ดาบพิโรธสวรรค์ - ตอนที่ 12
ตอนที่ 12 วิชาขั้นสูง
ทันใดนั้นหลินเซวียนรู้สึกวิงเวียนอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเริ่มได้สติกลับมา เขาพบว่าตนเองกลับมาอยู่ในกระท่อมหลังเดิมแล้ว
หลังจากบ่นพึมพำอยู่ชั่วครู่ เขาได้หยิบหญ้าพลังหยินที่ไปเก็บจากบนเขาออกมา เขาเริ่มบดมันด้วยพลังวิญญาณและกลั่นเป็นของเหลว ต่อมาได้นำดาบเล่มที่ผุพังมาวางไว้บนโต๊ะ
หลินเซวียนใช้ของเหลวที่สกัดได้หยดลงไปและตามด้วยเลือดของตน
ทันใดนั้นของเหลวสีน้ำตาลที่เกาะบนตัวดาบค่อย ๆ ละลายทันที มันหยดลงบนพื้นจนเกิดหลุมขนาดเล็ก
จากนั้นสิ่งแปลกปลอมในตัวดาบล้ำค่านี้ก็หายไปหมดสิ้น เมื่อเห็นเช่นนั้น หลินเซวียนจึงวาดอักขระสามครั้งบนตัวดาบต่อ จากนั้นไม่นาน ดาบได้ฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม
“อืม ทักษะค่อนข้างดี แต่ก็ยังไม่ได้บรรลุอย่างหมดเปลือก” เสียงเซียนสุราดังขึ้นจากจิตใต้สำนึกของหลินเซวียน
“ท่านทราบวิธีซ่อมอุปกรณ์หรือไง?” หลินเซวียนโค้งมุมปาก
“เมื่อก่อนผู้คนมักจะเรียกข้าว่าเซียนสองคม หนึ่งคือข้าเชี่ยวชาญเรื่องการหมักสุรา ผู้คนจะเรียกข้าว่าเซียนสุรา และอีกหนึ่งคือเซียนดาบ ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับดาบ ไม่มีอะไรที่ข้าทำไม่ได้ ดังนั้นการซ่อมแซมดาบจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับข้าอย่างมาก!”
“เซียนดาบ!” หลินเซวียนตาเบิกกว้าง “เมื่อท่านเก่งกาจขนาดนั้นก็เอาวิชาดาบระดับสูงมาให้ข้าฝึกเดี๋ยวนี้”
“เพลงดาบของข้าระดับมันสูงเกินไป ตอนนี้เจ้ายังฝึกไม่ได้ รีบบรรลุขั้นสมุทรวิญญาณเถอะ” หลังจากสิ้นสุดคำเหล่านี้ เซียนสุราได้หายเงียบไป
หลินเซวียนกัดฟันแน่นอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ไม่ว่าเขาจะตะโกนยังงก็ไม่มีเสียงตอบกลับ
เวลานี้ อักขระบนตัวดาบได้หายไปหมดสิ้น บนตัวดาบได้ส่องประกายมันวาวอย่างงดงาม เพียงแค่ยืนมองก็สัมผัสได้ถึงความเย็นเยือกจากตัวมัน
“มันคู่ควรกับคำว่าสมบัติล้ำค่าจริง ๆ มันทรงพลังอย่างมากจนแทบไม่ต้องใช้พลังวิญญาณก็ร้ายกาจ!” เมื่อสัมผัสได้ถึงอานุภาพของดาบเล่มนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
อาวุธระดับสมบัตล้ำค่านั้นเหนือกว่าดาบธรรมดาทั่วไป ภายในตัวดาบนั้นจะมีอักขระพิเศษเขียนไว้อีกชั้น หากผู้ใช้ดาบเสริมพลังวิญญาณเข้าไป มันจะยิ่งเพิ่มความร้ายกาจของดาบได้อีกหลายเท่า
ของล้ำค่าทุกชนิดย่อมล้ำค่าสมชื่อ พวกมันถูกตีขึ้นอย่างพิถีพิถันจากช่างตีอาวุธ นักรบทุกคนย่อมใฝ่ฝันจะมีอาวุธล้ำค่าไว้ครอบครอง
เมื่อเก็บดาบล้ำค่าใส่กล่อง หลินเซวียนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นดีใจ เมื่อส่งงานพรุ่งนี้เสร็จ เขาก็จะได้รับแต้มสะสมถึงหนึ่งร้อยแต้มแล้ว เมื่อรวมกับแต้มปัจจุบันของตน ตอนนี้เขาจะมีหนึ่งร้อยสามสิบแต้ม และหินวิญญาณระดับต่ำเจ็ดสิบก้อน
แต้มสะสมหนึ่งร้อยแต้มนั้นเพียงพอจะแลกเปลี่ยนวรยุทธ์ขั้นสีเหลืองระดับต่ำ และหินวิญญาณนั้นสามารถใช้แลกเปลี่ยนของใช้ หรือนำมาดูดซับเองได้ แต่พลังวิญญาณภายในหินวิญญาณนั้นจะด้อยกว่าวิญญาณบริสุทธ์ของมนุษย์ ดังนั้นมันจำเป็นต้องถูกกลั่นด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเซวียนได้มุ่งหน้าไปยังโถงภารกิจทันที
ตึง!
เขาวางกล่องไม้ไว้ตรงหน้าผู้ดูแลพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์พี่ ตรวจสอบมันได้เลย!”
ศิษย์ผู้ดูแลมองหลินเซวียนอย่างสงสัยก่อนจะรีบเปิดกล่องไม้ออก
ดาบสีเขียวมรกตยาวสามศอกเปล่งแสงเล็กน้อยออกมา อีกทั้งยังมีประกายเย็นเยือกแฝงอยู่ราวกับพร้อมจะแสดงพลัง
“นี่มัน…” ศิษย์ผู้ดูแลสูดหายใจลึกเพื่อดูดกลืนกลิ่นจากตัวดาบ
“เยี่ยมมาก มันถูกซ่อมแล้ว!” ผู้ดูแลรู้สึกตกตะลึงขณะกล่าว “ศิษย์น้องช่างยอดเยี่ยมอย่างที่ว่าจริง ๆ !” ในตอนแรก เขามอบงานนี้ให้หลินเซวียนโดยไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่ก็ไม่คาดคิดว่าหลินเซวียนจะซ่อมมันได้จริง!
ศิษย์ผู้ดูแลรีบมอบรางวัลให้เขาก่อนจะเก็บสมบัติกลับไป
หลินเซวียนนำหินวิญญาณยี่สิบก้อนออกมามอบให้ศิษย์ผู้ดูแล
“ศิษย์พี่ ข้าต้องการให้ท่านช่วยดูแลข้าด้วยในอนาคต หากท่านมีงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมอาวุธอีก ศิษย์พี่เรียกใช้ข้าได้ตลอดเวลา” หลินเซวียนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ศิษย์ผู้ดูแลรีบเก็บหินวิญญาณไว้ทันที “ไม่ต้องห่วง ศิษย์น้องหลิน ข้ามีนามว่าเฉินต้าเจิ้ง หากต้องการความช่วยเหลืออะไรก็เรียกข้าได้เลย“
“ศิษย์พี่ ข้าไม่ทราบว่าที่นี่มีผลไม้ทรงอสรพิษกับหญ้าใบม่วงหรือเปล่า?” หลินเซวียนเอ่ยถาม
เฉินต้าเจิ้งเปิดดูบันทึกก่อนจะกล่าว “ไม่แล้วล่ะ ผู้อาวุโสชั้นในได้นำของคงคลังออกไปหมดแล้ว“
หลินเซวียนพยักหน้า เขาไม่ได้ประหลาดใจมากนัก ผลไม้อสรพิษกับหญ้าใบม่วงนั้นเป็นวัตถุดิบปรุงยาชั้นดี มันมีค่าอย่างมากจึงไม่แปลกที่จะหมดอย่างรวดเร็ว
“ศิษย์พี่เฉิน ข้าอยากจะขอแลกวิชาขั้นสีเหลืองระดับต่ำหน่อย ข้าไม่ทราบว่าศิษย์พี่พอจะแนะนำให้ได้หรือไม่” หลินเซวียนตัดสินใจเลือกวรยุทธ์ก่อนเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่ง
เฉินต้าเจิ้งก้มหน้าลงนำหนังสือสีเหลืองออกมาจากกองและยื่นให้หลินเซวียน
“นี่คือชื่อและคำแนะนำของวิชาต่าง ๆ ลองดูก่อน” จากนั้นเขาได้หยิบแผ่นพับออกมาพร้อมกระซิบ “นี่คือวรยุทธ์ที่ถูกบันทึกแลกเปลี่ยนกันผ่านศิษย์ของสำนัก”
หลินเซวียนเปิดดูหนังสือเล่มเหลืองก่อน ภายในนั้นมีคำอธิบายวิชาไว้มากมาย
เขาพลิกไปมาเพื่อจะดูทั้งหมด แผ่นส่วนหน้าจะเป็นวิชาขั้นสีเหลือง และหน้าท้าย ๆ จะเป็นวิชาขั้นสีดำ
ในความรู้ความเข้าใจของหลินเซวียน วิชาขั้นสีดำนั้นเป็นวิชาที่ทรงพลัง แม้แต่ในตระกูลของเขา วิชาขั้นสีดำนั้นยังหายากยิ่ง แต่ในสำนักซวนเทียนนี้สามารถแลกมันได้ด้วยแต้มสะสม แต่เมื่อเขาเห็นจำนวนแต้มที่ต้องใช้แล้วถึงกับหัวเราะอย่างขมขื่น
มันแพงเกินไป ประมาณว่าศิษย์ธรรมดาไม่สามารถเรียนรู้มันได้ตลอดชีวิต หลินเซวียนส่ายหัวและไม่สนใจอีก เขากลับไปดูหน้าแรก ๆ เหมือนเดิม
สำหรับหลินเซวียนเวลานี้ เขาไม่ต้องการวิชาช่วยบ่มเพาะพลังอะไร แต่ต้องการศาสตร์ในการต่อสู้มากกว่า หลินเซวียนจึงอยากจะเลือกหยิบวรยุทธ์ที่ใช้โจมตี กล่าวกันว่า การโจมตีคือการป้องกันที่ดีที่สุด ยิ่งมีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่ง มันยิ่งทำให้เขาเสร็จภารกิจได้เร็ว
เมื่อนึกได้เช่นนี้เขาจึงมองไปยังพวกวรยุทธ์ที่ใช้จู่โจมศัตรู
‘หมัดพยัคฆ์คำรน‘ เพลงหมัดที่แข็งแกร่งและดุดัน มันเน้นจัดการและกดดันคู่ต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่งก่อนจะระเบิดพลังอันร้ายกาจ วรยุทธ์ขั้นสีเหลืองระดับต่ำ แต้มสะสมที่ต้องการหนึ่งร้อยแต้ม
‘ก้าววายุ‘ การก้าวเท้าที่สง่างาม เคลื่อนไหวราวกับสายลม วรยุทธ์ขั้นสีเหลืองระดับต่ำ แต้มสะสมที่ต้องการหนึ่งร้อยยี่สิบแต้ม
‘วิชาดาบล่องเมฆา‘ วิชาดาบที่ไร้ตัวตนและยืดหยุ่น มันทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถจับทิศทางได้ วรยุทธ์ขั้นสีเหลืองระดับต่ำ แต้มสะสมที่ต้องการหนึ่งร้อยยี่สิบแต้ม
……
หลินเซวียนค้นหาไปมาก่อนจะมองลงไปยังวิชาหนึ่ง
‘วิชาดาบอัสนี’ รวดเร็วดั่งสายฟ้า เคลื่อนไหวอย่างดุดัน วรยุทธ์ขั้นสีเหลืองระดับสูง แต้มสะสมที่ต้องการหนึ่งร้อยยี่สิบแต้ม เล่มนี้ยังไม่สมบูรณ์ โปรดเลือกอย่างระมัดระวัง!
“อ๋อ วิชาดาบนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ไม่สงสัยเลยว่าเหตุใดราคาถึงไม่สูงนัก” หลินเซวียนกล่าว “แต่จุดเด่นของมันช่างน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง”
“อ๊ะ ไม่คาดคิดเลยว่าจะเห็นวิชาดาบอัสนีที่นี่” เสียงของเซียนสุราดังขึ้นในหัวของหลินเซวียน
“บัดซบ อย่าโผล่มาแบบนี้ได้หรือไม่?” ขณะหลินเซวียนกำลังใช้ความคิด เสียงของเซียนสุราได้ทำให้เขาตกใจ
“ฮ่า ฮ่า” เซียนสุราหัวเราะแห้งก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อ “เจ้าอยากเรียนวิชาดาบไม่ใช่หรือ? วิชาดาบอัสนีอันนี้นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี”
“ฟังน้ำเสียงท่านแล้ว ท่านเคยเห็นวิชานี้มาก่อนสินะ?” หลินเซวียนสงสัย
“แน่นอน วิชาดาบอัสนีคือวิชาขั้นสูงเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่ที่เห็นตอนนี้มันดูธรรมดายิ่งนัก แต่มันก็เหมาะสมกับเจ้าตอนนี้แล้ว”
“หากท่านยังคิดจะแขวะข้าอีก ข้าจะไม่ร่วมงานด้วยแล้ว!” หลินเซวียนตัดสินใจเชื่อเซียนสุราครั้งนี้