ดวงใจภวินท์ - บทที่ 555 ฉันประเมินเธอต่ำเกินไปจริง ๆ
บทที่ 555 ฉันประเมินเธอต่ำเกินไปจริง ๆ!
“พี่วิน ขาของพี่เป็นอะไร!”
นิวราหยุดชะงักก่อนจะรีบวิ่งต่อไปข้างหน้า พอเห็นภวินท์น้ำตาของเธอก็รินไหลออกมาไม่ขาดสาย “พี่วิน! ขาของพี่…”
เธอเอื้อมมือออกไปจะดึงมือของภวินท์ แต่กลับถูกเขาผลักออกเบา ๆ นิวรานั่งยองลงกับพื้น มองขาของเขาก่อนจะแหกปากร้องไห้ออกมา “นิวนึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพี่จริง ๆ เสียอีก…หัวใจฉันใกล้จะแตกสลายแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะได้ยินข่าวของพี่ นิวคง…นิวคงอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว…”
ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอซูบเล็กลงกว่าเดิมมาก เธอร้องไห้น้ำตาไม่ขาดสายอย่างน่าสงสาร แต่ภวินท์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นกลับไม่แสดงท่าทีอะไรเลยแม้แต่น้อย เขามองเธอร้องไห้โดนไม่แสดงสีหน้าอะไร ก่อนจะส่งสัญญาณให้พายุไปเอาทิชชูมาให้
พอเห็นนิวราหยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดน้ำตา เขาถึงได้พูดออกมาว่า “เอาล่ะ ในเมื่อได้เจอฉันแล้วก็กลับไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ”
“ไม่ นิวอยากอยู่ข้าง ๆ พี่ พี่ยังไม่ได้บอกนิวเลยว่าช่วงที่ผ่านมาพี่เจออะไรมาบ้าง พี่วิน นิวยินดีจะอยู่เคียงข้างพี่ ดูแลพี่…”
นิวราเงยหน้าขึ้นพูด แล้วจู่ ๆ เธอก็สัมผัสถึงอะไรบางอย่างแปลก ๆ ก่อนจะหันมองไปข้าง ๆ โดยไม่รู้ตัว แล้วก็เห็นคนสองคนที่ยืนอยู่หลังชั้นวางกระถางดอกไม้ที่วางเรียงรายอยู่เต็มชั้น
สองคนนั้นเป็นคนที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตาดี คนหนึ่งเป็นคุณย่าแห่งตระกูลสถิรานนท์ และอีกคนคือญาธิดา!
เมื่อเธอเห็นญาธิดา เลือดในตัวของนิวราก็เดือดปุด ๆ ขึ้นมาในทันที
เธอ…เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!
เพียงไม่นานเธอก็ได้สติและหันไปมองภวินท์ “พี่วิน นิวยินดีจะอยู่ที่นี่ดูแลพี่ พี่อย่าไล่นิวไป…”
ขณะที่พูดเธอก็เอื้อมมือออกไปดึงชายเสื้อของภวินท์ไว้ไม่ยอมปล่อย
ภวินท์ขมวดคิ้ว และพูดเสียงแข็งกับเธอว่า “เรื่องของฉันไว้มีเวลาว่างเมื่อไหร่ฉันจะบอกเธอเอง แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา สถานการณ์ของฉันในตอนนี้ยังอยู่ในอันตรายมาก ให้เธออยู่ด้วยไม่ได้หรอก เธอกลับไปก่อนเถอะ”
นิวราส่ายหน้าไปมา “ไม่ได้ นิวไม่อยากกลับไป! นิวอยากเจอพี่ตลอดเวลา นิวไม่กลัวอันตรายอะไรทั้งนั้น!”
ขณะที่พูดน้ำตาของเธอก็หลั่งไหลออกมา
ทางด้านคุณย่าเริ่มจะทนดูต่อไปไม่ไหว จึงตัดสินใจจะเดินเข้าไปตำหนิเธอ พอญาธิดาเห็นดังนั้นก็รีบเอื้อมมือไปดึงแขนของคุณย่าเบา ๆ แล้วพูดว่า “คุณย่าคะ นี่เป็นเรื่องของภวินท์ เขาคงจะจัดการเอง พวกเรากลับห้องก่อนเถอะค่ะ”
คุณย่าขยับริมฝีปากเล็กน้อยเหมือนอยากจะพูดอะไร เธอมองญาธิดาและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรและดึงเธอกลับเข้าไปในบ้าน
สายตาของนิวราเหลือบไปเห็นแผ่นหลังของญาธิดาก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม “พี่วิน ทำไมญาธิดาถึงอยู่กับพี่ได้ แต่นิวกลับทำไม่ได้ล่ะ?”
ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เขาก็ส่วนเขา เธอก็ส่วนเธอ”
“ทำไม!” นิวราโวยวายอย่างไม่พอใจ “เธอเป็นอดีตภรรยา ฉันก็เป็นอดีตภรรยาเหมือนกัน ทำไมทำได้แต่ฉันทำไม่ได้?”
คำพูดของนิวราทำเอาภวินท์พูดไม่ออก เขาขมวดคิ้วแน่น จับจ้องนิวราโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ
อาจเป็นเพราะแววตาของชายหนุ่มน่ากลัวเกินไป นิวราถูกจ้องจนตัวเย็นยะเยือกไปหมด เธอสูดหายใจเข้าก่อนจะค่อย ๆ สงบลง ดูเหมือนว่าเธอจะรู้แล้วว่าการร้องไห้ฟูมฟายอยู่ฝ่ายเดียวของเธอไม่สามารถทำให้เธอบรรลุเป้าหมายได้ จึงทำได้แค่เปลี่ยนน้ำเสียงตัวเองใหม่ “พี่วิน นิวแค่เป็นห่วงพี่มากเกินไป นิวมองพี่ตอนนี้ยังรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน นิวกลัวว่าถ้าตื่นจากความฝันแล้วพี่จะหายไป…”
ขณะที่พูดเธอก็ปาดน้ำตาของตัวเองไปด้วย น้ำเสียงของเธออ่อนลงเล็กน้อยก่อนจะพูดอย่างน่าสงสารว่า “ไม่ใช่ว่านิวจะเกาะติดพี่ไม่ยอมไปไหน แต่อย่างน้อยก็ให้นิวได้อยู่กับพี่สักพัก สักชั่วโมง หรือทานข้าวด้วยกันสักมื้อ นิวก็พอใจแล้ว…”
เธอพูดอย่างใส่อารมณ์ ดวงตาแดงก่ำ และน้ำเสียงนุ่มนวล รวมกับว่าเธอรู้ดีว่าทำยังไงถึงจะได้ความเห็นใจจากชายหนุ่ม ทุกการกระทำทุกสายตาต่างมาจากความตั้งใจของเธอทั้งสิ้น
ถ้าหากเมื่อครู่นี้เธอยังโวยวายไร้เหตุผลต่อไป คงไม่สามารถบังคับภวินท์ให้ยอมได้แน่ แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วและไม่ได้ขออะไรมาก ภวินท์ขยับริมฝีปากไม่รู้ว่าควรจะปฏิเสธยังไง
นิวราสูดหายใจเข้าลึก ๆ “พี่วิน ถือเสียว่าเห็นแกที่พวกเราโตมาด้วยกัน ให้นิวอยู่กับพี่ต่ออีกหน่อยเถอะนะ ไว้ทานอาหารกลางวันกับพี่เสร็จแล้วนิวก็จะไป นิวไม่โกหกแน่นอน!”
เมื่อภวินท์ได้ยังดังนั้นเขาก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่า “ไว้ทานอาหารกลางวันเสร็จ ฉันจะให้พายุไปส่ง”
นิวราพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ค่ะ นิวเชื่อฟังพี่”
หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าบ้านไปพร้อมกับภวินท์และพายุ เมื่อคุณย่าและญาธิดาเห็นเข้าทั้งสองก็มีสีหน้าที่แตกต่างออกไป
สีหน้าของคุณย่าดูประหลาดใจมากในตอนแรก แต่หลังจากนั้นเธอก็ขมวดคิ้วแน่น ชำเลืองมองหน้าภวินท์ด้วยความโกรธ แต่ญาธิดากลับนิ่งสงบมาก ราวกับคิดไว้อยู่แล้วว่าภวินท์จะต้องยอมให้นิวราเข้ามา
เธอยังคงพูดคุยกับคุณย่าเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่สนใจนิวราและภวินท์เลยแม้แต่นิดเดียว
ในทางกลับกัน ภวินท์กลับถูกนิวราเกาะติดแจจนรู้สึกรำคาญ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามมากมายของเธอ เขาก็ทำได้เพียงตอบคำถามออกไปแบบสั้น ๆ จากนั้นก็หาทางเอาตัวรอดด้วยการใช้เรื่องงานและหนีเข้าไปในห้องหนังสือ
ซึ่งบังเอิญกับที่ทางฝั่งคุณย่าก็ได้เวลากลับห้องไปทานยาแล้วเช่นกันโดยมีคุณป้าแม่บ้านพอไป ไม่นานภายในห้องนั่งเล่นกว้างขวางก็เหลือเพียงญาธิดากับนิวราสองคน
ที่แรกพวกเธออยู่ห่างไกลกันมาก คนหนึ่งทางและอีกคนอยู่อีกทาง ญาธิดานั่งอยู่ใกล้หน้าต่างพลิกดูนิตยสารในมือโดยไม่สะทกสะท้านอะไร
ทางด้านนิวราก็เอาแต่ยกน้ำชาขึ้นจิบครั้งแล้วครั้งเล่า สายตาก็เอาแต่จับจ้องมองเธออยู่ตลอด
ในที่สุดเธอก็ทนต่อไปไม่ไหวจึงเป็นฝ่ายลุกขึ้นเดินเข้าไปหาญาธิดาก่อน
ญาธิดาที่กำลังดูนิตยสาร เธอได้ยินเสียงฝีเท้า แต่กลับไม่ขยับเขยื้อน ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามอง
เห็นเพียงว่านิวรานั่งลงตรงโซฟาเดี่ยวที่อยู่ตรงข้ามที่นั่งของเธอ พลางพูดอย่างประชดประชันว่า “ญาธิดา ฉันประเมินเธอต่ำเกินไปจริง ๆ !”
นิวราทำเสียงฮึดฮัดก่อนจะพูดต่อว่า “คราวก่อนเธอก็ให้คนตีฉันจบสลบแล้วตัวเองก็หนีไป ไม่คิดเลยนะว่าเธอจะร้ายกาจขนาดนี้!”
พอได้ยินแบบนั้น ในที่สุดญาธิดาก็เริ่มเคลื่อนไหว มือที่กำลังจะพลิกหน้าหนังสือของเธอหยุดชะงัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้าเย็นชา “เธอยังมีหน้ามาพูดถึงเรื่องเมื่อคราวก่อนอีกเหรอ?”
คราวก่อนที่ด้านหลังสวนหินจำลองของโรงพยาบาล ถ้าไม่ใช่เพราะพยัคฆ์ช่วยเธอไว้ ปานนี้นิวราคงจะรัดคอเธอตายไปแล้ว
เธอยังคงพูดต่อไปอย่างเย็นชาว่า “เรื่องการหายตัวไปของภวินท์ เธอเอาแต่ผลักทุกอย่างมาให้ฉัน ตั้งแต่แรกเธอก็มีเจตนาไม่ดีอยู่แล้ว ก็แค่อยากจะหาข้ออ้างทำร้ายฉันก็เท่านั้น ฉันพูดถูกใช่ไหม?”
“อีกอย่าง พอพูดถึงเรื่องเมื่อคราวก่อนแล้วฉันก็เพิ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เรื่องที่เธอส่งคนไปคอยจับตาดูคุณย่า ฉันยังไม่ได้บอกท่านเลย แต่ตอนนี้เธออยู่ที่นี่ด้วยพอดี ไม่สู้พูดคุยกันให้มันกระจ่างชัดเจนไปเลยเป็นไง เธอว่าดีไหม?”
เมื่อนิวราได้ยินเธอพูดแบบนั้นสีหน้าของเธอก็ซีดเผือดลงทันที
ญาธิดามองสีหน้าที่แสดงออกมาของเธอพลางกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะปิดนิตยสารในมือ วางมันลงบนโต๊ะแล้วยันตัวลุกขึ้นยืน
นิวราตกใจมาก บนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกจึงรีบลุกขึ้นตามทันที เธอเอื้อมมือออกไปจับข้อมือของญาธิดาไว้ แล้วถามอย่างหวาดระแวง “แกจะทำอะไร?”
หรือว่าเธอจะบอกภวินท์กับคุณย่าเรื่องที่เธอส่งคนไปคอยจับตาดูคุณย่าอย่างนั้นเหรอ?
ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!