ดวงใจภวินท์ - บทที่694 ผมหล่อไม่พอเหรอครับ
บทที่694 ผมหล่อไม่พอเหรอครับ?
“รีบไปตรวจสอบประวัติการทำงานของพนักงานคนนี้” คณินพูดจบ ก็เดิน เข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับญาธิดา “ไหนว่ามาสิ ไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนตั้งหลายปี”
ญาธิดาดูท่าทางขี้เล่นไม่จริงจังของเขา ก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ไปอยู่อเมริกามาสองสามปี เพิ่งกลับมาน่ะ”
อเมริกา? ก็ว่าทำไมเขาถึงหาเธอไม่เจอ
คณินไม่เคยคิดว่าเธอจะไปต่างประเทศ เขาเริ่มรู้สึกสนใจมากขึ้น มองไปหาเธอแล้วถามด้วยความสงสัยว่า “คุณคงไม่ได้ไปต่างประเทศเพราะอยากหลบหน้าภวินท์หรอกใช่ไหม?”
เธอไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด แล้วพยักหน้ายอมรับ “ใช่ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลหลัก”
“เรียนต่อ? พักร้อน? หรือว่าเริ่มธุรกิจใหม่?”
“คลอดลูกแล้วก็เลี้ยงเด็ก” น้ำเสียงของญาธิดาเรียบนิ่งเป็นปกติ เหมือนกำลังบอกคณินว่า อาหารเช้าเธอทานอะไรไป
คณินที่กำลังดื่มน้ำชะงัก น้ำครึ่งหนึ่งค้างอยู่ในหลอดลม จากนั้นก็สำลักน้ำอยู่สองสามครั้ง
“ลูกของใคร? ลูกของภวินท์? พวกเธอคงไม่ได้คืนดีกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกใช่ไหม?”
ญาธิดายกเอกสารบนมือขึ้น บนหน้าเอกสารประทับตรา “STN Group” ไว้อย่างชัดเจน เธอหัวเราะแล้วถามว่า “คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”
จนกระทั่งเขาสามารถสงบสติอารมณ์ได้ เขาถึงพึมพำด้วยสีหน้าที่เศร้าว่า “ผมนึกว่าคุณกลับมาครั้งนี้ ผมจะมีโอกาสจีบคุณแล้วเสียอีก ไม่คาดคิดจริงๆ สาวสวยดั่งดอกไม้ในตอนนั้นจะกลายเป็นผู้หญิงที่ไม่น่าสนใจเสียแล้ว”
ผู้หญิงที่ไม่น่าสนใจ? !
ญาธิดาที่ได้ยินคำสรรพนามนี้ กลอกตามองบนใส่เขาอย่างไม่พอใจ เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ช่วยไม่ได้ “ทำไมคุณยังดื้อรั้นแบบนี้ บริษัทข้ามชาติ JVเติบโตได้ดีขนาดนี้ ฉันคิดว่าคุณประสบความสำเร็จแล้วเสียอีก”
“ประสบความสำเร็จแล้วยังไง ผมชอบเป็นหนุ่มหล่อบ้านรวยมากเสน่ห์มากกว่า” เขายกขาขึ้นแล้ววางบนโต๊ะทำงานอีกครั้ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ “ผมยังหล่อไม่พอเหรอ?”
ญาธิดากำลังคิดจะพยักหน้า แต่แววตาเจ้าเล่ห์ก็แวบเข้ามาในดวงตาของเธอ เธอนิ่งไปสักพัก จงใจพูดให้ช้าลง แล้วตอบกลับว่า “ถ้าเทียบกับภวินท์ ก็ยังห่างกันนิดหน่อย……”
“ส่งแขก!” คณินรีบโบกมือ
ระหว่างที่คุยกัน ญาธิดาก็ได้แปะเอกสารที่ถูกฉีกเข้ากันใหม่เรียบร้อย แล้วใส่เข้าไปในแฟ้มใหม่ จากนั้นก็วางลงตรงหน้าของเขา
“ครั้งนี้ฉันมาเพราะโครงการEAST Residences เอกสารนี้ฉันกับฝ่ายธุรการเป็นคนทำ ส่วนของผลกำไรนั้นคุณไม่ขาดทุนแน่นอน หวังว่าคุณคณินจะช่วยกรุณาดูสักหน่อย”
พอพูดถึงเรื่องงานสีหน้าของคณินก็จริงจังขึ้นมาทันที หลังจากที่เขากวาดมองเธอแวบหนึ่ง ก็ฝืนเปิดแฟ้มเอกสารออก จนกระทั่งหน้าสุดท้ายสีหน้าของเขาถึงกลับมาอ่อนโยน
เอกสารนี้เขาพอใจเป็นอย่างมาก
“ช่วงนี้STN Groupโดนมรสุมไม่หยุด หุ้นก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ ถึงแม้คุณจะทำเอกสารมาดีแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น สิ่งสำคัญของการร่วมงานระหว่างสองบริษัทคือการทำกำไรอย่างมั่นคงโดยไม่ขาดทุน ในเมื่อSTN……”
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะยังมีความกังวลอยู่ แต่ญาธิดานั้นพอจะฟังออกแล้วว่าเขาพอใจกับเอกสารฉบับนี้เป็นอย่างมาก เธอจึงพูดแทรกเขาอย่างทันทีว่า “คุณคณินดูแค่เอกสารก็พอ เรื่องข่าวคุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด”
“คุณจะจัดการให้เร็วที่สุด?” คณินเงยหน้ามองเธออย่างสงสัย หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาถึงจะรู้สึกตัวแล้วถามว่า “ข่าวซุบซิบของSTNคงไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณหรอกใช่ไหม?”
ญาธิดาก็แปลกใจมากเช่นกัน “คุณไม่รู้เรื่องในข่าวเหรอ?”
บนหน้าของเขาเขียนเอาไว้ว่า “ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น” เขาไม่รู้ข่าวที่แพร่ไปทั่วเมือง Jเนี่ยนะ?
คณินรีบคลิกเข้าอินเทอร์เน็ตในคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว พลางตอบว่า “ไม่กี่วันก่อนตาแก่ที่บ้านทิ้งงานไว้ให้ผมเป็นกอง ผมทำงานจนดึกทุกวัน ยังไม่มีเวลาว่างที่ใส่ใจเรื่องพวกนี้เลย”
พอเห็นเนื้อหาในข่าว รอยยิ้มบนหน้าของเขาก็ฉีกกว้างมากกว่าเดิม เขากวาดตามองเธอขึ้นๆ ลงๆ อย่างอดไม่ได้ ทำเสียงจิ๊ปากแล้วพูดว่า “ดูคุณสิแบนอย่างกับแผงประตู นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีเสน่ห์ขนาดนี้ จัดการภวินท์ได้ไม่พอ ยังจัดการธีทัตได้อีกด้วย”
สีหน้าของญาธิดาหมองลงในทันที แล้วกลอกตามองบนอย่างเอือมระอาอีกครั้ง
“บริษัทที่ธีทัตทำงานอยู่ก็กำลังแย่งEAST Residencesอยู่ คุณคงรู้ใช่ไหม?”
ริมฝีปากของคณินยกขึ้นเป็นทรงโค้งเล็กน้อย “คนหนึ่งคือสามีในนามของคุณ ส่วนอีกคนก็เป็นพ่อของลูกคุณ คุณทำแบบนี้เหมือนจะไม่ยุติธรรมนะ เอางี้……”
เขาเอนตัวไปทางญาธิดา “คุณไม่มาอยู่ทีมเดียวกับผมดีกว่า!”
ญาธิดาถอยหลังไปสองก้าว เว้นระยะห่างระหว่างพวกเขาสองคน เชิ่ดคางขึ้นแล้วชี้ไปทางเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ เป็นการบ่งบอกเขาอย่างชัดเจน ว่าตัวเองเลือกข้างแล้ว
คณินเก็บรอยยิ้มขี้เล่นของเขา แล้วเก็บเอกสารเข้าในลิ้นชัก “แน่นอนว่าSTNได้เปรียบในโครงการEAST Residences แต่ถ้าจะเอาโครงการนี้ได้ข้อแม้คือต้องทำให้ตลาดหุ้นมั่นคงก่อน”
พอได้คำตอบเช่นนี้ ญาธิดาก็ถอนหายใจอย่างรู้สึกโล่ง “เรื่องข่าวฉันจะจัดการอย่างเร็วที่สุด ขอให้คุณคณินโปรดวางใจ”
พูดจบ เธอก็ยื่นมือข้างขวาออกไปตรงหน้าคณิน
ทั้งสองจับมือกันประมาณสองวิ ก่อนที่เธอจะดึงมือกลับแล้วเตรียมออกจากห้องทำงาน แต่เพิ่งเปิดประตู เสียงของคณินก็ดังขึ้น “คืนนี้คุณมีธุระไหม? คืนนี้ผมต้องไปร่วมงานเลี้ยงหนึ่ง ต้องการคู่ควงผู้หญิงคนหนึ่ง……”
ญาธิดาเหลือบมองแล้วยิ้มเบาๆ ก้าวออกไปพร้อมกับถามกลับเบาๆ ว่า “คุณอยากให้ฉันเป็นผู้หญิงใจง่ายเหมือนในข่าว?”
ทั้งสองจับมือกันประมาณสองวิ ก่อนที่เธอจะดึงมือกลับแล้วเตรียมออกจากห้องทำงาน แต่เพิ่งเปิดประตู เสียงของคณินก็ดังขึ้น “คืนนี้คุณมีธุระไหม? คืนนี้ผมต้องไปร่วมงานเลี้ยงหนึ่ง ต้องการคู่ควงผู้หญิงคนหนึ่ง……”
เสียงพูดยังไม่ทันหายไป แผ่นหลังของเธอก็หายไปจากสายตาของคณิน สีหน้าของคณินผิดหวัง แล้วบ่นพึมพำว่า “ผมเสน่ห์แรงขนาดนี้ ทำไมถึงจัดการคุณไม่ได้กันนะ”
ญาธิดากลับมาถึงบริษัท แล้วบอกกับชมพู่ว่าโครงการEAST Residencesดำเนินไปได้อย่างดี ทั้งสองยุ่งอยู่ในแผนกธุรการกันหัวหมุน จนกระทั่งเสียงกระดิ่งเลิกงานดังขึ้น ถึงจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
อีธานที่ทานอาหารเย็นเสร็จก็รีบมานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในทันที แขนเล็กอันอวบอ้วนโลดแล่นอยู่บนแป้นพิมพ์อย่างว่องไว ใบหน้าที่เด็กของเขาเคร่งขรึมเกินอายุของเขา
“อีธาน ทานผลไม้หน่อยครับ” เธอรับจานผลไม้ที่ป้าจันทร์ปลอกเอาไว้เรียบร้อย จากนั้นก็ฉวยโอกาสตอนยื่นผลไม้ แอบเข้าใกล้อีธาน
ตามคาดอีธานที่ได้ยินเสียง รีบปิดหน้าจอโน๊ตบุ๊คทันที จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หวานว่า “ขอบคุณครับคุณแม่”
ญาธิดาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเน้นย้ำอีธานถึงอันตรายที่ใช้สายตากมากเกินไป เมื่อเห็นว่าเขายังคงเชื่อฟังเหมือนเคย เธอถึงจะกอดแฟ้มเอกสารแล้วเดินเข้าห้องอ่านหนังสือ
สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ต้องห้ามไม่ให้เข้าวันนี้ถูกเปิดให้เธอโดยสมบูรณ์แล้ว ห้องอ่านหนังสือดูอบอุ่นมากขึ้น หลังจากที่ถูกเธอแปลงโฉมใหม่
เธอนั่งอยู่ตรงข้ามภวินท์ แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ตั้งแต่ที่อีธานกลับมาจากMerliam ก็อยู่หน้าคอมไม่ยอมปล่อยมือเลย แล้วยังทำท่าทางลับๆ ล่อๆ อีกด้วย”
พอได้ยินคำว่า “Merliam” ภวินท์ก็วางเอกสารในมือลง “อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่Merliamใช้นั้นเป็นอุปกรณ์ใหม่ล่าสุดทั้งนั้น ข้อมูลส่วนใหญ่ส่งออกและรับผ่านดาวเทียม เป็นเรื่องปกติที่เขาจะสนใจ”
“คุณรู้นานแล้ว?” เธฮรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ภวินท์พยักหน้า “เขาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ดี เผื่ออนาคตอาจจะมีโอกาสได้ใช้”
เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองพูดถึง “Merliam” บรรยากาศอึมครึมลงเล็กน้อย หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เธอตัดสินใจพูดช้าๆ “คุณไม่อยากกลับไปช่วยคุณจรณ์แล้ว?”
“ดูเหมือนว่าความทรงของคุณที่มีต่อเขาไม่แย่นะ” สีหน้าของภวินท์หมองลงเล็กน้อย
แท้จริงแล้ว ตั้งแต่ที่เธอออกมาจากชั้นใต้ดินของMerliam ก็ตัดสินใจที่จะให้เขากลับไปอยู่ข้างจรณ์
แต่พอเห็นสีหน้าของเขาที่เปลี่ยนไป เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “คุณคณินให้STNเป็นตัวเลือกในการร่วมงานเป็นอันอันดับแรก แต่มีข้อแม้ก็คือSTN ต้องทำตลาดหุ้นให้มั่นคงก่อน”