ดวงใจภวินท์ - บทที่ 755 ความวุ่นวายของการหย่าร้าง
บทที่ 755 ความวุ่นวายของการหย่าร้าง
อัญมณีรีบพยักหน้าอย่างทันที ยื่นโทรศัพท์ให้กับเธอ “พวกเธอดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่หย่าร้างกันเลยนะ? หรือว่าวินจะแอบซุกเมียน้อยเอาไว้ข้างนอก?”
ภวินท์กวาดสายตามองมาด้วยความเย็นชา เธอหดคอลง เงียบปากไปทันที
#ญาธิดาแม่เลี้ยงเดี่ยว# #การหย่าร้างกันของภวินท์# พวกคำค้นหาถูกไฮไลท์สีแดงเอาไว้ในการค้นหายอดนิยม บัญชีแอคเคาท์มากมายต่างโพสต์ภาพที่เธอพาลูกไปโรงเรียนตามลำพัง
“รายการพ่อแม่และเด็กเมื่อครั้งที่แล้วความสัมพันธ์ของพวกเขายังดีอยู่เลยนี่นา แล้วทำไมจู่ๆ ถึงหย่ากันซะแล้วล่ะ”
“นี่เป็นการแต่งงานครั้งที่สามของญาธิดาแล้วใช่ไหม? ไม่รู้ว่าพวกเราจะโชคดีที่จะได้เห็นครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้าหรือเปล่า ผู้หญิงคนนี้แต่งงานบ่อยจริงๆ”
“นึกว่าตัวเองเจอกับรักแท้เข้าแล้ว แต่ที่ไหนได้กลับเป็นคนหลอกลวง ความรักนี่มันไม่น่าเชื่อถืออย่างที่คิดเอาไว้ แต่การร่ำรวยขึ้นมากะทันหันมันดันมีอยู่จริง”
“สงสารก็แค่อีธานและเอลล่าเด็กน้อยทั้งสองคนนี่แหละ ยังเด็กขนาดนั้นก็ขาดความรักจากพ่อซะแล้ว”
“พวกลูกๆ ขาดพ่อได้เหรอ? แม้ว่าฉันก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่ฉันก็น่าเชื่อถือกว่าผู้ชายหลอกลวงแบบคุณภวินท์แน่นอน แม่ของเด็กรีบมองมาที่ฉันเร็วเข้า!มองมาที่ฉัน!”
ญาธิดามองความคิดเห็นที่ร้อนแรงเหล่านี้ก็รู้สึกหมดหนทางทำอะไรถูก สุดท้ายก็เอาโทรศัพท์ให้กับอัญมณี “ดูพวกสิ่งที่ไม่มีประโยชน์พวกนี้ให้มันน้อยลงหน่อย ฉันไม่ใช่ดาราที่โด่งดังอะไร วันๆ เอาแต่เกาะติดอยู่บนการค้นหายอดนิยมมันจะมีความหมายอะไร”
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะโด่งดังซะยิ่งกว่าดาราอีก” อัญมณีพูดตำหนิออกมาอย่างไร้ความรู้สึก ญาธิดากลอกตามองบนอีกครั้ง “วันนี้เธอจะกลับตระกูลกรเวชไม่ใช่เหรอ? ถ้ายังไม่ออกเดินทางอีกเกรงว่าจะไม่ทันได้เจอกับพี่ชายของเธอแล้วนะ”
อัญมณีเพิ่งจะจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็หายวับไปทันที แทนที่ด้วยสีหน้ามืดมน
“ความวุ่นวายของการหย่าร้างทำให้เกิดความผันผวนของตลาดหุ้นอย่างง่ายดาย ประมาณว่าพวกผู้ถือหุ้นเก่าพวกนั้นจะต้องสร้างความโกลาหลวุ่นวายทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ฝ่ายประชาสัมพันธ์เตรียมดำเนินการต่อไปแล้วยัง?”
ฟังออกถึงความเป็นระเบียบจากน้ำเสียงของเธอ ภวินท์ก็ส่งสายตาชื่นชมให้กับเธอ “เช้าตรู่เวลาหกโมงได้ดำเนินการใช้แผนฉุกเฉินแล้ว ความนิยมกำลังค่อยๆ ลดลง ไม่ต้องเป็นกังวลใจไป”
“แม้ว่าข่าวการหย่ากันจะเป็นแค่ข่าวลือ แต่ผลกระทบก็ยังคงมองข้ามไปไม่ได้อยู่ดี พวกเราโผล่หน้าออกไปด้วยกันก็มีแต่จะถูกคนคิดว่าเป็นการแสดงประชาสัมพันธ์เท่านั้น จำเป็นต้องคิดหาวิธีแก้ไขที่มันรอบคอบสมบูรณ์กว่านี้” เธอเปิดปากพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อีกเดี๋ยวฉันจะไปบริษัทด้วยกันกับคุณ”
ภวินท์เช็ดมุมปากด้วยท่าทางสง่างาม พูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ได้สิ”
รถไมบัคขับอ้อมเหล่าบรรดานักข่าวตรงประตูทางเข้าบริษัทไปโดยตรง แล่นพุ่งเข้าไปในลานจอดรถใต้ดินอย่างรวดเร็ว ญาธิดากับภวินท์จับมือกันเดินเข้าบริษัท ตรงไปยังทางไปห้องประชุม เพิ่งจะเดินมาถึงประตู ข้างในก็มีเสียงที่ไม่พอใจของเหล่าบรรดาผู้ถือหุ้นดังออกมา
“ผมรู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร นารีเป็นเหตุ STN Groupจะช้าจะเร็วยังไงก็ต้องพังพินาศด้วยมือของเธอแน่นอน”
“พอนึกถึงเมื่อก่อนที่เธอเป็นประธานตัวแทนผมก็รู้สึกเลือดสูบฉีดพลุ่งพล่านขึ้นมาเลย พวกเราจะปล่อยให้เธอใช้ตำแหน่งและอำนาจในทางที่มิชอบมิควรไม่ได้เด็ดขาด”
“ครั้งที่แล้วเธอภูมิใจมากไม่ใช่เหรอ? บอกว่ามันเป็นสถานการณ์ที่พลิกผันไม่เหมือนที่เคยเป็นไม่ใช่เหรอ? วันนี้ผมอยากจะดูหน่อยซิว่ามันพลิกผันเปลี่ยนแปลงยังไง!”
“ใช่ๆ ถึงยังไงตอนนี้เธอก็หย่ากับคุณภวินท์แล้ว วันนี้จะต้องให้เธอลุกออกมาให้คำอธิบายกับพวกเราด้วยตัวของเธอเองให้ได้”
เหล่าบรรดาผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต่างมีท่าทีขุ่นเคือง รอให้ภวินท์เข้าประตูมาก็จะพูดประณามออกมาตรงๆ
ประตูของห้องประชุมค่อยๆ ถูกเปิดออก ทั้งสองคนเดินจับมือกันแน่นเข้ามาในห้องประชุม เหล่าบรรดาผู้ถือหุ้นลุกขึ้นยืนทันที จากนั้นก็อึ้งตะลึงในขณะเดียวกัน มองมิตรสหายที่อยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าสับสนมึนงง
ญาธิดายิ้มอย่างไม่มีพิษมีภัยอะไร หันหน้าไปถามด้วยหน้าตายิ้มแย้ม “ทุกคนอยากจะได้คำอธิบายแบบไหนล่ะคะ?”
เหล่าบรรดาผู้ถือหุ้นรู้สึกทำอะไรไม่ถูกอยู่ไม่น้อย ยืนอยู่บนตำแหน่งด้วยความอึดอัด อัดอั้นอยู่นานสองนานกว่าจะพูดอธิบายออกมาอย่าประจบสอพลอ “ในฐานะที่พวกเราเป็นผู้ถือหุ้น จะต้องพิจารณาถึงผลประโยชน์ของบริษัทเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว ถูกต้องไหมล่ะครับ?”
ญาธิดาเม้มปากไม่พูดอะไรอีก ในเมื่อภวินท์กลับมาเรียบร้อยแล้ว ถ้าอย่างนั้นบริษัทก็เป็นสนามเจ้าบ้านของเขา
“ถ้าอย่างนั้นก็จะให้คำอธิบายกับทุกท่านก็แล้วกัน” ภวินท์นั่งลงอย่างสง่างาม น้ำเสียงที่มืดมนดังขึ้นมาในห้องทำงานทันที
เหล่าบรรดาผู้ถือหุ้นต่างหันมองหน้ากัน พออยู่ภายใต้ความกดดันจากลมหายใจที่เย็นยะเยือกของเขาก็ไม่กล้าหุนหันพลันแล่นอีก เปิดปากพูดขึ้นอย่างอ่อนแอ “ช่วงนี้ตลาดหุ้นเกิดการผันผวนอยู่บ่อยครั้ง นี่มันส่งผลไม่ดีอย่างมากต่อการพัฒนาของบริษัท ผมว่าให้คุณญาธิดาอาศัยโอกาสนี้ถอยออกไปอยู่เบื้องหลังดีกว่า ถือว่าเป็นการให้คำอธิบายกับผู้คนด้วยเหมือนกัน”
ภวินท์ยกคิ้ว พูดถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ภรรยาของผมถอยไปอยู่เบื้องหลังจะช่วยทำให้สถานการณ์ปัจจุบันสงบลงได้เหรอ?”
“คุณญาธิดาอยู่ที่บริษัทไม่ได้ ช่วงนี้บริษัทเกิดปัญหาล้วนแต่มีต้นเหตุมาจากเธอ ถ้าเกิดคุณภวินท์รู้เห็นเป็นใจสมยอมเธออยู่แบบนี้ต่อไป พวกเราก็คงจะต้องถอนตัวออกจากกลุ่มของผู้ถือหุ้นเท่านั้นแล้วล่ะครับ”
“นี่คุณกำลังขู่ผม?”
ความกดอากาศในห้องประชุมต่ำมาก น้ำเสียงที่เย็นชาดังเข้าไปในหูของทุกคน ดวงตาแหลมคมราวกับมีด กวาดไปมองทุกคนที่อยู่ตรงนั้น
“STN Groupจัดตั้งขึ้นมาหลายปีขนาดนี้ ทุกคนล้วนแต่เป็นผู้อาวุโสที่ทำงานอยู่เคียงข้างกายของพ่อ ทั้งที่เสียสละอุทิศตนให้กับบริษัทน้อยมาก แต่ทำไมถึงยังนั่งอยู่ที่นี่ได้ ทุกท่านก็รู้ดีอยู่แก่ใจ”
เขาพูดจบ สายตาก็ส่งสัญญาณให้พายุเอาเอกสารที่จัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วแจกไปทีละฉบับ พอเห็นเนื้อหาในเอกสาร ภายในห้องประชุมที่เดิมทีเสียงดังวุ่นวายจู่ๆ ก็เงียบสนิทลงทันที
ญาธิดาพอเห็นเนื้อหาในเอกสาร ภายในใจก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเช่นกัน
เขาเตรียมหนังสือสิทธิ์โอนย้ายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นทุกคนแล้ว? !
ถ้าผู้ถือหุ้นเหล่านี้รวมกันโอนย้ายสิทธิ์ในการถือหุ้น STN Groupก็จะพังทลายไปโดยสมบูรณ์น่ะสิ!
“ผมจะทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาในอินเทอร์เน็ตสงบลงภายในสามวัน ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทกลับมาเป็นปกติ ถ้าทุกคนยังมีความเห็นต่าง ก็เซ็นสัญญาลงนามแล้วออกไปได้เลย”
เสียงดัง “ปึง” เขาโยนปากกาในมือลงบนกลางโต๊ะ
เหล่าบรรดาผู้ถือหุ้นต่างหันมองตากันด้วยความไม่พอใจ วางเอกสารในมือลงพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ไม่มีใครยอมที่จะเซ็นชื่อลงไปในเอกสารเลยสักคน
การประชุมสิ้นสุดลง ญาธิดาถอนหายใจออกมายาวๆ รีบพุ่งเข้าไปอยู่ข้างกายของภวินท์ “คุณบ้าไปแล้ว ถ้าเกิดพวกเขาเซ็นชื่อขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง นี่คุณกำลังเดิมพันด้วยSTN Groupเลยนะ”
“พวกเขาไม่กล้าหรอก” เขาพูดตอบกลับมาด้วยสีหน้านิ่งเฉย “พวกเขาอายุมากแล้ว ไม่มีโอกาสได้พลิกฟื้นกลับขึ้นมาอีกแล้ว ถ้าเกิดออกจากSTN Group ทรัพย์สินในมือก็จะถูกใช้หมดภายในไม่เกินสามปีแน่นอน”
ญาธิดามองเขาด้วยความประหลาดใจ กลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ “มีคนเคยบอกไหมว่าคุณเป็นคนที่น่ากลัวคนหนึ่งเลย?”
“คุณญาธิดาชมกันเกินไปแล้ว”
“ฉันไม่ได้ชมคุณ!” จ้องเขม็งเขาอย่างอดไม่ได้
พายุเคาะประตูของห้องประชุมขัดจังหวะบทสนทนาของพวกเขา เดินเข้ามาพูดขึ้นด้วยความเคารพนอบน้อม “ท่านประธาน ทางด้านของฝ่ายประชาสัมพันธ์จัดการไว้เกือบจะเรียบร้อยหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ให้ท่านกับคุณญาธิดาเผยแพร่ชื่อเสียงออกสู่สาธารณะเท่านั้น ท่านดูว่า……”
“ตอนนี้ชั้นล่างเสียงดังวุ่นวายมาก ไปดูพวกนักข่าวเหล่านั้นด้วยกันดีไหม”
เขาจูงมือของญาธิดาอย่างสุขุมเย็นชา พวกเขาทั้งสามคนเดินออกจากห้องประชุม พายุรายงานสถานการณ์ของงานอย่างไม่หยุดไม่หย่อน “พวกเราติดต่อสิ่งพิมพ์รายสัปดาห์ของข่าวการเงินและนักข่าววงการบันเทิงขอWM Entertainmentแล้ว พวกเขา……”
หึ่งๆๆ ……
โทรศัพท์ของญาธิดาสั่นอย่างไม่หยุดไม่หย่อน เธอปล่อยมือของภวินท์ออกก่อนจะชี้ไปข้างหน้า บ่งบอกว่าให้เขาเดินไปก่อน จากนั้นก็สไลด์ปุ่มรับสาย
น้ำเสียงที่รีบร้อนของอลิสาดังเข้ามาในสาย “อันอันเกิดเรื่องแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังมุ่งตรงไปที่โรงพยาบาลสูตินรีเวช คุณรีบมาเร็วเข้า!”
พอเธอได้ฟังแบบนั้นสีหน้าก็ซีดขาวขึ้นมาทันที มองเงาหลังของพายุที่เดินไกลออกไปเรื่อยๆ กัดฟันเดินเข้าไปในลิฟต์ของพนักงานก่อน จากนั้นก็ออกจากSTN Groupไป
บทที่ 754 คุณไม่มีทางเทียบกับเธอได้