ดวงใจภวินท์ - บทที่844 เธอคือศัตรู
บทที่844 เธอคือศัตรู
พอเห็นเธอปรากฏตัวขึ้นที่ประตู สายตาของความเกลียดชังก็แทบจะลุกเป็นไฟในดวงตาของนพเก้า และดวงตาก็จับจ้องมาที่เธอ
เธอจ้องนพเก้ากลับด้วยสายตาที่แจ่มใส่ แล้วก็เดินเข้าไปนั่งลงบนอีกฝั่งของโซฟาด้วยท่าทีที่สง่างาม หลังจากนั้นก็ยิ้มและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “บังเอิญจังเลยนะคะ คุณนพเก้าก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ? ”
พอได้ยินแบบนี้ ใบหน้าที่กระตือรือร้นของอาริโอก็แข็งทื่อไปในทันที พร้อมกับมองมาที่ผู้หญิงทั้งสองคนด้วยความสงสัย และถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก “พวกคุณทั้งสองคนรู้จักกันเหรอ? ”
“แน่นอนค่ะ เป็นเพื่อนเก่ากัน” เธอเลิกคิ้วและอธิบายต่อว่า “คุณนพเก้าเคยทำงานอยู่ที่บริษัทเทคโนโลยีคลาวด์ ก็เลยจะชอบประมูลอุตสาหกรรมเดียวกับSTN Group เหมือนกับว่าไม่ทะเลาะกันก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันหรอกค่ะ”
พออาริโอได้ยินดังนั้นสีหน้าก็อ่อนโยนลงเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มอย่างสง่างามอีกครั้ง พร้อมกับแนะนำอีกฝ่ายให้รู้จักกัน
ตั้งแต่ต้นจนจบนั้น ญาธิดาก็จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอไม่สนใจในสิ่งที่เขาพูดเลยด้วยซ้ำ
จนพอเขาพูดจบ เธอก็เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฉันไม่ใส่ใจหรอกนะคะว่าคุณสมิธกับคุณนพเก้าจะกำลังหารือกันเรื่องอะไรอยู่ ฉันรู้แค่ว่าตอนที่ฉันมาที่นี่ฉันไม่ได้รับความเคารพเลย ก็เลยตัดสินใจจะยกเลิกการร่วมงานกัน แต่พอแบบนั้นคุณก็เชิญฉันมาที่นี่ ไม่ทราบว่าต้องการอะไรกันแน่คะ? ”
“คุณญาธิดา วันนี้ผมมีเรื่องที่สำคัญมากจริงๆ ได้โปรดอภัยที่ผมต้อนรับได้ไม่ดีด้วยนะครับ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องการร่วมงานกันก็ได้ ดูจากความสัมพันธ์ของพวกเราแล้วเนี่ย คุณสามารถเข้าออกห้องทำงานผมได้ตามใจชอบเลยนะครับ”
พอเขาพูดจบ สีหน้าของนพเก้ากับภวินท์ก็แข็งทื่อไปในทันที แล้วทั้งสองคนก็มองเธอด้วยสีหน้าที่แตกต่างกัน
มีเพียงแค่ญาธิดาเท่านั้นที่ทำเสียงฮึดฮัดใส่เขา แล้วก็เยาะเย้ยอย่างไม่เกรงใจว่า “คุณน่าจะลืมไปแล้วใช่ไหมคะ ว่าตั้งแต่คืนที่เราได้พบกันที่Amaya Hotel พวกเราก็ไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไปแล้ว”
“คุณ……”สีหน้าของเขาตึงเครียดและก็รีบอธิบายออกมาทันที “คืนวันนั้นมันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน ถ้าเกิดว่าคุณถือสาล่ะก็ ผมจะขอโทษคุณอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะครับ”
“ฉันไม่ได้ต้องการ ฉันมาเพราะว่าอยากมาคุยเรื่องการร่วมงานกัน ไม่ได้อยากมาฟังคำขอโทษของคุณ” เธอพูดด้วยเสียงที่เยือกเย็น
อาริโอถอนหายใจออกมาอย่างไม่มีทางเลือก แล้วก็กางมือออกมาพร้อมกับพ่นภาษาต่างประเทศออกมา “ทุกคนก็รู้ว่าผมตามจีบคุณอยู่ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้คุณได้กลายมาเป็นคุณนายของตระกูลสมิธ”
ทันใดนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะจากลำคอดังขึ้นมาท่ามกลางคนพวกนั้น และภวินท์ที่เงียบมาโดยตลอดจู่ๆ ก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในทันที
“คุณภวินท์หมายความว่ายังไงเหรอครับ? ” สมิธรู้สึกงงเล็กน้อย เพราะผู้ชายที่ดูเย็นชาที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นเลย
ขาที่เรียวยาวของเขานั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม สายตาที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มของเขาดูยั่วเย้าเล็กน้อย แล้วก็เหลือบมองไปที่ญาธิดา
“ผมแค่นึกไม่ถึงน่ะครับ ว่าที่แท้ผู้หญิงที่แต่งงานครั้งที่สองแล้วจะเป็นที่นิยมขนาดนี้ และสามารถถึงดูดความสนใจของคุณสมิธได้ถึงขนาดนี้เลย”เสียงที่เยาะเย้ยของเขาดังขึ้น
ปลายนิ้วมือของญาธิดาบีบกระเป๋าของเธอแน่นโดยไม่รู้ตัว และหัวใจก็อึดอัดอย่างช่วยไม่ได้ ทุกวันนี้ทุกประโยคที่ออกมาจากปากของภวินท์นั้นมันเหมือนกับเข็ม ที่ทิ่มแทงเข้ามาที่หัวใจของเธอ
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามทำให้ตัวเองใจเย็นที่สุด มองดูภวินท์กับนพเก้าจับมือกัน น้ำเสียงของเธอก็ห่างเหินขึ้นเล็กน้อย
“คุณต้องระวังคำพูดหน่อยนะคะ ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะมีสิทธิฟ้องคุณก็ได้นะ สามีของฉันยังไม่ตาย และก็ไม่ได้จัดการเรื่องการหย่ากับฉันด้วย ถ้าพูดตามหลักกฎหมายแล้ว ฉันยังไม่ได้แต่งงานครั้งที่สองเลย”
สายตาที่มืดมนของภวินท์มองมาที่เธอ แล้วก็ตอบเธอทีละคำ “ในเมื่อสถานะของคุณคือแต่งงานแล้ว ก็ควรจะปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบของคนเป็นภรรยาสิครับ”
สายตาของทั้งสองคนประสานเข้าหากัน ราวกับว่ามีมีดสองเล่มที่มองไม่เห็นกำลังฟาดฟันกันอยู่เงียบๆ
เธออยากจะถามกลับไปมากจริงๆ ว่าภวินท์ใช้สิทธิในสถานะอะไรมานั่งเตือนเธออยู่แบบนี้ มีสิทธิอะไรที่ทำเป็นเหมือนไม่รู้อะไรเลยแล้วอยู่ข้างกายนพเก้าแบบนั้น แล้วก็ทำมาเป็นยุ่งเรื่องของเธอ
หรือว่า……
หรือว่าเขาจำอะไรบางอย่างได้บ้างแล้ว……
อาริโอรีบก้าวขึ้นมาทันทีและอธิบายว่า “ผมไม่สนใจหรอกครับ ขอแค่คุณยินยอมคบกับผม ผมจะหาวิธีหย่าได้เองแหละ”
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ” แล้วเธอก็มองไปที่นพเก้าด้วยสายตาที่ยั่วยุ แล้วก็หัวเราะเยาะพร้อมกับพูดว่า “เพราะถึงยังไงแฟนของคุณนพเก้าก็ชื่อเดียวกับสามีฉัน แถมหน้าตายังเหมือนกันเป๊ะอีกต่างหาก สู้ให้แฟนของเธอไปเป็นเพื่อนฉันก็ได้ค่ะ”
พอนพเก้าสบตากับเธอขนก็ลุกทันที และแววตาของเธอก็สั่นไหวอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นเธอก็จับจ้องไปที่ญาธิดาด้วยความโกรธ ราวกับว่าจะแทงเธอยังไงยังงั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ทำให้เธอรู้สึกว้าวุ่นมาก ไม่ง่ายเลยกว่าที่เธอจะได้วินมา แต่ว่ายัยผู้หญิงชั้นต่ำอย่างญาธิดากลับดึงดูดความสนใจของวินได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำเท่านั้น ปฏิกิริยาของวินเมื่อกี้นี้ ไม่ว่าจะมองยังไงก็เหมือนกับว่าเขากำลังหึงอยู่!
และสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ถ้าเกิดว่ายัยผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้อ่อยอาริโอสำเร็จเมื่อไหร่ เธอก็จะกลายเป็นเนื้อปลาบนเขียงของญาธิดาไปในทันที พอถึงเวลานั้นทุกอย่างที่เธอทำไปก็จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะได้ทุกอย่างมาก เธอจะให้ยัยผู้หญิงชั้นต่ำอย่างญาธิดามาทำลายไม่ได้เด็ดขาด!
นพเก้าหรี่ตาลงช้าๆ ความเกลียดชังในดวงตาของเธอนั้นเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
“คุณญาธิดาติดตลกจังเลยนะคะ เรื่องนี้พวกเราไม่สามารถช่วยคุณได้หรอกค่ะ เพราะว่าจุดยืนของเราแตกต่างกัน เราเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอกค่ะ เป็นได้แค่ศัตรูกันเท่านั้นแหละ”
“ในโลกธุรกิจเป็นศัตรูกัน ไม่ได้หมายความว่าส่วนตัวเราจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้สักหน่อย”
ญาธิดาเอามือปิดปากและหัวเราะออกมา พร้อมกับหันไปมองอาริโอด้วยสายตาที่มีเสน่ห์และพูดด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อนว่า “คุณดูสิคะว่าคุณนพเก้าเป็นคนพยาบาทขนาดไหน ยังคงตำหนิเกี่ยวกับเรื่องที่ประมูลแข่งกับฉันเมื่อตอนปีนั้นอยู่เลย”
นี่เป็นครั้งแรกที่อาริโอได้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนและใจกว้างของสาวชาวตะวันออก ไม่เหมือนกับผู้หญิงที่มีเสน่ห์และเซ็กซี่เหมือนนพเก้า รอยยิ้มของญาธิดาเหมือนกับดอกกล้วยไม้ที่สง่างามไร้สิ่งปนเปื้อน
เขาจ้องมองไปที่รอยยิ้มที่เบิกบานดั่งดอกไม้ของเธออย่างใจลอย เขารู้สึกเหม่อลอยเล็กน้อยและรีบตอบว่า “ถ้าเกิดว่าไม่ยอมเป็นเพื่อนของคุณ งั้นต่อไปคุณก็แค่ทำกับเธอเหมือนเป็นลูกน้องก็พอ”
“ไม่ได้นะ!”
นพเก้าได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นยืนทันที เสียงของเธอทั้งแหลมและดัง แต่ว่าเธอไม่สนใจอะไรพวกนี้หรอก เธอมองไปที่อาริโอด้วยความโกรธ “เธอเป็นคนของประเทศนี้ คุณจะเก็บระเบิดไว้ข้างตัวไม่ได้นะ!”
เกร๊ง——
ทันใดนั้นภวินท์ก็วางแก้วน้ำชาในมือลง และเสียงกระทบที่รุนแรงทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
นพเก้าหันไปมองเขา แล้วก็ได้สบตากับดวงตาที่แดงก่ำของเขา ก็ตระหนักได้ทันทีว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกชาไปในทันที แล้วก็หันไปมองอาริโออย่างอึดอัด
ตอนนี้มองไม่เห็นความลุ่มหลงบนใบหน้าของอาริโออีกต่อไป สายตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือด เขาแทบอดไม่ไหวที่จะปิดปากผู้หญิงทั้งสองคนตรงหน้านี้ไปพร้อมกัน
ความเย็นชาในดวงตาของญาธิดานั้นหายไป ในใจเอาแต่คิดว่าไอคิวของนพเก้านั้นลดหายไปเรื่อยๆ ทุกปี
การแลกเปลี่ยนระหว่างในและต่างประเทศนั้นเป็นความลับขนาดไหน แต่ว่านพเก้ากลับเผยตัวตนนี้ออกมาในตอนนี้ที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนของอีกฝ่ายชัดเจนนัก ปากรั่วๆ แบบนี้ อาริโอคงจะไม่สามารถเชื่อใจเธอได้อย่างสนิทใจอีกต่อไปแล้ว
เธอพยายามระงับความอยากหัวเราะเยาะของตัวเอง แล้วก็หันไปมองสายตาที่กระหายเลือดของเขาอย่างงุนงง และตอบอย่างไม่เข้าใจว่า “ฉันไม่ได้มีแผนที่จะออกนอกประเทศอยู่แล้วนะ เพราะว่าธุรกิจของฉันอยู่ที่นี่ เป็นไปไม่ได้ที่จะละทิ้งทรัพย์สินจำนวนมากและอพยพตามใจชอบได้หรอก แต่ว่า
เธอยิ้มหวานและพูดด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง “ถ้าเกิดว่าธุรกิจของฉันสามารถขยายไปต่างประเทศได้จริงๆ ฉันก็จะพิจารณาตามความเหมาะสมนะ”