ดวงใจภวินท์ - บทที่ 71 หึงหรอ
เห็นหญิงสาวมีปฏิกิริยาอย่างนี้ ภวินท์ตกตะลึง ตั้งแต่เที่ยงตอนที่เจอเธอที่ร้านอาหาร เธอก็ดูแปลกๆ
เขาเอื้อมมือไปดึงผ้าห่ม แต่ใครจะรู้ล่ะว่าญาธิดาจะห่มผ้าให้ตัวเองแน่นขนาดนี้ ดึงยังไงก็ดึงไม่ออก
“ญาธิดา?”
เรียกไปหลายคำ แต่เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร
ภวินท์ไม่รู้จะทำยังไง รีบยืนขึ้น และยื่นสอดมือเข้าไปอุ้มทั้งคนและผ้าห่มขึ้นมาพร้อมกัน
ญาธิดาตกใจ รีบดึงผ้าห่มออก “คุณ….ปล่อยฉันลง!”
เดิมทีเธอไม่อยากเห็นหน้าเขา คิดว่าเขาเห็นเธอไม่สนใจแล้วจะจากไป แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้!
ภวินท์ได้ยินอย่างนั้น ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ ยังอุ้มเธออยู่อย่างนั้น
ไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือกังวล ญาธิดาหน้าแดงไปหมด “ปล่อยฉันลง!”
เห็นท่าทางกังวลของเธอ ภวินท์ยักคิ้วและเอ่ยปากถามว่า “คุณงอนอะไร?”
ญาธิดาหน้าแดงระเรื่อ “ปะ…เปล่า ฉันก็แค่เหนื่อย!”
ภวินท์ได้ยินอย่างนั้นจึงวางเธอลงบนเตียงทันที แต่กลับกดผ้าห่มไว้อย่างรวดเร็ว ป้องกันเธอจะใช้ไม้เดียวกับเมื่อกี้อีก
เขาโน้มตัวลง แววตาเคร่งขรึม ถามเสียงเบา “อยู่ดีๆ คุณตกลงไปในสระน้ำได้ยังไง?”
เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว อยู่ดีๆ จะโดดลงไปในสระว่ายน้ำแบบนี้ไม่ได้ ต่อให้เธอดื่มเหล้ามา แต่ก็ไม่ถึงขั้นเมาหนักมาก เขากลับรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ
ทางฝั่งของPeterได้คอนเฟิร์มเวลาผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ เขาต้องมั่นใจว่าเธอจะปลอดภัยดี ห้ามป่วย ห้ามได้รับบาดเจ็บ
ญาธิดากัดปาก ตอบกลับเบาๆ ว่า “ฉะ…ฉันเวียนหัว ตอนที่ออกไปเดินแถวๆ ริมสระว่ายน้ำ รู้สึกเหมือนมีใครมาผลักฉัน จากนั้นฉันก็ตกลงไปแล้ว…”
ได้ยินที่หญิงสาวอธิบาย สีหน้าภวินท์โหดขึ้นมาอีกหลายเท่า “คุณบอกว่ามีคนผลักคุณ?”
ญาธิดาพึมพำ “อืม…เหมือนจะใช่”
เหมือนจะใช่?
ได้ยินคำตอบที่คลุมเครือของหญิงสาว ภวินท์อดขมวดคิ้วไม่ได้
จริงๆแล้วเธอดื่มไปเท่าไหร่กัน ถึงขนาดแม้แต่เรื่องนี้ยังไม่แน่ใจ?
มองหน้าที่ซุกในหน้าผมของญาธิดา ภวินท์รู้สึกโกรธอย่างอธิบายไม่ได้ เขาเอื้อมมือออกไปบีบแก้มเธออย่างไม่ไยดี และจงใจพูดเคร่งขรึมว่า “ใครให้คุณดื่มเหล้ามากขนาดนั้น?”
โดนเขาบีบแก้มไม่แรงมาก ญาธิดาเจ็บจนปวดจี๊ดขึ้นจมูก ม่านน้ำก่อตัวขึ้นในดวงตาเธอ “คุณ…คุณไม่ต้องยุ่งกับฉัน!”
เธอดึงผ้าห่มด้วยความโกรธ พยายามเอาผ้าห่มคลุมหัวอีกครั้ง แต่กลับโดนภวินท์ทับผ้าห่มไว้ ไม่ว่าเธอจะดึงยังไงก็ไม่ขยับ
ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น ไฟลุกโชนอยู่ในใจ “ผมเป็นสามีคุณ ไม่ให้สนใจคุณแล้วให้สนใจใคร?”
ญาธิดาส่งเสียง ฮึ ออกมาด้วยความโกรธ และรีบหลบสายตาอย่างรวดเร็ว
เห็นหญิงสาวเป็นอย่างนี้ ภวินท์อดสงสัยไม่ได้ เธอที่ปกติน่ารักเชื่อฟังเหมือนกระต่ายน้อยทำไมวันนี้ถึงได้มีพิษสงมาก เอาแต่ทำหน้างอนไม่พอใจ เหมือนกับจงใจจะต่อต้านเขา?
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้หญิงอย่างนี้กลับน่ารักไม่น้อย
ผ่านไปสักครู่ เขาสงบจิตใจลง และพูดเบาๆ ว่า “หรือผมทำอะไรให้คุณโมโห?”
ญาธิดาโกรธจนแก้มพอง น้ำเสียงหนักแน่นว่า “ใช่ เป็นเพราะคุณ!”
ภวินท์เห็นท่าทางอย่างนั้นของเธอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ผมไปทำอะไร?”
“คุณ…”
ญาธิดากำลังจะอ้าปากพูด แต่อยู่ๆ ก็เงียบไปหายไป เธอยื่นมือออกมาผลักเขา “คุณไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นเถอะ ไม่ต้องมาสนใจฉัน!”
ภวินท์ตะลึง พยายามคิดหาความหมายคำพูดของเธอ
ผู้หญิงคนอื่น? เขาไปอยู่กับผู้หญิงอื่นตอนไหน?
อยู่ๆ ในหัวก็มีภาพวันนี้ในร้านอาหารโผล่เข้ามา เขากินข้าวกับแพรวา
หรือว่า ญาธิดาจะเห็นเข้า?
ภวินท์เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่หันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง สายตามองไปที่หูแดงระเรื่อนั่น และเข้าใจในทันที
เป็นอย่างนี้นี่เอง…
เขาเอื้อมมือออกไปจับไหล่ของญาธิดา และดึงเธอหันกลับมาเขา
เขาไปกินข้าวด้วยกันตามลำพังกับแพรวาจริง แต่คุยเรื่องงานทั้งนั้น ระหว่างพวกเขาไม่มีเรื่องส่วนตัวให้คุยกัน ที่กินข้าวด้วยกันก็เรื่องบังเอิญที่ทั้งสองคนบังเอิญเจอกันที่ร้านพอดีเท่านั้นเอง
เขายักคิ้ว “หึงหรอ?”
ญาธิดาได้ยินอย่างนั้น หน้าแดงๆ ที่เพิ่งจะลดลงกลับมาแดงขึ้นใหม่อีกครั้ง “ใคร…ใครหึง? ไม่มี!”
รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นในแววตาของภวินท์ เขาเอื้อมมือออกไปดึงผ้าห่มที่ญาธิดาห่มอยู่ออก ดึงแขนเธอขึ้นมาและดึงเธอเข้ามากอดไว้
ควบคุมมือทั้งสองข้างของเธอไว้ ภวินท์ยกมือขึ้นจับคางเธอไว้ ทำให้ต้องสบตาเขา
เขากระซิบเบาๆ ด้วยน้ำเสียงดึงดูดเป็นอย่างมาก “ไม่มี?”
ญาธิดามองแววตาเคร่งขรึมทั้งคู่ของชายหนุ่ม และรู้สึกว่าหัวในหล่นลงอย่างควบคุมไม่ได้
เธอกัดปาก พยายามปฏิเสธ “ไม่…”
อย่างมากก็เพราะอยู่ในฐานะภรรยาทำให้ไม่ค่อยสบายใจเท่านั้นเอง
เห็นแววตาส่องประกายคู่นั้นของหญิงสาว ภวินท์ลดเสียงต่ำสอดแทรกด้วยพลังสยบ “ไม่ว่าจะหึงไม่หึง ตั้งแต่วันนี้คุณต้องดูแลตัวเองให้ดี”
ได้ยินที่ชายหนุ่มพูด ญาธิดาใจสั่น เธอยืนขึ้น สะบัดมือเขา หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว “ทำไม?”
ภวินท์เอ่ยปากตอบอย่างไม่ลังเล “เพราะร่างกายของคุณ ไม่ใช่เป็นแค่ของของคุณคนเดียว”
เพียงแค่เธอมีสุขภาพดี การผ่าตัดของนิวถึงจะดำเนินต่อไปได้ ทุกอย่างจึงจะดำเนินไปตามขั้นตอน…
ญาธิดากะพริบตา และถามต่อว่า “ไม่ใช่เป็นของฉัน แล้วยังเป็นของใครอีก?”
ภวินท์นิ่งไป ร่องรอยความตื่นตระหนกในแววตาเขา สำหรับเรื่องนี่เขายังคิดไม่ออกเลยว่าจะพูดกับเธอยังไง
เห็นแววตาสงสัยของหญิงสาว เขากลับไม่รู้ว่าต้องเผชิญหน้ากับเธอยังไง
แต่ญาธิดากลับใจกล้าขึ้นไม่น้อยหลังจากดื่มเหล้าไป เธอเอื้อมมือมากระชากเสื้อเขาเบาๆ ต้องการคำตอบให้ได้ “เพราะใครอีก?”
ภวินท์เงยหน้า สบตากับดวงตาที่เต็มไปด้วยไอน้ำทั้งคู่ของหญิงสาว หัวใจนิ่งสงบ ไฟในใจลุกขึ้นมาทันที
เขาพยายามระงับความปรารถนาที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด หลบสายตา พูดด้วยเสียงแหบแห้ง “ไว้คุยวันหลัง”
อย่างน้อยตอนนี้ไม่ใช่โอกาสที่ดีที่จะบอกความจริงกับเธอ
แต่ญาธิดาที่ดื่มเหล้าเข้าไปกลับดื้อเป็นพิเศษ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอม ดึงเสื้อเขาไว้ไม่ยอมปล่อย และยังดึงไว้ไม่หยุด
ใครจะรู้ว่าออกแรงดึงแค่นี้ จะบังเอิญทำให้กระดุมคอเสื้อเขาหลุด เสื้อผ้าถุกเปิดออกไปข้างนึง เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าอกที่แข็งแรงของชายหนุ่ม
ภวินท์ก้มหน้าลง กวาดตามอง แววตานิ่งขรึมลงทันที
ญาธิดารู้ตัวอีกทีก้ตื่นตระหนกเล็กน้อยและรีบปล่อยมือ “ฉันไม่ได้ตั้ง…”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนชายหนุ่มดึงเข้าไปกอดแน่นในอ้อมอก ต่อมาริมฝีปากของเธอโดนปิดแน่นด้วยความอ่อนนุ่ม
หลังจากนั้น เขากระซิบข้างหูเธอ “มีอะไร ไว้เราคุยกันวันหลัง…”
…..
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดสาดส่องเข้ามาในห้องทางช่องหน้าต่าง
ภวินท์ตื่น มองหญิงสาวที่ยังหลับสนิทอยู่ข้างกาย ค่อยๆ ลุกขึ้นเงียบ และลงจากเตียง
มองเวลาแวบหนึ่ง ยังเช้าอยู่เลย แต่ว่าตอนนี้เขาต้องออกไปแล้ว ไม่งั้นถ้าเขาออกไปจากห้องของญาธิดาจะมีคนในบริษัทเห็นเข้า เกรงว่าจะมีข่าวลือซุบซิบต่างๆ ออกมาอีก
หลังจากเขียนโน้ตทิ้งไว้ให้เธอ ภวินท์ออกจากห้องและกลับไปที่ห้องของตัวเอง
อาหารเช้ามาส่ง ภวินท์ดื่มกาแฟหนึ่งแก้ว ไม่นานพายุเคาะประตูและเปิดเข้ามา
“คุณภวินท์ คุณเรียกหาผม?”
ภวินท์ถามอย่างเรียบง่ายว่า “กินข้าวเช้ารึยัง?”
พายุลังเลอยู่ชั่วขณะ และตอบตามความจริงว่า “ยังครับ…”
ภวินท์พยักพเยิดค้างบอกให้เขานั่งลงฝั่งตรงข้าม “ฉันสั่งเพื่อคุณแล้วชุดหนึ่ง มากินด้วยกัน”
รอยยิ้มปรากฏบนหน้าพายุ “ครับ”
หลังจากนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองพายุ “เรื่องที่ให้ตรวจสอบเมื่อวาน เป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อพูดถึงเรื่องงาน พายุสีหน้าจริงจัง “เมื่อวานผมไปดูละแวกสระว่ายน้ำมาแล้ว ปรากฏว่าละแวกนั้นเป็นเขตปลอดกล้องวงจรปิดพอดี”
ภวินท์เงยหน้า “ไม่มีกล้องวงจรปิด?”
“ไม่มีครับ ลองหาจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ละแวกนั้นแล้ว ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ”
ได้ยินพายุพูดมาขนาดนี้ สีหน้าภวินท์เคร่งขรึมขึ้นอีก
เมื่อวานที่ญาธิดาบอกเขาก็คือรู้สึกเหมือนมีคนผลักเธอจากด้านหลัง
ดูจากระดับความเมาของเธอแล้ว เธอยังไม่ถึงขั้นเมาจนจำอะไรไม่ได้เลย
อยู่ๆ ก็มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นในเขตปลอดกล้อง เขาไม่คิดมากไม่ได้
พายุเห็นภวินท์เงียบไปนาน อดไม่ได้จึงถามไปว่า “คุณภวินท์ครับ หรือว่ามีอะไรไม่ปกติ?”
ภวินท์หลับตาลง ผ่านไปสักครู่ ในที่สุดก็เอ่ยปาก “คุณไปเรียกนีราภามา ฉันอยากพบเธอ”
ถ้ามีใครทำอะไรลับหลังญาธิดา และทำให้การผ่าตัดล่าช้า เขาไม่มีทางปล่อยไว้แน่!