ดวงใจภวินท์ - บทที่222 สัญญามายืนยันกัน
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป เมื่อญาธิดาสบตาที่สดใสของชายผู้นั้น ก็มือไม้อ่อนทันที
“คุณธีทัต ฉัน……”
เสียงของธีทัตมีความอ่อนนุ่มที่เพียงพอ ที่จะไม่ได้ทำให้เธอกดดันทางจิตใจเลย “ธิดา ไม่ต้องรีบ ผมให้เวลาคุณ ให้คุณได้พิจารณาดีๆ……”
ญาธิดาหลับตาลง และมองดูทุกอย่างในห้อง หัวใจได้เกิดความปั่นป่วนขึ้น
ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนใส่ใจเธอมากเท่านี้มาก่อน และผู้ชายตรงหน้าก็อ่อนโยนเอาใจเก่ง ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของแฟนหนุ่มที่สมบูรณ์แบบที่สุดในหัวใจของเธอแต่ไม่รู้ทำไม หัวใจเธอกลับได้รู้สึกลังเลเล็กน้อย……
“เพี๊ยะ!”
หลังโต๊ะในห้องจู่ๆ มีเสียงดังดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงของอัญมณี “โอ๊ย……”
ญาธิดาตกตะลึงครู่หนึ่ง แล้วมองไป “อันอัน?”
อัญมณีค่อยๆ ลุกขึ้นจากด้านหลังโต๊ะ บนใบหน้าประกายถึงความเคอะเขินหัวเราะอย่างเขินอาย “ไม่ทันระวังได้ชนข้าวของซะแล้ว พวกเธอต่อเลย……”
ธีทัตซึ่งอยู่ด้านข้างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก บรรยากาศที่เขาสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก ได้ถูกเธอขัดจังหวะแบบนี้ ก็หมดความรู้สึกทันที
เมื่ออัญมณีเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของพี่ชาย รู้ด้วยตัวเองว่าไม่ใช่เวลาที่จะปรากฏตัว ไม่ซ่อนแล้วคงดีกว่า จากนั้นยืนขึ้นแล้วเดินไปข้างญาธิดา ใช้ข้อศอกแตะไปที่แขนเธอ ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ธิดา พี่ชายฉันชอบเธอมานานมากแล้วนะ! คนอื่นไม่รู้ แต่ฉันรู้ดี ในห้องของเขายังมีรูปภาพของเธออยู่ด้วยนะ!”
ร่องรอยของความอับอายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีทัต จึงได้กระแอมเล็กน้อย “อันอัน อย่าพูดเหลวไหล……”
“พูดเหลวไหลที่ไหน พี่ยังไม่ยอมรับอีก! ไม่ใช่ว่าพี่ชอบธิดาของเรามานานแล้วเหรอ!”
“……”
ญาธิดาที่อยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินคำพูดนั้นรู้สึกเขินเล็กน้อย และบนแก้มได้แดงระเรื่อขึ้น
เมื่อเห็นใบหน้าที่เขินอายของหญิงสาว ธีทัตก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามอีกครั้งว่า “ธิดา ตัดสินใจได้หรือยัง? ยอมเป็นแฟนของผมไหม?”
“ฉัน……”
เห็นชายผู้นั้นยื่นช่อดอกไม้ในมือออกมา ญาธิดากัดริมฝีปาก ลังเลว่าจะรับหรือไม่
และในขณะนี้ จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าถูกจ้องมองจากด้านข้าง และความหนาวเย็นก็ได้ปีนขึ้นไปบนหลังโดยไม่รู้ตัว
จิตใต้สำนึกทำให้เธอหันหน้าไป และได้เห็นภวินท์ยืนอยู่นอกประตู ดวงตาสีเข้มคู่หนึ่งจับจ้องมาที่เธอ
วินาทีถัดมา หัวใจของเธอก็ตึงขึ้น และความตื่นตระหนกได้ปรากฏบนใบหน้าของเธอ
เขาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ได้ยินมากน้อยแค่ไหน?
จู่ๆ บรรยากาศก็แปลกไปเล็กน้อย ญาธิดากัดริมฝีปาก เดิมทีความหุนหันพลันแล่นเล็กน้อยนั้นเหมือนถูกดับไปด้วยน้ำเย็น เธอเงยหน้าขึ้น สบเข้ากับสายตาของการรอคอยของธีทัต จึงได้กัดฟันพูด “ขอโทษนะคุณธีทัต ฉันยังไม่พร้อม……”
เธอไม่ได้เกลียดเขา แต่เธอก็ไม่ได้ชอบเขา เพราะความประทับใจในชั่วขณะจะยอมรับรักของเขา เธอทำไม่ได้
หลังจากที่พูดจบ เธอหันหลังเดิน แล้วออกจากห้องรับรองอย่างรวดเร็ว และวิ่งผ่านภวินท์ไปโดยไม่เงยหน้าขึ้น ในจิตใจวุ่นวายอย่างมาก
“ธิดา!”
“ธิดาจะไปไหน?”
ด้านหลังมีเสียงเรียกของธีทัตกับอัญมณีดังขึ้นมาพร้อมกัน ญาธิดากัดฟัน และเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น อยากจะหนีจากที่นี่ไปให้เร็ว และอยู่เงียบๆ คนเดียว
เธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมขณะเวลาที่เธอเห็นภวินท์ ความลังเลเดิมในใจของเธอกลายเป็นการปฏิเสธ และยิ่งไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกผิดเล็กน้อย
ตลอดทางได้วิ่งออกไปจากสถานที่จัดงาน เมื่อถึงลานกว้างด้านนอก ญาธิดาหยุดเท้าลง และหยุดหายใจหอบอย่างเร็ว
ในขณะนั้นเอง จู่ๆ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นข้างหลังเธอ ตามมาด้วย น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายผู้หนึ่ง “ญาธิดา เธอวิ่งอะไร?”
วินาทีต่อมา ข้อมือถูกคนคว้าไว้ และเธอก็ถูกดึงอย่างแรง พอหันกลับมา ก็ได้เผชิญกับใบหน้าที่เย็นชาของภวินท์
“คุณจะทำอะไร?” ญาธิดาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ปล่อย!”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ ทั้งตัวได้ถูกภวินท์ลากไปตรงข้างที่จอดรถข้างๆ พลังของชายผู้นี้แข็งแกร่งมาก มีลักษณะท่าทางที่ไม่อาจต้านทานได้เล็กน้อย จากนั้นนำเธอไปข้างรถทันที แล้วเปิดประตูยั้ดเธอเข้าไป
ประตูถูกปิด แล้วล็อก ญาธิดาถูกขังอยู่ในที่นั่งข้างคนขับ ความโกรธก็ผุดขึ้นในหัวใจ “ภวินท์ คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”
เธอไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมเขาถึงทำกับเธอแบบนี้?
ภวินท์ได้ยินคำพูดนี้ คิ้วขมวดขึ้น ร่างกายดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ และอดไม่ได้ที่จะกดตัวเธอเข้ามา
เมื่อเขาเข้าใกล้ ญาธิดาก็ถอยกลับไปหนึ่งนิ้ว จนตัวเธอไปติดอยู่ที่ประตู และเข้าไปอยู่ในมุมเล็กๆ ของที่นั่งข้างคนขับ เมื่อไม่มีที่ซ่อน มือของชายผู้นั้น เอื้อมมาจับไหล่เธอ
ความเย็นชาในดวงตาของภวินท์เลื่อนผ่านไป ริมฝีปากบางขยับเป็นเส้นตรง และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “หากเมื่อครู่ผมไม่ปรากฏตัว คุณจะรับรักของเขาแล้วใช่ไหม?”
เมื่อเขาปรากฏตัวที่ประตูในตอนนั้น มองเห็นได้ชัดเจนเลยว่าบนใบหน้าของหญิงสาวนั้นมีความเขินอายและความลังเลใจในแววตา หากเขามาช้าอีกนิดกลัวว่าสิ่งที่เขาจะเห็นคือทั้งสองกอดกัน และการจบลงอย่างมีความสุข
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ภวินท์รู้สึกเพียงว่าในหัวใจของเขาเหมือนไฟได้ลุกโชนขึ้น ร้อนแรง ร้อนผ่าวและระอุขึ้น
มือที่จับไหล่ของเธอได้กระชับแน่นอย่างไม่รู้ตัว ภวินท์ถามด้วยเสียงเบาๆ “หือ? ใช่ไหม?”
ญาธิดาอดทนกับความเจ็บปวด ร่องรอยสับสนได้เล็ดลอดเข้ามาในแววตา เธอกัดฟัน เงยหน้าขึ้นสบตาเขา และเรียกความกล้าที่จะถามกลับว่า “ต่อให้ฉันรับรักของเขา ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณนี่?”
ประโยคเดียว เหมือนกับอากาศเย็น ที่ทำให้อุณหภูมิภายในรถลดเหลือน้อยลงในทันที
แววตาของภวินท์เย็นชาอย่างน่ากลัว เขาจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ที่ดื้อรั้นของผู้หญิงคนนั้น และหลังจากนั้นสองวินาที ก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “คุณลืมสัญญาที่เซ็นไว้ฉบับนั้นแล้วเหรอ? ในช่วงระยะเวลาของสัญญา คุณไม่ได้รับอนุญาตให้มีความสัมพันธ์ใดๆ กับผู้ชายคนอื่นได้นอกจากผม!”
เมื่อญาธิดาได้ยินเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “เป็นไปไม่ได้!”
ในขณะนั้นเธอดูเงื่อนไขของสัญญาอย่างตั้งใจ แม้ว่าจะไม่ได้อ่านอย่างละเอียด แต่เธอก็ไม่ได้เห็นว่ามีประโยคดังกล่าวนี้!
“ภวินท์ ฉันมีสัญญาอยู่ในมือหนึ่งฉบับ อย่าพยายามโกหกฉันเลย!”
ในเวลานั้นสัญญามีสองชุด ฝ่าย A และฝ่าย B จะถืออยู่คนละฉบับ แค่คำพูดของภวินท์ฝ่ายเดียว เธอคงจะไม่เชื่อ!
“เหรอ?” ภวินท์หัวเราะเยาะ จากนั้นเหยียดแขนยาวออกไปแล้วรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ “ในเมื่อคุณไม่เชื่อ ทำไมคุณไม่นำสัญญาออกมา แล้วเราเอามายันกัน!”
ญาธิดากัดริมฝีปากอย่างโกรธจัด “ยืนยันกันก็ยืนยันกันสิ!”
แม้ว่าเธอจะลงนามในสัญญา ถึงแม้จะไม่ใช่สมบัติของเขา และเธอคงทำได้แค่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาเท่านั้น อีกทั้งเป็นไปไม่ได้ที่ว่าในทุกๆ เรื่องเขาจะใช้สัญญานั้นมาคุกคามเธอ!
ภวินท์สตาร์ทรถ เท้าเหยียบคันเร่งไปที่ด้านล่าง และรถก็พุ่งออกไปเหมือนแมลงวัน
ผ่านไปยี่สิบกว่านาที พวกเขาก็มาถึงที่หมาย รถหยุดที่ชั้นล่างคอนโด ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ และกัดริมฝีปาก “ฉันจะขึ้นไปเอาสัญญามา คุณรอฉันก่อน”
ขณะที่พูดอย่างนั้น เธอกำลังจะเปิดประตูรถ แต่เท้ายังไม่ได้ออกจากรถ คนก็ได้ถูกคว้าข้อมือเอาไว้
ภวินท์พูดอย่างเงียบๆ “ผมจะไปกับคุณ”
เขาไม่ได้โง่ ถ้าเธอไปแล้วไม่กลับมา เขาจะยืนยันกันอย่างไร?
ญาธิดาขมวดคิ้ว โดยความคิดที่อยู่ในใจถูกมองออกแล้ว แต่ก็พูดอะไรไม่ออก ดังนั้นจึงทำได้แค่ให้เขาขึ้นไปด้วย
กลับมาถึงคอนโด ทันทีที่ประตูเปิด ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ “รอที่หน้าประตูนี่แหละ ฉันจะไปเอาสัญญา”
หลังจากที่พูดจบ เธอเข้าไปในห้องนอน และหยิบสัญญาออกมาจากลิ้นชัก
เธอทั้งเดินออกไปข้างนอก พลางพลิกดูเอกสาร และหลังจากดูเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว เธอแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถติดต่อกับเพศตรงข้ามได้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นภวินท์ได้พูดไร้สาระจริงๆ!
เธอเดินไปที่ห้องนั่งเล่น มองลงมา และกวาดผ่านตัวอักษรเล็กๆ ที่อยู่ในวงเล็บด้านล่างโดยไม่ได้ตั้งใจ ร่างกายก็แข็งทื่อในทันใด