ดวงใจภวินท์ - บทที่710 คำขอโทษจอมปลอม
บทที่710 คำขอโทษจอมปลอม
“จำเอาไว้แล้วกัน ตอนฉันท้องยังไม่เคยได้รับการดูแลดีขนาดนี้เลย”ญาธิดาอดไม่ได้ที่จะกลอกตา
พอคิดว่าตอนที่เธอท้องนั้นต้องยากลำบากแค่ไหน เธออดไม่ได้ที่จะแอบปาดน้ำตาอันขมขื่นของคนเป็นแม่ในใจ ถ้าเกิดว่ารายการนี้จบลงเมื่อไหร่ เธอต้องเอาคืนภวินท์ให้ได้!
พอคิดได้แบบนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปถลึงตาใส่ภวินท์
พอภวินท์ได้รับสายตาที่ไม่เป็นมิตร ขมับเขาก็ปูดขึ้นมา รู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก เขาพยายามคิดว่าช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่ยั่วยุญาธิดาเลยนี่
บรรยากาศภายในห้องก็เงียบสงบ
ตอนนี้ชาช่าขยับไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่ว่าเธอกับญาธิดาก็หิวมากแล้ว ทำได้แค่จัดการปัญหาเรื่องอาหารเย็นภายในห้องเท่านั้น อีธานกับเอลล่าต้องอยู่ที่นี่ เขานั่งลงอย่างเชื่อฟังและรื้อแบบจำลองทางดาราศาสตร์ที่นำมาด้วย
จู่ๆ ประตูก็ถูกผลักเปิดออกมาโดยไม่เคาะ คนที่อยู่ในห้องก็หยุดการกระทำ แฃ้งมองไปยังแม่และลูกชายที่ยืนอยู่ที่ประตูด้วยความประหลาดใจ
ใบหน้าขอพี่ยู่ยี่มีรอยยิ้มประจบสอพลอ อีกมือหนึ่งก็หิ้วขอเสื้อของปลื้มอยู่ ถืออุปกรณ์ถ่ายทอดสดแบบพกพาที่ทีมงานจัดรายการจัดเตรียมมาให้ แล้วก็เดินเข้าไปตรงหน้าของทุกคนโดยที่ไม่รอให้ใครได้พูดอะไร
“น้องชาช่า พี่พาปลื้มมาขอโทษคุณ สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะพี่ละเลยในระเบียบวินัยของลูก และหวังว่าผู้ใหญ่อย่างน้องจะไม่ถือสาเด็กนะคะ”
แม้ว่าอุปกรณ์ถ่ายทอดสดแบบพกพาจะยังคงสตรีมสดอยู่ แต่ชาช่าก็ไม่ได้มีสีหน้าที่ดีเท่าไหร่ แม้แต่หัวเราะเยาะออกมา “นำอุปกรณ์พกพามาที่นี่ ปลอมเกินไปแล้วมั้ง? คุณกำลังพยายามขอโทษหรือว่าแสดงอยู่กันแน่? ”
จุดประสงค์ของพี่ยู่ยี่ถูกเปิดเผยในทันที และเธอก็กัดฟันอย่างลับๆ อย่างอดไม่ได้ พยยามรักษารอยยิ้มที่ค้างแข็งบนใบหน้าของตัวเอง
หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ทุกความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ตกำลังด่าเธอและปลื้ม และแม้แต่คนจำนวนมากก็รายงานร้านค้าออนไลน์ของเธอ พ่อค้าที่มอบหมายให้เธอนำสินค้ามาก่อนได้ยกเลิกความร่วมมือและสินค้าที่เธอกักตุนเอาไว้ก็ขายไม่ได้เหมือนกัน
สิ่งสำคัญที่สุดคือบัญชีติ้กตอกของเธอสูญเสียผู้ติดตามไปหนึ่งในสามในเวลาเพียงสองชั่วโมง และเธอจะไม่มีโอกาสพลิกกลับหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป
เธอต้องหาทางล้างมลทิน แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขอโทษชาช่า และต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อให้ได้รับคอมเมนท์ที่ดี แต่เธอไม่คิดเลยว่าชาช่าจะไม่ไว้หน้ากันขนาดนี้
“น้องชาช่า เธออย่าลดตัวมาทะเลาะกับคนที่ต่ำต้อยอย่างพี่เลย เด็กน้อยมันก็ต้องซนเป็นธรรมดา แล้วฉันก็ด่าก็ตีเขาไปแล้ว ฉันรับประกันว่าต่อไปจะสั่งสอนลูกให้ดี ไม่ให้เกินเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”
ท่าทางของเธอดูจริงใจมาก แต่น่าเสียดายที่ชาช่าไม่เล่นด้วย “ด่าแล้วตีแล้วงั้นเหรอ? ต่อหน้ากล้องรึเปล่า? ”
“ชาช่า เธอ……”พี่ยู่ยี่ไม่สามารถควบคุมสีหน้าของตัวเองได้ หลังจากหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็สงบลง เหมือนกับว่าเธอคิดอะไรขึ้นได้ และสายตาก็เป็นประกายขึ้นในทันที
ตอนที่คนในห้องยังไม่ตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ เข่าของเธออ่อนลง เธอคุกเข่าลงข้างเตียงดัง “กึก” และร้องไห้ออกมาทั้งน้ำตา “คุณชาช่า ฉันขอให้น้องยกโทษให้ลูกทูนหัวของพี่เถอะ ถ้าคุณรู้สึกโกรธ ตีฉัน มากเท่าที่คุณต้องการ ตราบใดที่ลูกของฉันไม่ต้องลำบากก็พอแล้ว”
ชาช่าตอบโต้ไม่ทัน เมื่อเห็นฉากตรงหน้าเธอ เธอเพียงรู้สึกว่าหายใจไม่ออก และท้องส่วนล่างของเธอก็ปวดเล็กน้อยเนื่องจากความผันผวนที่รุนแรงของอารมณ์
ญาธิดารีบใช้สิ่งที่ตัวเองเรียนมาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของเธอ สีหน้าที่มืดมนของเธอมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ “รบกวนพาลูกคุณออกไปด้วยค่ะ อย่ารบกวนเวลาพักผ่อนของชาช่า”
ยู่ยี่มองเธอด้วยสายตาที่ร้ายกาจ แล้วก็ตอบอย่างไม่เกรงใจว่า “คุณญาธิดา คุณไม่คิดว่าการแสร้งทำเป็นคนดีโดยอาศัยความโปรดปรานของลูกเป็นการเสแสร้งเหรอ? ”
“ถ้าเทียบกับคุณแล้วยังด้อยกว่าหน่อยนะ”ญาธิดาหัวเราะอย่างเย็นชา “เด็กบางคนสามารถนำโชคมาสู่พ่อแม่ได้ และเด็กบางคนก็สามารถทำลายครอบครัวที่มีการวางแผนมาอย่างดีและสวยงามได้”
ใบหน้าของพี่ยู่ยี่ทั้งแดงทั้งซีด ตอนนี้เธอคุกเข่าอยู่กับพื้นกระเบื้องเย็นๆ และก็ถูกเปิดเผยเรื่องอื้อฉาวในที่สาธารณะอีก มันทำให้เธอยิ่งรู้สึกเกลียดญาธิดาขึ้นไปอีก
“คุณญาธิดา นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับชาช่า คุณช่วยกรุณาให้เราแก้ปัญหาลำพังได้ไหม? ”
พอพูดจบ เธอก็หันไปมองใบหน้าที่น่าสงสารของตัวเองผ่านทางเลนส์กล้อง และพูดอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า “ชาช่า วันนี้ฉันมาขอโทษคุณด้วยความจริงใจ ถ้าเกิดว่าคุณไม่ยอมให้อภัยฉัน ฉันก็จะยอมถอนตัวจากรายการ”
ชาช่าก็เป็นดาราดังเพราะถูกป้ายสี ผู้คนต่างก็คิดว่าเธอเป็นคนที่ที่เจ้าเล่ห์และร้ายกาจ ดังนั้นผู้คนก็เลยไม่ค่อยรู้สึกดีกับเธอมากเท่าไหร่ บวกกับท่าทางที่น่าสงสารในตอนนี้ของยู่ยี่ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ยอมแพ้เลย
คอมเมนท์ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วบนIPAD คนที่มาคอมเมนท์ส่วนใหญ่เป็นแฟนตัวยงของพี่ยู่ยี่ พวกเขาโจมตีและด่าทอชาช่า แล้วก็ลากญาธิดาที่ไม่ยิ้มแย้มแจ่มใสมาโดนด้วย
“กำลังท้องอยู่ก็มาทำตัวมีเหตุมีผล ใครไม่เคยมีลูกบ้างล่ะ ทำไมเธอถึงได้บอบบางขนาดนั้น”
“พี่ยู่ยี่ก็ยอมคุกเข่าขออภัยแล้ว ชาช่ายังจะเอายังไงอีก ต้องบีบให้เธอออกจากรายการให้ได้เลยงั้นเหรอ? ไม่น่าล่ะคนถึงได้ด่าเธอเยอะแยะขนาดนั้น ก็ไม่ใช่คนดีอะไรจริงๆ ด้วย”
“ญาธิดานั่นก็ไม่ใช่คนีอะไรเหมือนกันแหละ ก็แค่เห็นว่าชาช่าเป็นดารา ก็เลยตั้งใจไปประจบประแจง คิดว่าน่าจะดูถูกคนธรรมดาอย่างพี่ยู่ยี่น่ะสิ”
“ทำไมอีธานกับเอลล่าถึงได้มีแม่ที่เห็นแก่ตัวขนาดนี้ น่ารังเกียจจริงๆ ฉันเลิกเป็นแฟนคลับเด็กสองคนนี้แล้ว!”
ตอนนี้ในคอมเมนท์มีคนที่พูดแทนญาธิดากับชาช่ามากมาย แต่ว่าในสายตาของญาธิดามีเพียงแค่คอมเมนท์ที่ไร้สาระเท่านั้น
ใบหน้าของเธอดูมืดมนอย่ามาก และเธอก็แอบบ่นในใจว่าคนแบบไหนก็มีแฟนคลับแบบนั้นแหละ
พี่ยู่ยี่พอใจกับผลลัพธ์ในปัจจุบันมาก และมุมปากของเธอยกขึ้นอย่างเงียบๆ อย่างพึงพอใจ
ต่อมา แค่ปลื้มขอโทษที่หน้ากล้อง แล้วแก้ไขวิดีโอในชั่วข้ามคืนและอัปโหลดไปยังอินเทอร์เน็ตเธอสามารถรักษาแฟนๆ ที่มีอยู่ได้สำเร็จ แล้วหลังจากประชาชนลืมเรื่องนี้ไป เธอก็ยังคงเป็นภรรยาและแม่ที่ดีในกล้องได้
“ปลื้ม รีบมาขอโทษป้าชาช่าเร็ว” เธอพูดแล้วก็หันกล้องไปทางปลื้ม กำลังถ่ายทำฉากที่กลมกลืนกันของเด็กสามคนที่เล่นด้วยกัน
ใบหน้าของปลื้มยังคงมีรอยยิ้มที่ไม่เป็นมิตร ถือแบบจำลองทางดาราศาสตร์ไว้ในมือ แล้วถามด้วยความสงสัย “นี่คืออะไร ขอยืมเล่นได้ไหม? ”
“ได้”หลังจากเอลล่าตอบกลับอย่างเป็นมิตรแล้ว ก็พยายามยื่นมือออกไปเพื่อเอาแบบจำลองกลับคืนมา แต่ปลื้มก็ไม่ได้มีท่าทีจะให้เธอ แต่กลับจงใจหักบางส่วนออก
สีหน้าของเอลล่าร้อนรนขึ้นมาทันที เธอพูดว่า “พี่ปลื้ม มันไม่ได้เล่นแบบนี้นะ……”
“ฉันจะเล่นยังไงก็แบบนั้นแหละ!”ปลื้มพูดพร้อมกับชูมือขึ้นแล้วกระแทกแบบจำลองนั้นลงบนโต๊ะ
อีธานยื่นมือออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาไม่สมใจ แล้วก็จับข้อมือของปลื้มเอาไว้ “รบกวนเอาแบบจำลองคืนให้น้องสาวฉันด้วย ขอบคุณ”
สีหน้าที่น่าเกรงขามของเขาเหมือนกับภวินท์มาก ปลื้มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกตื่นเต้นมันพลุ่งพล่านขึ้นมา เขาชูแบบจำลองนั้นขึ้นแล้วฟาดลงไปบนใบหน้าที่อ่อนโยนของอีธาน