ดวงใจภวินท์ - บทที่ 839 กับดัก
บทที่ 839 กับดัก
หลังจากเดินออกจากAmaya Hotel ญาธิดาตัวสั่นสะท้าน ภายในหัวมีแต่ฉากสุดท้ายก่อนเดินออกจากห้องโถงฉายวนเวียนอยู่ในนั้น
ภวินท์กับนพเก้ากำลังหัวเราะพูดคุยกับอาริโอ ดูท่าทางคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
ทำไมคนพวกนี้ถึงรู้จักกันได้ ทำไมนพเก้าถึงไปตั้งรกรากที่ยุโรป สองปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับวิน พวกเขารู้หรือเปล่าว่าอาริโอเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง…
คำถามทุกคำถามยากที่จะค้นหาคำถาม แถมตอนนี้ยังมากองรวมกันทำเอาเธอปวดหัวปวดสมองไปหมด
“ธิดา? ธิดา…”
น้ำเสียงเป็นกังวลของนิธิศดังขึ้น เธอได้สติก่อนจะเสแสร้งทำเหมือนว่าไม่เป็นอะไร “วันนี้ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน ไว้วันหลังนัดต้นกล้ามาด้วย ฉันจะขอเชิญพวกคุณสองคนไปทานอาหารมื้อใหญ่ แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการ”
“ธิดามีเรื่องอะไรไว้ค่อยว่ากันพรุ่งนี้เถอะนะ เดี๋ยวผมไปส่งคุณกลับบ้าน เรื่องในวันนี้ก็อย่าเก็บไปใส่ใจเลย บางทีเขาอาจจะเป็นคนเลือกเอง…”
ทั้งสองคนต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่า “เขา” ที่ทั้งสองคนกำลังพูดถึงคือ ภวินท์ สองปีที่ผ่านมาไม่มีข่าวคราวของเขาเลย แถมมาตอนนี้ก้มาแสร้งทำเป็นไม่รู้จักทุกคน ไม่ว่าใครต่างก็คิดว่าเขาคงไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องในอดีตอีกแล้ว
ญาธิดาส่ายหน้าไปมาและอธิบายอย่างอดทนอดกลั้นว่า “สองปีที่ผ่านมาฉันเข้าใจในหลาย ๆ เรื่องและฉันจะไม่สับสนกระวนกระวายง่าย ๆ แน่ และตอนนี้ฉันมีเรื่องที่สำคัญมากต้องทำจริง ๆ”
“จริงเหรอ? ถ้าในใจของคุณคิดได้แบบนี้เหมือนกันมันคงจะดีมาก” นิธิศฉีกยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ธิดา ความรู้สึกที่ผมมีให้คุณ คุณเองน่าจะรู้ดี ถ้าคุณคิดได้แล้วจริง ๆ ทำไมถึงไม่ยอมเปิดใจยอมรับผม?”
“ฉัน…ฉันกลับก่อนนะคะ…” ญาธิดารีบโบกมือเรียกแท็กซี่แล้วขับออกไป เธอนั่งเกร็งกระทั่งมองไม่เห็นนิธิศผ่านกระจกมองหลังแล้วถึงเอนหลังพิงเบาะรถแล้วถอนหายใจออกมายาว ๆ ด้วยความโล่งอก แต่เธอไม่ทันได้สังเกตว่าผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเดินกลับเข้าไปในโรงแรมอีก
ถ้าไม่ใช่เพราะต้นกล้า และเพื่อสืบหาความจริงในปีนั้น เธอคงไม่ยอมพัวพันกับนิธิศมาจนถึงตอนนี้!
ตอนนั้นหลังจากจัดการเรื่องของภวินท์เสร็จ เธอก็ใช้ข้ออ้างว่าอารมณ์ไม่ดีไปรับต้นกล้าและพาพวกเด็ก ๆ กับอลิสาไปอยู่ที่บ้านขวัญตากันหมด
ทีแรกขวัญตาทำหน้าต่อต้านเอามาก ๆ แต่หลังจากที่พวกเด็ก ๆ ใช้ไม้อ่อนไม้แข็งออดอ้อนอยู่สักพักเธอก็ยอมแพ้และยอมให้พวกเขาอยู่ด้วยอย่างชอบอกชอบใจ
เมื่อไม่มีนิธิศอยู่ด้วย การรักษาของต้นกล้าราบรื่นมาก เพียงไม่นานก็สามารถสื่อสารกับคนอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจนและเข้าใจ และไม่ยอมกลับไปอยู่กับนิธิศ วัน ๆ ก็เอาแต่เรียนรู้เรื่องเหลวไหลไร้สาระกับอีธาน
อลิสาทั้งช่วยรักษาต้นกล้าทั้งช่วยเปิดใจขวัญตา ทุกคนถึงได้รู้ว่าสาเหตุที่เธอไม่ยอมคบกับธีทัตแท้จริงแล้วเป็นเพราะอะไร
อย่างแรกเป็นเพราะเธอกินฮอร์โมนมากจนเกินขนาด การที่จะมีลูกแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย เธอไม่อยากให้ธีทัตต้องมาเจอเรื่องแบบนี้กับเธอ
อย่างที่สองเพราะเธอกับธีทัตต่างรู้ว่านพเก้ายังอยู่ และรู้ว่าตระกูลกรเวชกำลังวางแผนการใหญ่อะไรบางอย่าง ตระกูลกรเวชวางแผนทำทุกวิถีทางเพื่อจะกำจัดเธอ เธอไม่อยากให้ตัวเองส่งผลกระทบต่อธีทัต
ช่วงที่พวกเขาอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลพิลากุล ญาธิดาได้รับข้อมูลที่สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ได้มากมาย จากการสืบหาข่าวจนได้เบาะแสสาวมาถึงตัวนิธิศกับนพเก้า แต่น่าเสียดายที่จู่ ๆนพเก้าก็หนีไปยุโรปทำให้เบาะแสในการตามสืบของเธอขาดหายไป และทำได้แค่ถ่วงมาจนถึงตอนนี้
พูดตามหลักเหตุผลการที่นพเก้ากลับมานับว่าเป็นเรื่องดี แต่ทำไมเรื่องมันกลับวุ่นวายและแย่ลงกว่าเดิม…
ญาธิดายิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว เธอได้แต่บีบนวดขมับเบา ๆ แล้วรถก็จอดเทียบประตูใหญ่ของozoneพอดี เธอลงจากรถแล้วเดินตรงไปยังห้องโถง ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทางสบาย ๆ
เจ้าน้องชายสองคนที่ยืนอยู่ตรงประตูเห็นเธอก็ถึงกับหดคอลงทันที ทุกคนต่างรู้ดีว่าจรณ์กับozoneติดค้างเธอ ดังนั้นหลังจากเหตุการณ์เมื่อสองปีที่แล้วจบลง ทุกคนต่างรู้ดีว่าที่ozone ญาธิดาคือบุคคลในตำนานที่ไม่ควรไปหาเรื่องเธอเด็ดขาด
“ไม่เจอกันสองปีเธอเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยนะ” เสียงของจรณ์ดังขึ้นจากด้านหน้าของเธอ พร้อมกับชงชามาวางไว้ตรงหน้าเธอ
ญาธิดาเงยหน้าขึ้นมองอย่างเย็นชา แววตาคมกริบราวกับคมมีด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ไม่ได้เจอกันสองปี คุณยังเป็นผู้นำที่ไม่ได้เรื่องเหมือนเดิมเลยนะ”
จรณ์ได้ยินคำวิจารณ์ของเธอแต่ก็ไม่โกรธ แต่กลับตอบด้วยเสียงหัวเราะว่า “ในozoneก็มีแต่เธอคนเดียวที่กล้าพูดกับฉันแบบนี้ แต่ที่เธอพูดก็ไม่ผิด ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เปลี่ยนมาเป็นอย่างทุกวันนี้”
“ฉันไม่ได้มาเพื่อฟังคำสารภาพผิดจากคุณนะ” เธอโบกไม้โบกมืออย่างหมดความอดทน พลางพูดขัดจังหวะจรณ์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “วันนี้ฉันเจอเขาที่งานเลี้ยง”
ภายในห้องโถงเงียบไปครู่หนึ่ง และสีหน้าของจรณ์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย “เขา…”
“ฉันเห็นสามีที่หายสาบสูญไปสองปี ภวินท์ เขาอยู่กับนพเก้า!”
สายตาเฉียบคมของญาธิดาดุดันราวกับอยากจะกลืนกินคนเข้าไปทั้งตัว พร้อมกัดฟันถามว่า “ฉันอยากจะรู้จริง ๆ พวกคุณยังตามสืบเรื่องเมื่อสองปีก่อนอยู่หรือเปล่า หรือว่ายุโรปเป็นกับดักที่พวกคุณเตรียมไว้ให้ฉันโดยเฉพาะ?”
“ญาธิดา! คำพูดบางคำจะพูดออกมาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ!” ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของจรณ์ฟังดูเหมือนกำลังตักเตือนเธอ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนญาธิดาคงไม่มีทางยอมเลิกราง่าย ๆ แต่ตอนนี้เธอกลับแค่สูดหายใจเข้าเพื่อระงับความโกรธทั้งหมดภายในใจของเขา และเมื่อเงยหน้าเผชิญหน้ากับจรณ์อีกครั้งสีหน้าของเธอก็กลับมานิ่งสงบเหมือนเดิม
“คุณก็รู้ว่าฉันไม่สนใจการเคลื่อนไหวและภารกิจของozone เป้าหมายเพียงอย่างเดียวของฉันตั้งแต่แรกคือวิน ตอนนี้เขากลับมาอยู่ในสายตาฉันอีกครั้งแล้ว ฉันมีเรื่องอื่นต้องทำ”
“เจ้าหน้าที่ของozoneจะปฏิบัติตามแผนเดิมที่วางไว้และให้เธอเป็นคนกำกับ ถ้าหากเธอต้องการล่ะก็นะ” จรณ์ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ญาธิดาหัวเราะก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงไปทางประตูแล้วพูดอย่างดูถูกว่า “ถึงแม้ว่าในสายตาฉันพวกคุณจะไม่หลงเหลือความน่าเชื่อถืออะไรแล้ว แต่ดีที่ประโยคนี้มันค่อนข้างฟังรื่นหู”
กระทั่งร่างของเธอเดินออกไปจากozone จรณ์ถึงได้สติจากความประหลาดใจ เขาได้แต่ส่ายหน้าพลางหัวเราะขำ ก่อนจะกดโทรออกหาใครสักคน
“เธอคนนี้ยิ่งฉลาดมีไหวพริบมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว แถมยังไม่เห็นหัวฉันเลยด้วย… นายรีบเร่งแผนให้เร็วขึ้นเถอะ อย่ายืดเยื้อให้มันนานเกินไป ธิดาจะสืบจนรู้ตัวนายเข้า…”
ในเวลาเดียวกัน งานเลี้ยงที่Amaya Hotelเพิ่งจะจบงานไปสักพัก นพเก้าเพิ่งจะเข้าไปเติมหน้าในห้องน้ำ ยังไม่ทันได้เดินออกไปจู่ ๆ ก็ถูกแรงดึงลากเข้าไปในห้องน้ำข้าง ๆ
นิธิศปิดปากของเธอไว้แน่น แววตาของเขาเหมือนกำลังจะพ่นไฟออกมา “ทำไมต้องพาเขากลับมาตอนนี้ เธอนี่มันทำแต่เรื่องโง่ ๆ ไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง!”
หลังจากนพเก้าพยายามดิ้นรนอยู่สักพักเธอก็ผลักเขาออกไปด้านข้าง พลางจ้องเขาตาเขม็ง “นิธิศ พวกเราสองคนไม่ได้ร่วมมือกันแล้ว ตอนนี้ต่างคนต่างอยู่อย่าล้ำเส้นกัน
อีกอย่างใครจะไปรู้ว่าคุณจะลงมือช้าขนาดนี้ ฉันกับวินรักกันมาเป็นปีแล้ว แต่คุณยังเป็นแค่ตัวสำรองอยู่เลย”
นิธิศฉีกยิ้มประชดประชัน “เธอกล้าลงมือฆ่าภวินท์ แต่ฉันทำไม่ได้…”
นพเก้าสีหน้าเปลี่ยนและรีบยกมือขึ้นปิดปากเขาทันที “อย่ามาพูดจาเหลวไหลนะ ฉันช่วยเขาไว้!”
“งั้นเหรอ?” เขาเดินเข้าไปใกล้นพเก้า