ดวงใจภวินท์ - บทที่ 594 ยอมรับเขาไม่ได้
บทที่ 594 ยอมรับเขาไม่ได้
เมื่อเห็นอัญมณีล้มไปฝั่งหนึ่ง ญาธิดาก็เป็นคนแรกที่รู้สึกได้ รีบกระโจนเข้าไป “อันอัน”
แต่เธอก็ยังช้าไป อัญมณีล้มลงกระแทกพื้น ขมวดคิ้ว สีหน้าแสดงออกถึงความเจ็บปวด
ญาธิดารีบเข้าไป นั่งยองกับพื้นพยายามพยุงเธอ “อันอัน เป็นอะไรไหม!”
วันนี้เธอได้ยินจากพายุที่ ว่าอันอันมีกระดูกหักหลายจุดที่ยังไม่หายดี แค่เดินเยอะก็ทำให้เธอเจ็บได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องโดนผลักแรงๆเลย!
อัญมณีเจ็บจนพูดไม่ออก พยายามส่ายหน้า พูดออกมาไม่ได้
ธีทัตและพายุที่อยู่ตรงนั้นก็เดินเข้ามาพร้อมกัน ถามด้วยความกังวล “อันอัน! เป็นยังไงบ้าง!”
ญาธิดาเงยหน้าขึ้นมา เห็นพวกเขายืนล้อมเข้ามาอย่างใกล้ชิด อีธาน เอลล่า และเณรศีล ก็ยืนอยู่ไม่ไกล มองดูพวกเขาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
ใจของเธอก็ร้อนรนขึ้น รีบพูดบอก “พ่อคะ แม่คะ พาเด็กๆ ขึ้นไปข้างบนก่อน!”
ดร.ยติภัทรกับปภาวีถึงคิดได้ขึ้นมา รีบตอบรับแล้วพาเด็กๆ ออกไป
ในตอนนั้น ที่ชั้นหนึ่งก็เหลือแค่พวกเขาสี่คน
อัญมณีนั่งอยู่บนพื้นอยู่นาน ก่อนที่จะค่อยๆขึ้นมา ญาธิดาค่อยๆพยุงเธอขึ้นแล้วให้เธอไปนั่งบนโซฟา
ตอนนั้นทั้งธีทัตและพายุก็อยู่ข้างๆ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจดัง
ญาธิดารีบถามอาการอันอัน “ถลอกตรงไหนไหม ล้มมาโดนกระดูกหรือเปล่า ขอฉันดูหน่อย”
อัญมณีส่ายหัว “เจ็บนิดหน่อยแต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก”
ได้ยินเธอพูดแบบนี้ เธอก็โล่งใจไป เงยหน้ามองไปทางธีทัตกับพายุ จู่ๆความโกรธก็ผุดขึ้นในหัวใจ เธอกัดริมฝีปากแล้วพูด “โตกันขนาดนี้แล้ว เอะอะก็ใช้กำลัง พวกนายต่างจากพวกนักเรียนเลือดร้อนตรงไหน”
ธีทัตขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไร
ญาธิดาโกรธมาก “หรือว่าดื่มเข้าไปก็ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ไม่มีสติแล้วหรอ ใช้กำลังกันต่อหน้าคนแก่กับเด็ก แบบนี้มันดีแล้วใช่ไหม”
แล้วก็เงียบไปอีกนาน
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไร ความโกรธในญาธิดาจึงลดลงมาก เธอมองไปที่พายุ น้ำเสียงอ่อนลง “พายุ นี่ก็ดึกแล้ว นายพาอันอันไปตรวจที่โรงพยาบาลดูสักหน่อย แล้วพาเธอส่งกลับบ้านเถอะ”
พายุพยักหน้า “โอเค”
ธีทัตที่อยู่อีกด้านทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย ขยับริมฝีปากจะหยุด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
ญาธิดาเหลือบมองธีทัต แล้วก็หันไปพูดกับอัญมณี “ไปเถอะ ฉันจะไปส่งพวกเธอ”
อัญมณีพยักหน้าเล็กน้อยแล้วยิ้มให้เธอ “อื้ม”
ญาธิดาพยุงอัญมณีให้ลุกขึ้น เดินออกไปพร้อมกับเธอ ตอนที่เดินมาถึงสวน เธอก็เดินช้าลง มองอันอันกับพายุ แล้วพูดเบาๆ ว่า “พวกเธอก็อย่ารีบร้อนนะ จะให้ทัตยอมรับพวกเธอ ต้องใช้เวลาสักหน่อย”
พายุพยักหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมเข้าใจ”
“อ้อใช่” จู่ๆ ญาธิดาก็นึกอะไรขึ้นได้ มองพายุแล้วถามว่า “ภวินท์รู้เรื่องที่พวกเธอกลับมาไหม”
พายุเงียบไปครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “รู้”
ญาธิดานิ่งไป พยักหน้าแล้วไม่พูดอะไร
อัญมณีสงสัย มองมาที่เธอแล้วถาม “เป็นอะไรไป ถามถึงภวินท์ทำไม”
ญาธิดายิ้มแล้วพูด “ไม่มีอะไร ก็แค่ถามดูนะ”
ที่ถามไปแบบนี้ เพราะเขาสัญญากับเธอว่าตอนที่อัญมณีหายดีแล้วกลับมาที่เมืองJ เขาจะให้แฟลชไดรฟ์กับเธอ แฟลชไดรฟ์นั้นมีหลักฐานว่านิวราขับรถชนคน และการตัดสินใจว่าจะมอบมันให้ตำรวจจัดการไหมนั้นอยู่ในมือของอัญมณี
หลังจากส่งพวกเขาทั้งสองที่ประตูแล้ว อัญมณีก็พูดว่า “โอเค ธิดาเธอกลับเข้าไปได้แล้ว พวกเราจะกลับไปพักผ่อนก่อน ค่อยนัดกันวันหลังนะ”
“โอเค”
ญาธิดายิ้ม มองดูพวกเขาขึ้นรถไป แล้วถึงจะเดินกลับเข้ามา
ทันทีที่เธอกลับมาที่ชั้นหนึ่ง เธอก็เห็นธีทัตนั่งอยู่บนโซฟาเพียงลำพัง มือถือแก้วไวน์อยู่
ญาธิดาตกใจเล็กน้อย จึงรีบเดินมาถาม “ทัต ดึกขนาดนี้แล้ว ยังจะดื่มอะไรอีก”
เมื่อกี้บนโต๊ะอาหารเขาก็ดื่มไปเยอะแล้ว ตอนนี้ยังจะดื่มอีก เขาจะมอมเหล้าตัวเองหรือยังไงกัน
ธีทัตไม่สนใจ ยังคงยกแก้วเข้าปาก เพิ่งจะจิบไป ญาธิดาก็เอื้อมมือไปหยิบแก้วออกจากมือ “ไม่ต้องดื่มแล้ว”
แก้วถูกหยิบไป ธีทัตขมวดคิ้ว ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาขึ้นแล้ว เงยหน้าขึ้นมองเธอ
ญาธิดาเพิ่งจะวางถ้วยลงบนโต๊ะ แต่จู่ๆ ก็มีใครบางคนคว้าข้อมือเธอไว้แน่น ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ดึงเธอแรงๆเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ญาธิดาตื่นตระหนก “ทัต…”
ธีทัตเอามือจับไหล่เธอไว้ เหยียดร่างกายเธอให้ตรง แล้วให้เธอมองตาของเขา นัยน์ตาของเขาเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยชั้นของละอองน้ำ มีไอเล็กน้อย
“ธิดา คุณรู้ไหมว่าทำไมผมไม่ยอมรับพายุ”
ญาธิดาชะงัก “ทำไมล่ะ…..”
เขาขยับริมฝีปากแล้วพูด “เพราะว่าคุณ เพราะคุณ…”
ญาธิดาสะดุ้ง ในหัวว่างขาวไปหมด
ธีทัตไม่ยอมรับให้พายุกับอันอันคบกัน เป็นเพราะตนเองไปได้ยังไง
“เพราะว่าพายุเป็นคนสนิทของภวินท์ ผมยอมให้คนที่เกี่ยวข้องกับภวินท์อยู่ใกล้คุณไม่ได้ ผมยอมไม่ได้!”
เขาดูจริงจัง คำพูดของเขาชัดถ้อยชัดคำ ในแววตายังมีร่องรอยความผิดหวัง “ธิดา ผมอยากมีคุณหมดใจ ก็เท่านั้น…”
เขาพูด แล้วก็หันหลังผลักเธอลงตรงที่โซฟา แล้วก็จูบอย่างทุลักทุเลลงบนแก้มของเธอ
ญาธิดาตัวแท็งทื่อ รีบหลบออก สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ทัต คุณเมามากแล้ว!”
“ผมไม่ได้เมา ธิดา ตอนหลายปีมานี้คุณยังไม่เข้าใจความจริงใจที่ผมมีต่อคุณอีกหรอ ผมรอคุณมาหกปีแล้วนะ ธิดา หกปี…”
ธีทัตพูดพลาง การเคลื่อนไหวของเขาแข็งกร้าวมากขึ้นในทันใด เขาเอามือของเธอที่ผลักหน้าอกของเขาอยู่กดลงบนโซฟา และอีกมือหนึ่งก็ปลดเสื้อตรงหน้าอกของเธอออก
ญาธิดาตกใจ สั่นไปทั้งตัว “ทัต อย่าทำแบบนี้…”
แต่ชายหนุ่มดูเหมือนจะไม่เข้าใจคำพูดของเธอ การเคลื่อนไหวของมือไม่ได้หยุดลง เขากระชากลงกี่ครั้งก็กระชากไม่ออก สุดท้ายก็พยายามเปิดเสื้อออก
ตอนนั้นเอง ด้วยการกระทำของเขา ทำให้ญาธิดาสั่นสะท้านไปทั้งตัว ในใจรู้สึกอึดอัดและเกิดคการต่อต้านในใจเธอ แต่เธอก็ขัดขืนไม่ไหว
ธีทัตกระซิบข้างหูเธอว่า “ธิดา ผมรักคุณจริงๆ จริงๆนะ…”
ญาธิดาเม้มริมฝีปากล่างแน่น ใช้แรงในฮึดเดียว ดึงมือผลักเขาออกไป ตอนที่เธอพยายามลุกขึ้นจากโซฟา ธีทัตก็จับมือเธอไว้อีกแล้ว ญาธิดากลัวมาก จึงยกมือขึ้นตบหน้าเขา
“เพี้ยะ!” เสียงดังดูเหมือนจะหยุดธีทัตได้แล้ว เขายืนนิ่ง มองญาธิดาด้วยความประหลาดใจ
พวกเขามองหน้ากัน หนึ่งวิ สองวิ สามวิ บรรยากาศดูน่ากลัวขึ้นมา ราวกับจะหยุดนิ่ง
จู่ๆ ธีทัตก็ยกมือตบหน้าตัวเองแรงๆ แววตาก็ดูได้สติขึ้น ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง สุดท้ายก็เอ่ยขอโทษ “ผมขอโทษ…”
พูดจบ เขาก็ลุกขึ้น แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งร่างของชายหนุ่มเดินออกไปพ้นตรงนั้น ร่างกายที่ตึงเครียดของญาธิดาถึงจะคลายลงได้ เธอหายใจหอบ ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ในใจ
เธอแสบจมูกขึ้นมา น้ำตาจะไหล ทันใดนั้นก็มีเสียงมาจากข้างๆ
“ธิดา…”
ญาธิดาหันกลับมามองอย่างรวดเร็ว ก็ได้เห็นคุณปภาวียืนอยู่หน้าห้องครัว ก็ตกใจมาก
อย่าบอกนะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ได้ถูกแม่เห็นหมดแล้ว