ดวงใจภวินท์ - บทที่705 ขอโทษลูกฉัน
บทที่705 ขอโทษลูกฉัน
พอพูดถึงแฟนคลับ ชาช่าก็เริ่มเปิดบทสนทนาขึ้นมาทันที คุยไปคุยมาก็พูดถึงนักแสดงหน้าไม่อายที่ตัวเองเจอระหว่างถ่ายทำกับผู้กำกับที่อยากจะทำนอกกฎครั้งแล้วครั้งแล้ว
ปกติแล้วเธอก็เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอยู่แล้ว พวกกับอารมณ์ที่ร้อนของเธอ เธอก็เลยจงใจทำให้คนที่ทำให้เธอไม่สบายใจต้องลำบาก
ความจริงแล้วคนพวกนี้ก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปอยู่แล้ว ได้แต่ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับเธอ เธอก็เลยต้องกลายมาเป็นชาช่าที่ปากร้ายและเล่นตัวในตอนนี้
“ในเมื่อทุกคนพูดถึงฉันแบบนั้นทั้งนั้น ฉันก็เลยต้องทำให้ข่าวลือพวกนั้นมันเป็นเรื่องจริงน่ะสิ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดว่าอยู่ดีๆ แล้วโดนพวกนั้นทำให้ชื่อเสียงแปดเปื้อนก็เสียเปรียบน่ะสิ”
พอชาช่าพูดจบ ในที่สุดพี่ยู่ยี่็พาสามีและลูกเดินมา และเธอก็ไม่ได้ขอโทษอะไรกกับพวกพนักงานด้วย แต่กลับหันหน้าเข้าหากล้องและอธิบายกับเพื่อนชาวเน็ตว่าทำไมเธอถึงมาสาย
“ทุกท่านคะ ขอโทษด้วยมากจริงๆ นะคะ เพราะว่าสินค้าล็อตนี้ขายดีมาก ฉันเลยมัวแต่จัดเลขออเดอร์เลยลืมดูเวลาไปเลยน่ะค่ะ”
ในช่องคอมเมนท์มีคนตอบโต้เธอแค่ไม่กี่คนเท่านั้น แถมยังมีคนด่าที่เธอไม่รักษาเวลาอีกด้วย พี่ยู่ยี่ก็เลยได้แต่ยิ้มขอโทษตรงหน้ากล้องเท่านั้น
แต่พอหันหลังให้กล้องแล้ว เธอก็เก็บรอยยิ้มทันทีแล้วก็เบะปากอย่างรำคาญ
ญาธิดาเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมชาช่าถึงไม่ชอบเธอ
เพราะว่าเธอมาสายมาก เวลาเก็บผักที่เหลือก็ค่อนข้างจะต้องกระชับ เจ้าหน้าที่เร่งจัดทุกคนเข้าสวนนิเวศน์ แล้วก็แจกตะกร้าเล็กๆ ให้ทุกคน เพื่อให้ทุกคนได้เลือกผักที่ตัวเองชอบ
พี่ยู่ยี่ขยับเข้าไปใกล้ภวินท์ แล้วก็ทำท่าทางโปรยเสน่ห์ในทุกอิริยาบถ “คุณภวินท์ สามีของฉันน่าจะมาสายหน่อย คุณพอจะช่วยฉัน……”
“ไม่ได้!”ภวินท์พูดจบแล้วก็รักษาระยะห่างกับเธอในทันที แล้วก็ไปเลือกเก็บสิ่งที่ญาธิดาชอบกิน
เธอบ่นว่าน่าเบื่อ แล้วก็ก้มหน้าก้มตาเดินออกไปด้วยความโกรธ
อีธานกับเอลล่ารู้สึกสงสัยในทุกสิ่งทุกอย่าง เอาแต่ถามญาธิดาไม่หยุดว่าของพวกนี้คืออะไร เธอถูกถามจนปวดหัวไปหมด ก็เลยต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากภวินท์
โชคดีที่ภวินท์เป็นพ่อที่เก่งกาจ เขาตอบคำถามที่ยุ่งยากของเด็กน้อยทีละคน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม แล้วก็กลายมาเป็นผู้ติดสอยห้อยตามของเขาในทันที
ชาช่าผลักแขนของเธอเบาๆ ส่งสัญญาณให้เธอหันไปมองพี่ยู่ยี่ แล้วทั้งสองคนก็มองไปยังที่ที่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่นัก ลูกชายของพี่ยู่ยี่กำลังดึงผักบนพื้นขึ้นมาแล้วก็โยนขึ้นไปบนฟ้า
ในตะกร้าของพี่ยู่ยี่ไม่ได้มีผักเยอะเท่าไหร่นัก แต่แปลงผักใต้เท้าของครอบครัวสามคนถูกถอนเกลี้ยงจนมองไม่เห็นสีเขียวเลย
ชาช่าพูดจาถากถางว่า “บรรยากาศครอบครัวที่กลมกลืนและมีความสุขเป็นของปลอมเท่านั้นแหละ รายการเรียลลิตี้ประเภทนี้เป็นเหมือนกระจกเงาแหละ พวกสัตว์ประหลาดก็จะพูดเปิดเผยผ่านทางเลนส์กล้อง”
ญาธิดาก็ส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา “เดาว่าถ้ารายการนี้จบลง หนทางการเป็นเน็ตไอดอลของครอบครัวนี้น่าจะสิ้นสุดลงแล้วล่ะ”
พี่ยู่ยี่ที่อยู่ด้านข้างโน้มตัวลงมา แล้วก็กระซิบอะไรบางอย่างกับลูกชายของตัวเอง แล้วก็หันมามองอีธานกับเอลล่า
ชาช่าเห็นเหตุการณ์นี้ ก็รีบดึงข้อมือของญาธิดาแล้วพาเดินไปหาเด็กน้อยทั้งสองคน “ผู้หญิงคนนั้นร้ายมากนะ สามารถทำอะไรก็ได้เพื่อความดัง คุณอย่าอยู่ห่างจากลูกมากเกินไป”
พอญาธิดาได้ยินดังนั้นก็หัวใจเต้นแรงทันที แต่ว่ายังไม่ทันจะได้เข้าไปใกล้อีธานกับเอลล่า เด็กผู้ชายคนนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กน้อยทั้งสองคนแล้ว
เขาคว้าทรายข้างแปลงผลัก แล้วก็โปรยไปที่อีธานกับเอลล่า พร้อมกับตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นว่า “นางฟ้าโปรยดอกไม้!”
อีธานตอบสนองในทันที เขาดึงเอลล่ามากอดไว้ในอ้อมแขนเพื่อกันทรายที่ลอยเข้ามา ใบหน้าที่หล่อเหลากลายเป็นสีเทาในทันที แม้แต่ตัวของภวินท์ก็มีฝุ่นเลอะเหมือนกัน
เอลล่ายังไม่ทันจะตั้งสติได้ว่านี่มันคือเรื่องอะไรกันแน่ แต่พอเห็นว่าพี่ชายที่สะอาดสะอ้านของเธอจู่ๆ ก็กลายเป็นสภาพนี้ เธอก็รู้สึกเจ็บใจและร้องไห้ออกมาทันที
“น้องปลื้ม!”พี่ยู่ยี่เหมือนกับว่าเตรียมตัวมาก่อนแล้ว เธอรีบพุ่งมาตรงหน้าของทั้งสามตน แล้วก็ยื่นมือไปหาภวินท์อย่างไม่เกรงใจ “ขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ ลูกของฉันยังเด็กก็เลยไม่รู้เรื่องรู้ราว เลยสร้างความเดือดร้อนให้พวกคุณเลย”
ใบหน้าของภวินท์เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย แล้วก็ยื่นมือไปผลักแขนของเธอที่ยื่นเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ พร้อมกับอุ้มเอลล่ามากอดไว้และปลอบใจ
พี่ยู่ยี่ทำได้แค่ดึงมือกลับมา แล้วก็ก้มตัวลงไปปลอบอีธาน แต่น่าเสียดายที่อีธานไม่เล่นด้วย เขาพุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของญาธิดาทันที ทำให้เธอต้องย่อตัวอยู่กับพื้นด้วยท่าทางที่น่าอายมาก
พอเห็นว่าญาธิดาอุ้มอีธานเดินเข้ามาใกล้ สายตาที่ไม่พอใจของเธอก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากแอบกลอกตาใส่ญาธิดาแล้ว ก็ดึงลูกชายของเธอเดินออกไปจากตรงนี้
“หยุดก่อน!”ชาช่ารีบเดินไปขวางทางเดินของทั้งสองคนเอาไว้ พร้อมกับถามด้วยเสียงที่เย็นชา “ออกไปแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง? สร้างปัญหาแล้วจะไม่แม้แต่ขอโทษเลยเหรอ? ”
“แล้วคุณจะเอายังไง?!”พี่ยู่ยี่ดึงลูกชายให้ไปยืนด้านข้าง แล้วก็ตะคอกออกมา “คุณจะมาคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กทำไม มันเป็นเรื่องปกติมากที่เด็กน้อยจะซุกซน อย่ามาทำตัวมีเหตุมีผลที่นี่หน่อยเลย”
ใบหน้าของชาช่ากลับดูถูกมากกว่าดิม เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เธอก็รู้นี่ว่าอะไรที่เรียกว่ามีเหตุผล? ในเมื่อเธอรู้แล้วว่าตัวเองไร้เหตุผล ก็รีบขอโทษมาสิ”
ใบหน้าของพี่ยู่ยี่ดูดุร้ายขึ้นมาทันที เอื้อมมือไปผลักชาช่าที่ท้องโตพร้อมกับพูดร้ายๆ ว่า “อย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่นตรงนี้ให้มากนักจะดีกว่า เด็กน้อยยังไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวเท่าไหร่ แต่ว่าคุณที่โตป่านนี้แล้วก็ยังไม่รู้เรื่องอีกเหรอ? ”
ชาช่าถูกเธอผลักจนเซไปด้านหลัง แล้วก็รู้สึกโมโหขึ้นทันที หลังจากนั้นก็ยื่นมือไปตบหน้าของเธอ “การที่เด็กไม่รู้เรื่องรู้ราวก็เป็นความผิดชอบของผู้ใหญ่ ฉันสั่งสอนเด็กน้อยไม่ได้ หรือว่าสอนแม่ที่ไม่รู้เรื่องของเขาไม่ได้กันแน่? ”
“แก……!”
พอเห็นว่าพี่ยู่ยี่กำลังจะลงมือ ญาธิดาที่อารมณ์ดีมาตลอดก็ก้าวเข้าไปสองก้าวแล้วก็ดึงชาช่ากับลูกมาไว้ด้านหลัง พร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า “รบกวนให้ลูกของคุณขอโทษลูกฉันด้วย”
พี่ยู่ยี่เหลือบมองเธอ ดวงตาของเธอแดงก่ำ แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสารว่า “พวกคุณรังแกคนธรรมดาอย่างฉันและลูกชายของฉันเพราะว่าตัวเองมีชื่อเสียงและมีอำนาจ”
“รังแกคุณแล้วมันยังไงกันล่ะ? ”ชาช่าเชิดคอและกลอกตาใส่เธอ
หลังจากภวินท์โอ๋เอลล่าเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปหาคนพวกนี้ ยังไม่ทันได้พูดอะไร ออร่าที่เยือกเย็นก็ปกคลุมคนอื่นๆ แล้ว
“จะขอโทษหรือว่าจะออกจากรายการนี้ไป คุณเลือดเอแล้วกัน”เขามองตรงไปที่พี่ยู่ยี่ เสียงของเขาไม่ได้ดังเท่าไหร่แต่กลับน่ากลัวมาก
พี่ยู่ยี่ไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะร้ายแรงขนาดนี้ เธอกำมือแน่นอย่างไม่พอใจ แล้วก็แอบมองเขา หลังจากนั้นก็ขอโทษญาธิดาแทนลูกชายของตัวเอง
“คุณผู้หญิงคะ นี่เป็นเรื่องระหว่างเด็กๆ พวกเราไม่มีสิทธิไปยุ่ง ดังนั้นรบกวนให้ลูกของคุณขอโทษลูกๆ ของฉันด้วยค่ะ”เสียงที่เข้มงวดของญาธิดาดังขึ้นอีกครั้ง
พี่ยู่ยี่ผลักลูกที่อยู่ด้านข้างของตัวเอง แล้วเด็กน้อยก็ถลึงตาใส่เธอกับชาช่าอย่างร้ายกาจ พร้อมกับพูดว่าขอโทษอย่างไม่พอใจ
ภวินท์ไม่สนใจสองแม่ลูกคู่นี้อีกต่อไป เขาดึงตะกร้าของเธอกับชาช่ามาถือไว้และพูดว่า “น่าจะพอกินแล้ว พวกเรากลับไปกันเถอะ”