ดวงใจภวินท์ - บทที่ 681 นิวราถูกจับ
ศีรษะของนิวราโชกไปด้วยเลือด ตอนที่ถูกคนลากออกมานั้น ลมหายใจก็รวยรินแล้ว เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้น สีหน้าขาวซีด กวาดมองไปรอบๆ ในที่สุดมาหยุดอยู่บนตัวของญาธิดา
เธอยกมุมปาก ใต้ดวงตาปรากฏรอยยิ้มที่เย็นชาและดูถูก เธอค่อยๆ ขยับริมฝีปากพูดอะไรบางอย่าง มองจากตำแหน่งของญาธิดา เห็นเพียงเธอขยับปากอ้าๆ ปิดๆ เท่านั้น แต่กลับไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอกำลังพูด
ตั้งแต่วินาทีที่นิวราขับรถพุ่งเข้ามาชนเธอนั้น เธอก็เหมือนกับถูกจี้จุดไว้ ร่างกายแข็งทื่อ มีเพียงเลือดลมปราณเท่านั้นที่สามารถไหลเวียนได้
ตอนนี้เมื่อเห็นนิวรากำลังพูดบางอย่างกับเธอ ต่อให้ใบหูจะไม่ได้ยิน แต่ในใจของเธอนั้นรู้ดีว่าจะต้องไม่ใช่คำพูดที่ดีอย่างแน่นอน
อารมณ์ด้านในพลุ่งพล่านกระฉูดขึ้น เห็นนิวรากำลังจะถูกคนพาตัวไป ญาธิดาตัดสินใจเดินก้าวไปด้านหน้า
เธอเพิ่งจะเดินได้ไม่กี่ก้าว พายุก็รีบก้าวมาด้านหน้า เดินมาที่ด้านข้างเธอ แล้วกล่าวอย่างเบาๆ “คนพวกนี้มีบางคนเป็นตำรวจ เมื่อกี้ที่นิวราจะขับมาชนคนนั้น พวกเขาต่างเห็นกันแล้ว และครั้งนี้คงน่าจะถูกนำตัวไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ บวกกับสิ่งที่เธอกระทำผิดก่อนหน้านี้ คราวนี้น่าจะพลิกคดีไม่ได้แล้ว”
ได้ยินดังนั้น ญาธิดาก็พยักหน้าเบาๆ สายตายังคงหยุดอยู่ที่ใบหน้าของนิวรา
ปากของนิวราอ้าๆ ปิดๆ ยังคงไม่หยุดพูดอะไรบางอย่างกับเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอดูแปลกอย่างอธิบายไม่ถูก
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเดินมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว มองดูรอบๆ ตัวผู้คนที่อยากจะพาตัวนิวราไป จึงเอ่ยปากขึ้น “ ฉันอยากจะคุยกับเธอสักสองสามประโยคจะได้ไหมคะ”
คนเหล่านั้นต่างสบตากันครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า แล้วก็เดินห่างออกไปสองสามก้าวและรออย่างเงียบๆ พายุเองก็รู้หน้าที่จึงเดินออกไป ครู่เดียวก็เหลือเพียงเธอกับนิวราสองคน
นิวรายังคงยิ้ม บนใบหน้าเปื้อนเลือด เห็นแบบนี้แล้ว ก็ยิ่งดูดุร้ายน่ากลัว
จู่ๆ เธอก็ยิ้มเยาะออกมาอย่างน่าขนลุก “ญาธิดา แกไม่มีทางมีความสุขหรอก ฉันจะสาปแช่งแก สาปแช่งภวินท์ สาปแช่งลูกๆ ของแก พวกแกต้องไม่มีทางตายดี!”
ญาธิดายืนห่างจากเธอไปหนึ่งก้าว มองลงมาที่ตัวเธอแล้วกล่าวออกมาทีละคำๆ “นิวรา ถ้าคำสาปของเธอได้ผลจริง เช่นนั้นตอนนี้คนที่หัวโชกไปด้วยเลือดน่าจะเป็นฉันสิ”
คำพูดเพียงเบาๆ ประโยคเดียวของเธอ ทำให้สีหน้าของนิวราขาวซีดฉับพลัน
สีหน้าของเธอได้เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้น “ญาธิดา แกคอยดู! ต้องมีสักวันที่ฉันจะทำให้แกเจ็บปวดทุกข์ทรมาน!”
ญาธิดาฮึดฮัด “เหรอ เธอคิดว่าเข้าคุกไปครั้งนี้ เธอจะสามารถออกมาได้อีกเหรอ”
นิวราหน้าขาวซีด “หมายความว่าไง!”
“ต่อให้ฉันจะยอมอภัยให้เธอ เธอคิดว่าครั้งนี้ภวินท์จะอภัยให้เธอเหรอ เธอทำร้ายผู้บริสุทธิ์ครั้งแล้วครั้งเล่า มโนธรรมในตัวเธอเองไม่เจ็บปวดเลยเหรอ!”
นิวราชะงักไปสองวินาที สักพักส่ายหน้าขึ้น “พี่วินไม่มีทางตำหนิติโทษฉัน เขาจะต้องช่วยฉันอย่างแน่นอน! ฉันไม่มีทางเข้าคุกหรอก ไม่มีทาง!”
ญาธิดาขมวดคิ้ว พยายามข่มความโกรธในใจเอาไว้ เธอโน้มตัวเข้าใกล้ตัวนิวรา แล้วจ้องดวงตาแล้วเธอ จากนั้นกล่าวทีละคำ
“นิวรา สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดสำหรับเธอคือ แม้แต่คำว่ารักยังไม่เข้าใจ หลายปีมานี้ เธอเข้าใจผิดคิดว่าภวินท์นั้นรักเธอ แต่ความจริงคือ เขาไม่เคยรักเธอเลย!”
หลังจากกล่าวคำพูดเหล่านี้เสร็จ นิวราก็นิ่งไปครู่หนึ่ง สักพักเมื่อเธอได้สติคืน จึงรีบส่ายหน้าแล้วกล่าว “เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้! เขารักฉัน!”
เธอยิ่งพูดยิ่งโมโห ความเกลียดชังในน้ำเสียงก็ยิ่งรุนแรงยิ่งขึ้น จู่ๆ เธอก็แยกเขี้ยวกางเล็บพุ่งใส่ญาธิดา ญาธิดาหลบไปด้านข้าง หลบการโจมตีของเธอ เวลานี้ ลูกน้องที่มองมาดูสถานการณ์ทางนี้ ได้รีบเดินหน้ามากดตัวนิวราไว้
นิวราดิ้นรนขัดขืนไม่หยุด ตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่ง “ญาธิดา! แกจะต้องไม่ตายดี! แกจะต้องไม่ตายดี!”
ญาธิดาเหลือบมองเธอแวบหนึ่งอย่างลุ่มลึก สายตาที่ชัดเจน ไม่มีร่องรอยของความรู้สึก เห็นใจ ไม่มีความลังเล ไม่มีความอดทน
หากว่าเป็นเมื่อก่อน เห็นหญิงสาวที่กำลังจะถูกลากตัวส่งไปที่เรือนจำ เธอจะต้องสงสารอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ เมื่อรู้ว่านิวราเป็นคนเช่นไรแล้ว เธอไม่รู้สึกนึกสงสารสักนิดเดียว
เธอเข้าใจดี ตอนนี้นิวรากระทำผิดและเดินมาถึงจุดนี้ ผลลัพธ์เช่นนี้ถือเป็นการลงโทษเธออย่างสาสมแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องลงโทษเธอเพิ่มอีก ชีวิตที่เหลือต่อไปในคุกจะต้องทำให้เธอทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน
เห็นนิวราถูกลากตัวขึ้นรถ แล้วเคลื่อนตัวจากไป ญาธิดาแอบโล่งใจ ตอนนี้ ความแค้นระหว่างเธอกับนิวรา น่าจะจบลงแล้ว ครู่เดียวก็เกิดความสงบขึ้นที่จิตใจ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ในใจสงบสุข
ตุ้ม——! ! เสียงระเบิดดังชัดเจนข้างใบหู ร่างของญาธิดาสั่นอย่างรุนแรง จึงหันกลับไปดูด้วยความมึนงง เห็นโรงงานระเบิดระเบิดกระจุยกระจายเป็นเสี่ยงๆ ไปทุกทิศทุกทาง ควันโขมงลอยขึ้นไปในอากาศ
“บึ้ม———” เสียงดังแหลมคมอยู่ข้างใบหูของญาธิดา จนใบหูอื้อไปชั่วขณะ ทันใดนั้นโลกเงียบลงทันที เธอไม่ได้ยินเสียงใดๆ มองเห็นเพียงคนฝั่งนั้นวิ่งกันอย่างโกลาหล เดิมทีคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอก ได้วิ่งหนี ตื่นตระหนก…….
ไม่กี่วินาทีต่อมา ในความคิดของญาธิดาได้แวบภาพใบหน้าใครบางคน เมื่อได้สติ เธอก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ สาวเท้ามุ่งไปทางโรงงาน ยิ่งก้าวยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายถึงขั้นวิ่งกันเลยทีเดียว
“ภวินท์……ภวินท์……”
เธอเรียกชื่อนี้อย่างเงียบๆ วิ่งไปกลุ่มคนที่ลังเลไม่กล้าเดินไปด้านหน้า จากนั้นก็คว้าหนึ่งคนมาถาม “ภวินท์……ภวินท์ออกมาหรือยัง!”
คนนั้นมองเธอด้วยความมึนงง ส่ายหน้า
จิตใจเธอกระวนกระวาย ส่ายหน้าคืออะไร ไม่รู้สถานการณ์หรือว่าภวินท์ยังไม่ได้ออกมา
ฉับพลัน ความรู้สึกกลัวได้เข้ามาปกคลุมหัวใจของเธอ เธอพยายามประคองร่างที่สั่นเทาไปคว้าตัวอีกคนมาถาม “ภวินท์ล่ะ! เขาออกมากหรือยัง!”
ถามคนแล้วคนเล่า ไม่มีใครกล้าที่จะตอบเธอ จนกระทั่งหลุยส์เดินเข้ามา เห็นท่าทางของเธอเช่นนี้ จู่ๆ น้ำเสียงก็สะอึกขึ้น “วินเขา……”
ญาธิดาเข่าอ่อน เหลือบมองหลุยส์ จากนั้นส่ายหน้า “ฉันไม่เชื่อ! ฉันไม่เชื่อ!”
เธอพลางพูดพลางเดินมุ่งไปทางประตูใหญ่ของโรงงาน กล่าวพึมพำ “ฉันจะไปตามเขากลับมา! ไปตามเขากลับมา!”
เธอกล่าวด้วยน้ำตาที่ไหลเอ่อลงมาอย่างเงียบๆ
หน้าประตูใหญ่ของอาคารโรงงาน ถูกระเบิดจนกลายเป็นซากหินซากปูน ขวางอยู่ทางเข้า ต่อให้อยากจะวิ่งเข้าไปช่วยคน เกรงว่าคงจะไม่ง่าย
อีกฝั่ง หลุยส์ได้ให้ลูกน้องเข้าไปสำรวจดูสถานการณ์แล้ว เมื่อหันหน้ามาเห็นเธอมุ่งเข้าไปใกล้ประตูใหญ่อย่างไม่คิดชีวิต สีหน้าก็หม่นลงทันใด เขารีบตามเข้าไป แล้วคว้าตัวญาธิดาไว้ ออกแรงกระชากจนเธอเซถอยหลังสองสามก้าว
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ!” เขาจ้องมองด้วยความโมโห! โกรธจนเส้นเลือดตรงขมับปูดโปน “คุณจะไปรนหาที่ตายก็ให้นึกถึงลูกๆ ของคุณบ้าง! ทีมกู้ภัยได้เข้าไปแล้ว คุณจะสร้างปัญหาอีกทำไม!”
คำตะคอกของเขาทำให้ญาธิดาได้สติคืนมาเล็กน้อย เธอตัวสั่นเบาๆ น้ำตาคลอเบ้า มองไปทางโรงงานด้วยสายตาที่สับสน ร่างกายของเธอค่อยๆ เย็นวาบลงไปทีละนิดๆ
เธอไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองกับภวินท์จะอยู่ห่างไกลกันเพียงนี้