ดวงใจภวินท์ - บทที่ 992 ต้นสายปลายเหตุ
ดวงใจภวินท์ บทที่ 992 ต้นสายปลายเหตุ
เมื่อก่อนพายุเป็นคนที่ติดต่อได้ตลอดเวลา และไม่เคยปิดโทรศัพท์มือถือเลย
แต่ตอนนี้พวกเขากลับติดต่อเขาไม่ได้
ทุกคนในที่นี้ต่างรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ญาธิดาขมวดคิ้วแน่นและเริ่มนั่งไม่ติด “ไปเถอะ พวกเราไปหาพายุ”
“อลิสาฝากดูแลอันอันให้ดีด้วยนะ”
…
ภวินท์ภาญาธิดามาที่หมู่บ้านหรูที่พายุพักอยู่
ที่นี่เป็นเรือนหอของพายุกับอันอัน และญาธิดาเคยมาที่นี่สองสามครั้งแล้ว
พวกเขายืนอยู่หน้าประตูบ้านของพายุ เคาะประตูอยู่นานแต่กลับไม่มีใครเปิดประตู
“พวกคุณคือ?”
ญาธิดารีบตอบไปว่า “พวกเราเป็นเพื่อนของเจ้าของบ้านหลังนี้ค่ะ ระยะนี้พวกเราติดต่อเขาไม่ได้ รู้สึกเป็นห่วงก็เลยมาดูที่นี่แต่ว่าเขาไม่มีใครเปิดประตูเลยค่ะ”
เพื่อนบ้านครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “พวกเธอหมายถึงพ่อหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาคนนั้นใช่ไหม เขาย้ายออกไปตั้งแต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”
“ย้ายออกไปแล้ว? คุณรู้ไหมคะว่าเขาไปที่ไหน” ญาธิดารีบถาม
คนคนนั้นส่ายหน้าไปมา “ไม่รู้เหมือนกัน ได้ยินมาว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นระหว่างเขากับภรรยา และทั้งสองคนก็ทะเลาะกันรุนแรง”
ญาธิดารู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที
อันอันกับพายุทะเลาะกันเหรอ
หรือเป็นเพราะทะเลาะกับพายุอาการของอันอันถึงได้กำเริบ พวกเขาเข้าใจนาราผิดอย่างนั้นเหรอ
แต่สัญชาตญาณของเธอกลับบอกว่าไม่ใช่แบบนั้น
เรื่องราวต่าง ๆ เริ่มสลับซับซ้อนมากขึ้นเรื่อ ๆ ราวกับเมฆหมอกหนาเข้าปกคลุมญาธิดาเอาไว้อย่างกะทันหัน
“ถ้าอย่างนั้นคุณพอจะทราบไหมคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ได้ยินแค่ว่าวันนั้นพวกเขาทั้งคู่ทะเลาะที่บ้าน แถมทะเลาะกันรุนแรงมาก หลังจากนั้นก็ไม่รู้แล้ว”
“โอเคค่ะ ขอบคุณค่ะ”
หลังจากได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แล้วญาธิดาก็ไม่อยู่ที่นี่ต่อและกลับขึ้นรถไปพร้อมกับภวินท์ทันที
ภวินท์พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตอนนี้จะเอายังไงต่อ”
ญาธิดารู้สึกสับสนวุ่นวายไปหมด
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าที่อันอันอาการกำเริบครั้งนี้จะเป็นเพราะพายุ
ญาธิดาเริ่มกังวลใจขึ้นมาเล็กน้อย
“พายุ นายฟังอยู่หรือเปล่า”
ไม่มีใครตอบ
ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะโทรไปหาพายุอีกเรื่อย ๆ
ญาธิดาเงยหน้าขึ้นถาม “เป็นไงบ้าง เขารับไหม”
“ปิดเครื่องไปแล้ว” ภวินท์วางโทรศัพท์ลงและพูดเสียงเข้ม
ญาธิดากดกริ่งหน้าประตูอย่างไม่ลดละ แต่ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ จากด้านใน
ขณะที่ญาธิดากำลังคิดว่าจะพังประตูบุกเข้าไปเลยดีไหม จู่ ๆ เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามก็เปิดออกมา
พวกเขาสองคนผ่านอะไรมาด้วยกันตั้งมากมายขนาดนี้ แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะทำให้อันอันกลายเป็นแบบนี้ไปได้เพียงเพราะทะเลาะกันแค่ครั้งเดียว
ไหนจะยังมีนารา…
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
แต่สัญชาตญาณของญาธิดาบอกว่านาราจะต้องเป็นตัวละครหนึ่งที่มีบทบาทในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางกำชายกระโปรงแน่น “ไปหาพายุแล้วถามเรื่องนี้ให้เข้าใจ”
อันอันเป็นเพื่อนของเธอ เธอไม่สามารถนิ่งเฉยกับเรื่องนี้ได้
เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แบบนี้เธอจะได้คลี่คลายปมในใจของอันอันได้และทำให้เธอกลับไปสู้สภาวะปกติ
“โอเค ผมเข้าใจแล้ว ผมจะให้คนตรวจสอบที่อยู่ของพายุ”
ภวินท์เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าที่ดูอ่อนล้าเล็กน้อยของญาธิดาและมองเธอด้วยสายตาปวดใจ “ตอนนี้พวกเรากลับบ้านและไปพักผ่อนกันก่อนนะ”
“แบบนี้คุณจะได้มีแรงสืบหาต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ไง”
ญาธิดาพยักหน้า
เมื่อกลับถึงบ้าน ญาธิดากลับพบว่าขวัญตามาหาถึงที่นี่แล้ว
“ธิดา เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมเธอถึงไม่บอกฉัน”