ดวงใจภวินท์ - บทที่ 737 ส่งมาปฏิบัติภารกิจ
บทที่ 737 ส่งมาปฏิบัติภารกิจ
รองเท้าส้นสูงเหยียบลงบนพื้นกระเบื้องจนส่งเสียงดังแสบแก้วหู หญิงสาวสูงเพรียวผมสั้นเดินเข้าไปในสนามฝึกใต้ดิน และกวาดสายตามองไปยังคนที่กำลังฝึกอยู่ข้างๆ “จรณ์อยู่ที่ไหน”
ไม่มีใครรู้จักผู้หญิงคนนั้น จึงไม่มีใครตอบ
หลุยส์เดินตามเธอมาติดๆ ยังคงมีรอยยิ้มเหยียดหยามประดับบนใบหน้า “คนสวยมาแล้วเหรอ ไม่ได้เจอกันนานดูดีขึ้นเยอะเลยนะเ”
ผู้หญิงคนนั้นได้ยินแบบนั้นก็หันมาหรี่ตามองเขา น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ “ทำไมเป็นนาย? ทำไมจรณ์ไม่มา”
หลุยส์แตะปลายจมูกของเขา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “จรณ์มีงานต้องทำ และเธอก็น่าจะรู้ว่างานที่สำนักงานใหญ่จะรอช้าไม่ได้”
เมื่อหญิงสาวได้ยินคำว่า “สำนักงานใหญ่” เธอก็หยุดพูด สีหน้าดูแย่เล็กน้อย จากนั้นก็หันหลังเดินตรงไปที่ประตูห้องสอนยิงปืน
ก่อนที่เธอจะได้ผลักประตูเข้าไป หลุยส์ก็รีบหยุดการเคลื่อนไหวของเธอ ทั้งสองคนมองหน้ากัน หญิงสาวมีสีหน้าเย็นชา ส่วนชายหนุ่มแย้มยิ้มแต่กลับส่งไปไม่ถึงแววตา สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด
“นายกล้าห้ามฉันเหรอ” เสียงแหลมคมของหญิงสาวเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และความไม่พอใจในการแสดงออกของเธอก็รุนแรงขึ้น
“ไม่กล้าหรอก คุณถูกส่งมาจากสำนักงานใหญ่เพื่อทำงานนี้ ผมมันก็แค่ไอ้หลุยส์จะไปทำอะไรคุณได้ คุณว่าไหมล่ะ”
ความหนาวเย็นในดวงตาของเขานั้นหายวับไป และจากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นมาและพูดช้าๆ ว่า “ผมคิดว่าคุณคงเหนื่อยจากการเดินทาง ก็เลยอยากให้คุณไปพักผ่อน คุณจะมาเข้าใจผิดในความหวังดีของผมไม่ได้นะ”
ผู้หญิงคนนั้นสูดลมหายใจอย่างเย็นชา สายตาของเธอจับจ้องไปที่ประตูเหล็กที่ปิดอยู่ เอ่ยถามเสียงเย็น “วินกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างในเหรอ?”
“ผู้หญิง? ผู้หญิงอะไร” เขาถามอย่างรู้เท่าทัน
ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นยิ่งทวีความโกรธมากกว่าเดิม เตรียมยกมือขึ้นตบหน้าของเขา
แขนเรียวเล็กยกขึ้นมากลางอากาศ หลุยส์รีบคว้ามือของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็วและมั่นคง แล้วสะบัดทิ้งไปข้าง ๆ แล้วแสร้งทำเป็นเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป “คุณหมายถึงเด็กฝึกหัดผู้หญิงคนใหม่ในozoneเหรอ? ใช่เธอข้างในนั้นแหละ”
ขณะพูด ร่างกายของเขาก็เบี่ยงไปขวางประตูเอาไว้ พูดกึ่งติดตลกว่า ” ตำแหน่งอย่างวิน ได้สอนคนใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่นาว่าไหม”
“ไปให้พ้น!” ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย เธอเอื้อมมือออกไปผลักเขาออก
เสียงดังก้องอยู่ในหูของทั้งสองคน เมื่อประตูห้องยิงปืนถูกเปิดโดยอัตโนมัติ จากนั้นญาธิดาซีและภวินท์ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูพร้อมกัน
เมื่อเห็นภวินท์ ผู้หญิงคนนั้นก็หยุดมือของเธอทันที สีหน้าของเธออ่อนลงกว่าเมื่อก่อนมาก เอ่ยทักทายอย่างเรียบนิ่ง “วิน คุณ…”
ภวินท์เหลือบมองที่เธอ การแสดงออกและท่าทีของเขายังคงมีแต่ความไม่แยแสเหมือนเมื่อก่อน “ทำไมคุณถึงมาที่นี่?”
ท่าทีที่ทั้งสองปฏิบัติต่อกันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ความผิดหวังปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว เธอตอบกลับด้วยเสียงต่ำ “ฉันถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจชั่วคราว”
ภวินท์พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ เป็นคำตอบ จากนั้นก็จับมือของญาธิดา และพูดเบา ๆ ว่า “วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ”
หญิงสาวตกใจและมองมาที่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เท่าที่เธอจำได้ ภวินท์นั้นเย็นชาและเข้มงวดมาตลอด เมื่อไหร่กันที่เขาหันมาแสดงด้านที่อ่อนโยนเช่นนี้ แถมยังทำอย่างนั้นกับผู้หญิงคนอื่นด้วย
ญาธิดาเหลือบมองเธออย่างลังเล ราวกับว่ามีอะไรจะพูด แต่ในท้ายที่สุดเธอก็ตัดสินใจพยักหน้าอย่างเชื่อฟังและจับมือภวินท์ไว้แน่น
ฉากนี้บาดตาหญิงสาวอย่างแรง ความโกรธปรากฏบนใบหน้าของเธอ เมื่อเห็นภวินท์เตรียมจะก้าวเดินออกไป เธอจึงยื่นมือไปขวางทางของทั้งสองคนทันที “หคุณคนนี้ดูไม่คุ้นเลย ไม่คิดจะแนะนำเธอหน่อยเหรอ?”
“นี่คือเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่ส่งมาปฏิบัติภารกิจ ชื่อนพเก้า” ภวินท์มองผู้หญิงที่อยู่ตรงข้าม แล้วหันมาที่ญาธิดา “ส่วนนี่ภรรยาผม ชื่อญาธิดา”
ภรรยา?
ดวงตาของนพเก้าเต็มไปด้วยความตกใจที่ไม่สามารถซ่อนเอาไว้ได้
เขาระวังไม่ให้คนรอบตัวรับรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขามาตลอดไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมเขาสามารถบอกญาธิดาได้อย่างเปิดเผยล่ะ แถมยังหาทางพาเธอมาฝึกที่ozoneด้วย?
ความเกลียดชังค่อยๆ ปรากฏขึ้นในหัวใจของนพเก้า เกลียดชังที่เธอเป็นคนพิเศษ เกลียดที่เธอสามารถเข้ามาในองค์กรได้โดยใช้ความพยายามแค่เล็กน้อย และเกลียดที่เธอครองตำแหน่งคนสำคัญในใจของภวินท์
เมื่อเธอเห็นสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของญาธิดา เธอก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบปรับท่าทางให้ดูหยิ่งยโส ยืดคอให้ตรง ยื่นมือออกไปจับกับญาธิดา “สวัสดี ฉันนพเก้า”
ญาธิดารีบเอื้อมมือออกไป เมื่อมือของทั้งสองสอดประสานกัน นพเก้าก็บีบกระชับมือแน่นขึ้นทันที เหมือนจะออกแรงเยอะไปหน่อย ญาธิดาถึงได้เริ่มขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดอย่างอดไม่ได้
นพเก้ารู้สึกเท่าเทียมขึ้นมาเล็กน้อน เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างดูถูก และมองอีกฝ่ายอย่างดูแคลน “คุณเองสินะที่เป็นคู่หูของฉันในภารกิจครั้งนี้”
คู่หู?
ดวงตาของญาธิดางงงวยมากขึ้น การฝึกของเธอยังไม่เสร็จสิ้น และเธอไม่ได้รับแจ้งจากจรณ์เลย แล้วเธอจะไปเป็นคู่หูของผู้หญิงคนนี้แปลกหน้านี้ได้อย่างไร
เมื่อเห็นความสงสัยของเธอ นพเก้าจึงถามอย่างแปลกใจว่า “นี่เป็นคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ จรณ์ยังไม่ได้แจ้งคุณเหรอ”
ขณะที่เธอพูดอย่างนั้น เธอก็ยิ้มเยาะออกมา และโดยไม่รอคำตอบของญาธิดา เธอก็พูดต่อ “นั่นสินะ ดูจากสภาพคุณในตอนนี้แล้วคงทำภารกิจอะไรไม่ได้หรอก คิดไม่ถึงเลยว่าozoneจะเอาแจกันดอกไม้ที่ไร้ประโยชน์มาวางประดับเฉยๆ”
ดวงตาของภวิท์อึมครึมลง กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ญาธิดาจับปลายนิ้วของเขาไว้ มือของทั้งสองจับกันแน่น แต่บนใบหน้าของพวกเขายังมีแต่ความเรียบนิ่ง
ญาธิดาจ้องมองเธอด้วยดวงตาเป็นประกาย “ถ้าพูดถึง ‘แจกัน’ มันก็จริงค่ะที่รูปลักษณ์ภายนอกฉันสู้คุณไม่ได้ แต่เราก็มีจุดที่เหมือนกันอยู่นะคะ ทุกคนเข้ามาในองค์กรได้เพราะอาศัยศักยภาพทั้งนั้น”
นพเก้าดูเหมือนจะไม่คาดคิดว่าเธอจะตอบด้วยทัศนคติที่แข็งแกร่งเช่นนี้ และหัวใจของเธอก็พลันกระตุกทันที ความเกลียดชังของเธอที่มีต่อญาธิดาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เธอคิดกับตัวเองว่าญาธิดาคนนี้ดูอ่อนแอมาก แต่นิสัยกลับดื้อรั้นและแน่วแน่ เหมือนกับตอนที่เธอเข้ามาในองค์กรครั้งแรก เธอไม่กลัวฟ้าและดิน
ผู้หญิงคนนี้จะต้องถูกกำจัดออกไป มิฉะนั้นตำแหน่งของเธอในองค์กรจะถูกคุกคามในไม่ช้าก็เร็ว!
นพเก้าคิดเรื่องนี้ พลางเยาะเย้ยที่มุมปาก จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำว่า “เก่งจริงไม่เก่งจริง พูดแค่ปากเปล่าอย่างเดียวไม่ได้หรอก ฉันไม่อยากได้ตัวถ่วงที่ทำให้งานฉันเดินช้า ถ้าอยากปฏิบัติภารกิจก็ต้องผ่านฉันไปได้ก่อน ”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็มองมาที่ญาธิดาอย่างยั่วยุ
ริมฝีปากบางของญาธิดาขยับเบา ๆ ดูเหมือนว่านพเก้ากำลังพยายามทำให้เธออับอาย พร้อมกันนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้น และพูดออกมาทีละคำว่า “ฉันเป็นมือใหม่ หวังว่าคุณจะสามารถให้คำแนะนำเพิ่มเติมแก่ฉันได้”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ ความเกลียดชังก็ปะทุออกมาจากดวงตาของนพเก้า ตรงเข้าไปตรึงข้อมือของเธอไว้โดยตรง พยายามยับยั้งการเคลื่อนไหวของเธอ
ท่าทางของญาธิดาเข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเอียงตัวปรับแขนให้อยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างสบายตามการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ยกเท้าเตรียมถีบจุดที่มือทั้งสองกำลังจับประสานกัน แต่ถูกอีกฝ่ายสกัดไว้ได้
“ฝีมือแค่นี้คิดจะไปปฏิบัติภารกิจเหรอ?” น้ำเสียงของนพเก้าเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย เธอคว้าข้อเท้าของอีกฝ่ายแล้วโยนร่างเพรียวลงบนพื้นที่ว่างข้างๆเธอ
ญาธิดาไม่สามารถหลบได้ทันเวลา และก่อนที่ได้จะตอบสนอง ทั้งตัวก็ล้มลงกับพื้นอย่างหนัก ในขณะที่ลืมตาขึ้น หมัดที่กำแน่นของนพเก้าก็ลอยมาอยู่ใกล้ดวงตาของเธอ
เธอหลับตาลงเตรียมรับแรงชก แต่จู่ๆหมัดก็หยุดลง อยู่ห่างจากจมูกของเธอสองเซนติเมตร