ดวงใจภวินท์ - บทที่ 664 กระโดดออกจากตัวเลือกที่เขาให้
บทที่ 664 กระโดดออกจากตัวเลือกที่เขาให้
บทที่ 664 กระโดดออกจากตัวเลือกที่เขาให้
เมื่อได้ยินภวินท์พูดแบบนั้น อีธานกับเอลล่าก็พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะมองญาธิดาด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
ญาธิดานิ่งอยู่กับที่ อยากจะอธิบายแต่ก็อธิบายไม่ถูก แล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองโดนฉวยโอกาส!
ไม่รู้ว่าอีธานเอลล่าไปเข้าพวกกับภวินท์รวมหัวกันรังแกเธอแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำเอาเธอโมโหจัด
แต่ว่าพูดถึงวันเกิดของภวินท์ ถึงแม้ว่าจะเรียบง่ายแต่บรรยากาศกลับดีมาก พวกเขาช่วยกันจุดเทียน อธิษฐานและร้องเพลงวันเกิด ทำทุกอย่างที่ควรจะทำในวันเกิด ร้องเพลงกระโดดโลดเต้น หัวเราะครึกครื้น…
หลังจากเล่นกันเสร็จ เจ้าเด็กสองคนก็เริ่มง่วงนอน ญาธิดากับภวินท์ช่วยกันเกลี้ยกล่อมพวกเขาไปล้างหน้าล้างตาแล้วเข้านอน
เมื่อเห็นพวกเขาสองคนนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว ญาธิดาก็รู้สึกโล่งใจ
เธอย่องออกจากห้องอย่างเบาไม้เบามือและปิดประตูห้องลง พอหันไปอีกทีก็เห็นภวินท์อยู่ข้าง ๆ
ชายหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟา คล้ายกับกำลังรอเธอ เขาจ้องมาทางเธอด้วยรอยยิ้มในดวงตา แต่กลับไม่ยอมพูดยอมจา
ญาธิดาเดินเข้าไปแสร้งทำเป็นทำความสะอาดจานและช้อนส้อมบนโต๊ะราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าเธอจะไม่ได้เงยหน้ามอง แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงสายตาของชายหนุ่มที่จับจ้องเธออยู่ตลอดไม่วางตา
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ กัดฟันฝืนใจเงยหน้าขึ้นมองแล้วถามเขาอย่างเก้อเขินว่า “มองพอหรือยัง?”
“ยังไม่พอ” ภวินท์ขยับริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือเธอไว้แล้วดึงเธอเข้าไปใกล้ตัว
ญาธิดานิ่ง เธอไม่ทันตั้งตัว ได้ยินแค่เสียงของชายหนุ่มพูดขึ้นว่า “ญาธิดา พวกเรากลับมาคบกันใหม่อีกครั้งเถอะนะ!”
พอได้ยินแบบนั้น ญาธิดาก็ตกใจมาก เธอเหลือบตาขึ้นมองความตื่นตระหนก สบสายตากับดวงตาดำแวววาวของชายหนุ่ม ในหัวของเธอหวิว ๆ เหมือนกับไฟฟ้าลัดวงจรไปชั่วขณะ
เมื่อกี้…ที่ภวินท์พูดหมายความว่าไง?
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้างจ้องมองสีหน้าท่าทางของเธอที่แสดงออกมาก่อนจะยิ้มจาง ๆ “ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ เธอมีความสุขไหม?”
ญาธิดาได้แต่อ้าปาก แต่ไม่รู้จะตอบยังไง
แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่คำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเธอคือ “มีความสุข” ในคอนโดเล็ก
นี้ มีเสียงหัวเราะมากมายของเธอและพวกเด็ก ๆ เป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน…
ๆ
เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่เงียบไม่ยอมพูด ภวินท์จึงตอบแทนเธอว่า “เธอมีความสุข อีธานเอลล่ามีความสุข
ฉันก็มีความสุขมาก แล้วทำไมพวกเราถึงไม่กลับมาคบกันอีกครั้งล่ะ? พวกเราเคยเข้าใจผิดกันมามากมายหลายเรื่อง
แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าคนที่ฉันต้องการคือเธอ คือเธอ ญาธิดา ไม่ใช่คนอื่น!”
น้ำเสียงของเขาฟังดูจริงใจและแน่วแน่ ทุกคำพูดของเขาติดตรึงอยู่ในหัวใจของญาธิดา
หัวใจของเธอเต้นแรง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความนิ่งสงบ ความจริงใจของเขา
มันทำให้เธอเกิดความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบายขึ้นมาในใจ
อันที่จริง ตั้งแต่ที่เธอเอาแต่ปฏิเสธธีทัตครั้งแล้วครั้งเล่า
เธอก็พอจะรู้ความรู้สึกของตัวเองแล้วว่าในใจของเธอยังมีภวินท์อยู่ ไม่อย่างนั้นตลอดห้าปีที่ผ่านมา เธอคงไม่แม้แต่จะยอมรับใครเข้ามาเลยแบบนี้
พื้นที่ในหัวใจของเธอถูกยึดครองแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถหาพื้นที่ว่างที่จะไปรักคนอื่นได้อีก
และผู้ชายคนนั้นที่มีผลต่อหัวใจของเธอมากที่สุดก็อยู่ตรงหน้าเธอแล้วในตอนนี้
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ
พยายามบีบบังคับคำตกลงที่จะกลับไปคบกันอีกครั้งที่กำลังจะหลุดออกจากปากของเธอเอาไว้ ความเป็นจริงทำให้เธอนึกถึงข้อตกลงระหว่างเธอกับภูผาขึ้นมา
พรุ่งนี้…เธอจะต้องทรยศผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ ผู้ชายที่เธอเป็นห่วงเป็นใยที่สุดคนนี้…
ความสุขมาถึงแล้ว
เขาสารภาพความในใจของตัวเอง และเธอก็รักเขาด้วยเหมือนกัน แถมพวกเขายังมีลูกที่น่ารักแล้วถึงสองคน เพียงแค่พวกเขาทั้งคู่สารภาพต่อกัน และแก้ไขความเข้าใจผิด
พวกเขาก็จะเป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุด
แต่ว่า…ตอนนี้เธอทำไม่ได้ เธอจำเป็นต้องเลือกระหว่างพ่อแม่กับภวินท์ และไม่ว่าจะเลือกทางไหน อีกฝ่ายก็ต้องโดนทำร้าย…
เธอกัดฟันแน่นพยายามสงบสติอารมณ์ เธอดึงมือออกจากภวินท์ น้ำตาคลอในดวงตาก่อนจะฝืนเดินออกไปอีกทาง
“ญาธิดา”
ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วลุกขึ้น
ญาธิดาหันหลังให้เขาแล้วส่ายหัวไปมา เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก”
ความรู้สึกที่กำลังสุกงอมดับสลายลงในทันที บรรยากาศเหมือนถูกแช่แข็ง อึดอัดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
นิ่งไปพักหนึ่งแววตาหม่นหมอง ก่อนจะหันหลังเดินไปทางห้องนอนของตัวเอง เพื่อให้พื้นที่ส่วนตัวกับเธอ
ภวินท์มองแผ่นหลังของญาธิดา
หลังจากได้ยินเสียงปิดประตู ญาธิดาก็รู้สึกผ่อนคลายลง ร่างกายที่ตึงเครียดอยู่เมื่อครู่ค่อย
ๆ ผ่อนคลาย
เธอเอนตัวพิงกำแพงในหัวยุ่งเหยิงไปหมด
ถ้าไม่มีข้อตกลงของภูผา เมื่อกี้เธอคงจะตอบตกลงเขาไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจความเป็นความตายของดร.ยติภัทรกับคุณปภาวีไม่ได้
คืนนี้
ญาธิดานอนไม่หลับทั้งคืน เธอเอาแต่พลิกตัวไปมา ทั้งเป็นกังวลและไม่สบายใจ
จนกระทั่งกลางดึก เธอลุกออกมาดื่มน้ำ แต่กลับพบใครคนหนึ่งกำลังนิ่งอยู่ริมระเบียง!
เมื่อเธอตั้งใจมองจนเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้นถึงได้รู้ว่าเขาคือ ภวินท์!
เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันตั้งตัว ภวินท์ก็ได้ยินเสียงแล้วหันมองมาทางเธอแล้ว
ท่ามกลางความมืดมิด ทั้งสองคนมองสบตากันโดยไม่ส่งเสียงพูดใด ๆ
สุดท้ายญาธิดาก็กัดฟันเดินเข้าไปถามว่า “ทำไมถึงอยู่ตรงนี้ล่ะ?”
ภวินท์หันไปอีกทางมองค่ำคืนที่มืดมิดด้านนอกแล้วพูดว่า “นอนไม่หลับ”
ญาธิดาหรี่ตาลงมอง กวาดสายตามองไวน์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะกลมก่อนจะขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว แต่ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกละอายใจกับเขาอยู่ไม่น้อย
สุดท้ายเธอกัดฟันแน่นก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ เขา “มีเรื่องบางอย่างที่ฉันอยากจะบอกกับคุณ…”
หลังจากผ่านไปกว่าค่อนคืน เธอคิดทุกอย่างดีแล้วว่าถ้ามัวแต่เอาตัวเองไปติดอยู่ในตัวเลือกที่คนอื่นให้ ก็จะไม่มีวันชนะ
ครั้งนี้เธออยากจะกระโดดออกมา หาทางเลือกใหม่ให้กับตัวเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อญาธิดาตื่นขึ้นมาก็ตะวันโด่งแล้ว
เด็กน้อยสองคนล้อมอยู่ข้างเตียงของเธอ ก่อนจะเปิดโหมดนาฬิกาปลุก
“แม่ครับ ดูสิว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว แดดส่องก้นหมดแล้ว!”
“แม่คะ แม่ตื่นสายกว่าพวกเราอีก มันน่าอายนะคะ!”
ญาธิดาตื่นตัวรีบลุกขึ้นมาจากเตียงทันที เมื่อวานกว่าเธอจะกลับเข้าห้องนอนก็ดึกมากแล้ว พอเธอได้นอนก็หลับสนิทจนปาเข้าไปสิบโมงแล้ว
“โอเค ๆ แม่จะลุกแล้ว…”
เธอลุกจากเตียงไปอาบน้ำในทันที
หลังจากออกมาจากห้องน้ำเธอก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของภวินท์เลย
“เลิกมองหาได้แล้วครับ คุณอาสุดหล่อไปทำงานแล้ว!”
เสียงของอีธานก็ดังขึ้น ญาธิดาหน้าแดงก่ำอย่างห้ามไม่ได้ แต่ก็ยังทำทีพูดอย่างปากแข็งว่า “ใครมองหาเขากันล่ะ?”
ขณะที่พูดเธอก็สาวเท้าเดินไปทางห้องครัว พลางพูดไปด้วยว่า “พวกหนูอยากทานอะไร? เดี๋ยวแม่ทำให้”
คราวนี้เอลล่าเดินเข้ามาจับมือเธอแล้วพูดว่า “แม่คะ คุณอาสุดหล่อทำอาหารเช้าเอาไว้แล้ว ดูสิคะ”
ญาธิดามองตามนิ้วมือของเอลล่า บนโต๊ะมีอาหารเช้าวางอยู่จริง ๆ ขนมปังอะโวคาโด ไข่คน และนมสด
ญาธิดาหัวใจเต้นแรงเล็กน้อย ความอบอุ่นเข้าปกคลุมในหัวใจของเธอ จากนั้นมุมปากก็กระตุกยิ้มออกมา
คิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะมีด้านที่เอาใจใส่แบบนี้ด้วย
อีธานเดินเข้าไปหยิบขนมปังขึ้นมากัด แล้วพูดอย่างพอใจว่า “แม่ครับ คุณอาสุดหล่อใจดีกับพวกเรามากเลย เมื่อไหร่คุณแม่จะทำอาหารให้คุณอาสุดหล่อบ้างล่ะครับ? ตอบแทนซึ่งกันและกันไง!”
พอได้ยินแบบนั้นใบหน้าของญาธิดาถึงกับเซ็งขึ้นมาทันที
ลูกชายคนอื่นมีแต่ปกป้องแม่ของตัวเอง แต่ทำไมลูกชายของเธอถึงเอาแต่เข้าข้างคนอื่นตลอดเลยล่ะ?
ขณะที่เธอกำลังจะเอ่ยปากดุเขา แต่จู่ ๆ ก็มีบางอย่างแวบเข้ามาในหัวของเธอ
อีธานพูดถูก! วันนี้เธอทำอาหารให้ภวินท์ได้ เสร็จแล้วก็ใช้เป็นเหตุผลเอาไปส่งที่ STN Group และเริ่มแผนการของเธอได้เลย!