ดวงใจภวินท์ - บทที่977 ฉันรับคำขอโทษของคุณ
ดวงใจภวินท์ บทที่977 ฉันรับคำขอโทษของคุณ
คนรับแขกก้มหน้าลงอย่างสั่นเทา ญาธิดามองเห็นเหงื่อที่ซึมออกมาจากหน้าผากของเขา
อีกฝ่ายไม่กล้ามองเธอเลย ได้แต่รอการตัดสินโทษของตัวเอง
“ฉันรับคำขอโทษของคุณ”ญาธิดาตอบนิ่งๆ
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกโกรธเล็กน้อยต่อการกระทำที่ไร้มารยาทแบบนี้ แต่มันก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะเก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ
คนรับแขกตะลึงไปเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับการให้อภัย
ถ้าเกิดว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับคนอื่น ไม่ใช่แค่จะเสียหน้าที่การงานไป แต่เขาอาจยังต้องรับผิดชอบอีก
“พวกเราเข้าไปได้หรือยังคะ ?”ญาธิดาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“แน่นอนครับคุณผู้หญิง ผมขออภัยอีกครั้งกับการกระทำที่หยาบคายของตัวเองด้วย!”
ญาธิดาพยักหน้าแล้วก็จูงมือภวินท์เดินเข้าไปข้างใน
เพราะว่าการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของเอลี ทำให้ทุกอย่างสงบลง และสายตาของทุกคนก็มองมาที่ญาธิดากับภวินท์
ฟังสองคนเคยชินกับสายตาที่มองมาแบบนี้นานแล้ว พอเข้าไปในงานนิทรรศการ ญาธิดาก็หยุดเดินและหันไปมองเอลีที่เดินเข้ามาพร้อมกัน
“คุณเอลี ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย”
เอลีอยากจะดึงมือของญาธิดามาแล้วจูบที่หลังมือของเธอ แต่พอเห็นสายตาที่ดูไม่เป็นมิตรของชายผิวขาวด้านข้างของเธอแล้ว ก็รีบควบคุมการกระทำของตัวเองเอาไว้ แล้วก็ยิ้มอย่างสุภาพบุรุษและพูดว่า “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับคุณผู้หญิง นี่มันเป็นสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรเหรอครับ?”
“ญาธิดา ส่วนท่านนี้คือสามีของฉันเอง”ญาธิดากุมมือภวินท์ และแนะนำแบบเรียบง่าย
ภวินท์เอามือไปคล้องเอวของญาธิดาอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนเป็นการประกาศสิทธิของตัวเอง
เอลีจะไม่เข้าใจความหมายของภวินท์ได้ยังไงกันล่ะ เขายิ้มและพูดว่า “ดีใจมากเลยนะครับที่ได้รู้จักพวกคุณทั้งสองคน พวกคุณดูความสัมพันธ์ดีมากเลยนะครับ ต่อไปถ้าเกิดว่าผมไปเมือง J หวังว่าจะมีโอกาสได้ทานข้าวกับพวกคุณนะครับ”
“เดี๋ยวคุณเอลีจะไปเมือง Jเหรอคะ?”ญาธิดาตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เธอรู้สึกว่ามีความประทับใจที่ดีต่อเอลี แล้วมันก็ดีที่ได้มีเพื่อนแบบนี้
แต่หลังจากสิ้นสุดคำพูดของเธอ สายตาของภวินท์ก็มืดมนลงทันที แล้วก็แอบกระชับมือที่โอบเอวของเธอเอาไว้
สัมผัสได้ถึงแรงโอบที่เอวของตัวเอง ญาธิดาก็แอบหัวเราะในใจ แล้วก็หันไปมองภวินท์
ผู้ชายคนนี้ หึงอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ?
เอลีพยักหน้าให้กับคำถามของญาธิดา “ใช่ครับ เดี๋ยวถ้าผมจัดการเรื่องในมือเสร็จหมดเมื่อไหร่ ผมจะไปที่เมือง J”
ไม่รู้เหมือนกันว่านึกอะไรขึ้นมาได้ แต่สายตาของสุภาพบุรุษท่านนี้ก็ปรากฏให้เห็นถึงความอ่อนโยน
ญาธิดานึกย้อนไปถึงตอนที่เจอกันครั้งแรกเอลีพูดว่าคนที่ตัวเองชอบคือคนของเมือง J ก็เลยเข้าใจในทันที
เป้าหมายที่ไปเมือง J น่าจะเป็นเพราะว่าไปหาคนที่ตัวเองชอบแน่นอน
เธอหยิบปากกาและกระดาษออกมาจากกระเป๋า แล้วก็เขียนที่อยู่ของSTN Groupลงไป พร้อมกับยื่นกระดาษให้เอลี “คุณเอลี ถ้าเกิดว่าไปเมือง Jเมื่อไหร่ มาหาฉันที่นี่ได้นะคะ”
เอลีรับที่อยู่ไป แล้วก็พยักหน้าอย่างจริงจัง “ถ้าไปถึงเมือง Jเมื่อไหร่ ผมจะติดต่อทั้ง 2 ท่านไปอย่างแน่นอนครับ”
เขามองดูนาฬิกาของตัวเองแล้วก็โค้งตัวเล็กน้อย “วันนี้ผมยังมีนัดต่ออีก จะให้คนอื่นรอนานไม่ได้ ขอให้ทั้งสองคนเที่ยวชมให้สนุกสนานนะครับ”
หลังจากเอลีเดินออกไป ภวินท์ก็ออกแรงดึงญาธิดาเข้ามาหาตัวเองจนตัวแนบชิดกัน
ญาธิดาหน้าแดงขึ้นมาทันที เธอหันไปมองคนรอบๆ อย่างระมัดระวัง เพราะเห็นว่าไม่มีใครสนใจทางนี้ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แล้วก็หันไปมองภวินท์ด้วยสายตาที่ตำหนิ “ทำอะไรของคุณเนี่ย?”
ภวินท์หรี่ตาลง สายตาเต็มไปด้วยความอันตราย “พอเจอเขาแล้วคุณต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ? หืม?”