ก็ยิ่งเย็นยะเยือก มือของเขากำที่แขนเก้าอี้แน่น ไม่ยอมพูดอะไรอีก
เรื่องมาถึงตรงนี้ หากเธอยังปฏิเสธไม่ยอมรับ เขาก็ไม่มีทางรู้ได้เลย
อีกด้านหนึ่ง ญาธิดามองภวินท์ด้วยความเจ็บปวดใจ ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจอะไรบางอย่าง “นายคิดว่าฉันกับภูผาอยู่ฝ่ายเดียวกันใช่ไหม?”
หลังจากที่เธอทราบเรื่องอุบัติเหตุคราวนั้น เธอก็รีบกลับจากต่างประเทศทันที พยายามสืบหาข่าวมาตลอด เธอต้องคำนึงถึงคุณย่า พี่เข้มและพยัคฆ์ และได้แต่แบกรับภาระต่าง ๆ ไว้คนเดียวไม่นึกเลยว่ามันจะทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดนี้ขึ้น
สักพักนึง เธอรู้สึกได้ว่าช่วงนี้ทำงานหนักจนเกิดอาการวิตกกังวลอย่างมาก
หลังจากเห็นว่าเขาได้แต่นิ่งเงียบ ญาธิดาก็หัวเราะเยาะ พลางเดินเข้าไปข้างหน้า มองไปที่เขา “ภวินท์ เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของนาย! ฉันไม่ควรกลับมาที่นี่เลย ไม่ควรรับคำขอร้องจากคุณย่าด้วยซ้ำ ฉันไม่ควรจะตามหานายให้เหน็ดเหนื่อยตั้งแต่แรก! ถึงแม้จะต้องเจอกับสิงโตไอ่ฆาตกรนั่น ฉันก็ไม่เคยกลัว เรื่องทั้งหมด มันผิดที่นายตั้งแต่แรก!”
เธอพูดด้วยเสียงแหบเบา น้ำตาอาบแก้มด้วยความโศกเศร้า
ภวินท์ได้ยินดังนี้ใจเขาก็สั่นไหวขึ้นมา เห็นน้ำตาของเธอ เขาก็ใจอ่อนลง
เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอไว้ ดึงเธอเข้ามาใกล้ ๆ และพูดขึ้น “เธอไปเจอสิงโตมาหรือ?”
ญาธิดาที่ยังคงโกรธอยู่ ผลักมือของเขาออก “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน !”
เธอผลักแรงเกินไป จนเผลอไปผลักไหล่ของเขาจนล้มเข้ากระแทกผนังด้านหลังอย่างจัง
ญาธิดาตกใจ เธอเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเขานั่งอยู่บนรถเข็น
สมองของเธอว่างเปล่า พูดอะไรไม่ออก
ภวินท์ขมวดคิ้ว ตอนนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของเธอแล้ว
ตลอดมาเขาไม่เคยรู้สึกถึงความอัปยศมาก่อน แต่วันนี้เขาเข้าใจแล้ว
สำหรับเขา นี่คือการทำลายเกียรติและความทะนงตนของเขาตลอด 20กว่าปีที่ผ่านมาจนหมดสิ้น
ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
ญาธิดาอ้าปากพูดด้วยความตกใจ “ขาของนาย…”
ภวินท์เลิกคิ้ว สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและเกลียดชัง “ออกไป”
ญาธิดาใจเต้นรัว และพูดขึ้น “ภวินท์ นายเป็นอะ…”
เขากำหมัดแน่น ตะโกนเสียงดัง “ฉันบอกให้ออกไป!”