ดวงใจภวินท์ - บทที่693 ลาก่อนเพื่อนเก่า
แม้ว่าคอมเมนต์ของชาวเน็ตจะทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่บริษัทคลาวด์ก็ยังคงส่งการประมูลราคาที่แก้ไขแล้วให้กับบริษัทข้ามชาติ JV
ขาคู่ยาวของคณินแกว่งไปมาอยู่บนโต๊ะทำงาน จากนั้นก็โยนเอกสารการประมูลทิ้งไปอีกด้าน “อย่าเอาเอกสารการประมูลของSTN Groupกับบริษัทเทคโนโลยีคลาวด์มาก น่ารำคาญ”
“แต่ว่า……” เลขาที่ยืนอยู่ด้านข้างตัวสั่น “คุณธีทัตบอกว่าข้อเสนอของเขาจะทำให้คุณพอใจแน่นอนค่ะ และเน้นย้ำให้พวกเราส่งเอกสารให้ถึงมือคุณให้ได้”
นัยน์คู่สวยของคณินหรี่ลงกลายเป็นทรงโค้ง แล้วมองไปทางเลขาอย่างยิ้มแย้มแล้วถามว่า “เขาจ่ายเงินให้เธอเท่าไหร่?”
“คุณคณิน!” เลขารีบส่ายมือ แล้วอธิบายอย่างกระวนกระวาย “ดิฉันเปล่าค่ะ ดิฉันไม่กล้าด้วยค่ะ……”
เขาลุกขึ้นยืนช้าแล้วเดินมายืนตรงหน้าเลขา แล้วเชิ่ดคางของเธอขึ้นเบาๆ ในขณะเดียวกัน ทำให้ระยะของทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่คลุมเครือว่า “เธอคือคนของฉัน ต้องเชื่อฟังฉันแค่คนเดียว ห้ามช่วยผู้ชายคนอื่นทำงานเด็ดขาด”
ใบหน้าของเลขาแดงก่ำ เธอรีบหลบสายตาของเขา ตอบรับแล้ววิ่งออกจากห้องทำงาน
คณินหัวเราะอย่างเยาะเย้ย จากนั้นก็เช็ดปลายนิ้ว
เลขาของเขาเพิ่งออกไปไม่ถึงสองนาที ก็กลับมาอีกครั้ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ลำบากใจว่า “คุณคณินคะ พนักงานSTN Groupอยากพบคุณค่ะ ตอนนี้นั่งรอคุณอยู่ที่ห้องโถงค่ะ”
“ลืมไปแล้วเหรอเมื่อกี้ฉันบอกว่าไง?” คณินโบกมือ “หาคนไล่เธอออกไปสะ ฉันไม่อยากได้ยินชื่อSTNและคลาวด์สองบริษัทนี้อีก”
เลขาเดินออกจากห้องทำงานของเขา พอเห็นพิชญ์สินีที่กำลังจะไปส่งเอกสารให้ท่านประธาน เธอก็คิดอะไรบางอย่างออก “พิช”
พิชญ์สินีเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน เธอจึงทำหน้าที่เสิร์ฟน้ำเสิร์ฟชาเหมือนพนักงานทั่วไป พอได้ยินเลขาส่วนตัวของท่านประธานเรียกตัวเอง ก็รีบเผยรอยยิ้มประจบประแจงทันที
เลขาก้าวไปด้านหน้า “ก่อนหน้านี้เธอทำงานที่STN Groupใช่ไหม บริษัทนั้นเขาส่งเลขามา เธอช่วยไปไล่เขาที”
พิชญ์สินีเผยสายตาที่ไม่พอใจ เธอนึกว่ามีเรื่องสำคัญจะมอบหมายให้เธอทำเสียอีก ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแบบนี้
ตอนนั้นเธอเดินออกจากSTN Groupอย่างคอตก ตอนนี้จะให้เธอไปเจอเพื่อนร่วมงานในอดีต คงจะได้ขายขี้หน้าแน่ๆ พอคิดได้เท่านี้เธอก็เริ่มรู้สึกแอบโกรธในใจ
ใต้ตึกบริษัท ญาธิดากอดเอกสารเอาไว้แล้วเดินไปมาไม่หยุด
ตอนแรกเธอไม่อยากจะเผชิญหน้ากับคณินโดยตรง เลยติดต่อผู้จัดการฝ่ายธุรการของบริษัทข้ามชาติ JVไป แต่คำตอบที่ได้คือรองประธานไม่มีอำนาจในการตัดสิน
เธอติดต่อคณินไม่ได้เลย เธอจึงต้องมาดักเจอที่บริษัทอย่างช่วยไม่ได้
พิชญ์สินีที่ลงตึกมาด้วยความโกรธ กวาดตามองไปทั่วห้องโถง สายตาเธอล็อกเป้าไว้ที่ญาธิดา พอนึกถึงข่าวลือบนโซเชียลในช่วงนี้ ความมั่นใจของเธอเพิ่มมากขึ้น แล้วก้าวเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
“ญาธิดา หล่อนยังกล้าจะโผล่หัวออกมาอยู่เหรอ กลัวคนอื่นไม่รู้ว่าเธอเล่นชู้ใช่ไหม?”
พอได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยไม่ได้ญาติดีสักเท่าไหร่ ญาธิดาจึงเหลือบมอง ใบหน้าต่ำต้อยของพิชญ์สินีปรากฏขึ้น
เธอเงยหน้าเพื่อสบตากับพิชญ์สินี น้ำเสียงของเธอรุนแรงขึ้น “ไม่คิดว่าเธอจะยังมีหน้ามาทำงานในสายงานนี้อีก ฝ่ายบุคคลคงไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เธอเคยทำเรื่องสกปรกอะไรไว้บ้างใช่ไหม?”
“แก……” รอยยิ้มบนหน้าของพิชญ์สินีหายไปทันที “ตอนที่ฉันออกจากบริษัทแกไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยซ้ำ ไม่มีใครเชื่อสิ่งที่แกพูดหรอก”
ญาธิดาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เรื่องนี้คือจุดอ่อนของพิชญ์สินี ถ้าพิชญ์สินีรู้ตัว ไม่ทำให้เธอลำบากใจ เธอก็ไม่อยากจะเอาเรื่องแบบนี้ประกาศไปทั่วเช่นกัน
ไม่คิดว่าสีหน้าของพิชญ์สินีจะน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ กดน้ำเสียงให้ต่ำเดินเข้าใกล้เธอแล้วพูดข่มขู่ว่า “ทางที่ดีแกควรเก็บเรื่องนี้ไปจนตาย ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยแกไปแน่”
“งั้นเหรอ?” สายตาของญาธิดาเยือกเย็น แล้วถามกลับว่า “เธอกลัวงั้นเหรอ?”
“ฉัน……ฉันมีอะไรให้กลัว……” พิชญ์สินีเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“ฉันสงสัยจัง ว่าถ้าฉันพูดเรื่องนี้ออกไป เธอจะทำอะไรกับฉัน”
“แกกล้า!” พิชญ์สินีหน้าซีด และไม่กล้าพูดอะไรต่อ ชี้รปภ.แถวนั้นแล้วตะโกนว่า “คุณคณินไม่ต้อนรับแขกคนนี้ พวกแกรีบมาลากออกไปที”
เมื่อก่อนหน้านี้ รปภ.ที่ได้รับหนังสือแจ้งจากฝ่ายเลขา พอตอนนี้ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ พวกเขาเลยทำท่าจะดึงญาธิดาออกจากบริษัท
ญาธิดาจับแฟ้มเอกสารในมือไว้อย่างแน่น มองไปที่รปภ.แล้วพูดออกมาทีละคำอย่างชัดเจน “ฉันแค่อยากพบคุณคณินสักครู่ หวังว่าพวกคุณจะไม่ทำให้ฉันต้องลำบากใจนะคะ”
“พบคุณคณิน? เธอกล้าดียังไง!” พิชญ์สินีที่เห็นเธอไม่ยอมกลับไป ในใจก็กลัวมากขึ้น ขณะพูดเธอก็เดินขึ้นหน้าไปแย่งเอกสารจากมือของเธอ แล้วฉีกทิ้งในชั่วพริบตา
พอไม่มีเอกสารนี้ ญาธิดาก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องเจอคณิน!
คณินที่อยู่ในห้องทำงานรู้สึกเบื่อจนแทบจะเป็นบ้า เขาจึงดูกล้องวงจรภายในบริษัท กะจะลองหาว่าช่วงนี้พอจะมีเป้าหมายใหม่ที่เขาสามารถจะหยอกได้หรือไม่
ภาพกล้องวงจรเลื่อนไปที่ห้องโถงของบริษัท รอยยิ้มขี้เล่นบนหน้าของเขาหายไปในทันที สายตาของเขาเย็นชาอย่างผิดปกติ
ญาธิดาในภาพกล้องวงจรดูเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก เธอกำลังก้มลงไปเก็บพวกเศษกระดาษบนพื้น ผู้หญิงคนหนึ่งที่ห้อยป้ายพนักงานเอาไว้มองเธออย่างเหนือกว่า พนักงานที่ล้อมเธอเอไว้ก็ชี้นิ้วว่าเธอ
เขารีบต่อสายหาเลขาทันที “รีบให้พนักงานSTNขึ้นมา ไม่ต้องละ……ฉันลงไปรับเธอเอง!”
ผ่านไปหลายปี บางครั้งเขาก็มีคิดถึงญาธิดา แต่เธอหายไปราวกับหายตัวไปจากโลกใบนี้
ครั้งล่าสุดที่เธอได้ยินชื่อของญาธิดา คือตอนที่เธอกับธีทัตจะจัดแต่งงาน ตอนนั้นเขาอยากจะไปเจอเธอสักครั้ง แต่EAST Residencesใกล้จะเปิดตัว เขายุ่งหัวหมุน จนพลาดมันไป
ไม่คิดว่า วันนี้เธอจะเป็นฝ่ายมาหาเขาถึงที่!
ภาพตรงหน้าชัดขึ้นเรื่อยๆ ฝีเท้าของเขาก้าวเร็วมากขึ้นเช่นกัน หลังจากที่เขาพยายามจัดการอารมณ์ของเขาให้คงที่ เขาถึงจะยืนนิ่งอยู่ด้านหลังของเธอ
“ทำไมวันนี้คึกคักกันจัง บริษัทให้พนักงานทุกคนหยุดงานหรือไง?” น้ำเสียงของเขากลับไปขี้เล่นเช่นเดิม
พอได้ยินเสียงของเขา พนักงานรอบๆ ก็แยกย้ายกันทันที พิชญ์สินีที่เป็นคนที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ จะวิ่งหนีตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว จึงทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่กับที่
หลังจากที่ญาธิดาจัดเอกสารบนมือเสร็จ ถึงจะเงยหน้ามองเขา “คุณคณิน ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“ไม่เจอกันนานจริงๆ ด้วย” คณินจงใจเข้าใกล้เธอ แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่คลุมเครือว่า “จะมาก็ไม่บอกก่อน คุณคิดถึงผมขนาดไหนกันเชียว?”
ญาธิดาเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพื่อเว้นระยะห่างกับเขา แล้วตอบกลับอย่างมีมารยาทว่า “คุณคณิน ฉันมาที่นี่เพราะเรื่องงาน หวังว่าคุณจะให้โอกาสฉันได้เจรจา”
“เรื่องงาน?” เขาเผยรอยยิ้มที่อันตรายออกมา แล้วยักไหล่ “ขอโทษนะครับ พอดีผมเลิกงานแล้ว เรื่องงานคงคุยไม่ได้แล้ว แต่ถ้าคุณจะคุยเรื่องส่วนตัวกับผมล่ะก็ ผมจะลองคิดดูอีกที”
ญาธิดาอดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบนใส่เขา แต่พอนึกถึงสถานการณ์ของSTN จึงพยายามฝืนกัดฟันพูดว่า “งั้นเรามาคุยเรื่องส่วนตัวกันค่ะ”
คำว่า “ดีล” ประทับอยู่บนหน้าของคณิน เขาใช้แขนโอบไหล่ของเธอ แต่ก็ยังเว้นระยะห่างประมาณหนึ่งอย่างสุภาพบุรุษ แล้วจงใจพูดอย่างคลุมเครือว่า “งั้นเราคงต้องหาที่ที่ไม่มีคนคุยกันดีๆ”
ญาธิดาไม่ได้ตอบกลับ และในขณะที่จะเดินผ่านพิชญ์สินีนั้น เธอก็หยุดก้าวเท้า “ได้ข่าวว่าประวัติการทำงานของพนักงานคนนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ คุณคณินควรต้องระมัดระวังการจ้างงานมากกว่านี้นะ”