ดวงใจภวินท์ - บทที่ 829 พาฉันมาจับชู้
บทที่ 829 พาฉันมาจับชู้
กว่าเธอจะเก็บของลงมาชั้นล่าง คุณครูผู้สอนมืออาชีพก็ได้จัดเนกไทหลากหลายแบบ พร้อมกระดานไวท์บอร์ดเอาไว้รอแล้ว พร้อมกับมองเธอด้วยสีหน้าบอกว่าต้องเสียสละเพื่อความถูกต้อง
หลังจากเลิกเรียนเธอก็เตรียมตัวจะรีบไปพบกับอลิสาที่บ้านตระกูลพิลากุล แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันได้ออกจากบ้านก็ได้ยินเสียงรีบร้อนของป้าจันทร์ดังมาจากทางเข้า “คุณคะ คุณเข้าไปไม่ได้นะคะ”
มีคนบุกเข้ามาในบ้านพัก?
หลังจากถูกโจมตีหลายครั้งทำให้บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าประตูได้รับบาดเจ็บกันไปหลายราย
และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้การบาดเจ็บล้มตายเกิดขึ้นซ้ำ ๆ คราวก่อนหลังกลับมาจากตีนเขาเธอก็ได้ปลดบอดี้การ์ดเฝ้าประตูออกไปหมดแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าบุกเข้ามาถึงถิ่นของภวินท์?
เธอเดินออกไปตรงประตูทางเข้าและเห็นป้าจันทร์กำลังพยายามขวางนิธิศอยู่
“คุณมาทำอะไรที่นี่? ที่นี่มันบ้านตระกูลสถิรานนท์นะ!” เธอตื่นตัวทันทีพร้อมกับเอ่ยถามนิธิศด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไม่ดีนัก
เมื่อนิธิศเห็นเธอปรากฏตัวแววตาเขาก็เปลี่ยนไปทันที โชคดีที่เขาไม่ได้คิดจะทำร้ายป้าจันทร์ เขายื่นโทรศัพท์ให้เธอและพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ธิดาขอคุยด้วยตามลำพังได้ไหม”
เธอยังคงวางท่าทีระแวดระวัง แต่ดูจากท่าทางจริงจังของเขาดูไม่เหมือนกำลังเสแสร้ง เธอจึงหันไปมองป้าจันทร์และบอกให้พาเขาไปที่ห้องรับแขก
ญาธิดาวางท่าทางเป็นนายหญิงของบ้าน นั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทีสง่าผ่าเผยและรักษาระยะห่างจากเขาพอสมควร เธอถามด้วยเสียงเย็นชาว่า “คุณนิดมีเรื่องด่วนอะไรถึงต้องบุกมาบอกฉันถึงที่บ้านแบบนี้เหรอคะ?”
นิธิศเหลือบมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง หลังจากมั่นใจว่าเหล่าคนรับใช้ไม่ได้วางท่าทีสนใจบทสนทนาของพวกเขา เขาถึงได้ปลดล็อกโทรศัพท์ยื่นให้เธอ
“นี่เป็นข้อความที่ผมได้รับเมื่อเช้าวันนี้ ผมได้ให้คนช่วยถอดรหัสทั้งหมายเลขโทรศัพท์และตำแหน่งที่อยู่แล้ว คุณภวินท์น่าจะก้าวข้าไปติดกับดักของคนอื่นเข้าแล้ว”
ญาธิดามองดูเนื้อหาในโทรศัพท์และรู้สึกจุกในลำคอ
ข้อความ MMS บนมือถือแบบเก่าปรากฏบนโทรศัพท์ มันเป็นภาพแคปหน้าจอบันทึกการสนทนาบนไลน์ ซึ่งมองออกได้ไม่ยากว่าฝ่ายหนึ่งในนั้นเป็นไลน์ของภวินท์จริง ๆ แม้แต่วิธีการพูดก็เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน
ด้านล่างของภาพยังแนบข้อความมาด้วยหนึ่งประโยค : หลังจากคืนนี้ไปญาธิดาก็เป็นของคุณแล้ว
ญาธิดาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะตวัดสายตาหันไปมองนิธิศ ราวกับว่าต้องการจับพิรุธบางอย่างจากตัวเขา
“คุณนิด ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์นำข่าวนี้มาให้ แต่วินไม่มีทางเข้าไปตกหลุมพรางของใครง่าย ๆ หรอกค่ะ อีกอย่าง…” เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย “ทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วย?”
“ในสายตาของธิดาผมดูไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยเหรอ?” นิธิศฝืนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
ญาธิดาไม่ใช่ไม่เชื่อข้อความนี้เสียทีเดียว เพียงแต่เธอไม่อยากเชื่อใจนิธิศง่ายเกินไปก็เท่านั้น ตอนนี้เธอรู้สึกกังวลใจกระวนกระวายแทบทนไม่ไหวแล้ว
เมื่อเห็นเธอพยายามซ่อนอารมณ์ของตัวเอง นิธิศจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขมขื่นว่า
“ผมยอมรับว่าผมรู้สึกดีกับคุณ แต่ผมก็ไม่เคยใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสมเพื่อจะแย่งคุณจากภวินท์เลย ผมสามารถแข่งขันกับเขาอย่างเปิดเผย แต่ไม่มีทางทำร้ายเขาด้วยวิธีน่ารังเกียจแบบนี้ และไม่มีทางทำร้ายคุณเพื่อเอามาเป็นข้อต่อรองแน่นอน”
“ความจริงเป็นยังไงคงต้องรอตรวจสอบก่อน ขอบคุณคุณนิดที่อุตส่าห์มาบอก คุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ”
ในขณะที่พูดตอบเขาอย่างเฉยเมย เธอก็รีบส่งข้อความหาพายุเพื่อขอกำหนดการเดินทางของวันนี้ทันที แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่มีใครรู้ว่าภวินท์ไปที่ไหน
นิธิศนั่งขมวดคิ้วอยู่ที่โซฟา เขาไม่ได้บังคับให้เธอเชื่อเขาแต่กลับเตือนเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ผมรู้ว่าที่ผมสารภาพรักกับคุณก่อนหน้านี้มันเกินสมควรและส่งผลกระทบต่อคุณมาก แต่ครั้งนี้สถานการณ์มันต่างกัน
ผมจะรอคุณอยู่ด้านนอก ถ้าคุณตรวจสอบความจริงแล้วยังต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะไม่ปฏิเสธแน่นอน”
ญาธิดาก็ได้วางท่าทีเกรงใจเขา หลังจากมองส่งเขาออกจากห้องรับแขกไปแล้วเธอก็รีบขึ้นไปที่ห้องหนังสือ และค้นหาตารางงานระยะนี้ของSTN Groupทันที
ตอนนี้เธอต้องคิดหาวิธีค้นหาแผนงานของเขาให้ได้ เพื่อที่เธอจะได้บอกกับตัวเองว่าสิ่งที่นิธิศพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก
ขณะที่เธอกำลังค้นแฟ้มงานจนมือไม้พันกัน ข้อมือของเธอก็บังเอิญปัดไปโดนเม้าส์โดยไม่ได้ตั้งใจ และที่เธอคาดไม่ถึงคือ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏแสงสีฟ้าจาง ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสว่าง และหน้าต่างไลน์ก็ปรากฏต่อสายตาเธอ
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ถึงทำให้คนที่ระแวดระวังอย่างภวินท์ลืมปิดคอมพิวเตอร์แบบนี้?
ญาธิดารีบพุ่งตัวไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หลังจากกวาดสายตามองชัด ๆ ถึงพบว่าอีกฝ่ายบนหน้าต่างแชทคือนพเก้า ขนาดมองผ่านตัวหนังสือเธอยังสามารถนึกภาพนพเก้าพูดจาออดอ้อนกระแนะกระแหนได้เลย
เห็นได้ชัดว่าข้อความพวกนี้มีส่วนที่ถูกลบมาก่อน เหลือไว้เพียงบทสนทนาไม่กี่ประโยค ซึ่งมันบังเอิญไปตรงกับภาพแคปหน้าจอที่เธอเห็นในโทรศัพท์ของนิธิศพอดิบพอดี
เธอไม่ทันได้คิดอะไรมาก รีบเดินออกจากบ้านพักและขึ้นรถของนิธิศทันที
ประตูห้อง1608 ของโรงแรมถูกเคาะเบา ๆ นพเก้าในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยพ่นกลิ่นหอมเย้ายวนไปทั่วทุกมุมห้อง ก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตู
เมื่อได้เห็นใบหน้าที่เธอพร่ำคิดถึงอยู่ทั้งวันทั้งคืนแก้มสองข้างก็แดงระเรื่อขึ้นมา พลางรีบเอื้อมมือไปคว้าแขนเสื้อของภวินท์และดึงเขาเข้าไปในห้องอย่างรีบร้อน
แววตาของภวินท์เต็มไปด้วยความรังเกียจ
นพเก้าแอบเหลือบมองนาฬิกาบนผนังและถามอย่างกังวลใจว่า “ธิดารู้ไหมว่าคุณมาที่นี่?”
“เอาของที่เธอหาได้มาให้ฉัน แล้วที่เหลือฉันจะจัดการเอง”
เขาตอบอย่างเฉยชา แต่คาดไม่ถึงว่านพเก้ากลับปฏิเสธ “ไม่ได้ ที่นี่อันตรายเกินไปจะปล่อยธิดาไว้ที่นี่คนเดียวไม่ได้ บางทีคุณอาจจะต้องซวยไปด้วย”
ขณะที่พูดเธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่นเสียง ก่อนจะมีเสียงผู้ชายที่ถูกแปลงเสียงแล้วจะดังออกมา ผสมไปกับเสียงฟู่ฟ่าของกระแสไฟฟ้า
“แค่ไปเปิดห้องไว้ก็พอ วันนี้ธิดาจะต้องหาข้อแก้ตัวออกมาแน่นอน ไม่ต้องห่วง”
หลังจากนั้นก็มีเสียงของผู้ชายที่ไม่คุ้นเคยอีกคนดังขึ้นจากโทรศัพท์ว่า “เจ้านาย คุณญาธิดาจะจงใจหลอกคุณหรือเปล่า เพราะเธอดูไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่คิด”
เสียงที่ถูกดัดแปลงพูดต่อด้วยเสียงเยาะเย้ย “เหอะ ๆ ยังไงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอหาข้อแก้ตัวหนีออกมา แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอแล้ว”
เสียงเทปบันทึกหยุดลงกะทันหัน นพเก้ารีบก้าวเข้าไปคว้าแขนเสื้อของภวินท์พลางอธิบายด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “วันนี้ฉันเพิ่งจะค้นเจอเบาะแสที่ไม่เปิดเผยตัวตนเบาะแสหนึ่งมาได้ และโชคดีที่เจอกับเสียงบันทึกคลิปนี้เข้า”
ภวินท์หรี่ตาลงเล็กน้อย นัยต์ตาคมกริบราวกับดวงตาอินทรีกวาดมองผ่านเครื่องสำอางที่ปัดแต่งอย่างประณีตของเธอ ก่อนจะแค่นเสียงหัวเราะพูดอย่างเย็นชา “เป็นเพราะเธอมีความสามารถมากเกินไป หรือว่าเรื่องมันบังเอิญเกินไปกันแน่?”
“ฉัน…” เธอเบือนหน้าหลบอย่างรู้สึกผิด และพูดด้วยน้ำเสียงขาดความมั่นใจและแผ่วลงไปมาก “จะเชื่อฉันก็ดี จะไม่เชื่อก็ได้ ฉันไม่อยากให้คุณกับธิดามีช่องว่างระหว่างกัน และไม่อยากให้เธอถูกคนอื่นหลอกใช้”
“แล้ว?” แววตาของภวินท์มีเส้นเลือดแดงก่ำนพเก้าไม่ทันจะตั้งตัว เขาก็ยืนมือออกไปบีบคอเธอแล้วดันแผ่นหลังจนติดผนังห้องทันที
น้ำเสียงของเขาเยือกเย็น ถามย้ำออกมาทีละคำ ๆ “เธอคิดจะพาฉันมา ‘จับชู้’ ? ดูเหมือนว่าเกมนี้คงจะต้องจบก่อนล่วงหน้าแล้วล่ะ”
“วิน…” .ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ในขณะที่ออกแรงถีบแข้งถีบขา เธอก็พยายามหนีจากเขาอย่างสุดความสามารถ
จากคำพูดของเธอเห็นได้ชัดว่าเขาเริ่มจะสงสัยในตัวเธอแล้ว แผนการที่เธอกับนิธิศวางไว้เกรงว่าจะถูกเปิดเผยซะแล้ว…