ดวงใจภวินท์ - บทที่ 877 ถ้าไม่ลอง แล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะ
บทที่ 877 ถ้าไม่ลอง แล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะ?
พอเห็นญาธิดากับภวินท์เข้ามา ผู้หญิงผมทองก็ใบหน้ายิ้มแย้มออกมาเล็กน้อยอย่างเป็นมิตร“คุณภวินท์ คุณญาธิดา ยินดีที่ได้พบกับพวกคุณนะคะ”
เธอลุกขึ้นมา เดินมาที่พวกเขาทั้งสองคน ยื่นมือออกมาหนึ่งข้าง“ขอแนะนำตัวหน่อยนะคะ ชื่อของฉันคือวินด์เซอร์ โรว์ลิ่ง แต่ทุกคนจะเรียกฉันว่าMrs. Robert”
ญาธิดากับภวินท์แยกกันมาจับมือกับเธอ จากนั้นก็มานั่งอยู่บนโซฟา
หลังจากที่นั่งแล้ว โรว์ลิ่งก็โบกมือให้กับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเล็กน้อย บอดี้การ์ดถอยออกไปอย่างรู้งาน เหลือเพียงแค่ผู้หญิงคนจีนผมดำที่ก้มหน้าอยู่คนนั้น
พอเห็นว่าพวกเขาถอยออกไปหมดแล้ว โรว์ลิ่งถึงได้เปิดปากพูดขึ้นมา“ทั้งสองท่านอุตส่าห์มาที่ยุโรป ฉันเองก็ไม่ขอเสียเวลาแล้วกัน ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน พวกคุณลองว่ามาสิ ว่าพวกคุณเตรียมที่จะจัดการกับเทอรี่ที่สมควรตายนั่นยังไง?”
เทอรี่ก็คือพี่ใหญ่ของอาริโอตอนที่พูดถึงชื่อชื่อนี้ โรว์ลิ่งก็แทบจะกัดฟันพูดออกมา แววตาดุร้าย เหมือนกับเกลียดเทอรี่คนคนนี้เป็นอย่างมาก
ความโกรธเกลียดที่เปิดเผยไม่มีปิดบังซ่อนเร้นของโรว์ลิ่ง ก็ดึงดูดความสนใจของญาธิดาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
โรว์ลิ่งที่สถานภาพเป็นถึงคุณหญิงของRobertทำไมถึงเกลียดเทอรี่ขนาดนี้กันนะ?
ในขณะที่ญาธิดากำลังคาดเดาอยู่นั้น โรว์ลิ่งจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเสร็จแล้ว ก็จัดทรงผมหยักศกที่ยุ่งกระเซอะกระเซิง ก่อนจะพูดยิ้มๆ“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันเสียมารยาทไปหน่อย พวกเรามาพูดกันต่อเถอะค่ะ……”
ภวินท์ขมวดคิ้ว พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ง่ายมากๆ ก็ยืมมือฆ่ายังไงล่ะครับ”
ภวินท์พูดไม่เยอะ แต่ทุกคนล้วนแต่เข้าใจความหมายของเขา
ทายาทที่มีอยู่ในตอนนี้ของตระกูลสมิธ นอกจากเทอรี่แล้ว ยังมีน้องสาวคนเล็กของเขาที่กำลังแย่งชิงอำนาจของตระกูลกับเขาอยู่
ขอแค่ใช้ประโยชน์จากจุดตรงนี้ พวกเขาก็จะเป็นบุคคลที่สามที่สามารถได้รับผลประโยชน์มาอย่างง่ายดาย
โรว์ลิ่งยกเปลือกตา แววตาดูถูกดูแคลน สบถหึออกมาอย่างเย็นชา“วิธีการนี้ฉันเคยลองมาก่อนแล้ว แต่เกรงว่าคนของสมิธ จะไม่ได้โดนหลอกง่ายดายขนาดนั้นน่ะสิคะ แม้ว่าคนของตระกูลสมิธจะเลือดเย็นไร้ความรู้สึก แต่ถ้ามีคนนอกคิดอยากที่จะเอื้อมแตะผลประโยชน์จากพวกเขาจริงๆล่ะก็ พวกเขาจะต้องร่วมมือกันต่อต้านอย่างแน่นอน”
ที่ตระกูลของสมิธสามารถพัฒนาได้มาจนยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นรู้ดีว่า ถ้าถูกศัตรูทำให้แตกหักจากภายใน ทั้งตระกูลก็จะพังพินาศย่อยยับ อย่าหวังว่าพวกเขาจะได้ผลประโยชน์ไปแม้แต่นิดเดียว
ญาธิดายิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างไม่สะทกสะท้าน“ทุกคนล้วนแต่มีจุดอ่อนกันทั้งนั้น แม้แต่ตระกูลสมิธที่แสนยิ่งใหญ่เองก็เหมือนกัน แม้ว่าสำหรับพวกเราทุกคนแล้วจะเป็นการท้าทายหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าเชื่อฉันเถอะค่ะ คุณโรว์ลิ่งว่าพวกเราจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”
การกระทำในครั้งนี้สำหรับญาธิดากับภวินท์แล้ว มีแต่สำเร็จเท่านั้นไม่มีล้มเหลว
ถ้าล้มเหลว ก็จะมีคนมากมายที่ต้องพลัดถิ่นที่อยู่และสิ้นเนื้อประดาตัว ถึงขนาดที่ครอบครัวแตกสลายมีผู้คนล้มตาย
แต่ถึงยังไงโรว์ลิ่งก็ไม่ยอมรับความเชื่อของญาธิดาอยู่ดี
“คุณญาธิดา คำพูดที่สวยหรูแบบนี้ใครๆก็พูดได้นะคะ ฉันไม่อยากฟังคำพูดลอยๆแบบนี้ สิ่งที่ฉันอยากเห็น คือผลลัพธ์”
ภวินท์สีหน้านิ่งเฉยสุดๆ เขาเชื่อว่าญาธิดาจะต้องสามารถรับมือกับการที่โรว์ลิ่งทำให้เธอรู้สึกลำบากใจแน่นอน เขานิ่งเงียบไม่พูดอะไร แต่ว่าฝ่ามือที่ใหญ่ๆนั้นของเขา ประกบอยู่ที่มือเล็กๆของญาธิดา
ญาธิดาแววตาเป็นประกาย ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความมั่นใจ ทำให้อยากที่เชื่ออย่างหักห้ามใจไม่ได้
“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ?”
โรว์ลิ่งมองสำรวจเธออยู่นานสองนาน สายตาลึกซึ้ง ราวกับจะมองหาจุดบกพร่องจากใบหน้าของเธอ
ผ่านไปนานสองนาน เธอถึงได้พยักหน้า“ได้ ฉันจะให้โอกาสกับคุณสักครั้ง ตราบใดที่คุณสามารถแย่งคำสั่งซื้ออันหนึ่งมาจากมือของสมิธได้ ฉันก็จะตกลงที่จะร่วมมือกับพวกคุณ”