ดวงใจภวินท์ - บทที่ 776 หงส์ทอง
หลังจากเซ็นสัญญาแบรนด์เสื้อผ้าเด็ก ฝ่ายนั้นก็ได้เตรียมทุกอย่างอย่างรวดเร็วและพยายามถ่ายทำเสร็จก่อนสิ้นปี ดังนั้นเวลาทำงานจะเร่งด่วนมาก อีธานกับเอลล่าก็รีบไปที่สตูดิโอแต่เช้าตรู่
ช่างภาพพร้อม และอีกไม่นานเด็กทั้งสองจะเข้าสู่โหมดทำงานหลังจากแต่งหน้าและทำผมเสร็จแล้ว และโพสท่าต่างๆตามจังหวะของช่างภาพ
ญาธิดามองดูเงียบๆ จากด้านข้าง ยิ่งเธอมองดูเด็กน้อยสองคนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดูมากขึ้นเท่านั้น และเธอไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าพี่โอ๊ตแซกเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร่
“ธิดา…” พี่โอ๊ตแอบสะกิดแขนของเธอและยกนิ้วชี้ทับปาก ญาธิดามองไปที่เขาที่ดูลึกลับและเดินตามเขาไปที่มุมห้อง
เขาลากญาธิดาไปด้านข้าง พูดอย่างลำบากใจเล็กน้อยว่า “ลูกค้าส่งคนมาหาพี่เมื่อกี้ บอกว่าตารางการถ่ายทำของเราค่อนข้างแน่น และเราไม่มีเวลาคุยเรื่องรายละเอียดของการถ่ายทำเลย ฝั่งนั้นอยากรับเธอไปทานอาหารเย็นในตอนเย็นและพูดคุยรายละเอียดงานอีกที”
“เราจำได้ว่ามันเขียนไว้อย่างชัดเจนในสัญญาแล้ว มันไม่จำเป็นต้องไปคุยรายละเอียดอีกหรอกมั้งคะ” ญาธิดาตอบด้วยความสงสัยเล็กน้อย
พี่โอ๊ตมีสีหน้างุนงงและตอบอย่างลังเลเล็กน้อย “ว่าตามจริงมันก็ไม่จำเป็น แต่นี่เป็นงานชิ้นสุดท้ายของปี ดังนั้นจึงรอบคอบหน่อยจะได้ไม่มีปัญหา”
ญาธิดาก้มศีรษะลงและนิ่งเงียบ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากไปทานข้าวกับฝ่ายนั้น ความรู้สึกไม่สบายใจที่อธิบายไม่ถูกก้ได้เกิดขึ้นในใจของเธอ
พี่โอ๊ตคิดว่าเธอกลัวสามีคิดมาก จึงรีบอธิบายทันทีว่า “อย่ากังวลไป ไม่ได้ไปทานข้าวส่องต่อสอง คราวนี้มีพนักงานจากแผนกอื่นก็ไปด้วย พี่ได้ยินมาว่าจองห้องVIPใหญ่ด้วยนะ”
เมื่อได้ยินที่เขาพูดมาแบบนี้แล้ว ญาธิดาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงระงับความวิตกกังวลในใจและพยักหน้าตอบรับไป
“พี่โอ๊ต หลังถ่ายทำจบฝากส่งอีธานเอลล่ากลับบ้านด้วยนะ ถ้าพาเด็กไปร่วมงานแบบนี้คงไม่เหมาะ”
“ไม่มีปัญหา” พี่โอ๊ตตบหน้าอกของเขาทันทีและให้คำปฏิญาณว่า “พี่จะส่งอีธานและเอลล่ากลับไปที่ozone แลตามเธอไปทันที”
รอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว และเธอก็โบกมือไปมาว่า “เรื่องเล็กแค่นี้ฉันจัดการได้ พี่ทำงานหนักมาสองสามวันแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
“ไม่ได้สิ พี่ให้แธอไปอยู่กับกลุ่มชายได้ไง พี่จะกลับมาปกป้องไม่ให้ใครมามอมเหล้าเธอ!” พี่โอ๊ตพูดอย่างเชื่อมั่น “ถ้าพวกเขาบังคับให้เธอดื่มจะทำไง เอาทีไรก็หมดสติ พี่ …”
“โอเคๆ ” ญาธิดารู้สึกอุ่นใจ ยิ้มปลอบผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า “เรื่องนี้พี่ฟังแนเอะ ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง”
พี่โอ๊ตไม่อยากเถียงเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว ขอบคุณเธออีกครั้ง สุดท้ายก็เตือนเธอว่า “หากมีสถานการณ์ที่ไม่สามารถรับมือได้ ให้โทรหาพี่ทันที พี่จะรีบไปสู้กับพวกมันเลยคอยดู !”
พูดจบทั้งสองก็ยิ้มให้กัน
แสงแฟลชยังคงกะพริบอยู่แต่ไกล ช่างภาพพอใจกับการทำงานของอีธานและเอลล่ามาก ในระหว่างขั้นตอนการถ่ายภาพ พวกเขาได้รับคำชมอย่างล้นหลาม หลังจากถ่ายทำชุดสุดท้ายแล้ว งานของวันนี้ก็จบลง
ผู้จัดการของฝ่ายลูกค้าก้ได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเธอทันทีด้วยรอยยิ้มที่ประจบสอพลอบนใบหน้า ผายมือให้เธอออกไปอีกทางหนึ่งโดยลำพัง
“พวกช่างภาพไม่ได้ไปทานข้าวเย็นด้วยกันเหรอ?” เธอถามอย่างนิ่งๆและขมวดคิ้ว
ผู้ชายคนนั้นอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้มทันทีว่า “คราวนี้เราได้เชิญสปอนเซอร์และนักลงทุนของแบรนด์รวมถึงคุณธิดามาพูดคุยถึงรายละเอียดของโฆษณาครั้งนี้ และมันก็มีไม่เกี่ยวอะไรกับกองถ่าย”
เธอพยักหน้าอย่างสงสัยเมื่อได้ยินดังนั้น รักษาระยะห่างจากผู้จัดการคนนั้น และออกจากอาคารสำนักงานใหญ่ทีละหลัง
ผู้จัดการคนนั้นเหมือนจะรู้สึกได้ว่าเธอค่อนข้างระแวง ดังนั้นจึงไม่ได้แสดงเจตนาจะทำให้เธอลำบากใจ ในทางกลับกัน เขาเสนอว่าแยกกันนั่งแท็กซี่ไปที่นัดหมาย
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ญาธิดาก็ลดความระแวงลงเล็กน้อย และรีบไปยังที่ที่เรียกว่าหงส์ทองตามตำแหน่งที่ผู้จัดการคนนั้นบอกไว้
รูปแบบการตกแต่งของที่นี่เข้ากับชื่อได้เป็นอย่างดี มีต้นไม้สีเขียว สะพานเล็กๆ และน้ำไหลตลอด เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งโบราณให้ความรู้สึกเหมือนได้เข้าไปในเมืองโบราณ
แตกต่างจากโรงน้ำชาย้อนยุคตรงตู้หนังสือมีไวน์ราคาแพงหลากหลายชนิดตั้งโชว์ และมีเวทีสี่เหลี่ยมจัตุรัสประดับอยู่ตรงกลางของสายน้ำ
เธอเดินไปที่ประตูอย่างช้าๆ และพนักงานเสิร์ฟในชุดกี่เพ้าก็ทักทายเธอทันที โค้งคำนับเธอด้วยความเคารพ จากนั้นพาเธอไปที่ห้องโถงด้านข้าง
แม้ว่าพนักงานเสิร์ฟทุกคนที่นี่จะสวมชุดกี่เพ้า แต่ความยาวอยู่ที่โคนต้นขาเท่านั้นและสองข้างก็ถูกตัดแยกถึงเอวด้วย ขณะที่พนักงานเสิร์ฟเดิน ดูเหมือนว่าจะมองเห็นข้างในที่ปิดไม่มิดได้
สีหน้าของญาธิดาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอมองพนักงานเสิร์ฟจากด้านหลังอย่างระมัดระวัง และความรู้สึกไม่สบายใจก็มากขึ้นเรื่อยๆ
พนักงานเสิร์ฟเปิดประตูห้องVIPให้เธอ ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องเพลงที่แสบแก้วหู เธออดขมวดคิ้วแล้วหันมองพนักงานเสิร์ฟไม่ได้ แต่อีกฝ่ายก็ยังคงทำท่าแผมือเชิญให้เธอเข้าไปคนเดียว
เธอค่อยๆ เข้าไปในห้องอย่างจำใจ สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเธอคือฉากร้อนแรง
ผู้ชายหน้ามันหลายคนยิ้มอย่างลามก พวกเขาหยอกล้อผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมอย่างมึนเมา ผู้หญิงเหล่านั้นดูเหมือนจะคุ้นชินกับมันและทำท่ายั่วยวนเพื่อเอาใจลูกค้าขาใหญ่ทั้งหลาย
สีหน้าของญาธิดามืดมน และก็รู้ทันทีว่าหงส์ทองแห่งนี้เป็นร้านอาหารโบราณซะที่ไหน เป็นซ่องโสเภณีสมัยใหม่ชัดๆ !
ทันทีที่ผู้จัดการคนนั้นที่มาถึงล่วงหน้าเห็นเธอปรากฏตัว เขาก็ทักทายเธอด้วยรอยยิ้มทันทีและถือแก้วแชมเปญที่เตรียมไว้ส่งไปให้เธอ
“ทุกท่านครับ งานเลี้ยงคืนนี้คุณญาธิดาจัดทำด้วยตัวเองหมดเลยครับ ถือว่าเป็นความจริงใจของคุณญาธิดาที่ได้ร่วมมือกับเราเป็นครั้งแรก”
ญาธิดามองมาที่เขาด้วยความประหลาดใจและถามเสียงต่ำว่า “ไหนทางคุณบอกว่าให้มาคุยรายละเอียดงานคะ ทำไมฉันกลายเป็นเจ้ามือในงานนี้ได้ล่ะ”
ผู้ชายไม่สนใจกับคำพูดของเธอ แค่ดันตัวเธอเดินไปข้างหน้า “คุณธิดา ในเมื่อคุณจัดปาร์ตี้ไวน์แล้ว ก็ต้องไปดื่มเป็นเพื่อนบอสหน่อย ไหนๆ ก็มาแล้ว”
สีหน้าของนางมืดลงทันที เหลือบมองผู้ชายตรงหน้าอย่างเย้นชา “นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
เมื่อผู้ชายสบตากับเธอ เขาก็หดคอเหมือนรู้สึกผิดเล็กน้อย และก่อนที่เขาจะอธิบาย ชายบนโซฟาก็หยิบแก้วเหล้าของเขาขึ้นมาพูดว่า “ในเมื่อคุณธิดามีใจ ผมก็ไม่อาจหักล้างหน้าเธอได้ ”
ชายคนนั้นยกแก้วของเขาขึ้นด้วยใบหน้าหื่น
รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้จัดการนั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเขาเป็นประกาย เขาลดเสียงลงและเข้าหาเธอเพื่ออธิบาย
“คุณธิดา ตอนที่ผมมาที่นี่ ทุกคนบอกว่าคุณเป็นคนจัดการให้ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้คุณก็มาแล้ว คุณก็ดื่มๆไปเถอะ อย่าทำทำให้มันเป็นเรื่องใหย่ไปเลย”
ฉวยโอกาสจากความลังเลของญาธิดา เขาได้ดันเธอนั่งลงบนโซฟาแล้ว และญาธิดาก็ปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นจึงทำได้แค่ชนแก้วกับชายผู้นั้นอย่างจนปัญญา
ก่อนที่เสียงที่คมชัดจะหยุดลง เธอก็รู้สึกถึงแรงที่เอว และร่างกายก็เอนไปข้างหน้าอย่างควบคุมไม่ได้