ดวงใจภวินท์ - บทที่610 ผมไม่ชอบรุ่นน้อง
บทที่610 ผมไม่ชอบรุ่นน้อง
ญาธิดาอ้าปากกว้างจนคางแทบหลุดออกมา “ซื้อของขวัญเสร็จแล้วไม่ใช่หรอ?”
ชวิศเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “แค่เสื้อผ้าชุดเดียว คงไม่พอสำหรับน้องสาวของผมหรอก”
พูดจบเขาก็เอื้อมมือไปคว้าแขนเสื้อของญาธิดา “ไปกันเถอะ! ไปเลือกซื้อเครื่องประดับกับผมหน่อย”
ญาธิดาอดโวยวายในใจไม่ได้ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก “โอเค ซื้อเครื่องประดับเสร็จก็จบแล้วใช่ไหม”
“ดูสถานการณ์ก่อน”
พูดเสร็จ ชวิศก็พาเธอเดินไปที่ร้านขายเครื่องประดับ
ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นในร้านของหวาน ข้างร้านเสื้อผ้าสตรีในเมื่อสักครู่
นิวราลุกขึ้น และจ้องไปยังหน้าต่างที่โปร่งใส เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบเดินออกจากร้านขนม และไล่ตามหลังของญาธิดาไป
เมื่อเห็นญาธิดาเดินเข้าไปในร้านขายเครื่องประดับพร้อมกับชายร่างสูงที่มีหน้าตาหล่อเหลา ดวงตาของนิวราก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายในทันใด
เธอกำหมัดและกัดฟันแน่น
นึกไม่ถึงว่าญาธิดาจะร่านและไร้ยางอายขนาดนี้ ตอนนี้หล่อนมีทั้งสามีและลูกแล้ว แถมยังเข้าไปพัวพันกับพี่ภวินท์ของเธอไม่เลิก แต่ตอนนี้กลับมาเดินซื้อของกับผู้ชายอีกคน! เป็นผู้หญิงที่ทั้งแรดและร่านจริงๆ!
นิวรากำหมัดอย่างโกรธเคือง ในเวลานี้ เธอไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร แต่การเจอญาธิดาในครั้งนี้ เธอต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่เช่นนั้น เธอจะรู้สึกเสียใจที่หลังที่ตัวเองไม่ทำอะไรเลย
ในเวลานี้ เพื่อนของนิวราที่มาด้วยกันก็ไล่ตามเธอออกมา หล่อนมองไปยังทิศทางที่นิวราอยู่ และอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “นิว เกิดอะไรขึ้น!ทำไมจู่ๆถึงวิ่งออกมาล่ะ? ”
นิวรากัดฟันแน่น เดินไปที่หน้าต่างของร้านขายเครื่องประดับ จ้องไปที่ญาธิดาผ่านกระจกใส เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างออก
วันนั้นตอนคุยโทรศัพท์ ภูผาบอกเธอว่า ญาธิดากำลังจะแต่งงานกับธีทัตไม่ใช่หรอ? ตอนนี้เธอกล้ามาเดินซื้อเครื่องประดับกับผู้ชายคนอื่น เธอกล้ามากจริงๆ! ถ้าถึงเวลานั้น……
ประกายแห่งแรงบันดาลใจแวบเข้ามาในหัวใจของเธอ และเมื่อเธอนึกถึงผลที่จะตามมา ในใจของเธอก็รู้สึกมีความสุขแล้ว เธอหันไปมองเพื่อนข้างๆ และพูดขึ้นทีละคำว่า “มิกกี้ ถ้าเธอช่วยอะไรฉันหน่อย สร้อยข้อมือที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่นี้ ฉันยกให้เธอเลย!”
พูดจบ เธอก็ถอดสร้อยข้อมือใหม่ออกจากมือ แล้วยัดเข้าไปในมือของมิกกี้
ดวงตาของมิกกี้เป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อสักครู่ ตอนที่กินของหวานอยู่ เธอก็จ้องมองสร้อยข้อมือนี้มาเป็นเวลานานแล้ว คิดไม่ถึงว่า นิวราจะมอบมันให้กับเธอ นี่มันช่างดีอะไรเช่นนี้!
มิกกี้ถามอย่างตื่นเต้น “ให้ช่วยเรื่องอะไรหรอ นิว!”
นิวราส่งสัญญาณให้เธอมอง “เธอเห็นชายหญิงคู่นั้นไหม”
มิกกี้พยักหน้า
นิวราพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “เข้าไปข้างใน แล้วถ่ายรูปพวกเขาให้หน่อย ยิ่งดูสนิทสนมกันมากแค่ไหนยิ่งดี!”
มิกกี้แปลกใจเล็กน้อย “ทำ……ทำไมล่ะ?”
นิวราพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่มีเหตุผล เธอแค่บอกมาว่าจะทำหรือไม่ทำ”
มิกกี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มองลงไปที่สร้อยข้อมือในมือของตัวเอง และพยักหน้าอย่างแรง “ฉันทำ!”
นิวรายิ้มแล้วผลักเธอเล็กน้อย “ดี เข้าไปเลย! อย่าให้พวกเขารู้ตัวเด็ดขาด หรือถ้าเธอกล้าปริปากบอกว่าฉันเป็นคนสั่ง เธอได้ตายแน่!”
มิกกี้พยักหน้ารัวๆ หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา เปลี่ยนไปใช้โหมดอัดวิดีโอ และเดินเข้าไปในร้าน แสร้งทำเป็นซื้อของ
ในร้านค้า
ชวิศหยิบสร้อยคอขึ้นมา แล้วถามความคิดเห็นของญาธิดา
“อันนี้เป็นไง?”
ญาธิดาตอบกลับอย่างเคร่งขรึม “ฉันคิดว่ามันสวยมากเลยนะ แต่ฉันไม่รู้ว่าน้องสาวของคุณชอบสไตล์ที่ละเอียดอ่อนและเล็กๆแบบนี้หรือเปล่า”
ชวิศลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถามพนักงานที่อยู่ข้างๆเขาว่า “สินค้านี้ลองใส่ดูได้ไหมครับ?”
พนักงานพยักหน้า “ได้ค่ะ”
“โอเคครับ งั้นผมจะให้เธอลองดู”
พูดจบ ชวิศก็มองไปที่ญาธิดา ยิ้มและถามความคิดเห็นของเธอ “ได้ไหม?”
ญาธิดาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่คิดอะไรมาก เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้”
ชวิศยิ้มเล็กน้อย “งั้นก็หันหลังหน่อย”
ญาธิดาพยักหน้า แล้วหันหลังให้เขา ไม่นาน เธอก็เห็นสร้อยสีเงินสวมลงมาจากหัว และค่อยๆไปอยู่ที่คอของเธอ
รู้สึกเย็นที่คอเล็กน้อย เธอมองลงไปที่กระจก และเห็นสร้อยเล็กๆอันละเอียดอ่อนนั้น อยู่ที่ร่องระหว่างกระดูกไหปลาร้าของเธอพอดี ซึ่งเหมาะสมอย่างคาดไม่ถึง
วินาทีถัดมา เธอก็รู้สึกกระชับที่ไหล่ เธอถูกชวิศจับไหล่แล้วหมุน เมื่อเธอหันกลับมา เธอก็สบตากับเขา
ทันใดนั้น บรรยากาศก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ชวิศหรี่ตาลง มองมาที่เธอแล้วพูดว่า “คุณใส่แล้วดูดีเลยทีเดียว”
ญาธิดาละสายตาจากเขาทันที แล้วหันกลับไปมองไปในทิศทางของตู้โชว์โปร่งใส เธอมองไปที่พนักงานแล้วถามออกไปว่า “ตอนนี้สินค้าตัวนี้ มีโปรโมชั่นอะไรไหมคะ?”
พนักงานกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้มีโปรโมชั่นลด20%ค่ะ”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ มองลงไปยังสินค้ารูปแบบอื่นๆในตู้ และพูดขึ้นโดยไม่ได้มองชวิศว่า “มันคุ้มอยู่นะ ถ้าคุณคิดว่าน้องสาวของคุณชอบแบบนี้ ฉันคิดว่าเส้นนี้ก็โอเคนะ”
ชวิศเห็นท่าทางที่พยายามหลบสายตาของเธอ จึงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “งั้นก็เอาเส้นนี้แหละ”
หลังจากถอดสร้อยคอออก ญาธิดาก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอผ่อนคลายขึ้นมาก หลังจากออกจากร้านขายเครื่องประดับ เธอเหลือบมองที่ชวิศและพูดว่า “ตอนนี้ก็น่าจะพอแล้วใช่ไหม? มีเสื้อผ้า รองเท้าและสร้อยคอแล้ว มันก็น่าจะครบชุดครบองค์ประกอบแล้ว ความสัมพันธ์ของน้องสาวคนนี้ของคุณ กับคุณคงจะไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดาสินะ?”
เธอหัวเราะแล้วพูดแซวเขา
ชวิศก็ไม่ได้ปิดบัง “เราโตมาด้วยกันน่ะ ความสัมพันธ์ก็ไม่เลว”
ญาธิดายังคงหัวเราะ “ชอบกันตั้งแต่เด็กว่างั้น?”
ชวิศยิ้ม “ไม่หรอก”
พูดจบ เขาก็หันไปมองเธอ “ผมไม่ชอบรุ่นน้องน่ะ”
ดวงตาของเขาดูเต็มไปด้วยอารมณ์และคำพูด ทำให้ผู้คนคาดเดาไม่ได้ แต่รู้สึกแปลกๆอย่างอธิบายไม่ถูก
จู่ๆหัวใจของญาธิดาก็รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ มองออกไปทางอื่น จากนั้นก็ก้มลงไปดูเวลา แล้วพูดขึ้นเบาๆว่า “ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็น! ฉันว่า วันนี้คงไม่ได้กินข้าวด้วยกันแล้วล่ะ”
“ใครว่าอย่างนั้นล่ะ มา ผมจะพาคุณไปที่ดีๆที่หนึ่ง!”
ชวิศขยิบตาให้เธอ และเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ญาธิดาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถามต่อไปว่า “ที่ไหน?”
“แพลนท์เวิลด์ กลางวันเป็นคาเฟ่ และกลางคืนเป็นร้านอาหาร มีพืชนานาชนิดอยู่ในนั้น ทั้งแบบเขตร้อน กึ่งเขตร้อน และเขตอบอุ่น ซึ่งจะทำให้คุณต้องตะลึงอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินการแนะนำของเขา ญาธิดาก็เริ่มสนใจในทันที ร้านกาแฟและร้านอาหารในปัจจุบัน มีความหลากหลายและมีลักษณะเฉพาะมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเคยไปแค่พวกคาเฟ่แมว คาเฟ่หนังสือ และอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ แต่ไม่เคยได้ยินหรือไปร้านอาหารที่มีพืชหลากหลายชนิดมาก่อน
ถ้ามันดีจริงๆ เธอก็สามารถพาอีธาน เอลล่าและเณรศีลมาเปิดตา และเพิ่มความรู้ได้
เมื่อคิดได้แบบนี้ ญาธิดาจึงเดินตาม และถามว่า “มันอยู่ที่ไหนล่ะ? อยู่ไกลจากที่นี่ไหม?”
ชวิศพูดขึ้นเบาๆว่า “ใกล้มาก ออกไป500เมตร แล้วคุณจะเห็นหัวมุมเลี้ยว ก็ถึงแล้ว”
เธอเดินตามเขาออกจากห้าง พวกเขานำของที่เพิ่งซื้อไปไว้ในรถก่อน แล้วเดินตรงไปที่ร้านอาหารที่ชื่อ”แพลนท์เวิลด์”
พวกเขาเดินอ้อมไปอ้อมมา เดินผ่านตรอกเล็กๆที่อยู่ข้างตึกสูงๆ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา และในที่สุดก็มาถึงที่นั่น
ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปในประตู นิวราและมิกกี้ก็โผล่หัวออกมาจากด้านหลังกำแพง……