ดวงใจภวินท์ - บทที่808 สตรีผู้ไม่ยอมเป็นรองบุรุษ
“วิน!” หลุยส์มองเขาอย่างเหลือเชื่อ
เสียงของภวินท์สูงขึ้นตาม “ปล่อยพวกเธอไป!!!”
ความกังวลในใจของญาธิดาหายไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็หันไปมองสมาชิกในทีมและพูดอย่างหนักแน่นว่า “ไปเถอะ บอกพวกมันไปว่าพวกคุณจะส่งตัวประกันไป”
สมาชิกในทีมที่เห็นว่าภวินท์และหลุยส์ไม่ห้าม กัดฟันแน่น แล้วนำทางญาธิดาและอลิสาออกจากเต็นท์ด้วยขอบตาที่แดงก่ำ
ร่างเพรียวทั้งสองค่อยๆ ลับตาไป หลุยส์ไม่สามารถระงับความโกรธในใจของตัวเองได้อีกต่อไป
เขากวาดอุปกรณ์ทุกอย่างที่อยู่ด้านข้างลงพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว จ้องไปที่ภวินท์แล้วตะคอกด้วยเสียงเย็นชาว่า “ภวินท์ แกคิดอะไรอยู่?! แกปล่อยผู้หญิงสองคนออกไปได้ยังไง!”
“ธิดาพูดถูก……” น้ำเสียงของภวินท์แฝงไปด้วยความอ้างว้าง
หลุยส์ชะงัก
“เวลาแบบนี้แกไม่ควรสนใจเรื่องความรักมากเกินไป” ราวกับว่าเขากำลังตอบหลุยส์ พูดจบสีหน้าของเขาก็น่าเกรงขามมากกว่าเดิม “เริ่มวางแผนใหม่”
หลุยส์มองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา ราวกับว่าเขาคิดอะไรบางอย่างออก แล้วรีบวิ่งพุ่งตัวออกจากเต็นท์ไปตามทางที่อลิสาจากไป
พอได้ยินเสียงฝีเท้า พวกเขาทั้งหมดก็หันกลับมาพร้อมกัน พอเห็นว่าเป็นหลุยส์ ญาธิดาก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะมองคู่หูด้านข้างแล้วพูดว่า “พวกเราไปรอกันด้านหน้าเถอะ”
อลิสาถูก “ทิ้ง” ไว้กับที่อย่างไม่มีสาเหตุ เมื่อมองไปที่หลุยส์ก็รู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น “เวลานี้แบบนี้คุณทำไมไม่อยู่ด้านใน จะวิ่งออกมาทำไมเนี่ย!”
“ผม……”
เสียงของหลุยส์หยุดลง จ้องมองเข้าไปในตาของเธอ ราวกับว่ามีเรื่องที่อยากจะบอกเธอ จนกระทั่งใบหน้าของเขาแดงก่ำ ถึงจะพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก “ต้องรอจนกว่าผมจะไปช่วยคุณนะ คุณต้องกลับมาอย่างปลอดภัย”
อลิสารู้สึกอบอุ่นใจ แก้มของเธอก็ค่อยๆ แดงขึ้นหลังจากที่เขาพูดจบเช่นกัน เธอพยักหน้าอย่างแรง สายตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่ “ฉันเชื่อในตัวคุณ”
“อลิสา ผม……” หลุยส์มองเธอเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
“ฉันไม่ใช่ฮีโร่ที่ไปกอบกู้โลกสักหน่อย ทำไมคุณต้องเหมือนสั่งเสียลาตายด้วย” อลิสาตบไหล่ของเขาอย่างกล้าหาญ แล้วพูดติดตลกว่า “ตอนนี้ชีวิตของฉันอยู่ในกำมือของคุณแล้ว”
ระหว่างที่พูดสายตาของเธอสั่นเครือเล็กน้อย เธอค่อยๆ เขย่งปลายเท้าเข้าใกล้หลุยส์ ระยะห่างระหว่างทั้งสองค่อยๆ สั้นลง ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของอลิสาประกบลงบนริมฝีปากของเขา โดยที่เขาไม่ได้ตั้งตัว
ลูกกระเดือกของหลุยส์ขยับเล็กน้อย มือหนาของเขาจับท้ายทอยของเธอเอาไว้ ช่องลมระหว่างปากค่อยๆ แคบลงตามจังหวะที่เขาทำใจผละออกไม่ได้
จนกระทั่งลมหายใจของทั้งสองค่อยๆ สั้นลง หลุยส์ถึงผละออกจากเธออย่างทำใจไม่ได้
แก้มที่แดงของอลิสาค่อยๆ จางลง เอนตัวแนบหูเขาแล้วพูดเบาๆ ว่า “อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะ”
หลุยส์มองแผ่นหลังของเธอที่จากไป และพูดช้าๆ ว่า “อลิสา ผมชอบคุณ……”
เสียงของเขาไม่ได้ดังมาก ดังขึ้นในหูของอลิสาไปตามสายลม เธอมองไปยังถนนตรงหน้าที่อาจนำไปสู่ความตาย ความขมขื่นก่อตัวขึ้นอีกครั้งในหัวใจ
ขอบตาเริ่มแดงก่ำ เธอสูดจมูก พยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมาให้กลับเข้าไป โบกมือให้เขาโดยที่ไม่ได้หันกลับไป น้ำเสียงของเธอแอบสะอื้นเล็กน้อยอย่างได้ยินไม่ชัด ก่อนจะตอบกลับอย่างเสียงดังว่า “ฉันก็ชอบคุณ!”
ญาธิดามองท่าทางของเธอ แล้วพูดปลอบเสียงเบา “ไม่ต้องทำซึ้งขนาดนั้นก็ได้ ใช่ว่าจะไม่เจอกันแล้วสักหน่อย”
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันนั้นก็เดินมาถึงหน้าประตูozone ozoneที่เคยสว่างไสวตอนนี้กลับปกคลุมไปด้วยควันและฝุ่น เต็มไปด้วยความเสียหายจนรู้สึกหดหู่
ญาธิดาทำสีหน้าหนักใจ แล้วมองไปยังเพื่อนร่วมทีมของตัวเองก่อนจะเตือนว่า “พวกคุณไปซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง เตรียมรอรับเด็กพวกนั้นก็ได้แล้ว ถ้าเด็กออกมาแล้วก็รีบกลับไปได้เลย หากการส่งมอบในครั้งนี้เกิดอะไรขึ้นให้รีบกลับไปรายงานสถานการณ์”
“พี่ธิดาครับ นี่ไม่ใช่……”
น้ำเสียงของเธอเยือกเย็นขึ้น แล้วดุเขาอย่างเย็นชา “อย่าเสียสละโดยไร้ความหมาย ที่ใดมีชีวิต ที่นั่นย่อมมีความหวัง”
เสียงฝีเท้าขอคนกลุ่มหนึ่งดังมาจากที่ไม่ไกลมาก เธอรีบออกคำสั่งในทันที “ยังไม่ทำตามที่ฉันสั่งอีก!”
เพื่อนร่วมทีมตรงหน้าสบตากันและกัน พอเห็นว่าไม่สามารถที่จะต่อรองกับเธอได้ จึงทำได้เพียงฝืนซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง
ก่อนที่เธอจะได้หายใจอย่างโล่งอก ประตูใหญ่ของozoneถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ชายสวมหน้ากากหลายคนผลักกลุ่มเด็กอายุสิบกว่าปีไปตรงหน้าพวกเธอ
“องค์กรพวกหล่อนส่งผู้หญิงมาแค่สองคนเหรอ?” คนที่เป็นผู้นำรู้สึกอึ้งที่เห็นญาธิดาและอลิสาอย่างเห็นได้ชัด ตามด้วยเสียงหัวเราะเยาะเย้ย “นี่คือมาส่งตัวประกันมาให้พวกเราหรือไง?”
ญาธิดามองชายตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา สีหน้าของเธอหมองลงเล็กน้อย “ในเมื่อฉันกล้ามา ก็ไม่กลัวพวกแกไม่ปล่อยพวกเขาไป อย่าลืมสิที่นี่คือozone พวกแกกำลังอยู่ในอาณาเขตของคนอื่น”
สายตาของชายคนนั้นกำลังพิจารณาอย่างละเอียด ราวกับว่ากำลังสงสัยในคำพูดของเธอ
ญาธิดาเห็นเช่นนั้น ก็แสร้งถอนหายใจออกมา แล้วถามกลับว่า “ทำไม? ไม่เชื่อที่ฉันพูดเหรอ? พวกแกคิดว่าเด็กที่ถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินจะสร้างคุณค่าอะไรให้พวกแกได้งั้นเหรอ? การค้าขายในครั้งนี้ไม่คุ้มจริงเหรอ?”
“พวกฉันไม่ปล่อยตัวแล้วจะทำอะไรได้ แกคิดว่าผู้หญิงอ่อนแอไม่แรงสองคนจะวิ่งหนีได้งั้นเหรอ?” ชายคนนั้นถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
ญาธิดาและอลิสาได้ยินเช่นนั้น รีบเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้เมื่อใดก็ได้
ยังไงแล้วที่นี่ก็อยู่นอกozone คนของพวกเธอก็ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลมาก แล้วยังมีอาวุธป้องกันตัว หากมีการสู้กันจริงๆ พวกเธอยังพอมีโอกาสที่จะชนะ และสามารถรับประกันได้ว่าจะรอดกลับไปโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
และในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามเตรียมจะลงมือนั้น อุปกรณ์สื่อสารของชายคนนั้นก็ดังขึ้น ส่งเสียภาษาจีนที่ไม่ชัดออกมา “แลกตัวประกันตามที่ตกลงไว้”
ชายคนนั้นชักสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ผลักเด็กๆ ไปด้านข้าง จากนั้นจึงใส่กุญแจมือหญิงสาวทั้งสองในทันที ก่อนจะพาเข้าไปในozone
สวนดอกไม้ที่เคยมีสีสันและมีกลิ่นหอมนั้นตอนนี้กลับเสียหายจนไม่เหลือซาก ทุกๆ ที่ให้ความรู้สึกที่น่าหดหู่ โต๊ะน้ำชาที่จรณ์ชอบมากที่สุดมีชายผมบลอนด์นั่งอยู่ เขาทำท่าจิบชาหอมในมืออย่างพิถีพิถัน
พอเห็นญาธิดาและอลิสา สายตาเขาสื่อว่าชื่นชมพวกเธอ “ประเทศคุณมีคำโบราณคำหนึ่งที่บอกว่าสตรีผู้ไม่ยอมเป็นรองบุรุษ วันนี้ผมได้เห็นกับตาสักที”
ญาธิดาเลิกคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร “ประเทศฉันยังมีสำนวนหนึ่งที่เรียกว่าเห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง”
ชายคนนั้นขมวดคิ้ว สายตาของเขาสงสัยเล็กน้อย จากนั้นก็กดคอมพิวเตอร์ด้านข้างเพื่อค้นข้อมูล จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เจตนาที่ต้องการฆ่าปรากฏขึ้นในตาของเขา
“ผู้หญิงปากมาก ช่างกล้าอย่างแก ตายไปก็ไม่สามารถชดใช้ความผิดได้ อยู่ไปก็เป็นกาลกิณีเสียเปล่า!”
เมื่อเขาพูดจบ ญาธิดาก็รู้สึกเจ็บแสบบริเวณคอในทันที ของเหลวเย็นๆ กำลังไหลไปตามเลือดของเธอช้าๆ
อลิสาที่อยู่ด้านข้างล้มลงบนพื้น ภาพตรงหน้าของญาธิดาเบลอมากขึ้นเรื่อยๆ เธอกัดริมฝีปากเอาไว้ เพื่อให้ตัวเองตั้งสติ
ชายคนนั้นเดินไปทางเธออย่างช้าๆ นิ้วเย็นๆ ถูอยู่บนรูเข็มตรงคอของเธอ “ฉันแปลกใจมาก ที่คนอย่างozoneสอนผู้หญิงอย่างเธอออกมา บางทีการไว้ชีวิตเธออาจจะทำให้ฉันได้ปลาที่ตัวใหญ่กว่านี้……”
ญาธิดาพยายามเบิกตากว้าง อยากจะมองหน้าผู้ชายตรงหน้าให้ชัด ตรงสุดท้ายภาพตรงหน้าก็กลายเป็นสีขาวโพลน