ดวงใจภวินท์ - บทที่ 966 เห็นชีวิตคนเป็นผักเป็นปลา
ดวงใจภวินท์ บทที่ 966 เห็นชีวิตคนเป็นผักเป็นปลา
ในสนามหญ้าที่กว้างขวาง ญาธิดาเสียงดังฟังชัด สายตาสว่างเป็นประกาย ทั้งตัวเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ ดึงดูดสายตาของทุกคนให้หันมองไปที่ตัวของเธอ
พอได้ยินคำพูดของญาธิดา ก็มีคนขมวดคิ้วครุ่นคิด แต่ทั้งหมดก็ล้วนแต่มีความเข้าใจตระกูลสมิธอยู่บ้างแล้ว ต่างก็รู้ดีว่าตระกูลสมิธได้กลายเป็นตระกูลสูงศักดิ์ตั้งแต่หลายร้อยปีก่อนแล้ว หลายร้อยปีนี้ก็สั่งสมทรัพย์สินความมั่งคั่งมาไม่น้อย
บวกเข้ากับอดีตผู้นำตระกูลสมิธก็เป็นอัจฉริยะทางด้านธุรกิจ มันก็ทำให้ทั้งตระกูลเริ่มมั่งคั่งร่ำรวยมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงขนาดที่ยังมีคนตั้งใจไปทำการวิเคราะห์ประวัติที่ทำให้ตระกูลสมิธมั่งคั่งร่ำรวยขึ้นมาอีกด้วย ถ้ามีคนตั้งใจที่จะทำความเข้าใจจริงๆล่ะก็ แค่ไปค้นหาในอินเทอร์เน็ตสักหน่อยก็หาเจอแล้ว
แต่ในตอนนี้คำพูดของผู้หญิงคนนี้มันหมายความว่ายังไง?
ในขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ทีน่าก็ออกแรงบิดตัว ต้องการที่จะสลัดให้ออกจากพันธนาการของจรณ์อย่างบ้าคลั่ง กัดฟันพูดขึ้น“นังผู้หญิงคนนี้ แกเตรียมที่จะพูดพล่ามไร้สาระอะไรของแก!!!”
เธอใจเต้นเร็วทันที แววตาที่นิ่งเฉยไร้อารมณ์ใดๆมาโดยตลอด ในที่สุดตอนนี้ก็เผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนกขึ้นมาแล้ว
เธอมั่นใจเลยว่า ญาธิดาจะต้องได้รับสิ่งที่พ่อของไรอันทิ้งเอาไว้ให้มาอยู่ในมือเรียบร้อยแล้วแน่ๆ แล้วก็เดาได้แล้วว่าญาธิดาจะพูดอะไรออกมา
ถ้าเกิดสิ่งนั้นถูกเปิดโปงออกมาต่อหน้าคนทั่วทั้งโลกล่ะก็ตระกูลสมิธก็ต้องถูกรุมสาปจนเสื่อมเสียเกียรติตลอดไปแน่นอน
ตอนนี้ตระกูลสมิธตกมาอยู่ในมือของเธอกับมาเลน่าแล้ว จะไม่มีทางให้ญาธิดานังผู้หญิงคนนี้มาทำลายไปเด็ดขาด!
พอคิดถึงตรงนี้ ทีน่าใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด คิดที่จะสลัดให้หลุดออกจากพันธนาการของจรณ์
แต่ถึงยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงที่เรี่ยวแรงมีจำกัด นึกว่าอยู่ในตระกูลสมิธแล้วจะไม่ต้องเป็นกังวลปัญหาเรื่องความปลอดภัยแล้ว ที่ตัวก็เลยไม่ต้องพกอาวุธป้องกันตัวอะไรเอาไว้เลย
ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนขัดขืนยังไง จรณ์ก็ควบคุมเธอเอาไว้ได้อยู่ดี
ทีน่าที่มีปฏิกิริยาดุเดือดรุนแรงขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องดึงดูดความสนใจของคนจำนวนไม่น้อยอยู่แล้ว พวกเขาหันหน้ามองไปที่ญาธิดา สายตาจับจ้องเธออย่างไม่หันเหไปไหน
บางทีต่อจากนี้พวกเขาอาจจะได้ฟังเรื่องราวที่ช็อกสะเทือนไปทั่วโลกก็เป็นได้
ญาธิดาพอเห็นทีน่ากับมาเลน่าถูกควบคุมเอาไว้แล้ว ก็วางใจลงเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ามองไปที่ภวินท์
ภวินท์ยืนหลังอยู่ข้างหลังของเธอ เดินตรงไปข้างหน้าสองสามก้าว รั้งเอวของเธอเอาไว้ มอบพลังที่มองไม่เห็นให้แก่เธอ
จากนั้น ญาธิดาก็เริ่มเล่าออกมาความยาวประมาณยี่สิบนาที
ตระกูลสมิธเมื่อหลายร้อยปีก่อนเป็นราชวงศ์ก็จริง แต่มันก็เป็นความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งเพียงแค่ผิวหน้าเท่านั้น ในความจริงแล้วทรัพย์สินจริงๆของพวกเขาถูกใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยจนเกลี้ยงแล้ว ทรัพย์สินที่มีอยู่ในตอนนี้ก็แทบจะไม่สามารถสนับสนุนชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือยของตระกูลชั้นสูงของพวกเขาได้เลยด้วยซ้ำ
พวกเขาไม่ยอมละทิ้งสถานภาพของตระกูลสูงศักดิ์ไป แล้วก็ไม่ยอมละทิ้งชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือยไปด้วยเหมือนกัน เพื่อที่จะรักษาไว้ซึ่งผิวหน้าที่รุ่งเรืองมั่งคั่ง พวกเขาก็เลยเริ่มที่จะทำธุรกิจซื้อขายที่ผิดกฎหมาย
ในตอนแรกคนของตระกูลสมิธก็ตื่นตระหนกกระวนกระวายเหมือนกัน แต่ต่อมาพวกเขาก็พบว่า สถานภาพของตระกูลสูงศักดิ์ของตัวเองนั้นใช้ประโยชน์ได้ดีมาก ตอนที่ขนส่งนำเข้าสินค้าเถื่อน ก็แทบจะไม่มีใครไปดำเนินการตรวจสอบพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
แล้วก็เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น ตระกูลสมิธก็ได้เดินในเส้นทางที่ไม่สามารถหวนย้อนกลับไปได้อีกไปโดยสมบูรณ์
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ธุรกิจดำมืดของตระกูลสมิธก็เริ่มขยายใหญ่มากขึ้น ขอบเขตก็เริ่มกว้างขึ้น บ่อนการพนัน ปล่อยเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยสูง ค้ามนุษย์ ขายอวัยวะมนุษย์……
บรรดาคนที่ตกมาอยู่ในตระกูลสมิธเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่เป็นกลุ่มคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ทำให้ครอบครัวมากมายต้องแตกแยกพังทลาย
ตอนที่ญาธิดาพูดถึงตรงนี้ ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แววตาเฉียบแหลม“ตระกูลสมิธมือเปื้อนไปด้วยเลือดมากเกินไปแล้ว”
เธอค่อยๆนั่งยองลง ลูบพื้นหญ้าที่เปียกชื้น ก่อนจะพูดขึ้นอย่างช้าๆ“ที่นี่ เป็นปราสาทที่ก่อสร้างขึ้นมาด้วยซากศพนับไม่ถ้วน ทุกครั้งที่ตระกูลสมิธเดินผ่านที่นี่ ก็ล้วนแต่เหยียบย่ำคนเหล่านี้”
เพื่อเงินแล้ว ตระกูลสมิธเห็นชีวิตของคนเป็นผักเป็นปลา ปฏิบัติกับพวกเขาเยี่ยงปศุสัตว์