ดวงใจภวินท์ - บทที่ 740 ถอนตัวภายในวันนี้
บทที่ 740 ถอนตัวภายในวันนี้
ญาธิดาประหลาดใจที่คราวนี้เธอไม่ได้ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล แต่นอนอยู่ในห้องของozoneการตกแต่งที่คุ้นเคยตรงหน้าเธอทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
ภวินท์และลูกสองคนอยู่ข้างเตียงของเธอ เมื่อเห็นเธอฟื้นขึ้นมาก็ก้าวเข้าไปหาทันที
“เกิดอะไรขึ้น? ฉันควรจะอยู่ที่Triangle Barไม่ใช่เหรอ?” เธอหันไปมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง แล้วจับขมับด้วยความเจ็บปวด
มือเล็ก ๆ ของเอลล่าแตะลงที่หน้าผากของเธอ เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวด เอ่ยพูดด้วยเสียงน่ารักว่า: “แม่ นอนหลับไปตั้งหนึ่งวันหนึ่งคืน ถ้าแม่ยังไม่ตื่นอีก ฉันกับพี่ว่าจะพาไปโรงพยาบาลแล้วเชียว”
หนึ่งวันหนึ่งคืน?
เธอหันไปหาภวินท์ และถามอย่างกังวลว่า “แล้วภารกิจล่ะ?”
ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าของเขาดูอึมครึมอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็เอ่ยถามอย่างเย็นชาว่า “เวลาแบบนี้คุณยังคิดถึงเรื่องนั้นอีกเหรอ ไม่ห่วงตัวเองบ้างหรือไง?”
เธอส่ายหัวและตอบอย่างหนักแน่นว่า “ฉันพยายามมาหลายวันก็เพื่อรอวันนี้”
“ใจเย็นๆ ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ญาธิดาได้รู้ว่าหลังจากที่นพเก้าถอนตัวสำเร็จ เธอได้แจ้งสมาชิกในทีมทุกคนให้หยุดปฏิบัติการ และให้ทุกคนรออยู่ที่รถตู้ด้านนอก
คอนโซลหลักพบว่าไม่สามารถติดต่อญาธิดาได้ และพวกเขาก็รู้ว่าแผนมีการเปลี่ยนแปลง จึงเหลือสมาชิกในทีมเพียงไม่กี่คนไว้รอรับมือ ส่วนที่เหลือให้กลับไปที่ozone
เพื่อความปลอดภัยส่วนตัวของเธอ ozoneจึงต้องดำเนินการจับกุมล่วงหน้า และเร่งเวลาในการเผยแพร่คลิปเสียงที่นพเก้านำกลับมาด้วย รวมไปถึงพยานและหลักฐาน
หลังจากนั้นก็ส่งคนไปที่Triangle Barอีกครั้ง เพื่อกำจัดคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จากนั้นก็พาตัวญาธิดาที่มีรอยฟกช้ำกลับมา
เพื่อความปลอดภัยส่วนตัวของเธอ ozoneจึงต้องดำเนินการจับกุมล่วงหน้า และเร่งเวลาในการเผยแพร่คลิปเสียงที่นพเก้านำกลับมาด้วย รวมไปถึงพยานและหลักฐาน
ใบหน้าของญาธิดาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คว้าแขนเสื้อของเขาแล้วถามอย่างมีความสุข “จับคนพวกนั้นได้ใช่ไหม ฉันทำสำเร็จแล้วใช่ไหม”
ภวินท์เงียบปากไม่ตอบสนองต่อคำพูดของเธอ เพียงแค่เอื้อมมือออกไปและลูบผมของเธอ
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา รอยยิ้มบนใบหน้าของญาธิดาก็ค่อยๆ แข็งค้าง เอ่ยถามอย่างลังเลว่า “คุณมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า?”
“คุณพักผ่อนให้หายดีก่อน จรณ์จะคุยกับคุณแบบตัวต่อตัวอีกครั้ง” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ไม่” ญาธิดาชะงักเล็กน้อย ใช้กำลังที่แขนพยุงร่างกายลุกขึ้นนั่ง พูดอย่างกังวลใจว่า “ฉันอจะไปหาจรณ์เดี๋ยวนี้ ฉันต้องได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
เธอบพูดพร้อมกับพลิกตัวจะลงจากเตียง และภวินท์ก็หยุดการเคลื่อนไหวของเธอทันที แล้วพยุงเธอกลับไปนอนที่เตียงเหมือนเดิม
เมื่อเห็นใบหน้าที่มืดมนของเขา ญาธิดาก็เหมือนจะรู้คำตอบ คว้าข้อมือของเขาแล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณรู้ใช่ไหม”
เมื่อภวินท์เห็นสีหน้าวิตกกังวลของเธอ สุดท้ายก็ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ภารกิจใรครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี แต่คุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”
“ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง…” ญาธิดาพึมพำ
เธอร่วมมือกับนพเก้า หาหลักฐาน ทั้งยังช่วยคุ้มกันให้นพเก้าถอยทัพออกไปได้อย่างราบรื่น ผลกลับกลายเป็นว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ?
เธอนั่งลงข้างเตียงอย่างสิ้นหวัง ไม่ได้สังเกตว่ามีคนผลักประตูเข้ามา อีธานและเอลล่าเป็นคนแรกที่หันไปมอง จากนั้นก็เอ่ยทักทายลุงจรณ์ขึ้นมาพร้อมกัน
ภวินท์เหลือบมองเขา และพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “นายยังไม่ได้พักผ่อนเหรอ?”
“ฉันได้ยินว่าเธอฟื้นแล้ว ก็เลยมาดู” จรณ์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอแบบนี้ “ธิดา เป็นยังไงบ้าง?”
“รู้เรื่องแล้ว” เสียงของภวินท์เย็นลงกว่าเดิม
กำปั้นของจรณ์กำแน่นโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแสงอันเยือกเย็น จากนั้นเขาก็เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “เรื่องนี้ไม่ได้จัดการง่ายขนาดนั้น”
“นายหมายถึง…” ภวินท์เหลือบมองเขา
เขาพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม ซึ่งทั้งสองเข้าใจกันโดยปริยาย จากนั้นก็พูดต่อว่า “ไม่มีใครเล่นตุกติกต่อหน้าฉันได้หรอก”
บรรยากาศภายในห้องค่อยๆมาคุ จรณ์เดินไปข้างเตียงด้วยก้าวหนักๆ แล้วเรียกญาธิดาเบาๆ
เธอเงยหน้าขึ้นมา พร้อมฝืนยิ้มให้อีกฝ่าย “คุณมาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องของฉันสินะ?”
“คุณเปิดเผยตัวตนของคุณระหว่างปฏิบัติการ ทำให้องค์กรต้องยุติแผนเดิม และดำเนินการจับกุมล่วงหน้า ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในภารกิจ”
ขณะที่จรณ์กล่าว เขาก็หยิบการ์ดจากกระเป๋าออกมาแล้วยื่นให้กับเธอ “เชิญถอนตัวออกจากการฝึกในozoneภายในวันนี้”
เมื่อเธอได้ยินแบบนั้น รูม่านตาของเธอก็หดลงทันที น้ำตาค่อยๆเอ่อคลอดวงตาของเธอ เธอมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เธอเองก็คิดว่านี่เป็นความผิดของฉันคนเดียวเหรอ?”
“ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ดังนั้นจะไม่มีการลงโทษคุณ ซึ่งนี่ถือว่าสำนักงานใหญ่ใจดีกับคุณแล้ว” จรณ์ตอบอย่างเย็นชา
ญาธิดายิ้มออกมาอย่างขมขื่น พยายามกลั้นน้ำตา กัดฟันและพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะปฏิบัติตามคำสั่งสุดท้ายที่องค์กรมอบหมายให้ฉัน นั่นคือการถอนตัว”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ยื่นมือไปรับการ์ดที่จรณ์มอบให้ด้วยมือทั้งสองข้างและถือมันไว้แน่น
“คุณเป็นคนฉลาด คุณน่าจะรู้ดีว่าชีวิตแบบไหนเหมาะกับคุณ” จรณ์หยุดนิ่ง แล้วพูดต่อว่า “ozoneจะดูแลปกป้องครอบครัวของพรรคพวกทุกคน รวมถึงคุณและลูกของคุณทั้งสองคนด้วย”
ญาธิดาตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียง จากนั้นเธอก็มองไปที่การ์ดในมือ
นี่คือ……
คีย์การ์ดของสนามฝึกใต้ดินozone? !
จู่ ๆ เธอก็เข้าใจความหมายในคำพูดของจรณ์ จึงยิ้มให้เขาทันที เอ่ยพูดอย่างเชื่อฟังว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันค่อยโล่งใจหน่อย”
“คุณฉลาดมากจริงๆ” นัยน์ตาของจรณ์มีความชื่นชมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
น้ำเสียงของเขาไม่จริงจังเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณกับวินยังมีชีวิตประจำวันอื่นๆต้องทำวัน กิจการของบริษัทก็ต้องดูแล อีธานกับเอลล่าก็ควรมีวัยเด็กที่ดีเช่นกัน เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้กลับกันเถอะ ”
ญาธิดาทำท่าทาง “โอเค” กับเขาด้วยอารมณ์ดี
หลังจากที่จรณ์ออกไป ดูเหมือนเธอจะนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงมองมาที่ภวินท์ และถามด้วยความสงสัย “คุณไปเจอฉันที่ไหน”
“ห้องวีไอพีอีกห้องหนึ่ง” เขาตอบอย่างใจเย็น
เธอพยักหน้าเล็กน้อย นึกถึงฉากนั้นก่อนที่จะหมดสติ แล้วพึมพำกับตัวเองว่า “ฉันจำได้ว่าแพรวาช่วยฉันไว้ และฉันก็เห็นคิรินด้วย…”
ภวินท์เลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทางที่มีความหมายบนใบหน้าของเขา “พอเป็นเรื่องนี้แล้วคุณจำได้แม่นจังเลยนะ”
“ก็พวกเขาเป็นผู้มีพระคุณนี่นา” หลังจากตอบกลับไป เธอก็หยุดนิ่ง ขมวดคิ้วพร้อมจ้องมาที่เขา “คุณเองก็จำแม่นเหมือนกันแหละ”
สิ่งที่อยู่ในหัวของพวกเขา คนหนึ่งสนใจเกี่ยวกับการมีอยู่ของแพรวา อีกคนสนใจเกี่ยวกับการมีอยู่ของคิริน บรรยากาศในห้องพลันเต็มไปด้วยความมาคุ
ในท้ายที่สุด ญาธิดาก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ จึงแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา
จากนั้นก็พูดเสียงเบาว่า “ฉันแค่สงสัยว่าทำไมแพรวาถึงช่วยฉัน ถึงยังไงสถานการณ์ตอนนั้นก็อันตรายมาก คนปกติคงเลือกปกป้องตัวเอง บางทีเธอที่ช่วยฉันอาจเป็นเพราะคุณก็ได้…”
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่?” แสงอันนุ่มนวลแวบเข้ามาในดวงตาของเขา เขาเอาฝ่ามือหนาขยี้ผมของเธอแล้วถามว่า“หึงเหรอ?”
ญาธิดาอดไม่ได้ที่จะกลอกตา ยิ่งเมื่อเห็นท่าทาง “ได้ใจ” ของเขา ก็ยิ่งรู้สึกหายใจไม่ออก เธอปัดมือเขาออกอย่างหงุดหงิด