ดวงใจภวินท์ - บทที่144 นอนโซฟา
ญาธิดาได้ยินปุ๊บ จ้องตาโตทันที มองไปที่เขาอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาไม่ได้คิดว่าจะกลับไปเลย หรือว่าอยากกินฟรีอยู่ฟรีที่นี่หรอ?
นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งก่อนซึ่งภวินท์ขอพักที่เธอหนึ่งคืน แก้มของญาธิดาแดงก่ำ พูดแบบไม่ธรรมชาติว่า “ฉัน…ฉันไม่มีที่ว่างแล้ว คุณไปเถอะนะ”
มองผ่านสายตาเธอ ภวินท์เหมือนรู้หมดแล้วว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
เขายกมุมปากขึ้นมาเล็กน้อย และย้อนถามกลับไปว่า “กลัวหรอ?”
มัวแต่ช้าๆเดี๋ยวก็เกิดเรื่องหรอก กลัวว่าเขาจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับเธอหรือ?
“ฉันจะไปกลัวอะไรเล่า?”ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆแล้วแกล้งทำเป็นนิ่งเฉย “มีแค่ห้องเดียว ไม่มีที่อื่นแล้ว”
ภวินท์ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และพูดแบบชัดถ้อยชัดคำว่า “ทำไมถึงไม่มีล่ะ?”
ครั้งก่อนเขายังมีที่นอนเลย ทำไมครั้งนี้ถึงไม่มีแล้วล่ะ?
ญาธิดาถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าวด้วยความตื่นเต้น และเว้นระยะห่างระหว่างทั้งคู่ แล้วก็มองดูเขาอย่างระมัดระวัง
“มีแค่เตียงเดียว ถ้าคุณอยากอยู่ต่อจริงๆ ก็นอนโซฟาเลย”
ญาธิดาพูดอยู่ ยกคางขึ้นมาแล้วชี้ไปที่โซฟา
เธอไม่เชื่อหรอกว่าภวินท์จะอยู่ต่อ แม้แต่โซฟาก็ยอมนอน
มองเห็นหน้าตาผู้หญิงที่ยอมตายก็ไม่ยอมทำตาม ซึ่งดื้อดึงด้วยการตอบโต้ แววตาของภวินท์มีการเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยชัดเจน
ยายเด็กบ้าคนนี้ ถึงกับไม่เข้าใจความหมายของเขาเลยสักนิด รู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บ ทำอะไรก็ไม่สะดวกนัก เขาขออยู่ต่อด้วยตัวเอง ใครจะไปรู้ล่ะว่าหน้าตาของเธอกลับระมัดระวังเขาอยู่ตลอดเวลา
เขาเงยหน้า แล้วถามแบบนิ่งเฉยว่า “ให้ฉันนอนโซฟาจริง?”
ญาธิดาไม่คิดมาก รีบพยักหน้าทันที “อืม”
เห็นท่าทางที่ยืนหยัดของเธอ ภวินท์เหมือนกับยกมุมปาก สีหน้ายังคงนิ่งสงบ ซึ่งไม่มีความเคลื่อนไหว
เขาเชิดคอเล็กน้อย มองดูโซฟาและพูดว่า “ได้ งั้นฉันขอนอนโซฟาก็แล้วกันนะ”
พูดอยู่ เขาเดินไปข้างๆโซฟา ก้มตัวลงไปกดปุ่มข้างๆซึ่งไม่ค่อยสะดุดตาสักเท่าไหร่ “เปี้ยง”หนึ่งครั้ง ที่ใต้โซฟามีชั้นหนึ่งกระเด็นออกมา เขายื่นมือดึง ถึงกับต่อออกมาเป็นเตียงนอนเดี่ยว
ญาธิดายืนอยู่ข้างๆ ตอนแรกคิดไม่ถึงเลยว่าเขาถึงกับยอมนอนโซฟาจริงๆ ถัดมาก็ถูกการกระทำของเขาทำให้ตกอกตกใจไปเลย
“คุณ…คุณ”
ห้องที่เธอเช่า เธอไม่รู้เลยว่าโซฟาตัวนี้ถึงกับซ่อนกลไกเอาไว้ ซึ่งสามารถต่อเป็นเตียงเดี่ยวได้ แต่ว่าเขาถึงกับรู้
ภวินท์ยักคิ้ว แล้วไม่พูดไม่จา
ตอนนั้นเป็นเพราะว่างานยุ่งเกินไป บางครั้งไม่สะดวกกลับไปที่บ้าน เขาถึงได้ซื้อคอนโดเล็กๆซึ่งใกล้กับละแวกบริษัท เครื่องใช้ในบ้านส่วนมากเขาเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง ต้องรู้อยู่แล้ว
ญาธิดายังตกใจไม่หาย “ภวินท์ คุณรู้ได้ไงว่าโซฟาตัวนี้สามารถทำเป็นเตียง?ฉันยังไม่รู้เลย…”
ภวินท์พูดแบบนิ่งเฉยเหมือนเคย “เพราะว่าคุณไม่เคยใส่ใจกับเรื่องรอบข้างไงล่ะ”
คำพูดสั้นๆง่ายๆ พูดซะจนญาธิดาแก้มแดง
เขาหมายความว่าไงเนี่ย กำลังพูดว่าเธอสะเพร่างั้นหรอ?
กัดฟัน ญาธิดาธิดาโมโหเล็กน้อย เห็นภวินท์หยิบหมอนข้างจากข้างๆมาทำเป็นหมอน ยิ่งโมโหจนพูดอะไรไม่ออก
เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ เพื่ออยู่ที่นี่ต่อ ภวินท์ถึงกับยอมนอนโซฟา
ตอนนี้ต่อให้เธอไล่ยังไงก็ตาม เขาก็คงไม่ไปแล้วแหละ
“ช่างเถอะ คุณยอมนอน ก็นอนไปเถอะ”
ญาธิดาจนหนทางจริงๆ ได้แต่ทิ้งคำนี้ไว้ แล้วหันหลังกลับไปที่ห้องนอน
เธอล๊อคประตูห้องเรียบร้อย หลังจากนอนลงไป เธอพลิกตัวไปๆมาๆซึ่งนอนยังไงก็นอนไม่หลับ
มีคนนอนอยู่ข้างๆ รู้สึกแปลกจริงๆเลย ยิ่งไปกว่านั้นคนคนนั้นยังเป็นภวินท์อีกต่างหาก
พลิกตัวไปมาสิบกว่านาที จู่ๆญาธิดาก็นึกได้ว่าภวินท์นอนอยู่ที่โซฟาคนเดียว ถึงแม้โซฟาเปิดออกแล้ว ยังมีหมอนข้างทำเป็นหมอนอีก แต่ว่าเขายังขาดผ้าห่มหนึ่งผืน
ฤดูกาลในตอนนี้ ถึงแม้ไม่หนาวก็ตาม เพียงแต่ว่าเวลานอนไม่ห่มผ้าห่มเป็นหวัดง่ายมากเลยนะ
นึกถึงตรงนี้ ญาธิดายกมือขึ้นมา ตบหัวตัวเองหนึ่งครั้ง และโมโหเล็กน้อย
เรื่องของเขา เกี่ยวอะไรกับเธอเนี่ย?
ญาธิดาดึงผ้าห่ม และหันหลังกลับไป พยายามบีบบังคับตัวเองให้รีบนอนหลับเร็วๆ แต่ว่าในหัวสมองยังคงคิดถึงเรื่องนี้
ผ่านไปนานมาก เธอก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี ในที่สุด เธอกัดฟันลุกขึ้นมา แล้วลงจากเตียง เปิดตู้ออกมาและอุ้มผ้าห่มหนึ่งผืน เดินออกไป
บนโซฟา ภวินท์ก็นอนไม่หลับเช่นกัน ได้ยินเสียง แล้วหันหลังมองไปที่เธอ
ผู้หญิงอุ้มผ้าห่มไว้ในอ้อมอกหนึ่งผืน ซึ่งเหมือนไม่ค่อยเต็มใจ เดินเข้ามาไม่พูดไม่จา วางผ้าห่มไว้ข้างๆ ก็หันหลังเดินไปเลย
มองดูข้างหลังที่ดื้อดึงของเธอ ภวินท์ยกมุมปากขึ้นมาเล็กน้อย แล้วดึงผ้าห่มมาห่ม
ส่งผ้าห่มเรียบร้อย กลับมาที่ห้องอีกครั้ง เรื่องที่คับใจของญาธิดาแต่แรกค่อยๆปล่อยวาง ขณะที่ไม่รู้สึกตัว เธอได้นอนฝัน และนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน
เช้ารุ่งขึ้นวันที่สอง เธอถูกเสียงสั่นคลอนของมือถือทำให้ตื่น เธอกดปุ่มรับสายอย่างมึนๆงงๆ วินาทีต่อมาเสียงตะโกนแหลมคมของอัญมณีก็ดังเข้ามาข้างหู
“ธิดา รีบดูข่าวเร็ว ครั้งก่อนตอนที่ฉันไปที่บริษัทเป็นเพื่อนเธอ นีราภาคนที่เราเจอคนนั้น ข่าวเฉาถูกเปิดโปงแล้วนะ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงสังสรรค์ของท่านสุวิทย์เมื่อคืน เธอรู้รึเปล่า”
ญาธิดายังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลย ก็ถูกข่าวสารถาโถมเข้ามาเป็นกอง เธอขยี้ตา ถามด้วยเสียงแหบแห้งว่า “อันอัน เธอจะให้ฉันหลับสักงีบไม่ได้เลยหรือ?”
“นี่เธอยังมีอารมณ์นอนอีกหรอ?ฉันรับรองเลยว่าพอเธอดูข่าวปุ๊บ เธอก็จะไม่อยากนอนอีกเลยแม้แต่นิดเดียว”
ฟังน้ำเสียงของอัญมณีทางโน้นที่เว่อร์มากๆ ญาธิดาลืมตา และตอบกลับไปแบบเรื่อยเปื่อย จากนั้นก็เปิดข่าวหน้าหนึ่งในมือถือที่เธอส่งมาให้
ดูแค่หัวข้อเดียว ญาธิดาก็ตื่นทันทีเลย ถึงกับเป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตินร์และนีราภาเมื่อคืน เธอรีบลุกขึ้นนั่ง เปิดข่าวสาร และดูไปเรื่อยๆ
เห็นคำว่า “จับชู้” “เมียน้อย” ญาธิดาได้เข้าใจเนื้อหาในข่าวประมาณหนึ่งแล้ว ที่ทำให้เธอตกใจคือรูปภาพที่ประกอบ
ในรูปภาพ นีราภาและมาตินร์ต่างเปลือยกายทั้งคู่ ดวงตากับจุดสำคัญในร่างกายต่างเบลอๆ เพียงแต่ว่ายังสามารถแยกแยะได้ว่าพระเอกนางเอกคือพวกเขาสองคนพอดี
ตามแผนการของพวกเขา เธอผลักนีราภาเข้าไปในห้อง แค่ต้องการให้ศศิเข้าใจพวกเขาผิด ที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงเลยก็คือ นีราภากับมาตินร์ถึงกับมีอะไรกันจริงๆ
“ธิดา เป็นไง?ตื่นในพริบตาเดียวเลยใช่ไหม?”
เสียงของอัญมณีดังมาจากสายทางโน้น ญาธิดาถึงได้สติกลับมา แล้วพูดเสียงเบาว่า “ความจริง……”
“ฉันว่านะ ผู้หญิงคนนั้นสมน้ำหน้าเอง ครั้งก่อนหล่อนรังแกเธอขนาดนั้น ครั้งนี้ทำให้หายโมโหไปเลย”
ฟังอัญมณีบ่นแบบไม่หยุดไม่หย่อน ญาธิดากลับไม่มีอารมณ์ เธอเอ่ยปากตอบกลับแบบเรื่อยเปื่อยแค่ไม่กี่คำว่า “อันอัน ฉันมีธุระนิดหน่อย ขอตัวก่อนนะ”
พูดจบ เธอวางสาย และเดินออกไปจากห้องนอนโดยตรง
ภวินท์ตื่นแล้ว บนโต๊ะมีอาหารเช้าง่ายๆวางอยู่หลายอย่าง เขานั่งอยู่ข้างโต๊ะและเปิดไอแพดอย่างเรื่อยเปื่อย เหมือนกับกำลังดูเอกสารอยู่
ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆ เดินไปข้างหน้าและถามว่า “คุณเห็นข่าวพวกนั้นหรือยัง?”
“ธิดา รีบดูข่าวเร็ว ครั้งก่อนตอนที่ฉันไปที่บริษัทเป็นเพื่อนเธอ นีราภาคนที่เราเจอคนนั้น ข่าวเฉาถูกเปิดโปงแล้วนะ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงสังสรรค์ของท่านสุวิทย์เมื่อคืน เธอรู้รึเปล่า”
ได้ยิน ภวินท์เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย มองหน้าเธอด้วยสายตาที่นิ่งเฉย และตอบไปคำเดียวว่าอืม ถือว่าตอบไปแล้วนะ
“รูปถ่ายในข่าวพวกนั้น ผ่านการตกแต่งใช่ไหม?”
เธอรู้ดี ข่าวสารเรื่องนี้สามารถปรากฏในหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง ภวินท์ต้องแอบส่งเสริมยุยงเลยไม่น้อย
การกระทำที่เปิดไอแพดของภวินท์หยุดนิ่ง และเงยหน้าขึ้นมามองไปที่เธอ เผยความไม่พอใจออกมาจากแววตา “คุณรู้สึกว่าฉันเป็นคนแบบนั้นหรือ?”
เรื่องแบบนี้ เขาไม่จำเป็นต้องปลอมแปลงเลยนะ
ญาธิดาอยากพูดแต่ห้ามไว้ “เพียงแต่ว่า……”
มาตินร์กับนีราภามีอะไรกันจริงๆได้ไง?