ดวงใจภวินท์ - บทที่ 724 ร่วมงานกันอีกครั้ง
บทที่ 724 ร่วมงานกันอีกครั้ง
“คุณญาธิดา เคาน์เตอร์ด้านล่างตึกมีผู้ชายคนหนึ่งชื่อคุณคณินมาขอพบคุณค่ะ”เลขาเคาะประตู พร้อมกับรายงานอย่างนอบน้อม
ผู้ชายที่ชื่อคณิน
ญาธิดากวาดตามองแผนงานประกวดราคาใหม่ที่เพิ่งสรุปและวางอยู่บนโต๊ะ ส่ายหน้าอย่างระอาใจ ในเวลาอย่างนี้นอกจากคณินแล้ว ไม่น่าจะมีใครมาหาเธอ “เชิญเขามาที่ห้องท่านประธาน”
ไม่ช้า เลขาผลักประตูเข้ามาอีกครั้ง ภาพใบหน้าของคณินที่ยิ้มร่าก็ปรากฏตัวขึ้น
เขาหันกลับไป นิ้วมือของเขาเฉียดผ่านใต้คางของเลขา น้ำเสียงของเขายังคงมีแววหยอกเย้าเหมือนเดิม “ขอบใจคุณคนสวยที่นำทางนะครับ”
เลขานิ่งอึ้งไป จากนั้นใบหน้าก็แดงก่ำและรีบเดินออกจากห้องทำงานทันที
ญาธิดาเห็นฉากนี้แล้วอดไม่ได้ที่จะค้อนให้เขา สบถเสียงต่ำว่า “คุณคณินรับช่วงต่อบริษัทข้ามชาติJVแล้ว แต่นิสัยยังไม่เปลี่ยนเลยสักนิด”
“อย่าพูดเรื่องที่สะกิดใจผมดีกว่า เอ่ยถึงเรื่องนี้ทีไรผมก็รู้สึกปวดหัวทุกที”คณินนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ข้างๆนั้น ยื่นขาไปพาดกับโต๊ะที่อยู่ข้างหน้าอย่างเคยชิน
ญาธิดาขมวดคิ้ว ตำหนิเสียงต่ำทันที “เอาเท้าลงเดี๋ยวนี้เลยนะ”
คณินตกใจสะดุ้งโหยง มองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แต่เมื่อได้สติก็พบว่าเธอแค่จงใจแกล้งขู่เขาเท่านั้น จึงเอาขาลงจากโต๊ะอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “พอเป็นคุณนายของสถิรานนท์แล้วก็มีอำนาจไม่น้อยทีเดียว ทำไมตอนนี้ถึงได้ดุขนาดนี้นะ ”
“นายคิดว่าทุกคนต่างก็ทำอะไรอย่างไม่คิดเหมือนนายหรือไง ภวินท์รักความสะอาด ถ้าหากเขารู้ว่านายทำตัวไม่เหมาะสมที่นี่ กลับมาเขาคงหักขานายแน่”เธอถลึงตาให้เขา จงใจทำสีหน้าท่าทีให้ดูดุดันน่ากลัว
คณินรู้สึกระอาใจอยู่บ้าง ยกมือสองข้างสูงกว่าศีรษะแล้วพยักหน้า ทำท่ายอมแพ้ จากนั้นก็ยิ้มอย่างขี้เล่น “วันนี้ผมเอาเงินมาให้พี่นะ พี่จะเอาไหม”
“เอา มีเงินเยอะไม่ใช่เรื่องเสียหาย”ญาธิดาพูด รื้อสัญญาที่ได้เซ็นเรียบร้อยแล้วโยนไปให้เขา “ฉันกำลังรอนายมาหาอยู่พอดีเลย”
“คุณพี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ผมน่าจะเป็นฝ่ายร่างสัญญา ทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นว่าผมเป็นฝ่ายขอความร่วมมือจากพี่ล่ะ”เขาเบ้ปาก
ญาธิดาเลิกคิ้วขึ้น เผยสีหน้าที่แสดงให้เห็นว่าฉันรู้
ตอนที่เธอแต่งงานกับภวินท์ คุณพ่อของคณินก็ตอบรับคำเชิญมาร่วมงานแต่งงานด้วย ว่ากันว่าเขาเห็นลูกชายของตระกูลอื่นต่างก็แต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้ว ท่านจรัลก็รู้สึกอิจฉามาก หลังจากกลับบ้านไปก็ให้ลูกชาย“กลับเข้าสู่เส้นทางที่เหมาะสม”ทันที
ในเวลาสั้นๆแค่หนึ่งสัปดาห์ ท่านจรัลได้ทำเรื่องการออกจากตำแหน่งและทำการแต่งตั้งคนใหม่ รวมไปถึงการจับคู่แต่งงานให้กับลูกชาย ผลักคณินขึ้นสู่หนทางการเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่มีทางหันหลังกลับได้อีกแล้ว
คณินไม่ยินดีถูกจับคู่แต่งงานด้วยเรื่องธุรกิจที่น่าประหลาดผูกมัดเอาไว้ ได้เปิดศึกต่อต้านกับท่านจรัล ขอเพียงเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงาน ก็สามารถหนีการจับคู่แต่งงานระหว่างคนรวยได้เป็นการชั่วคราว
ฉะนั้นตอนนี้คุณคณินจึงจำเป็นต้องเร่งทำ “ผลงาน”เพื่อให้ก้าวพ้นจากหลุมการแต่งงาน
“จะว่าไป ถ้าหากผู้หญิงที่จะแต่งงานกับนายเป็นคนที่อ่อนหวานเพียบพร้อมใจดีมีสง่าล่ะ นายจะไม่ลองดูสักตั้งเหรอ”เธอถามอย่างอยากรู้
“นิสัยที่พี่พูดมาทั้งหมด พี่คิดว่าผมจะชอบอันไหน”คณินเผยให้เห็นสีหน้าที่รังเกียจอย่างสุดขีด “คุณสมบัติที่พี่เอ่ยขึ้นเมื่อกี้นี้ ทุกอย่างล้วนน่ากลัวมาก พอเอามารวมกันแล้วมันน่ากลัวซะยิ่งกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมหรือสัตว์ป่ารุมทึ้งซะอีก”
ญาธิดาพยักหน้าเงียบๆ
นิสัยเหล่านี้ไม่มีอันไหนที่เหมาะกับคณินเลย ถ้าหากเขาแต่งงานกับผู้หญิงแบบนั้นจริงๆ คงต้องรังแกคนอื่นคนตายแน่ๆ น่าจะจัดการหาเมียที่แข็งกร้าวให้เขาสักคน ให้เขาได้ลิ้มลองรสชาติของการถูกสังคมรังแกซะบ้าง
คณินเห็นสายตาของเธอมีแววเจ้าเล่ห์วาบขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าถอนหายใจยาว “ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วน่ากลัวชะมัด ดูคุณก็รู้แล้ว”
ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ กะพริบตาที่ใสแจ๋ว ถามขึ้นด้วยรอยย้อม “ตอนนี้ฉันก็พอจะรู้จักกับบอสใหญ่ๆในวงการธุรกิจไม่น้อย จะให้ฉันช่วยนายเลียบๆเคียงๆสืบหาว่าว่าที่ภรรยาของนายเป็นใครดีไหม”
“ไม่ต้อง”คณินรีบโบกมือปฏิเสธทันที ใบหน้าที่หล่อเหล่าบิดเบี้ยวไม่พอใจ “คุณผู้หญิง พวกเราอย่าเพิ่มความวุ่นวายจะดีกว่า ทำไมตอนนี้พี่ถึงได้น่ากลัวขนาดนี้เนี่ย”
ญาธิดาสีหน้าขรึมลงทันที ทำท่าเหมือนจะลงมือกับเขา เขารีบยกปากกาขึ้นมาเซ็นสัญญา ทั้งสองคนได้ร่วมมือทำโปรแจ็คใหม่ร่วมกันในบรรยากาศที่ไม่เป็นทางการเช่นนี้เอง
“ญาธิดา ผมได้สร้างกำไรมหาศาลให้กับคุณขนาดนี้ คืนนี้สมควรจะเลี้ยงเหล้าเป็นการตอบแทนผมสักแก้วใช่ไหม”เขายื่นเอกสารให้ญาธิดา เขยิบเข้าใกล้เธอรอคำตอบอย่างมีความหวัง
ญาธิดาผลักเอกสารทั้งหมดไปตรงหน้าเขา เบ้ปาก“นายดูสิว่าฉันมีเวลาไปดื่มเป็นเพื่อนนายไหม”
“ออ……”เขายืดตัวตรง จากนั้นก็ยัดมือลงไปในกระเป๋ากางเกงสูท ร่วมกับหางเสียงที่จงใจลากให้ยาวขึ้น พร้อมกับทำท่าเป็นเพลย์บอยเศรษฐี “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่แน่ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะร่วมงานกัน”
ปลายปากกาที่กำลังจรดบนเอกสารชะงักไป เหลือบตาขึ้นมองเขา หรี่ตาลงเล็กน้อยแฝงแววหยอกล้อ“ก็แค่ดื่มเหล้า ฉันย่อมต้องให้เกียรติอยู่แล้ว”
คณินเลิกคิ้วให้เธออย่างได้ใจ “ไม่ต้องส่งผม ผมรู้จักทางดี”
“อืม”เธอมองตามแผ่นหลังของเขา แล้วก็ค่อยๆพึมพำกับตนเองว่า “ฉันชักอยากจะรู้จักกับคนที่มีนิสัยอ่อนโยนเรียบร้อย และเพียบพร้อมอย่างคุณรีนคนนั้นจริงๆ”
“ญาธิดา พี่……”พอเขาได้ยินก็หันกลับมาทันที กัดฟันจนเกิดเสียงดังกรอด
ความหงุดหงิดในใจของญาธิดาในที่สุดก็ดีขึ้นในชั่วขณะ เธอคิดในใจเงียบๆ เป็นอย่างที่คิด การรังแกคนเป็นเรื่องที่สะใจจริงๆ
“บ๊ายบาย คุณคณิน”เธอโบกมือให้กับคณินอย่างอารมณ์ดี “เจอกันคืนนี้”
คณินไม่รู้ว่าจะจัดการกับเธอยังไงดี ได้แต่ถอนหายใจกับตนเองเบาๆ “ปัง”เสียงปิดประตูห้องทำงานอย่างแรง
ที่จริงครั้งนี้เขาแค่ต้องการเชิญญาธิดาไปนั่งที่บาร์เฉยๆ ไม่ได้อยากจะให้เธอดื่มเหล้า เขาแค่อยากจะเชิญเธอไม่คุยเรื่องธุรกิจเท่านั้น เพราะว่าช่วงนี้มีกลุ่มทุนข้ามชาติที่มีชื่อเสียงมาขอร่วมงานกับบริษัทข้ามชาติJV
ภายนอกนั้นบริษัทข้ามชาติJVเป็นฝ่ายร่างสัญญา แต่ที่จริงการบริหารจัดการภายในของบริษัทไม่สามารถรับงานที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ เขาอยากจะเซ็นสัญญากับกลุ่มทุนข้ามชาตินี้ร่วมกับ STN Group ทั้งสองบริษัทร่วมกันเป็นผู้ร่างสัญญา
การก้าวข้ามด่านสำคัญนี้สำหรับ STN Groupแล้วถือเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง ถ้าหากสามารถทำโปรแจ็คให้สำเร็จได้ STN Groupก็สามารถใช้โอกาสนี้ในการขยายตลาดใหม่ ญาธิดาย่อมยินดีแน่นอน
ทั้งสองตกลงเรื่องเนื้อหาของการแบ่งบัญชีค่าใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังจะแยกย้ายกัน คณินก็เปลี่ยนใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“อะไร”
ญาธิดามองตามสายตาของเขาไปยังเคาน์เตอร์บาร์อย่างประหลาดใจ สายตาหยุดนิ่งที่หญิงสาวที่มีรูปร่างเซ็กซี่ข้างบาร์
เมื่อมองไปทั่วทั้งบาร์แล้ว นับว่าหน้าตาและรูปร่างของเธอนั้นอยู่ในระดับที่ดีมาก รอบข้างย่อมไม่ขาดชายหนุ่มที่เข้ามาเพื่อพูดคุยและประจบเธอ เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธผู้ชายที่เข้ามา หยอกล้อกับคนนี้สักพัก ล้อเล่นกับคนนั้นสักครู่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีทีท่าเกินเลยกับใคร
“สินค้าชั้นเยี่ยม”คณินอดไม่ได้ที่จะจุ๊ปาก “ผู้หญิงแบบนี้มีแต่ผมเท่านั้นที่เอาอยู่”
เห็นเขาถือแก้วเหล้าแล้วลุกขึ้น ญาธิดารีบยื่นมือรั้งตัวเขาไว้ทันที “กิริยาท่าทีของผู้หญิงคนนี้มีดูดีกว่าคนทั่วไป ไม่เหมือนผู้หญิงที่มาจากครอบครัวธรรมดา ทางที่ดีนายควรจะทำตัวนิ่งๆเข้าไว้”
“จิ้งจอกน้อยที่ส่งมาถึงปาก ผมจะปล่อยให้หนีไปได้ยังไง ผมให้คนขับรถไปส่งพี่ ผมจะไปทำความรู้จักเธอสักหน่อย”ระหว่างที่พูด ก็เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์บาร์
หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ใช้สายตากวาดมอง เมื่อพบว่าเขาอยู่ที่นี่ด้วยก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ยังไม่ทันรอให้คณินเข้ามาทักทาย เธอก็พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “ฉันกับคุณไม่ใช่คนจำพวกเดียวกัน เปลี่ยนเป้าหมายอื่นเถอะค่ะ”