ดวงใจภวินท์ - บทที่978 ความยุ่งเหยิง
ดวงใจภวินท์ บทที่978 ความยุ่งเหยิง?
สีหน้าของภวินท์นั้นดูเย็นชา ญาธิดารู้สึกได้ถึงความหึงหวงในน้ำเสียงของเขา แล้วก็รู้สึกว่ามันน่าขำดี แล้วก็พูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เอลีมีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว การที่เขาจะไปเมือง J ก็เพื่ออีกฝ่ายหนึ่งอยู่แล้วละ”
พอได้ยินญาธิดาอธิบายแบบนั้น แขนของภวินท์ก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ว่าสายตายังซ่อนสิ่งที่ยากจะคาดเดาเอาไว้
ญาธิดาเหลือบมองด้านข้าง เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครมองตัวเองอยู่ ก็เขย่งเท้าแล้วก็หอมแก้มภวินท์อย่างรวดเร็ว
“หายโกรธแล้วใช่ไหม?”
แววตาของภวินท์เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาก้มหน้าลงมองหน้าเธอ แล้วก็จูบอย่างดุเดือดลงไปบนริมฝีปากที่บอบบางของญาธิดา สายตาเต็มไปด้วยความต้องการ
จนถึงตอนที่ญาธิดาเริ่มหายใจไม่ออก ภวินท์ถึงได้ยอมปล่อยเธอ และยกยิ้มมุมปาก “หายโกรธละ”
ญาธิดารู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาจากรอบๆ ใบหน้าของเธอแดงขึ้นมาทันที เธออายที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ก็เลยจูงมือภวินท์เดินเข้าไปข้างใน
อัญมณีนับร้อยเรียงรายอยู่ในนิทรรศการ และที่สะดุดตาที่สุดคือมงกุฎเจ้าหญิง ซึ่งยุโรปยกย่องว่าเป็นสมบัติของชาติ
วันนี้คนในโถงนิทรรศการนั้นไม่เยอะเท่าไหร่ ญาธิดาก็เลยสามารถเข้าไปใกล้ตู้โชว์ได้ง่ายๆ และได้เพลิดเพลินกับความงามของมงกุฎอย่างใกล้ชิดผ่านกระจกกั้น
ภายใต้แสงไฟที่ส่องประกาย มงกุฎที่ประดับด้วยเพชรนับไม่ถ้วนและมรกตขนาดใหญ่ส่องประกายเจิดจ้า และญาธิดาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาว่า “สวยมาก”
ภวินท์โอบเอวของเธอเอาไว้ และพูดด้วยเสียงที่น่าดึงดูด “คุณชอบเหรอ?”
ญาธิดากะพริบตา แล้วก็พูดจาหยอกล้อว่า “ทำไม จะซื้อให้ฉันเหรอ?”
แน่นอนว่าเธอรู้ดีอยู่แล้ว ว่าของวิ่งนี้เป็นสมบัติประจำชาติของยุโรป และมันไม่ใช่สิ่งของที่จะสามารถซื้อขายได้อย่างแน่นอน
เธอมองดูมงกุฎที่สวยงามอย่างใกล้ชิด แล้วหลังจากนั้นก็หันความสนใจไปที่อัญมณีอื่นๆ
ห้องนิทรรศการไม่ใหญ่มากนัก และทั้งสองก็ออกมาหลังจากเยี่ยมชมในงานได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ตอนแรกญาธิดาก็อยากจะบอกลาเอลีก่อนแล้วค่อยกลับ แต่ว่าก็ไม่เห็นเขาเลย
วันเวลาหลังจากนั้น ทั้งสองคนก็มีความสุขกับการท่องเที่ยวยุโรปในครั้งนี้ หลังจากนั้นก็ขึ้นเครื่องบินกลับเมือง J
พอเดินออกมาจากสนามบินเมือง J ญาธิดาก็รู้สึกโล่งอกโดนสิ้นเชิง
ในที่สุดก็ได้กลับมาแล้ว
ทีนี้ ครอบครัวของพวกเขาก็จะได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม พอกลับมาถึงบ้าน ญาธิดาก็ได้พอกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บใจของอีธาน
เขามองหน้าภวินท์อย่างคับแค้นใจ “พ่อ นี่พาแม่ไปสวีทหวานอยู่ในโลกของคนสองคนจนสบายใจ แล้วก็ทิ้งความยุ่งเหยิงในเมือง Jทั้งหมดไว้ให้ผมเนี่ยนะ?”
ภวินท์เลิกคิ้ว “ความยุ่งเหยิงงั้นเหรอ? ที่บริษัทมีเรื่องอะไรที่ลูกจัดการไม่ได้ด้วยเหรอ”
หลังจากที่ภวินท์หายตัวไปเมื่อสองปีก่อน ญาธิดาก็มอบกิจการทั้งหมดของSTN Groupให้อีธานเป็นคนจัดการ หลังจากที่ภวินท์กลับมาแล้ว ก็น้อยมากที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องของSTN Group
เขาเชื่อว่าอีธานจะจัดการเรื่องที่บริษัทได้ดี
อีธานหน้าบึ้ง เผยให้เห็นความเป็นเด็กที่จะแสดงออกต่อหน้าคนเป็นพ่อเป็นแม่เท่านั้น “ก็เพราะว่าแม่นั่นแหละ”
“เกี่ยวอะไรกับแม่ด้วยล่ะ?” ญาธิดาประหลาดใจ ช่วงนี้เธอไม่เคยยื่นมือไปยุ่งเรื่องของบริษัทเลยนะ
“แม่ลืมไปแล้วเหรอครับ? เมื่ออาทิตย์ก่อน แม่เพิ่งเปิดโปงอาชญากรรมของตระกูลสมิทต่อหน้าผู้คนทั่วโลกผ่านการถ่ายทอดสด”
ญาธิดาไม่รู้เลย ว่าการกระทำของเธอมันจะส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์มากมายขนาดไหนที่เมือง J
ก่อนหน้านี้ ข่าวเรื่องการแต่งงานของญาธิดากับภวินท์แพร่กระจายออกไป แทบทุกคนต่างรอดูเรื่องสนุกของเธอ
แต่ก็ไม่มีใครคิดเลยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันจะเกินความคาดหมายไปขนาดนี้